เหตุผลที่ผมนั่งเครื่องบินและนั่งรถปรับอากาศน้อยลง หลังจากปี 2004 ผมไปญี่ปุ่นแค่ครั้งเดียวปกติจะไปทุกปีครับ
ช่วงเกิดสึนามิผมอยู่ที่เกาะพีพีและมีร้านค้าอยู่บนนั้นครับ
ผมไปดูน้ำทะเลลงและน้ำทะเลขึ้นคลื่นสึนามิวิ่ง
ตามหลังผมมาครับ
ผมตกใจมากๆ ประสาทผมเลยเสีย การเข้าห้องแอร์
หรือห้องปรับอากาศจึงอึดอัดไม่กล้า เข้าห้อง
ปรับอากาศ
เลยไม่ได้ไปประเทศญี่ปุ่นหรือนั่งรถปรับอากาศครับ
ผมต้องไปหาหมอจิตแพทย์ ประมาณสองปีครับ
ขณะนี้พยายามนั่งรถปรับอากาศ เช่น ไปนั่งรถตู้
จากมีนบุรีมาแปดริ้วครับ
พยายามนั่งเครื่องน่าจะ 3-4 ครั้งเพื่อให้ร่างกาย
และสมองปรับตัว ทุกครั้งที่ไปต้องพกยาดมไป
ด้วยครับ
และพยายามนั่งเครื่องบินระยะสั้นครับ
ถ้าผมไม่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น คงไปญี่ปุ่นจาก
เหนือจรดใต้ และประเทศอื่นได้มากครับ
โชคดีที่รอดตายครับ
เหตุผลของผมที่นั่งเครื่องบินหรือรถปรับอากาศน้อยลง ปกติไปญี่ปุ่นทุกปี หลังปี 2004 ไปแค่ 1 ครั้งเพราะเกิดเหตุ Tsunimi ครับ
ช่วงเกิดสึนามิผมอยู่ที่เกาะพีพีและมีร้านค้าอยู่บนนั้นครับ
ผมไปดูน้ำทะเลลงและน้ำทะเลขึ้นคลื่นสึนามิวิ่ง
ตามหลังผมมาครับ
ผมตกใจมากๆ ประสาทผมเลยเสีย การเข้าห้องแอร์
หรือห้องปรับอากาศจึงอึดอัดไม่กล้า เข้าห้อง
ปรับอากาศ
เลยไม่ได้ไปประเทศญี่ปุ่นหรือนั่งรถปรับอากาศครับ
ผมต้องไปหาหมอจิตแพทย์ ประมาณสองปีครับ
ขณะนี้พยายามนั่งรถปรับอากาศ เช่น ไปนั่งรถตู้
จากมีนบุรีมาแปดริ้วครับ
พยายามนั่งเครื่องน่าจะ 3-4 ครั้งเพื่อให้ร่างกาย
และสมองปรับตัว ทุกครั้งที่ไปต้องพกยาดมไป
ด้วยครับ
และพยายามนั่งเครื่องบินระยะสั้นครับ
ถ้าผมไม่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น คงไปญี่ปุ่นจาก
เหนือจรดใต้ และประเทศอื่นได้มากครับ
โชคดีที่รอดตายครับ