เรากับแฟนเป็นเพื่อนกันมาก่อน เราทั้งคู่รู้นิสัยกันก่อนคบประมาณนึง แฟนเราเป็นคนค่อนข้างแข็งกระด่าง ไม่ค่อยรู้สึกอะไร โลกส่วนตัวสูง ไม่ค่อยสนใจ ทำไรไม่ค่อยบอก ไม่ค่อยมีเวลา ทุกอย่างอยู่บนเหตุผล ทุกการตัดสินใจมีเหตุผลเสมอ ส่วนเราตรงข้ามทุกอย่าง อ่อนไหวง่าย ใช้อารมณ์นำเหตุผล เอาแต่ใจ ขี้งอน ขี้น้อยใจ ขี้หึง ขี้หวง งี่เง่า ทิฐิสูง ไม่ยอมคน ไม่ค่อยพูดขอโทษก่อน ทุกการตัดสินใจจะมีอารมณ์ร่วมเสมอ ด้วยความที่นิสัย ความคิด ทัศนคติ เราต่างกันมากทำให้เราทะเลาะ งอนกันบ่อยซึ่งร้อยละ98 จะเป็นเราที่รู้สึกไม่ดีแล้วทำให้เกิดเรื่อง แต่ถึงแบบนั้นเราสองคนก็รักกันเหมือนจะมากแต่ก็ดูงงๆ จริงๆคสพ.มีปัญหาหลายอย่าง เช่น เวลาเรามีปัญหาเขาไม่เคยเป็นคนแรกที่พร้อมจะอยู่ด้วยได้เลย เขาติดต่อไม่ค่อยได้ไม่ค่อยรับสายแถมตอบแชทช้ามากถึงวันนั้นจะไม่มีอะไรก็2-3ชม.ตอบทีก็มีให้เห็นจนเกือบชิน เขาไม่ค่อยให้ความสำคัญกับอะไรแม้เป็นของหรืออะไรที่เราตั้งใจจะทำให้ เขาจะเห็นแค่ว่าเป็นสิ่งของไม่มีชีวิต ส่วนเราเวลางอนจะชอบหายไปไม่ยอมคุยอยากอยู่คนเดียวเงียบๆ ซึ่งความโกรธหรืองอนก็ไม่ลดลงบางทีเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำแต่ไม่พร้อมคุยด้วยจริงๆ เพราะถ้าคุยด้วยจะพูดจาไม่ดี แล้วก็มีหลายครั้งที่เราพูดไม่ดีจริงๆ และเรามีปัญหากับเรื่องที่เขาชอบบอกกันว่า ธรรมชาติของผู้ชาย พวกเรื่องกดถูกใจผญไปทั่ว หรือส่งรูปแล้วเอาไปคุยกันในกลุ่มผช เรามีปัญหาหนักถึงขั้นว่าเราไม่อยากรับรู้เรื่องการดูหนังอย่างว่าหรือคนแบบไหนที่เขาดูหรือเขาทำเรื่องแบบนั้นด้วยตัวเองตอนไหนอะไรยังไง ทุกครั้งที่เราได้รู้ไม่ว่ามากหรือน้อยเราจะมีอาการมวนท้อง จะอ้วก แล้วขยะแขยงคนๆนั้น พอผ่านไปเราลืมเรื่องนั้นอาการจะเบาลง แต่อาการขยะแขยงก็ใช้เวลานานหลายวันกว่าจะดีขึ้น
แต่ปัญหาที่หนักกว่าคืออีก1เดือนข้างหน้าเราจะมีความสัมพันธ์แบบรักระยะไกล เพราะเราเรียนคนละจังหวัดที่ห่างกันประมาณนึง แฟนกับเราเรียนกันคนละคณะแต่ก็เป็นคณะที่ค่อนข้างอ่านหนังสือหนักทั้งคู่ ทำให้อาจจะไม่มีเวลา (เราเคยเสนอให้คอลนอนแล้วตื่นเช้ามาค่อยวางสายแต่เขาไม่เอา เขาให้เหตุผลว่าไม่ชอบกับสงสารโทรศัพท์) แฟนเป็นคนที่จริงจังกับการเรียนมากเรียกได้ว่าเป็นperfectionist ส่วนเราก็จริงจังแต่ไม่เท่าเขา เราคิดว่าเราสามารถเคลียร์ทุกอย่างเพื่อมีเวลาให้เขาได้แต่เขาเหมือนจะไม่ใช่แบบนั้น แฟนเคยพูดกับเราว่าถ้าพอถึงวันนึงเรางอแงมากกว่าปกติในวันที่เขายุ่ง เขาก็จะไม่เลือกเรา หรือถ้าให้เข้าใจง่ายๆคือแฟนจะเลิกกับเรา เรามีtrust issues ทำให้เราระแวงแฟนเพราะเคยมีประสบการณ์ไม่ดีในความรักมาทั้งเรื่องผู้หญิงและเรื่องนอกใจ นอกกาย กับตอนเป็นเพื่อนกันเราเคยได้รู้ว่าเขาทำไรมาบ้างจากปากเขาเองก็ยิ่งทำให้เรากลัว
เราเคยทะเลาะกันหลายครั้งจนเกือบจะเลิกกัน ครั้งล่าสุดที่เกือบเลิกเราrecapกันว่าในอนาคตสักประมาณ1ปีข้างหน้าเราเห็นกันมั้ย เราทั้งคู่เห็นตรงกันว่าแทบไม่เห็นกันแล้ว เราเลยลงความเห็นกันว่างั้นคงต้องเลิกกันเพราะความไม่เข้ากันในหลายๆอย่าง ไม่เห็นกันในอนาคต และรักระยะไกล เขาค่อนข้างหนักแน่นที่จะเลิกกันแต่เป็นเราที่ยื้อไว้เพราะคิดว่าทั้งเขาและเรายังรักกันยังไงก็คงมีทางแก้ให้ไปกันรอด ยอมรับจริงๆเป็นตัวเราเองด้วยที่ไม่กล้าเลิกเพราะเสียดายคสพ.แล้วก็ยังรักอยู่ แล้วถ้าเลิกไปเราจะไม่รู้จักกันในสถานะไหนอีกเลยเหลือไว้แค่คนเคยรู้จัก (สำหรับใครที่รู้สึกเราเห็นแก่ตัวเรื่องนี้แล้วสงสารแฟนเรา เราจะบอกว่าเขารู้เรื่องนี้อยู่แล้ว)
ปัญหาของเราตอนนี้เราควรลองไปต่อเพราะยังรักหรือยอมรับความจริงเลิกหลอกตัวเองแล้วพอแค่นี้ แล้วถ้าอยากไปต่อตัวเราควรจะแก้ตรงไหนดีให้ไปต่อกับเขาได้ (ส่วนตัวเราอยากไปต่อเพราะค่อนข้างรักเขามาก เป็นคนแรกที่พ่อแม่รู้จักในสถานะนี้ด้วย ถึงจะบอกว่าในอีก1ปีข้างหน้าเราไม่เห็นกันแล้ว แต่ครั้งนึงก็เคยวาดฝันด้วยกันไว้ไกล เราอยากไปให้ไกลตามฝัน)
*อยากแนะนำอะไรเราสามารถทำได้เลย จะเก็บไปคิดแล้วก็ปรับใช้ คือเรายังอยากอยู่กับเขาจริงๆ;-;*
ถ้าเราพิมพ์สื่อสารวนไปมาก็ขอโทษด้วยคับบ
ขอให้แฟนไม่เห็นกระทู้นี้ สาธุ
***อัพเดต ตอนนี้เรา‘เลิกกัน’แล้วค่ะ เขาไปกรุงเทพได้ประมาณ2อาทิตย์แล้วก็บอกเลิกเรา เหตุผลที่เขาให้คือ เขาไม่อยากทนเรางี่เง่าแล้วในอนาคต เขาไม่อยากพยายามกับเรื่องของเราแล้ว เขาอยู่ไกล เขาอาจจะนอกใจเรา สวมเขาให้เรา ทำอะไรลับหลังเราก็ได้ หรือไม่สนใจเราอีกเลย ซึ่งเขาบอกว่าเขาคิดว่าเขาอาจะกลายเป็นคนแบบนั้นในอนาคต เราพยายามยื้อเขาทุกทางขอเขาคืนดี แต่เขาก็ตอบกลับมาว่า ‘เขาหนักแน่นพอที่จะไม่กลับมาหาเราอีกแล้ว’ ดังนั้นตอนนี้เราก็เลยได้เลิกกันแบบถาวรแล้วค่ะ
ช่วยด้วยคับ รักกันแต่ว่า ;-;
แต่ปัญหาที่หนักกว่าคืออีก1เดือนข้างหน้าเราจะมีความสัมพันธ์แบบรักระยะไกล เพราะเราเรียนคนละจังหวัดที่ห่างกันประมาณนึง แฟนกับเราเรียนกันคนละคณะแต่ก็เป็นคณะที่ค่อนข้างอ่านหนังสือหนักทั้งคู่ ทำให้อาจจะไม่มีเวลา (เราเคยเสนอให้คอลนอนแล้วตื่นเช้ามาค่อยวางสายแต่เขาไม่เอา เขาให้เหตุผลว่าไม่ชอบกับสงสารโทรศัพท์) แฟนเป็นคนที่จริงจังกับการเรียนมากเรียกได้ว่าเป็นperfectionist ส่วนเราก็จริงจังแต่ไม่เท่าเขา เราคิดว่าเราสามารถเคลียร์ทุกอย่างเพื่อมีเวลาให้เขาได้แต่เขาเหมือนจะไม่ใช่แบบนั้น แฟนเคยพูดกับเราว่าถ้าพอถึงวันนึงเรางอแงมากกว่าปกติในวันที่เขายุ่ง เขาก็จะไม่เลือกเรา หรือถ้าให้เข้าใจง่ายๆคือแฟนจะเลิกกับเรา เรามีtrust issues ทำให้เราระแวงแฟนเพราะเคยมีประสบการณ์ไม่ดีในความรักมาทั้งเรื่องผู้หญิงและเรื่องนอกใจ นอกกาย กับตอนเป็นเพื่อนกันเราเคยได้รู้ว่าเขาทำไรมาบ้างจากปากเขาเองก็ยิ่งทำให้เรากลัว
เราเคยทะเลาะกันหลายครั้งจนเกือบจะเลิกกัน ครั้งล่าสุดที่เกือบเลิกเราrecapกันว่าในอนาคตสักประมาณ1ปีข้างหน้าเราเห็นกันมั้ย เราทั้งคู่เห็นตรงกันว่าแทบไม่เห็นกันแล้ว เราเลยลงความเห็นกันว่างั้นคงต้องเลิกกันเพราะความไม่เข้ากันในหลายๆอย่าง ไม่เห็นกันในอนาคต และรักระยะไกล เขาค่อนข้างหนักแน่นที่จะเลิกกันแต่เป็นเราที่ยื้อไว้เพราะคิดว่าทั้งเขาและเรายังรักกันยังไงก็คงมีทางแก้ให้ไปกันรอด ยอมรับจริงๆเป็นตัวเราเองด้วยที่ไม่กล้าเลิกเพราะเสียดายคสพ.แล้วก็ยังรักอยู่ แล้วถ้าเลิกไปเราจะไม่รู้จักกันในสถานะไหนอีกเลยเหลือไว้แค่คนเคยรู้จัก (สำหรับใครที่รู้สึกเราเห็นแก่ตัวเรื่องนี้แล้วสงสารแฟนเรา เราจะบอกว่าเขารู้เรื่องนี้อยู่แล้ว)
ปัญหาของเราตอนนี้เราควรลองไปต่อเพราะยังรักหรือยอมรับความจริงเลิกหลอกตัวเองแล้วพอแค่นี้ แล้วถ้าอยากไปต่อตัวเราควรจะแก้ตรงไหนดีให้ไปต่อกับเขาได้ (ส่วนตัวเราอยากไปต่อเพราะค่อนข้างรักเขามาก เป็นคนแรกที่พ่อแม่รู้จักในสถานะนี้ด้วย ถึงจะบอกว่าในอีก1ปีข้างหน้าเราไม่เห็นกันแล้ว แต่ครั้งนึงก็เคยวาดฝันด้วยกันไว้ไกล เราอยากไปให้ไกลตามฝัน)
*อยากแนะนำอะไรเราสามารถทำได้เลย จะเก็บไปคิดแล้วก็ปรับใช้ คือเรายังอยากอยู่กับเขาจริงๆ;-;*
ถ้าเราพิมพ์สื่อสารวนไปมาก็ขอโทษด้วยคับบ
ขอให้แฟนไม่เห็นกระทู้นี้ สาธุ
***อัพเดต ตอนนี้เรา‘เลิกกัน’แล้วค่ะ เขาไปกรุงเทพได้ประมาณ2อาทิตย์แล้วก็บอกเลิกเรา เหตุผลที่เขาให้คือ เขาไม่อยากทนเรางี่เง่าแล้วในอนาคต เขาไม่อยากพยายามกับเรื่องของเราแล้ว เขาอยู่ไกล เขาอาจจะนอกใจเรา สวมเขาให้เรา ทำอะไรลับหลังเราก็ได้ หรือไม่สนใจเราอีกเลย ซึ่งเขาบอกว่าเขาคิดว่าเขาอาจะกลายเป็นคนแบบนั้นในอนาคต เราพยายามยื้อเขาทุกทางขอเขาคืนดี แต่เขาก็ตอบกลับมาว่า ‘เขาหนักแน่นพอที่จะไม่กลับมาหาเราอีกแล้ว’ ดังนั้นตอนนี้เราก็เลยได้เลิกกันแบบถาวรแล้วค่ะ