ดากจึง ดักจึง แขวงเซกอง ลาวใต้ ชายแดนเวียดนาม กับภูเขาที่มีแต่กังหันลม

ไม่รู้ว่าที่เรียก ดักจึง ดั๊กจึง หรือ ดากจึง อันไหนถูกกันแน่ ตั้งแต่ลาออกจากงานก็ไม่ได้จะทำอะไรจริงๆจังๆซักที เข้าออกลาวอยู่รอบที่ 3 แล้ว
ครั้งนี้ปวดบั้นท้ายกว่าเดิมหน่อย เพราะอยากหาเส้นทางใหม่ๆ ครั้งแรกเลยที่มาลาวแล้วเช่ามอเตอร์ไซค์ (ลาวเรียกรถจัก) ปกติจะเอารถยนต์มากัน เพราะรถยนต์ค่าทำเอกสารเข้าถูกกว่ามอเตอร์ไซค์เยอะเลย มอไซค์ถ้าจำไม่ผิดน่าจะ 2,500 เราขับรถออกจากศรีสะเกษ ชายแดนเขมร อิอิ
มาถึงด่าน ตม.อ.สิรินธร ประมาณ บ่าย3 ฝากรถไว้ ค่าฝากคืนละ 100 บาท แล้วก็แบกกระเป๋าใบเดียวที่มีเสื้อผ้า 3 ชุด เพราะเราต้องไปตัวเบาที่สุด เดินถือพาสปอร์ตข้ามมาอย่างง่ายดาย จ่ายเงิน 100 บาท ลอดอุโมงข้ามมาได้ ก็เปลี่ยนซิมเลย 60 บาทแบบยังไม่เติมเงินนะ ในราคานี้มีเนตให้ใช้พอประมาณ
ค่อยไปเติมระหว่างทาง สบายๆ และก็แลกเงิน วันที่ไป 16 พ.ค 67 เรตอยู่ที่ 650 / 1 บาท 

เดินทาง : เดินออกมาจาก ตม.ลาว มาถึงก็จะมีวิน หรือรถรับจ้างมาถามหาคนหารค่ารถเหมาเข้าเมืองปากเซ วันนั้น มี 2 สาวรอหารค่ารถพอดี เป็นรถเก๋ง ปกติเหมา 1,000 บาท ถ้า 4 คน ก็หารเลย ของเราจ่ายกัน คน ละ 200 บาท ส่งถึงร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ ในปากเซเลยค่ะ ระหว่างนั่งในรถหัวเราะจนสุดทาง พี่สาวลาวที่นั่งมาด้วยกัน เม้าส์เก่งมั๊กก แกบอกแกคือกูเกิลลาว อยากรู้อะไรถามได้หมด55+ เขาเก่งกันมากเลยใช้ชีวิตที่ กทม. กลับมาทำธุระ เราคนไทยยังอาย พี่ๆเขาสู้ชีวิตมาก นั่งเม้าส์กันมาระหว่างทางร้านไหนดีไม่ดี อร่อยไม่อร่อยแกบอกหมด  ประมาณ 40 นาที ถึงร้านเช่ารถ
เราเช่ารถที่ ร้านแหม่ม Mam Motorbike ตอนแรกตั้งใจว่า ยังไงก็จะเอาเวฟ 125 แต่ไม่รู้อะไรดนใจผิดๆ ได้ คลิ๊ก125 ซึ้งไม่ควรอย่างยิ่งนะเออเพราะเวลาลงเขาน่ากลัวอ่าาาา ใจหายใจคว่ำกันเลยที่เดียวไม่เอาน๊าไม่เอาแล้ว แต่ด้วยความสามารถของคนขับก็ไปถึงและกลับอย่างปลอดภัย
เจ้าของร้านเช่ารถยังอึ้ง!!! เลย แต่ไม่แนะนำนะจ๊ะถ้าจะไปดักจึง    คลิ๊ก 125 เรตค่าเช่าอยู่ที่ 280 / วัน  จริงๆที่ร้านรับเงินไทยนะ และยังรับแลกเงินด้วย วันนั้นเจ้บอก 660 มุแง๊ เยอะกว่าแถว ตม. อีก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
วันแรกมาถึง ค่ำแล้ว หาที่พักราคาเบาๆ โรงแรมคำฟอง คืนละ 150.000 กีบ ประมาณ 230 ห้องแอร์  ขอโทษที่ไม่ได้ถ่ายห้อง ปกติค่ะมีแอร์ทีวีน้ำอุ่น อุปกรณ์อาบน้ำ เราเน้นซักเสื้อทุกคืน บิดกับผ้าเช็ดตัว ตากในห้องแอร์แห้งทุกคืน

โรงแรมนี้ จะอยู่โซนเมืองเก่า โซนนี้ฝรั่งเยอะ เดินนิดเดียวก็เจอร้านนั่งชิล ร้านกาแฟเก๋ๆ ร้านกาแฟคนญี่ปุ่นเจ้าดังๆก็อยู่แถวนี้นะ รูปนี้ถ่ายตอนสภาพหัวทิ่มกลับห้อง ที่ปากเซร้านหมูกระทะ (ซิ้นดาด) เยอะนะแต่ถ้าอร่อย ยกให้ร้านนี้เลย มื่อแรกของเราคือ ร้าน ลุลี่ ลุล่า ซิ้นดาด และอาหารลาว  Luly Lula Grill & Lao food ร้านจะอยู่ก่อนถึงเซเว่น ปากเซ ซึ่งแน่นอนมีเซเว่นแห่งเดียวไปง่ายๆเลย
ราคาพอๆกับฝั่งไทย เนื้อจานละ 180 ได้ แต่น้ำจิ้มอร่อย เป้นน้ำจิ้มถั่ว มันๆนัวๆ ส่วนมากจะเจอแต่เค็มๆ ที่นี่อร่อยถูกปากที่สุดละ
กระทะเวลาเปลี่ยนคือยกแค่ด้านบนออก คือโอ้วววอยากได้มาไว้ที่บ้านเลย
กิน 2 คน แต่เหมือน กิน 4 คน อย่าตกใจไป คุณอาจจะไม่กินโหดเท่าเรา เพราะต่อจากนี้เรายังไปต่อได้ เพราะมันยังไม่ถึงขีดจำกัดไปต่อแถวๆที่พักค่ะ เพราะจะได้กลับอย่างปลอดภัย

กลับได้ 3 ทุ่มครึ่ง หัวแทบทิ่ม แปลกมากหลับสบายตื่นอีกทีตีห้า บ้าไปแล้ว  ความสนุกของลาวคือ อาหารเครื่องดื่มถูก ผู้คนน่ารักอัธยาศัยดี
ไปกี่ครั้งๆ ก็ประทับใจ จนต้องบอกต่อ ร้านที่มานั่งน้องเจ้าของร้านก็เพิ่งมาเปิดได้ไม่นาน ที่ลาวส่วนมากจะฟังเพลงไทย เพลงไหนโดนๆคนก็จะร้องกันเสียงดังเลย น่ารักดีค่ะ

วันที่ 2 ของการเดินทาง
ตื่นเช้า เพราะได้พักผ่อนเต็มอิ่ม วันนี้ ตามล่าร้านข้าวเปียกเจ้าดัง เขาเรียกกันว่าข้าวเปียกใต้ถุนบ้าน หรือข้าวเปียกหมู่อุดม ตามรอยคุณกายกับคุณฮารุ  อันนี้พยายามดูแมพไปให้อยู่แถวหมู่อุดมที่สุด ขับไปด้วยถามทางไปด้วย หลงบ้างแต่ก็เจอ คือไปทางแปลกเองลอดสะพานมา555+ เหมือนมาทางอื่นจะง่ายกว่านะ แต่นี้มุดเลียบแม่น้ำลอดสะพานมา เขาว่าร้านนี้เปิด 6 โมงเช้า หมดหม้อคือปิดเลย เราไปถึง 6:30 ถึงแล้ว 
เดินเข้าไปในร้านจะเจอ คุณน้าคุณป้าคุณอานั่งล้อมรอบหมอข้าวเปียก เราก็ยืนงงอยู่พักนึง คุณยายก็เรียกเข้ามานั่ง เราเลยสั่งข้าวเปียกถ้วยใหญ่ 2 ถ้วย
กับปาท่องโก๋ และขนมอะไรไม่รู้ กลมๆ ข้าวเปียกอร่อยมากค่ะ ไม่ต้องปรุงเลยก็อร่อยแล้ว แป้งไม่เหนียวออกไปทางนุ่ม
สนนราคา ถ้วยละ 12.000 เขาเรียก สิบสองพันกีบ เสียดายไม่มีน้ำส้มให้ปรุง เพราะเราชอบเปรี้ยวๆ
กินเสร็จเดินทางต่อค่ะ แวะเติมน้ำมันเต็มถัง 100.000 กีบ บรรยากาศฝนตกปรอยๆแต่เราเตรียมพร้อมอยู่แล้วที่จะเจอฝนก็เลยไม่หวั่นไหว เส้นทางต่อไป มุ่งหน้า แขวงอัตตะปือจ้า ถนนดีตลอดทางจนถึงอัตตะปือใช้ได้เลย ขับสบายๆชิวๆ ระวังแค่ แพะ (แบ้) และวัว น้องจะเยอะนิดหน่อย และบางทีไม่หลบ!!!

ระหว่างทางก็จะผ่านเมือง ปากซอง เมืองนี้เป็นที่นิยมของนักท่องเท่ยวที่มาลาวใต้ เพราะสถานที่ท่องเที่ยวเยอะ ทั้งปราสาทวัดพู, ตาดฟาน ที่มีซิปไลน์ ,  ตาดเยือง ไร่กาแฟสกายไลน์ ร้านกาแฟเจ้าดังต่างๆ แถมอากาศก็ดี เพราะเป็นที่ราบสูงโบลาเวน เราเลยแวะเช็คที่พักสอบถามราคา ไว้เผือพาครอบครัวมาเที่ยวชิวๆฟิวเข้าค้ออะไรอย่างงี้

ที่ ลาวา ห้องพัก แบบวิลล่า วิวภูเขา สำหรับ 2 คน  ราคาช่วงนี้อยู่ที่ 2,000 บาท ได้ทั้งหลังเลย ส่วนห้องที่อยู่อีกโซนที่ไม่มีวิว ราคา ที่ 1,500 บาท
รีสอร์ทถือว่าวิวและบรรยากาศดีใช้ได้ค่ะ น่ามาพักผ่อน กลางคือนอากาศเย็นๆนั่งกินหมูกระทะน่าจะฟินได้อยู่
แวะสอบถามราคาแล้วก็ไปต่อ เอาภาพ สภาพถนนวิวข้างทางเล็กน้อย ปากเซ-อัตตะปือ มาฝากไว้เป็นข้อมูลเล็กๆน้อยๆค่ะ
หลบเจ้าถิ่นซะหน่อย
มีช่วงถนนขรุขระเล็กน้อย ไหล่เขาแอบน่ากลัว

พักร้านขายของชำ ยืนถ่ายรูปกับหมอกข้างถนนซะหน่อย  วิวนี้ 11 โมง
ถึงอัตตะปือ เที่ยงพอดี มาถึงก็หาที่พัก ทานข้าวเที่ยง วันนี้ได้ที่นี่ เรือนพัก ทะวีซับ เตียงเดี่ยว 200.000 กีบ เตียงคู่ 220.000 กีบ
หาไม่ยาก เพราะอยู่ทางเข้าเมือง ติดถนนหลัก
ออกหาอาหารเติมพลังต่อ ค่อยกลับมางีบ เมืองแอบเงียบนะ ร้านค้าร้านอาหารก็ดูเงียบ
มื้อเที่ยงได้ตำแตง กับไก่ย่าง ต้มเครื่องใน ข้าวเหนียวร้อนๆ หมดไป 170.000 กีบ
กลับมานอนเล่นโทรศัพท์ ซักผ้าที่ห้องยาวๆ ออกไปขับรถชมเมืองริมท่าน้ำช่วงบ่ายๆไม่ได้ถ่ายรูปเลย โดนหมาร้าย(หมาดุ)ไล่ทั้งฝูง รถเกือบล้ม!!
ส่วนมื้อเย็นเข้าไม่ถึงนิดหน่อย 
มื้อเย็น ตระเวนเจอร้านไหนมีคนก็คือนั่งเลย ร้านปิ้งแบ้ไม่ค่อยนิยมเท่าไหร่ที่อัตตะปือ คุณป้าร้านส้มตำมื้อกลางวันบอก ส่วนมากช่วงนี้เขาฮิตกินร้านคนเวียดนาม ถ้ามองๆเข้าไปมันไม่เหมือนร้านอาหารน่ะ มันเหมือนคนกางโต๊ะกินข้าวกินโต๊ะจีนกัน นี่เลยไม่กล้าเข้า  มื้อเย็นของเราวันนี้ คล้ายๆแจ่วฮ้อนเหมือนกัน อันนี้เรียกหม้อร้อน จะเป็นเครืองในต้มมาแล้ว และให้เราเติมผักเติมเส้นเองระหว่างกิน มีน้ำจิ้มที่ไม่ค่อยถูกปากเราเท่าไหร่ 555+ น้ำจิ้มเพี้ย กับกะปิ เข้มข้น เราอาจเข้าไม่ถึง มุแง๊ ก็เลยซดผักกับเส้นเป็นหลัก มื้อนี้ฟาดไปที่ 315.000 กีบ อ้อชื้อร้านนะ
กลับห้องพักผ่อน เพราะพรุ่งนี้ปลายทางสาหัสกว่าเดิม 

สวัสดี เช้าวันที่ 3 ของการเดินทาง
วันนี้ตื่นเช้าเช่นเคย แปลกนะยิ่งมีอายุการดื่มแล้วนอน ทำไมมันตื่นเช้าได้ งง คือเมื่อคืนที่ขับชมเมือง ที่อัตตะปือ จะมีโซนนึงที่คาเฟ่ เปิด 24 ชั่วโมง ตอนแรกก็เอ๊ะ ยังไง ตอนเช้าเลยลองขับมาดูเพราะตื่นเช้าไปหน่อย  เป็นร้านเวียดนาม คนขายสวยเลย เหมือนเขาฟังเราไม่ค่อยออกเมนูก็มีแค่ภาษาเวียดนาม กับ ภาษาลาว เราก็เลยสั่งกาแฟบักพร้าวไป เพราะนึกว่าจะเป็นอะเมริกาโน่มะพร้าว 555+ ผิดคาด มันคือกาแฟที่มีไอติมกะทิ เจ็บคอแต่เช้าเลยยยย

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่