ก่อนอื่นต้องขอกล่าวเรื่องราวก่อนครับ
ตอนสมัครฌาปนกิจสงเคราะห์ลูกค้า ธ.ก.ส. นครปฐม ตอนนั้นพ่อและแม่ผมยังอยู่ด้วยกัน โดยหากพ่อผมเสีชีวิต แม่ผมเป็นผู้รับผลประโยชน์
ต่อมาทั้งสองแยกทางกัน พ่อผมย้ายทะเบียนบ้านไปที่จังหวัดสงขลา อำเภอนาทวี ตำบลสะท้อน ซึ่งผมไม่ทราบว่าแกย้ายไปเหตุใด และไปเข้าบ้านใคร เพราะทางผมและพ่อไม่ได้มีญาติอยู่ทางจังหวัดสงขลา จึงไม่ทราบว่าใครเป็นเจ้าบ้าน
ต่อมาพ่อผมได้ไปบวชเป็นพระอยู่ราวๆ 10 ปี ได้ลาสิกขาออกมาเมื่อ 22 เมษายนที่ผ่านมา โดยอาศัยอยู่กับหลานชายแก และได้เสียชีวิตที่จังหวัดจันทบุรี
เมื่อพ่อผมได้เสียชีวิตจึงได้ทำเรื่องนำร่างมาบำเพ็ญกุศลที่วัด แห่งหนึ่ง ในอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นบ้านเกิด
โดยเมื่อพ่อผมได้เสียชีวิต ผมได้โทรประสานไปยัง กลุ่มฌาปนกิจลูกค้า ธ.ก.ส. นครปฐม ให้แม่ สอบถามเรื่องเอกสารว่าต้องใช้เอกสารใดบ้างในการขอรับเงินในฐานะผู้รับผลประโยชน์
ซึ่งธนาคารตอบกลับมาว่า ใช้สำเนาทะเบียนบ้านผู้รับผลประโยชน์ สำเนาบัตรประชาชนผู้รับผลประโยชน์ สำเนาหน้าสมุดบัญชี ธนาคาร ธ.ก.ส.ของผู้รับผลประโยชน์ โดยให้เตรียมมาให้ครบ พร้อมกับสำเนาบัตรประชาชนผู้เสียชีวิต สำเนาใบมรณะบัตร สำเนาทะเบียนบ้านผู้เสียชีวิตที่ปั้มคำว่าตาย หรือหากไม่มีสำเนาทะเบียนผู้เสียชีวิตที่ปั้มคำว่าตาย ให้ไปขอคัดใบแทนทะเบียนบ้านกับทางอำเภอใกล้บ้านได้ หากที่อยู่ในทะเบียนบ้านของผู้เสียชีวิตไกลเกินที่จะเดินทาง หรือไม่รู้จักกับเจ้าบ้านที่มีชื่อผู้เสียชีวิตอยู่ในทะเบียนบ้านนั้น
เอกสารดังกล่าวที่ธนาคารแจ้งมานั้นทางผมสามารถหาให้ได้ครบ แต่มีเพียงอย่างเดียวที่ผมไม่สามารถหาให้ทางธนาคารได้คือสำเนาทะเบียนบ้านที่ปั้มคำว่าตาย ซึ่งผมได้ไปดำเนินการขอคัดใบแทนทะเบียนบ้านกับทางอำเภอในเขตพื้นที่ที่พ่อของผมเสียชีวิตที่จังหวัดจันทบุรีมา ซึ่งเป็นใบ ท.ร.14/1 โดยในใบนั้นระบุว่า พ่อของผมได้รับการแจ้งตายแล้วเมื่อ 14 พฤษภาคม 2567 แต่ยังไม่ได้จำหน่ายออกจากทะเบียนบ้าน
เมื่อได้เอกสารใบแทนทะเบียนบ้าน (ท.ร.14/1) มาแล้ว ผมจึงถ่ายรูปเอกสารไปให้ทางเจ้าหน้าที่ธนาคาร ธ.ก.ส. ที่ดูแลเรื่อง กลุ่มฌาปนกิจสงเคราะห์ลูกค้า ธ.ก.ส. ว่าใช่ใบแบบนี้ไหม เจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งมาว่าใช้ไม่ได้ ต้องระบุคำว่า "เสียชีวิตเมื่อวันที่...... และจำหน่ายออกจากทะเบียนบ้านแล้ว"
เมื่อผมทราบข้อมูลที่ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งมา ผมจึงได้สอบถามไปยังอำเภอนครชัยศรี โดยผมขอให้ทางอำเภอออกใบแทนทะเบียนบ้าน (ท.ร.14/1) โดยให้ระบุว่าพ่อของผม เสียชีวิตแล้วเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2567 และได้จำหน่ายออกจากทะเบียนบ้านแล้ว ได้หรือไม่
ซึ่งทางอำเภอนครชัยศรีแจ้งกลับมาว่า ทางอำเภอไม่สามารถออกใบแทนทะเบียนบ้าน (ท.ร.14/1) ให้ใหม่โดยระบุว่า พ่อผมได้เสียชีวิตเมื่อ 6 พฤษภาคม 2567 และจำหน่ายออกจากทะเบียนบ้านแล้ว เนื่องจากใบแทนทะเบียนบ้าน (ท.ร.14/1) นี้ปริ้นท์ออกมาจากทางระบบฐานข้อมูล หากจะให้ขึ้นระบุว่าเสียชีวิตแล้วเมื่อวันที่นี้ และจำหน่ายออกจากทะเบียนบ้านแล้ว ทางเจ้าบ้านต้องนำทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้านที่มีชื่อผู้เสียชีวิตอยู่ พร้อมด้วยสำเนาใบมรณะบัตรหรือเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้อง ไปแจ้งยังอำเภอในท้องที่ของเจ้าบ้านนั้น เพื่อให้ทางอำเภอปั้มคำว่าตายในชื่อของผู้เสียชีวิต ถึงจะเป็นการจำหน่ายออกจากทะเบียนบ้าน เมื่อจำหน่ายชื่อออกจากทะเบียนบ้านแล้ว เมื่อทางผมต้องการใบแทนทะเบียนบ้าน (ท.ร.14/1) ขอพ่อผมไปใช้ในการทำธุระเรื่องประกันชีวิตหรือรับมรดก ในใบถึงจะระบุว่า พ่อผมเสียชีวิตแล้วเมื่อวันที่นี้ และได้จำหน่ายออกจากทะเบียนบ้านแล้ว
เมื่อผมได้ทราบข้อมูลตามที่อำเภอแจ้งมา เลยโทรแจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ธนาคาน ธ.ก.ส. เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม เจ้าหน้าที่บอกเดี๋ยวนำเรื่องเข้าที่ประชุมกกรมการฌาปนกิจสงเคราะห์ ซึ่งจะมีประชุมทุกต้นเดือน
ต่อมาเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ทางเจ้าหน้าที่ ธ.ก.ส. โทรแจ้งมาว่า สอบถามทางคณะกรรมการแล้ว ต้องใช้สำเนาทะเบียนบ้านฉบับปั้มตายเท่านั้นค่ะ ผมจึงบอกเจ้าหน้าที่ไปว่าผมไม่รู้จักคนที่อยู่ในบ้านเลขที่ที่พ่อผมย้ายไปอยู่เลย ไม่มีญาติหรือคนที่รู้จักอยู่ในเขตพื้นที่นั้นด้วยผมจะทำอย่างไรครับ เจ้าหน้าที่จึงบอกว่าให้โทรประสานกับทางผู้ใหญ่บ้านหรือทาง อบต. ในพื้นที่นั้นเพื่อดำเนินเรื่องให้ค่ะ แล้วเจ้าหน้าที่จึงวางสายไป
> ในใจผมมีคำถามมากมาย ทำไมเงินในบัญชีหมดเพื่อหักเงินเข้าฌาปนกิจสงเคราะห์ โทรตามเราก็เอาไปเข้าให้ แต่ทำไมพอเราจะรับผลประโยชน์เอาเงินจากเขามันถึงยากแท้
>> ใบมรณะบัตรใบเดียวซึ่งออกโดยหน่วยงานรัฐ ก็น่าจะเพียงพอแล้วในการยืนยันว่าบุคคลนี้เสียชีวิตแล้ว แล้วธนาคารที่เราจะยื่นก็เป็นธนาคารรัฐด้วยทำไมถึงต้องยุ่งยาก เอาสำเนาทะเบียนบ้านฉบีบปั้มตาย หรือใบแทนทะเบียนบ้าน (ท.ร.14/1) ที่ต้องระบุว่าบุคคลนั้นเสียชีวิตแล้วเมื่อวันที่นี้ และจำหน่ายออกจากทะเบียนบ้านแล้ว มันสะท้อนให้เห็นว่าขนาดหน่วยงานรัฐกับรัฐด้วยกันเองยังไม่เชื่อถือข้อมูลจากรัฐด้วยกันเลย ต้องหาเอาเอกสารอื่นมายืนยันด้วย
>>> ธนาคารบอกให้ทางเราเป็นคนประสานกับทางผู้ใหญ่บ้านหรือพวก อบต.ในพื้นที่ดู ประทานโทษนะครับ ช่วงนี้แกงค์มิจฉาชีพเยอะมาสารพัดรูปแบบ จะให้โทรไปขอข้อมูลหรือประสานผู้นำท้องที่ก็ยากในระดับหนึ่งนะครับ เพราะบางหน่วยงานเขามองว่า คุณเป็นผู้รับผลประโยชน์คุณติดต่อเองเลย เขาจะมองว่ามิจฉาชีพหรือเปล่าสร้างเรื่องขึ้นมาหลอกลวง หรือบริษัททวงหนี้หรือเปล่า
ในเบื้องต้นผมก็ได้โทรไปถามทาง อบต.ในพื้นที่แล้วเพื่อขอความร่วมมือให้ประสานทางเจ้าบ้านที่มีชื่อพ่อผมอยู่ในทะเบียนบ้าน เอาทะเบียนบ้านไปปั้มตายเพื่อจำหน่ายชื่อผมออกจากทะเบียนบ้าน ความคืบหน้าเป็นอย่างไรเดี๋ยวผมมาแจ้งให้ทราบครับ
ขอรับเงินฌาปนกิจสงเคระห์ลูกค้า ธ.ก.ส. เหตุใดจึงยากแท้ ครับ
ตอนสมัครฌาปนกิจสงเคราะห์ลูกค้า ธ.ก.ส. นครปฐม ตอนนั้นพ่อและแม่ผมยังอยู่ด้วยกัน โดยหากพ่อผมเสีชีวิต แม่ผมเป็นผู้รับผลประโยชน์
ต่อมาทั้งสองแยกทางกัน พ่อผมย้ายทะเบียนบ้านไปที่จังหวัดสงขลา อำเภอนาทวี ตำบลสะท้อน ซึ่งผมไม่ทราบว่าแกย้ายไปเหตุใด และไปเข้าบ้านใคร เพราะทางผมและพ่อไม่ได้มีญาติอยู่ทางจังหวัดสงขลา จึงไม่ทราบว่าใครเป็นเจ้าบ้าน
ต่อมาพ่อผมได้ไปบวชเป็นพระอยู่ราวๆ 10 ปี ได้ลาสิกขาออกมาเมื่อ 22 เมษายนที่ผ่านมา โดยอาศัยอยู่กับหลานชายแก และได้เสียชีวิตที่จังหวัดจันทบุรี
เมื่อพ่อผมได้เสียชีวิตจึงได้ทำเรื่องนำร่างมาบำเพ็ญกุศลที่วัด แห่งหนึ่ง ในอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นบ้านเกิด
โดยเมื่อพ่อผมได้เสียชีวิต ผมได้โทรประสานไปยัง กลุ่มฌาปนกิจลูกค้า ธ.ก.ส. นครปฐม ให้แม่ สอบถามเรื่องเอกสารว่าต้องใช้เอกสารใดบ้างในการขอรับเงินในฐานะผู้รับผลประโยชน์
ซึ่งธนาคารตอบกลับมาว่า ใช้สำเนาทะเบียนบ้านผู้รับผลประโยชน์ สำเนาบัตรประชาชนผู้รับผลประโยชน์ สำเนาหน้าสมุดบัญชี ธนาคาร ธ.ก.ส.ของผู้รับผลประโยชน์ โดยให้เตรียมมาให้ครบ พร้อมกับสำเนาบัตรประชาชนผู้เสียชีวิต สำเนาใบมรณะบัตร สำเนาทะเบียนบ้านผู้เสียชีวิตที่ปั้มคำว่าตาย หรือหากไม่มีสำเนาทะเบียนผู้เสียชีวิตที่ปั้มคำว่าตาย ให้ไปขอคัดใบแทนทะเบียนบ้านกับทางอำเภอใกล้บ้านได้ หากที่อยู่ในทะเบียนบ้านของผู้เสียชีวิตไกลเกินที่จะเดินทาง หรือไม่รู้จักกับเจ้าบ้านที่มีชื่อผู้เสียชีวิตอยู่ในทะเบียนบ้านนั้น
เอกสารดังกล่าวที่ธนาคารแจ้งมานั้นทางผมสามารถหาให้ได้ครบ แต่มีเพียงอย่างเดียวที่ผมไม่สามารถหาให้ทางธนาคารได้คือสำเนาทะเบียนบ้านที่ปั้มคำว่าตาย ซึ่งผมได้ไปดำเนินการขอคัดใบแทนทะเบียนบ้านกับทางอำเภอในเขตพื้นที่ที่พ่อของผมเสียชีวิตที่จังหวัดจันทบุรีมา ซึ่งเป็นใบ ท.ร.14/1 โดยในใบนั้นระบุว่า พ่อของผมได้รับการแจ้งตายแล้วเมื่อ 14 พฤษภาคม 2567 แต่ยังไม่ได้จำหน่ายออกจากทะเบียนบ้าน
เมื่อได้เอกสารใบแทนทะเบียนบ้าน (ท.ร.14/1) มาแล้ว ผมจึงถ่ายรูปเอกสารไปให้ทางเจ้าหน้าที่ธนาคาร ธ.ก.ส. ที่ดูแลเรื่อง กลุ่มฌาปนกิจสงเคราะห์ลูกค้า ธ.ก.ส. ว่าใช่ใบแบบนี้ไหม เจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งมาว่าใช้ไม่ได้ ต้องระบุคำว่า "เสียชีวิตเมื่อวันที่...... และจำหน่ายออกจากทะเบียนบ้านแล้ว"
เมื่อผมทราบข้อมูลที่ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งมา ผมจึงได้สอบถามไปยังอำเภอนครชัยศรี โดยผมขอให้ทางอำเภอออกใบแทนทะเบียนบ้าน (ท.ร.14/1) โดยให้ระบุว่าพ่อของผม เสียชีวิตแล้วเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2567 และได้จำหน่ายออกจากทะเบียนบ้านแล้ว ได้หรือไม่
ซึ่งทางอำเภอนครชัยศรีแจ้งกลับมาว่า ทางอำเภอไม่สามารถออกใบแทนทะเบียนบ้าน (ท.ร.14/1) ให้ใหม่โดยระบุว่า พ่อผมได้เสียชีวิตเมื่อ 6 พฤษภาคม 2567 และจำหน่ายออกจากทะเบียนบ้านแล้ว เนื่องจากใบแทนทะเบียนบ้าน (ท.ร.14/1) นี้ปริ้นท์ออกมาจากทางระบบฐานข้อมูล หากจะให้ขึ้นระบุว่าเสียชีวิตแล้วเมื่อวันที่นี้ และจำหน่ายออกจากทะเบียนบ้านแล้ว ทางเจ้าบ้านต้องนำทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้านที่มีชื่อผู้เสียชีวิตอยู่ พร้อมด้วยสำเนาใบมรณะบัตรหรือเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้อง ไปแจ้งยังอำเภอในท้องที่ของเจ้าบ้านนั้น เพื่อให้ทางอำเภอปั้มคำว่าตายในชื่อของผู้เสียชีวิต ถึงจะเป็นการจำหน่ายออกจากทะเบียนบ้าน เมื่อจำหน่ายชื่อออกจากทะเบียนบ้านแล้ว เมื่อทางผมต้องการใบแทนทะเบียนบ้าน (ท.ร.14/1) ขอพ่อผมไปใช้ในการทำธุระเรื่องประกันชีวิตหรือรับมรดก ในใบถึงจะระบุว่า พ่อผมเสียชีวิตแล้วเมื่อวันที่นี้ และได้จำหน่ายออกจากทะเบียนบ้านแล้ว
เมื่อผมได้ทราบข้อมูลตามที่อำเภอแจ้งมา เลยโทรแจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ธนาคาน ธ.ก.ส. เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม เจ้าหน้าที่บอกเดี๋ยวนำเรื่องเข้าที่ประชุมกกรมการฌาปนกิจสงเคราะห์ ซึ่งจะมีประชุมทุกต้นเดือน
ต่อมาเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ทางเจ้าหน้าที่ ธ.ก.ส. โทรแจ้งมาว่า สอบถามทางคณะกรรมการแล้ว ต้องใช้สำเนาทะเบียนบ้านฉบับปั้มตายเท่านั้นค่ะ ผมจึงบอกเจ้าหน้าที่ไปว่าผมไม่รู้จักคนที่อยู่ในบ้านเลขที่ที่พ่อผมย้ายไปอยู่เลย ไม่มีญาติหรือคนที่รู้จักอยู่ในเขตพื้นที่นั้นด้วยผมจะทำอย่างไรครับ เจ้าหน้าที่จึงบอกว่าให้โทรประสานกับทางผู้ใหญ่บ้านหรือทาง อบต. ในพื้นที่นั้นเพื่อดำเนินเรื่องให้ค่ะ แล้วเจ้าหน้าที่จึงวางสายไป
> ในใจผมมีคำถามมากมาย ทำไมเงินในบัญชีหมดเพื่อหักเงินเข้าฌาปนกิจสงเคราะห์ โทรตามเราก็เอาไปเข้าให้ แต่ทำไมพอเราจะรับผลประโยชน์เอาเงินจากเขามันถึงยากแท้
>> ใบมรณะบัตรใบเดียวซึ่งออกโดยหน่วยงานรัฐ ก็น่าจะเพียงพอแล้วในการยืนยันว่าบุคคลนี้เสียชีวิตแล้ว แล้วธนาคารที่เราจะยื่นก็เป็นธนาคารรัฐด้วยทำไมถึงต้องยุ่งยาก เอาสำเนาทะเบียนบ้านฉบีบปั้มตาย หรือใบแทนทะเบียนบ้าน (ท.ร.14/1) ที่ต้องระบุว่าบุคคลนั้นเสียชีวิตแล้วเมื่อวันที่นี้ และจำหน่ายออกจากทะเบียนบ้านแล้ว มันสะท้อนให้เห็นว่าขนาดหน่วยงานรัฐกับรัฐด้วยกันเองยังไม่เชื่อถือข้อมูลจากรัฐด้วยกันเลย ต้องหาเอาเอกสารอื่นมายืนยันด้วย
>>> ธนาคารบอกให้ทางเราเป็นคนประสานกับทางผู้ใหญ่บ้านหรือพวก อบต.ในพื้นที่ดู ประทานโทษนะครับ ช่วงนี้แกงค์มิจฉาชีพเยอะมาสารพัดรูปแบบ จะให้โทรไปขอข้อมูลหรือประสานผู้นำท้องที่ก็ยากในระดับหนึ่งนะครับ เพราะบางหน่วยงานเขามองว่า คุณเป็นผู้รับผลประโยชน์คุณติดต่อเองเลย เขาจะมองว่ามิจฉาชีพหรือเปล่าสร้างเรื่องขึ้นมาหลอกลวง หรือบริษัททวงหนี้หรือเปล่า
ในเบื้องต้นผมก็ได้โทรไปถามทาง อบต.ในพื้นที่แล้วเพื่อขอความร่วมมือให้ประสานทางเจ้าบ้านที่มีชื่อพ่อผมอยู่ในทะเบียนบ้าน เอาทะเบียนบ้านไปปั้มตายเพื่อจำหน่ายชื่อผมออกจากทะเบียนบ้าน ความคืบหน้าเป็นอย่างไรเดี๋ยวผมมาแจ้งให้ทราบครับ