วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวในการทำวีซ่าหางานเยอรมันนีค่ะ
เนื่องจากมีคนถามและข้อมูลในไทยสำหรับวีซ่านี้น้อยมากกก เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตัวเองเผื่อเป็นประโยชน์กับคนที่อยากมาวีซ่านี้ ไม่มากก็น้อยค่ะ ยาวนิดนึงนะคะ ถ้าผิดพลาดก็ขออภัยด้วยนะคะ😅🙏🏻
ก่อนอื่นเลยในเว็บสถานทูตจะมีบอกค่ะว่าต้องการอะไรบ้างในการข้อวีซ่านี้ และในเว็บ make it in Germany ก็มีข้อมูลสำหรับเรื่องนี้ให้ศึกษาอยู่ค่ะ (อาจต้องค้นหน่อยเพราะข้อมูลเยอะมากกกกกค่ะ)
เอาละเริ่มต้นเลยจะมาดูในส่วนที่สถานทูตต้องการ ตามนี้นะคะ
1.หนังสือเดินทางที่มีอายุการใช้งานพร้อมสำเนาหน้าที่มีข้อมูลส่วนตัว 2 ชุด ในบางกรณีอาจต้องใช้หนังสือเดินทางฉบับเก่า
2.รูปถ่ายไบโอเมตริก 2 ใบ
3.แบบฟอร์มคำร้องสำหรับวีซ่า National Visa ที่กรอกข้อความครบถ้วน 2 ชุด
4.ลงนามรับทราบข้อกำหนดตามกฎหมายการพำนักมาตรา 54 วรรค 2ข้อ 8และมาตรา 53
-->ข้อ1-4 ของเราไม่ได้รีบเตรียมค่ะไว้ช่วงใกล้จะยื่นวีซ่าค่อยมาเตรียม เว้นแค่Passport เพราะมีอยู่แล้ว
5. ประวัติการทำงาน พร้อมเอกสารสำคัญ เช่น ประกาศนียบัตร ฯลฯ
--> ข้อนี้ของเราใช้เรซูเมภาษาอังกฤษบอกรายละเอียดตัวเองค่ะ เรามีประสบการณ์งานบัญชีที่ไทย 2 ปีกว่า แล้วก็ยื่น ใบจบ ใบเกรด ตามปกติ
ถ้าใครมีอย่างอื่น เช่น หนังสือรับรองการทำงาน ยิ่งดีค่ะ ยื่นไปเท่าที่เรามีให้หมด
6. หลักฐานการจบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยที่เยอรมนี หรือ จากมหาวิทยาลัยประเทศอื่น ที่เป็นที่ยอมรับและเทียบเท่าระดับอุดมศึกษาของเยอรมนี
*-->ข้อนี้แหละค่ะที่วุ่นวายสุดสำหรับเรา... เราจบปริญญาตรี บัญชีที่ประเทศไทยค่ะ เลยต้องทำการดูในเว็บ Anabin ว่ามหาลัย H+ไหม และ วุฒิเทียบเท่าไหม ผลปรากฏว่า มหาลัยได้ H+ แต่ วุฒิแค่มีในฐานข้อมูลAnabin แต่ไม่มีผลการเทียบว่าเทียบเท่า ( คือถ้าวุฒิไหนเทียบเท่าพอกดชื่อวุฒิเข้าไปดูรายละเอียดมันจะมีบอกว่าการเทียบเท่ากับเยอรมันนีเลยค่ะ ซึ่งน้อยมากในไทยที่มีการเทียบเท่าแล้ว) ทีนี้เมื่อมันยังไม่ได้เทียบ เราก็ต้องไปติดต่อ ZAB ค่ะ ซึ่งเป็นเหมือน หน่วยงานบริการประเมินวุฒิปริญญาตรีต่างประเทศในเยอรมันนีค่ะ
เราทำการติดต่อ ZAB ทางเว็บไซต์ กรอกข้อมูล ส่งเอกสารที่เขาต้องการ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เป็นตัวสำเนาทั้งหมดให้ทางไปรษณีย์ และอีเมลล์ไปบอกพร้อมไฟล์ทั้งหมดอีกที เอกสารที่ส่งถ้าจำไม่ผิดประกอบไปด้วย ใบที่เรากรอกจากZAB วุฒิปริญาตรี(ตัวที่เรารับกันตอนจบเลยค่ะ) ใบเกรด ทั้งหมดส่งภาษาไทย+อิ้ง และเราแนบเสริมเป็นวุฒิม.6 ซึ่งไม่มีก็ได้ค่ะแต่เรามีอะไรส่งให้หมดก่อน ที่นี้ก็รอจนเขาตอบเมลล์ให้ชำระเงินค่ะ แล้วเขาจะรอเอกสารที่เราส่งให้ก่อนแล้วก็บอกเราค่ะ จากนั้น... รอยาวๆค่ะ 3 เดือนขึ้นไปแล้วแต่ว่าเอกสารครบไหมติดปัญหาอะไรหรือเปล่า (ของเรารอ3 เดือนนิดๆรวมเวลาส่งเอกสารเพิ่มเนื่องจากลืมส่งภาษาไทยในตอนแรกค่ะ5555) พอได้มาแล้ว ผลปรากฏว่า โอเค วุฒิเราเทียบเท่ามหาลัยที่เยอรมันนีค่ะ ไปต่อได้
7. จดหมายแสดงถึงแรงจูงใจ (Motivationsschreiben) เกี่ยวกับแผนการที่จะไปหางานที่เยอรมนี (ประเภทงาน / เมือง / ที่พักที่จะไปอยู่อาศัย ฯลฯ )
--> ข้อนี้ก็เขียนยอกไปค่ะว่าทำไมอยากไปหางานที่นั้น ของเราอยากไปอยู่กับแฟนที่นู้น และ หาประสบการณ์ใหม่ๆที่ท้าท้าย ประมาณนี้ค่ะ
8. หลักฐานอื่น ๆ เกี่ยวกับการเตรียมพร้อมของคุณที่จะไปหางานในเยอรมนี ถ้ามี
--> หลักฐานอื่นๆเราแนะนำให้ควรมีเลยค่ะ เพราะเขาจะถามหาแน่นอนคือ
-หลักฐานที่อยู่ว่าจะไปอยู่ไหน บางคนเลือกจองโรงแรมไว้ก่อนแล้วจะไปหาเช่าห้องต่อ แต่ของเราส่งเป็นหลักฐานอยู่กับแฟนค่ะ คือแนบใบคล้ายๆทะเบียนบ้างมั้งค่ะให้กับทางสถานทูตเลย(เป็นใบที่มีรายละเอียดเกี่ยวกับที่อยู่เลยค่ะ บอกขนาดบอกทุกอย่าง)
-หลักฐานการลองสมัครงานจากที่ไทย เราแคปอีเมลที่สมัครแล้วโดนปฏิเสธทั้งหมด กับ อีเมลที่บอกว่าถ้าถึงเยอรมันแล้วค่อยคุยกันอีกที ให้ดูเลยค่ะ เราคิดว่าควรมีสัก1ฉบับที่มีผลเชิงบวลหน่ิย เขาจะได้ทั่นใจว่าเราอาจหางานได้ค่ะ
-หลักฐานการเรียนภาษา ของเราส่งเป็นแค่ใบประกาศนียบัตร ว่า เราเรียนจบ A1 แล้ว **ย้ำนะคะ แค่A1 และแค่จบ ยังไม่ได้สอบใดๆทั้งสิ้น ให้สถานทูตดูค่ะ พร้อมมีการบอกเสริมไปว่ากำบังเรียนต่อเนื่องที่ระดับA2
- ที่นี้เขาจะถามแล้วค่ะว่าไม่ได้ภาษาเยอรมันแล้วคิดว่าจะสมัครงานทำงานภาษาอะไร เราก็ตอบภาษาอังกฤษ ค่ะ หลักฐานก็คือ ผลการเรียนในมหาลัยที่เป็นวิชาภาษาอังกฤษ ในใบเกรดของเรา แค่นั้นแหละค่ะ แบ้วควรมีแนวทางด้วยนะคะจะทำงานอะไรที่เยอรมัน ของเราก็ บัญชี ตอบไปก่อนแบบมั่นใจ
9.หลักฐานการเงินที่เพียงพอในการรับผิดชอบค่าใช้จ่าย
--> ข้อนี้ทำได้2ทางเลือกค่ะที่ดูมีความมั่นคง คือ
- เปิดบัญชี บล็อคแอคเคาท์กับเยอรมัน (6เดือน 5แสนบาท)
- มีคนรับรองค่าใช้จ่ายอย่างเป็นทางการ
ซึ่งของเราใช้เป็นแฟนรับรองค่าใช้จ่ายให้ค่ะ เป็นการรับรองว่าให้มาหางานหลังเรียนจบและจะดูแลค่าใช้จ่ายทุกอย่าง แฟนเป็นคนดำเนินการไปขอที่เมืองที่เขาอยู่ค่ะ แล้วส่งเอกสารตัวจริงมาให้เรา ที่ไทย ประมาณ 3 วันถึง กรุงเทพค่ะ แล้วแฟนก็มีกานเขียนจดหมายเชิญแบบไม่ทางการมาด้วยนะคะ แต่อันนี้ไม่ต้องก็ได้แต่ถ้ามีก็ดี
***เอกสารครบจองคิวนัดยื่นขอวีซ่าที่สถานทูตเยอรมัน รอไม่นานรู้ผลค่ะ ทำงานเร็วมาก
ปล.ของเราตอนแรกเอกสารเราขาดหลักฐานการเทียบวุติค่ะ (แต่เขียนบอกรายละเอียดไปหมดแล้วข้างต้นเพื่อจะได้ไม่พลาดแบบเรา) สถานทูตให้เวลาเรายื่นเพิ่มพอเรายื่นเพิ่มแล้ว 1 อาทิตย์ ผลออกมา ผ่านค่ะ ได้วีซ่าเรียบร้อย
วีซ่าหางานเยอรมันนี
เนื่องจากมีคนถามและข้อมูลในไทยสำหรับวีซ่านี้น้อยมากกก เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตัวเองเผื่อเป็นประโยชน์กับคนที่อยากมาวีซ่านี้ ไม่มากก็น้อยค่ะ ยาวนิดนึงนะคะ ถ้าผิดพลาดก็ขออภัยด้วยนะคะ😅🙏🏻
ก่อนอื่นเลยในเว็บสถานทูตจะมีบอกค่ะว่าต้องการอะไรบ้างในการข้อวีซ่านี้ และในเว็บ make it in Germany ก็มีข้อมูลสำหรับเรื่องนี้ให้ศึกษาอยู่ค่ะ (อาจต้องค้นหน่อยเพราะข้อมูลเยอะมากกกกกค่ะ)
เอาละเริ่มต้นเลยจะมาดูในส่วนที่สถานทูตต้องการ ตามนี้นะคะ
1.หนังสือเดินทางที่มีอายุการใช้งานพร้อมสำเนาหน้าที่มีข้อมูลส่วนตัว 2 ชุด ในบางกรณีอาจต้องใช้หนังสือเดินทางฉบับเก่า
2.รูปถ่ายไบโอเมตริก 2 ใบ
3.แบบฟอร์มคำร้องสำหรับวีซ่า National Visa ที่กรอกข้อความครบถ้วน 2 ชุด
4.ลงนามรับทราบข้อกำหนดตามกฎหมายการพำนักมาตรา 54 วรรค 2ข้อ 8และมาตรา 53
-->ข้อ1-4 ของเราไม่ได้รีบเตรียมค่ะไว้ช่วงใกล้จะยื่นวีซ่าค่อยมาเตรียม เว้นแค่Passport เพราะมีอยู่แล้ว
5. ประวัติการทำงาน พร้อมเอกสารสำคัญ เช่น ประกาศนียบัตร ฯลฯ
--> ข้อนี้ของเราใช้เรซูเมภาษาอังกฤษบอกรายละเอียดตัวเองค่ะ เรามีประสบการณ์งานบัญชีที่ไทย 2 ปีกว่า แล้วก็ยื่น ใบจบ ใบเกรด ตามปกติ
ถ้าใครมีอย่างอื่น เช่น หนังสือรับรองการทำงาน ยิ่งดีค่ะ ยื่นไปเท่าที่เรามีให้หมด
6. หลักฐานการจบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยที่เยอรมนี หรือ จากมหาวิทยาลัยประเทศอื่น ที่เป็นที่ยอมรับและเทียบเท่าระดับอุดมศึกษาของเยอรมนี
*-->ข้อนี้แหละค่ะที่วุ่นวายสุดสำหรับเรา... เราจบปริญญาตรี บัญชีที่ประเทศไทยค่ะ เลยต้องทำการดูในเว็บ Anabin ว่ามหาลัย H+ไหม และ วุฒิเทียบเท่าไหม ผลปรากฏว่า มหาลัยได้ H+ แต่ วุฒิแค่มีในฐานข้อมูลAnabin แต่ไม่มีผลการเทียบว่าเทียบเท่า ( คือถ้าวุฒิไหนเทียบเท่าพอกดชื่อวุฒิเข้าไปดูรายละเอียดมันจะมีบอกว่าการเทียบเท่ากับเยอรมันนีเลยค่ะ ซึ่งน้อยมากในไทยที่มีการเทียบเท่าแล้ว) ทีนี้เมื่อมันยังไม่ได้เทียบ เราก็ต้องไปติดต่อ ZAB ค่ะ ซึ่งเป็นเหมือน หน่วยงานบริการประเมินวุฒิปริญญาตรีต่างประเทศในเยอรมันนีค่ะ
เราทำการติดต่อ ZAB ทางเว็บไซต์ กรอกข้อมูล ส่งเอกสารที่เขาต้องการ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เป็นตัวสำเนาทั้งหมดให้ทางไปรษณีย์ และอีเมลล์ไปบอกพร้อมไฟล์ทั้งหมดอีกที เอกสารที่ส่งถ้าจำไม่ผิดประกอบไปด้วย ใบที่เรากรอกจากZAB วุฒิปริญาตรี(ตัวที่เรารับกันตอนจบเลยค่ะ) ใบเกรด ทั้งหมดส่งภาษาไทย+อิ้ง และเราแนบเสริมเป็นวุฒิม.6 ซึ่งไม่มีก็ได้ค่ะแต่เรามีอะไรส่งให้หมดก่อน ที่นี้ก็รอจนเขาตอบเมลล์ให้ชำระเงินค่ะ แล้วเขาจะรอเอกสารที่เราส่งให้ก่อนแล้วก็บอกเราค่ะ จากนั้น... รอยาวๆค่ะ 3 เดือนขึ้นไปแล้วแต่ว่าเอกสารครบไหมติดปัญหาอะไรหรือเปล่า (ของเรารอ3 เดือนนิดๆรวมเวลาส่งเอกสารเพิ่มเนื่องจากลืมส่งภาษาไทยในตอนแรกค่ะ5555) พอได้มาแล้ว ผลปรากฏว่า โอเค วุฒิเราเทียบเท่ามหาลัยที่เยอรมันนีค่ะ ไปต่อได้
7. จดหมายแสดงถึงแรงจูงใจ (Motivationsschreiben) เกี่ยวกับแผนการที่จะไปหางานที่เยอรมนี (ประเภทงาน / เมือง / ที่พักที่จะไปอยู่อาศัย ฯลฯ )
--> ข้อนี้ก็เขียนยอกไปค่ะว่าทำไมอยากไปหางานที่นั้น ของเราอยากไปอยู่กับแฟนที่นู้น และ หาประสบการณ์ใหม่ๆที่ท้าท้าย ประมาณนี้ค่ะ
8. หลักฐานอื่น ๆ เกี่ยวกับการเตรียมพร้อมของคุณที่จะไปหางานในเยอรมนี ถ้ามี
--> หลักฐานอื่นๆเราแนะนำให้ควรมีเลยค่ะ เพราะเขาจะถามหาแน่นอนคือ
-หลักฐานที่อยู่ว่าจะไปอยู่ไหน บางคนเลือกจองโรงแรมไว้ก่อนแล้วจะไปหาเช่าห้องต่อ แต่ของเราส่งเป็นหลักฐานอยู่กับแฟนค่ะ คือแนบใบคล้ายๆทะเบียนบ้างมั้งค่ะให้กับทางสถานทูตเลย(เป็นใบที่มีรายละเอียดเกี่ยวกับที่อยู่เลยค่ะ บอกขนาดบอกทุกอย่าง)
-หลักฐานการลองสมัครงานจากที่ไทย เราแคปอีเมลที่สมัครแล้วโดนปฏิเสธทั้งหมด กับ อีเมลที่บอกว่าถ้าถึงเยอรมันแล้วค่อยคุยกันอีกที ให้ดูเลยค่ะ เราคิดว่าควรมีสัก1ฉบับที่มีผลเชิงบวลหน่ิย เขาจะได้ทั่นใจว่าเราอาจหางานได้ค่ะ
-หลักฐานการเรียนภาษา ของเราส่งเป็นแค่ใบประกาศนียบัตร ว่า เราเรียนจบ A1 แล้ว **ย้ำนะคะ แค่A1 และแค่จบ ยังไม่ได้สอบใดๆทั้งสิ้น ให้สถานทูตดูค่ะ พร้อมมีการบอกเสริมไปว่ากำบังเรียนต่อเนื่องที่ระดับA2
- ที่นี้เขาจะถามแล้วค่ะว่าไม่ได้ภาษาเยอรมันแล้วคิดว่าจะสมัครงานทำงานภาษาอะไร เราก็ตอบภาษาอังกฤษ ค่ะ หลักฐานก็คือ ผลการเรียนในมหาลัยที่เป็นวิชาภาษาอังกฤษ ในใบเกรดของเรา แค่นั้นแหละค่ะ แบ้วควรมีแนวทางด้วยนะคะจะทำงานอะไรที่เยอรมัน ของเราก็ บัญชี ตอบไปก่อนแบบมั่นใจ
9.หลักฐานการเงินที่เพียงพอในการรับผิดชอบค่าใช้จ่าย
--> ข้อนี้ทำได้2ทางเลือกค่ะที่ดูมีความมั่นคง คือ
- เปิดบัญชี บล็อคแอคเคาท์กับเยอรมัน (6เดือน 5แสนบาท)
- มีคนรับรองค่าใช้จ่ายอย่างเป็นทางการ
ซึ่งของเราใช้เป็นแฟนรับรองค่าใช้จ่ายให้ค่ะ เป็นการรับรองว่าให้มาหางานหลังเรียนจบและจะดูแลค่าใช้จ่ายทุกอย่าง แฟนเป็นคนดำเนินการไปขอที่เมืองที่เขาอยู่ค่ะ แล้วส่งเอกสารตัวจริงมาให้เรา ที่ไทย ประมาณ 3 วันถึง กรุงเทพค่ะ แล้วแฟนก็มีกานเขียนจดหมายเชิญแบบไม่ทางการมาด้วยนะคะ แต่อันนี้ไม่ต้องก็ได้แต่ถ้ามีก็ดี
***เอกสารครบจองคิวนัดยื่นขอวีซ่าที่สถานทูตเยอรมัน รอไม่นานรู้ผลค่ะ ทำงานเร็วมาก
ปล.ของเราตอนแรกเอกสารเราขาดหลักฐานการเทียบวุติค่ะ (แต่เขียนบอกรายละเอียดไปหมดแล้วข้างต้นเพื่อจะได้ไม่พลาดแบบเรา) สถานทูตให้เวลาเรายื่นเพิ่มพอเรายื่นเพิ่มแล้ว 1 อาทิตย์ ผลออกมา ผ่านค่ะ ได้วีซ่าเรียบร้อย