The Mysterious of Black Hole ศาสตร์ความลึกลับของหลุมดำ



Photos by : NASA Website 

สิ่งที่เราจะเขียนต่อไปนี้ คือตามความเข้าใจของเรา
เราเลยลองเขียนและเรียบเรียงออกมาทั้งแบบภาษาอังกฤษและภาษาไทย
ผิดถูกประการใดขออภัยด้วยนะคะ

 
A black hole is when the gravitational force is so great that it sucked everything into it , even light, hence the name Black Hole. 
 
จากพลังแรงโน้มถ่วงมหาศาลจนดูดทุกอย่างที่ใกล้เข้าไปได้แม้แต่แสงซึ่งมีความเร็วที่สุดในจักรวาล จึงเป็นที่มาของชื่อหลุมดำ
 

Anything that gets close to a black hole gets sucked in and can’t escape, it’s called “The Event Horizon”.
 
อะไรก็ตามที่เข้าใกล้หลุมดําจะถูกดูดเข้าไปและหนีไม่พ้น เรียกว่า "The Event Horizon" (ขอบฟ้าเหตุการณ์) 
 

 
A black hole is like a one way street, everything can get in from outside to inside but nothing can get out. 
 
หลุมดำเปรียบเสมือนถนนเส้นทางเดียว ทุกสิ่งจากภายนอกสามารถเข้าไปภายในได้ แต่..ไม่มีสิ่งใดสามารถหลุดรอดออกมาได้ 
 

Everything that goes in a black hole just vanishes, we don’t know what happens to it. 
 
สิ่งที่เข้าไปในหลุมดำ just สูญหายหาไม่เจอและเราไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นในนั้นและหายสาบสูญไปที่ไหน ไม่พบแม้แต่ร่องรอย บางที่สิ่งที่เข้าไปในหลุมดำอาจจะยัง "คงอยู่" ไม่ได้แตกสลายยังคง Exist ก็เป็นไปได้ ไม่มีใครล่วงรู้
 

แต่อย่างไรก็ตาม
 
Professor Stephen Hawking said that it is impossible for things to just vanish in the black hole because it goes against everything          we know about physics. 
 
He said everything that goes in must come out in some form like small particles and that form it calls Hawkings radiation.
 
ศาสตราจารย์สตีเฟน ฮอว์คิง (นักฟิสิกส์ นักคณิตศาสตร์ นักจักรวาลวิทยา นักวิจัยที่มีผลงานวิจัย เช่น เรื่องว่าด้วยทฤษฎีหลุมดำ อธิบายกลไกการแผ่รังสีของหลุมดำ และเป็นนักอัจฉริยะที่ทั่วโลกยอมรับทางด้านฟิสิกส์) กล่าวว่าเป็นไปไม่ได้ที่สิ่งต่าง ๆ จะหายไปในหลุมดําเพราะมันขัดกับทุกสิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับฟิสิกส์
 
อาจารย์กล่าวว่าทุกสิ่งที่เข้าไปจะต้องออกมาในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง เช่น อนุภาคขนาดเล็ก และรูปแบบนั้นเรียกว่ารังสีฮอว์คิงส์
 

นี้คือสิ่งที่เราสนใจจนเราอยากเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความลี้ลับของหลุมดำค่ะ เลยเป็นที่มาของการตั้งกระทู้ครั้งแรก 
 
เลยอยากจะชวนเพื่อนๆพี่ๆมาแลกเปลี่ยนความรู้กันและหรือให้ความรู้แก่เราด้วยค่ะ 
 

สุดท้ายนี้
 
Scientists say that the world was created by a Big Bang. 
But the Biblical side says God created the world in 6 days. 
 
คงยังเป็นคำถามที่ยังคงเป็นประเด็นถกเถียงอยู่ทุกวันนี้ว่า 
 
นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าโลกถูกสร้างขึ้นโดยบิ๊กแบง
แต่ด้านพระคัมภีร์กล่าวว่าพระเจ้าสร้างโลกใน 6 วัน
 
สิ่งไหนน่าจะเป็นไปได้มากกว่ากันคะ? 
 
ขอบคุณมากค่ะ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 23
สิ่งที่ให้ข้อมูลมา ก็เป็นความรู้ที่ให้รู้จักเข้าใจถูกต้องกับหลุมดำ ปกติทั่วๆไปครับ   แต่ผมจะอถิบาย ให้เข้าใจเพิ่มเติม ถึงที่มาของคำว่าหลุมดำ ให้มากขึ้น  มงนี้ไม่ได้มาง่ายๆแค่มืดไม่เห็นแสง ดังนี้  โดยปกติ  มนุษย์จะเห็นสีสันแสงสี ด้วยดวงตา  ที่ออกแบบ มาให้มีเซลรูป กรวยกับรูปแท่ง ที่เป็นตัวรับรังสี อณุภาค โฟตอน เท่านั้น ถึงจะเห็น สิ่งต่างๆความสว่างนาๆ ไม่มีโฟตอน คือไม่เห็นไม่เห็นก็มืด มืดก็ดำไปหมด
แต่  ในธรรมชาติ นั้น มีรังสี มากมาย หลายหลาก ที่ปลดปล่อย ออกมา ที่เราสามารถ นำมาแปลเป็นความสว่างเป็นภาพได้ ด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ  วัตถุสิ่งของดวงดาว อื่นๆในจักวาล อาจไม่มีโฟตรอน แต่อาจปล่อย รังสีที่ตีเป็นแสงได้สว่างจ้า ได้เช่นกัน ต่อให้ดำมืดแค่ใหน ก็เห็นในรูปแบบนึง  แต่หลุมดำ คือ ไม่มี รังสีใดๆ หลุดออกมาได้เลย(มีแต่ ฮอว์กิงที่เห็น) สรุป จะใช้ชื่อหลุมดำได้ คือ ต้องวัดจับไม่ได้ด้วยประการทั่งปวง ไม่ใช้แค่ ไม่มีแสงรังสีออกมา แล้วเรียกดำได้ แถมยัง วัดค่าร้อนเย็น อะไรไม่ได้ นะจุดอื่นๆสภาวะอื่นๆในจักวาล ยังพอวัดคาดเดา ว่า มีกีเคลวิน ร้อนดั่งไฟหรือ ใกล้0องศาสัมบูรณ์แค่ใหน แต่ในหลุมดำนั้น วัดอะไรไม่ได้ด้วยประการทั่งปวง จึงเหมือนไม่มีตัวตนในทุกมิติ อย่างแท้จริง นี้แหละหลุมดำ
ส่วน  ที่เข้าใจว่า ทุกสิ่งที่เข้าไป อาจจะคงอยุ่ เหมือนเครื่องย้าย มิติหลุดไปอีกจักวาลนึง แบบครบปกติ  อันนี้ ก็ต้องยกตัวอย่างว่า  มนุษย์  สัตว์ สิ่งของ  เหล็ก เพชร  ทอง หินดิน  ประกอบด้วย สิ่งพื้นฐาน ที่เหมือนกันหมด นั้นคือ อิเล็กตรอน โปรตรอน นิวตรอน(ไม่ต้องลงลึกไปถึงเครื่องเร่งอนุภาคนะที่นำของพวกนี้มาชน จนย่อยเป็น ฮิกโบซอนต่างๆได้อีก  เผลอๆหลุมดำอาจบีบอัดย่อยในระดับฮิก เลยก็ได้ บรื๋ออ)
ในหลุมดำนั้น อิ-โปร-นิว(ย่อ) จะถูก บีบจนแน่นรวมกัน เป็นนิวเคลียส ที่คงเหลือ สภาวะเอกฐาน(เป็นแบบใหนมนุษย์ยังสร้างและจินตนาการ ยังไม่ถึงเดาไม่ได้ว่ารูปแบบใดไม่งั้นคงเห็นในหนังภาพยนต์ แล้ว แฮร่!!)  เหมือนเป็นการ สลายอัตตาตัวตน  จนรวมอัดแน่นเหมือนกันทั่งหมด ดังนั้น  จะไม่เหลือ สภาพใดๆได้อีก ฮะ
เอาเท่านี้  เอาหลักๆให้เข้าใจหลุมดำมากขึ้นเนอะ คำถามอื่นๆก็น่าสนใจตอบ แต่กลัวยาวไป ติดไว้ก่อน นะครับ บ๊ายบาย
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 20
ขอบคุณทุกคนนะคะที่เข้ามาตอบ ถือว่ามาแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ให้ความรู้ซึ่งกันและกันค่ะ

ข้อมูลที่เราเขียนทุกอย่างมาจากที่เราดูสารคดีด้วย อ่านหนังสือด้วย ค้นคว้าเองด้วย แต่เอามาเขียนเรียบเรียงสรุปย่อๆลงในแบบฉบับของเราเองค่ะ ทั้งภาษาอังกฤษและไทย

ยังมีอีกเยอะค่ะ เพราะเรื่องหลุมดำมันทั้งซับซ้อน ลึกลับ ข้อมูลเยอะมากมายจากหลายแหล่ง เราเองสนใจเลยค้นคว้าและนำมาแชร์ต่อเผื่อมีคนสนใจคล้ายๆเราค่ะ

____________________________

When you take a photo with your camera for example a picture of a white big rose in the pot plant and when you see the photograph you know exactly in reality what it is and believe it.

However when the scientists take a picture of a black hole with an event horizon telescope, they don’t know that the picture they see is what the black hole exactly looks like.

สิ่งที่น่าค้นหาและน่าหาคำตอบอีกคือ เช่น

เวลาเราถ่ายรูปด้วยกล้องถ่ายรูป เช่น ภาพดอกกุหลาบสีขาวขนาดใหญ่ในกระถางต้นไม้ และเมื่อเราเห็นรูปภาพนั้น สมองเราประมวลผลความคิดได้ทันทีเลยว่า นั่นคือความเป็นจริง นั่นคือ ดอกกุหลาบสีขาวขนาดใหญ่ในกระถางต้นไม้จริงๆ และเราก็เชื่อมั่น มั่นใจ จากรูปภาพนั้นๆ

อย่างไรก็ตาม ในปี 2017 เดือนเมษายน เมื่อนักวิทยาศาสตร์ถ่ายภาพหลุมดําด้วยกล้องโทรทรรศน์ขอบฟ้าเหตุการณ์ แม้แต่ตัวนักวิทยาศาตร์ ก็ไม่แน่ใจว่า
ภาพที่เห็นคือภาพของหลุมดำจริงๆหรือไม่

The scientists have to get information from many different sources around the world from the event horizon telescopes photographing the black hole at exactly the same time and then correlating all the images to make one final image of the black hole.

นักวิทยาศาสตร์จำเป็นต้องรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆมากมายทั่วโลกจาก กล้องโทรทรรศน์ขอบฟ้าเหตุการณ์ ถ่ายภาพหลุมดำในเวลาเดียวกันวันเดียวกันเพื่อจะประมวลเชื่อมโยงสรุปผลเพื่อสร้างภาพสุดท้ายของหลุมดำ

นี้คือภาพของ Telescopes ในปี 2017 ที่พยายามถ่ายภาพของหลุมดำ 7 ที่ตั้งกระจายอยู่ในทั่วมุมโลก

1. Mauna Kea, Hawaii
2. Mt. Graham, Ariz
3. Antarctica
4. Spain
5. Mexico
6. Chile
7. Chile

ภาพถ่ายจาก : Science News
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  วิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ ฟิสิกส์ เรื่องลึกลับ
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่