นิยาม พระเจ้าในที่นี้หมายถึง พระเจ้าผู้ประเสริฐ (พระเจ้าผู้สูงสุด : God)
คริสตชนเชื่อว่าข้อความในคัมภีร์ไบเบิลเป็นพระวจนะของพระเจ้า ซึ่งถูกเขียนขึ้นโดยได้รับการดลใจจากพระเจ้า
โดยที่คริสตชนส่วนใหญ่เชื่อว่า ข้อความ
ทุกตอนในคัมภีร์ไบเบิลถูกเขียนขึ้นโดยได้รับการดลใจจากพระเจ้า
พวกเขาจึงเชื่อว่า
ข้อความทุกตอนในคัมภีร์ไบเบิลถูกต้องโดยไม่มีข้อผิดพลาด
สำหรับผมในฐานะที่เป็นคริสเตียนอิสระ ซึ่งปัจจุบันไม่ได้สังกัดคณะนิกายใด (อดีตสังกัดสหกิจคริสเตียนฯ)
และมีความเชื่อ
บางอย่างต่างจากคริสเตียนส่วนใหญ่ จึงได้ออกมาประกาศข่าวประเสริฐเรื่องแผ่นดินของพระเจ้า
ในแนวทางที่ผมได้รับการดลใจจากพระวิญญาณของพระเจ้าที่สถิตอยู่กับผม
ผู้ที่กล่าวหาว่าผมเป็นลัทธิเทียมเท็จในศาสนาคริสต์ เชื่อว่าจะต้องรับผิดชอบกับพระเจ้าในวันพิพากษาอย่างแน่นอน
ซึ่งหากผมไม่ได้เป็นลัทธิเทียมเท็จในศาสนาคริสต์ เชื่อว่าผู้นั้นจะต้องตกนรกชั่วนิรันดร์ (หากยังไม่สำนึกผิดก่อนตาย)
ขอเข้าประเด็นของกระทู้เลยนะครับ =>
มีข้อพระคัมภีร์บางตอนที่เขียนขึ้นโดยไม่ได้รับการดลใจจากพระเจ้า
ในปีแรกๆ ที่ผมเป็นคริสเตียน ผมได้อ่านคัมภีร์ไบเบิลทั้งภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ (พระคัมภีร์เดิมและใหม่)
ซึ่งผมได้สะดุดกับข้อความในคัมภีร์ไบเบิลบางตอน เช่น พระเจ้ามีความโกรธ (ทั้งโกรธน้อยและมาก)
พระเจ้าได้สั่งให้ฆ่าคนที่ไปหาฟืนในวันสะบาโต (วันพระของชาวยิว) และพระเจ้าได้สั่งฆ่าบุตรหัวปีของชาวอียิปต์ทั้งประเทศ
โดยได้แสดงให้เห็นว่าพระเจ้าโหดร้ายทารุณต่อมนุษย์อย่างมาก
ซึ่งผมรับไม่ได้ และไม่มีวันเชื่ออย่างเด็ดขาด
ผมเชื่อว่าพระเจ้าทรงเต็มไปด้วยความรักความเมตตาต่อมนุษย์อย่างมากมาย พระองค์พร้อมที่จะให้อภัยแก่มนุษย์ทุกอย่าง
หากมนุษย์สำนึกผิดแล้วมาสารภาพบาปต่อพระองค์ พระเจ้าก็จะให้โอกาสแก่มนุษย์ในการหันกลับมาเดินในทางของพระเจ้า
หากผู้ใดเดินในทางชอบธรรมของพระเจ้า
ผู้นั้นก็จะดำเนินชีวิตได้ดีและมีสันติสุข โดยพระเจ้าเป็นผู้ประทานสันติสุขให้แก่เขา
ผมได้สัมผัสกับลักษณะท่าทีของพระเจ้าผ่านทางพระเยซูคริสต์ (พระคัมภีร์ใหม่) ซึ่งพระองค์ได้ให้ความรักต่อมนุษย์อย่างมาก
พระองค์เต็มเปี่ยมด้วยด้วยความเมตตากรุณาต่อทุกคน พระองค์ไม่เคยโกรธผู้ใด ทั้งผู้ที่ทำร้ายพระองค์และตรึงพระองค์บนไม้กางเขน
พระองค์มีแต่ให้อภัยแก่ผู้ที่ทำผิดบาป และให้โอกาสแก่พวกเขาในการหันกลับมาเดินในทางชอบธรรมของพระเจ้า
ซึ่งต่างจากลักษณะท่าทีของพระเจ้าในพระคัมภีร์เดิม
บางตอนอย่างสิ้นเชิง
ผมจึงได้อธิษฐานขอให้พระเจ้าสำแดงว่า มีข้อความบางตอนในคัมภีร์ไบเบิลที่เป็นเท็จ 100% โดยที่ไม่สามารถโต้แย้งได้
ในที่สุดพระเจ้าก็ได้เปิดเผยความจริงให้ผมทราบว่า
มีข้อความบางตอนในคัมภีร์ไบเบิลที่เป็นเท็จ 100%...ขอบคุณพระเจ้า
เหตุการณ์นั้นก็คือ มาระโกได้บันทึกว่า
เปโตรได้ปฏิเสธพระเยซูคริสต์ 3 ครั้ง ก่อนไก่ขัน 2 ครั้ง
ซึ่งปรากฏในรายละเอียดว่า เปโตรได้ปฏิเสธพระเยซูคริสต์ครั้งที่ 1 แล้วไก่จึงขันครั้งที่ 1
ต่อมาเปโตรได้ปฏิเสธพระเยซูคริสต์อีก 2 ครั้ง แล้วไก่จึงขันเป็นครั้งที่ 2
ซึ่งต่างจากการบันทึกของ มัทธิว ลูกา และยอห์น ที่ได้บันทึกเหมือนกันว่า
เปโตรได้ปฏิเสธพระเยซูคริสต์ 3 ครั้งก่อนไก่ขัน
ซึ่งปรากฏในรายละเอียดว่า เปโตรได้ปฏิเสธพระเยซูคริสต์ 3 ครั้งต่อเนื่องกัน แล้วไก่จึงขันเพียงครั้งเดียว
ข้อพิจารณา
จะเห็นว่าเหตุการณ์ทั้ง 2 นั้นแตกต่างกันอย่างชัดเจน ทั้งที่เป็นเหตุการณ์เดียวกัน แสดงว่าจะต้องมีเหตุการณ์หนึ่งที่เป็นเท็จ
ซึ่งเหตุการณ์นั้นพระเจ้าย่อมไม่ดลใจให้มนุษย์เขียนขึ้นอย่างแน่นอน
สรุป
มีข้อความบางตอนในคัมภีร์ไบเบิลที่เขียนขึ้นโดยไม่ได้รับการดลใจจากพระเจ้า
มีข้อพระคัมภีร์บางตอนที่เขียนขึ้นโดยไม่ได้รับการดลใจจากพระเจ้า
คริสตชนเชื่อว่าข้อความในคัมภีร์ไบเบิลเป็นพระวจนะของพระเจ้า ซึ่งถูกเขียนขึ้นโดยได้รับการดลใจจากพระเจ้า
โดยที่คริสตชนส่วนใหญ่เชื่อว่า ข้อความทุกตอนในคัมภีร์ไบเบิลถูกเขียนขึ้นโดยได้รับการดลใจจากพระเจ้า
พวกเขาจึงเชื่อว่า ข้อความทุกตอนในคัมภีร์ไบเบิลถูกต้องโดยไม่มีข้อผิดพลาด
สำหรับผมในฐานะที่เป็นคริสเตียนอิสระ ซึ่งปัจจุบันไม่ได้สังกัดคณะนิกายใด (อดีตสังกัดสหกิจคริสเตียนฯ)
และมีความเชื่อบางอย่างต่างจากคริสเตียนส่วนใหญ่ จึงได้ออกมาประกาศข่าวประเสริฐเรื่องแผ่นดินของพระเจ้า
ในแนวทางที่ผมได้รับการดลใจจากพระวิญญาณของพระเจ้าที่สถิตอยู่กับผม
ผู้ที่กล่าวหาว่าผมเป็นลัทธิเทียมเท็จในศาสนาคริสต์ เชื่อว่าจะต้องรับผิดชอบกับพระเจ้าในวันพิพากษาอย่างแน่นอน
ซึ่งหากผมไม่ได้เป็นลัทธิเทียมเท็จในศาสนาคริสต์ เชื่อว่าผู้นั้นจะต้องตกนรกชั่วนิรันดร์ (หากยังไม่สำนึกผิดก่อนตาย)
ขอเข้าประเด็นของกระทู้เลยนะครับ => มีข้อพระคัมภีร์บางตอนที่เขียนขึ้นโดยไม่ได้รับการดลใจจากพระเจ้า
ในปีแรกๆ ที่ผมเป็นคริสเตียน ผมได้อ่านคัมภีร์ไบเบิลทั้งภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ (พระคัมภีร์เดิมและใหม่)
ซึ่งผมได้สะดุดกับข้อความในคัมภีร์ไบเบิลบางตอน เช่น พระเจ้ามีความโกรธ (ทั้งโกรธน้อยและมาก)
พระเจ้าได้สั่งให้ฆ่าคนที่ไปหาฟืนในวันสะบาโต (วันพระของชาวยิว) และพระเจ้าได้สั่งฆ่าบุตรหัวปีของชาวอียิปต์ทั้งประเทศ
โดยได้แสดงให้เห็นว่าพระเจ้าโหดร้ายทารุณต่อมนุษย์อย่างมาก ซึ่งผมรับไม่ได้ และไม่มีวันเชื่ออย่างเด็ดขาด
ผมเชื่อว่าพระเจ้าทรงเต็มไปด้วยความรักความเมตตาต่อมนุษย์อย่างมากมาย พระองค์พร้อมที่จะให้อภัยแก่มนุษย์ทุกอย่าง
หากมนุษย์สำนึกผิดแล้วมาสารภาพบาปต่อพระองค์ พระเจ้าก็จะให้โอกาสแก่มนุษย์ในการหันกลับมาเดินในทางของพระเจ้า
หากผู้ใดเดินในทางชอบธรรมของพระเจ้า ผู้นั้นก็จะดำเนินชีวิตได้ดีและมีสันติสุข โดยพระเจ้าเป็นผู้ประทานสันติสุขให้แก่เขา
ผมได้สัมผัสกับลักษณะท่าทีของพระเจ้าผ่านทางพระเยซูคริสต์ (พระคัมภีร์ใหม่) ซึ่งพระองค์ได้ให้ความรักต่อมนุษย์อย่างมาก
พระองค์เต็มเปี่ยมด้วยด้วยความเมตตากรุณาต่อทุกคน พระองค์ไม่เคยโกรธผู้ใด ทั้งผู้ที่ทำร้ายพระองค์และตรึงพระองค์บนไม้กางเขน
พระองค์มีแต่ให้อภัยแก่ผู้ที่ทำผิดบาป และให้โอกาสแก่พวกเขาในการหันกลับมาเดินในทางชอบธรรมของพระเจ้า
ซึ่งต่างจากลักษณะท่าทีของพระเจ้าในพระคัมภีร์เดิมบางตอนอย่างสิ้นเชิง
ผมจึงได้อธิษฐานขอให้พระเจ้าสำแดงว่า มีข้อความบางตอนในคัมภีร์ไบเบิลที่เป็นเท็จ 100% โดยที่ไม่สามารถโต้แย้งได้
ในที่สุดพระเจ้าก็ได้เปิดเผยความจริงให้ผมทราบว่า มีข้อความบางตอนในคัมภีร์ไบเบิลที่เป็นเท็จ 100%...ขอบคุณพระเจ้า
เหตุการณ์นั้นก็คือ มาระโกได้บันทึกว่า เปโตรได้ปฏิเสธพระเยซูคริสต์ 3 ครั้ง ก่อนไก่ขัน 2 ครั้ง
ซึ่งปรากฏในรายละเอียดว่า เปโตรได้ปฏิเสธพระเยซูคริสต์ครั้งที่ 1 แล้วไก่จึงขันครั้งที่ 1
ต่อมาเปโตรได้ปฏิเสธพระเยซูคริสต์อีก 2 ครั้ง แล้วไก่จึงขันเป็นครั้งที่ 2
ซึ่งต่างจากการบันทึกของ มัทธิว ลูกา และยอห์น ที่ได้บันทึกเหมือนกันว่า เปโตรได้ปฏิเสธพระเยซูคริสต์ 3 ครั้งก่อนไก่ขัน
ซึ่งปรากฏในรายละเอียดว่า เปโตรได้ปฏิเสธพระเยซูคริสต์ 3 ครั้งต่อเนื่องกัน แล้วไก่จึงขันเพียงครั้งเดียว
ข้อพิจารณา
จะเห็นว่าเหตุการณ์ทั้ง 2 นั้นแตกต่างกันอย่างชัดเจน ทั้งที่เป็นเหตุการณ์เดียวกัน แสดงว่าจะต้องมีเหตุการณ์หนึ่งที่เป็นเท็จ
ซึ่งเหตุการณ์นั้นพระเจ้าย่อมไม่ดลใจให้มนุษย์เขียนขึ้นอย่างแน่นอน
สรุป
มีข้อความบางตอนในคัมภีร์ไบเบิลที่เขียนขึ้นโดยไม่ได้รับการดลใจจากพระเจ้า