อาบัติปาราชิก

๑. เมื่อภิกษุเสพเมถุนธรรม โดยให้องค์กำเนิดของตนเข้าไปทางทวารหนัก ทวารเบา หรือทางปากของมนุษย์ (ชาย หญิงกะเทย) ของอมนุษย์ คือยักษ์เปรต อสุรกาย ของสัตว์ดิรัจฉานเพศเมีย หรือเป็นพันทางที่ปรากฏเพศชัดเจนว่าเป็นเพศผู้หรือเพศเมีย ต้องอาบัติปาราชิก

         ๒. มนุษย์อมนุษย์หรือสัตว์ดิรัจฉานที่เสียชีวิตแล้ว แต่ซากนั้นยังบริบูรณ์หรือแหว่งวิ่นไปบ้างแต่ยังมีอวัยวะที่จะให้สำเร็จกิจในการเสพอยู่ เมื่อไปเสพเข้า ต้องอาบัติปาราชิก

       ๓. ภิกษุถูกข่มขืน แต่ยินดีในการสัมผัส ในขณะที่องค์กำเนิดกำลังเข้าไปก็ดีถึงที่แล้วก็ดีหยุดอยู่ก็ดีถอนออกก็ดีต้องอาบัติปาราชิก

         ๔. ภิกษุยอมให้ภิกษุอื่นเสพเมถุนในทวารหนักของตน
ต้องอาบัติปาราชิก

       ๕. ภิกษุผู้ก้มลงอมองค์กำเนิดของตนก็ดีผู้สอดองค์กำเนิดที่ยาวของตนเข้าไปทางทวารหนักของตนก็ดีต้องอาบัติปาราชิก

         ๖.ภิกษุผู้สั่งให้ผู้อื่นพยายามทำเช่นนั้นแก่ตน ก็ต้องอาบัติปาราชิกเหมือนกัน


ข้อที่3 ถ้าภิกษุด้วยกันโดนข่มขู่ว่าจะใช้วิชาทำให้เป็นโรคหรือเกิดอุบัติเหตุต่อตนต่อว่าเนรคุณเเบบนี้เเต่ภิษุผู้โดนกระทำไม่ได้ยินดีที่จะทำเเต่เพราะกลัวเลยยอมทั้งที่ไม่เต็มใจเเล้วก็โดนกระทำ ระหว่างนั้นไม่มีจิตคิดยินดีทั้งเข้าเเละออกดังนั้นเเล้วภิษุผู้โดนกระทำนั้น ต้องอาบิตปาราชิกหรือไม่ เเล้วเเบบนี้เรียกข่มขื่นได้ไหม
ผู้โดนเเบบนี้ต้แงปาราชิกไหม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่