สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
อ่านแค่ที่เขียนมาบอกไม่ได้หรอกว่าแท้จริงแล้วเป็นอย่างไร เพราะไม่มีใครเห็นวิธีการบริหารงานของคุณ
แต่การที่คน ๆ นึงลาออก แล้วแค้นขนาดเขียนมาด่า ผมว่ามันไม่ธรรมดานะ เรื่องแบบนี้ถ้าเป็นผม ผมจะหาสาเหตุและพิจารณาถี่ถ้วนว่าสิ่งที่เคยทำไป อะไรที่ไม่ถูก อะไรที่มากเกินควร เพราะผมตอนทำงานมักจะ ระลึกเสมอว่า คนที่ต้องออกมาทำงาน มาหาเงินเลี้ยงชีพ มันมีความลำบากทุกคน ถ้าเขารวย เขาไม่มาทำงานหรอกครับ ดังนั้น เราในฐานะหัวหน้าที่ดี ไม่ควรซ้ำเติมความลำบากให้คนที่มาทำงาน เพราะทุกคนมีข้อดี และข้อเสียทั้งนั้น ใครดีควรชื่นชม ใครไม่ดีก็หาวิธีช่วยแก้ไข ไม่ใช่การบ่น ด่า
จำไว้เสมอ ว่าบริษัทไม่ใช่ของเรา วันใดวันหนึ่งเราก็อาจได้หัวหน้าที่นิสัยไม่ดีได้เช่นเดียวกัน
แต่การที่คน ๆ นึงลาออก แล้วแค้นขนาดเขียนมาด่า ผมว่ามันไม่ธรรมดานะ เรื่องแบบนี้ถ้าเป็นผม ผมจะหาสาเหตุและพิจารณาถี่ถ้วนว่าสิ่งที่เคยทำไป อะไรที่ไม่ถูก อะไรที่มากเกินควร เพราะผมตอนทำงานมักจะ ระลึกเสมอว่า คนที่ต้องออกมาทำงาน มาหาเงินเลี้ยงชีพ มันมีความลำบากทุกคน ถ้าเขารวย เขาไม่มาทำงานหรอกครับ ดังนั้น เราในฐานะหัวหน้าที่ดี ไม่ควรซ้ำเติมความลำบากให้คนที่มาทำงาน เพราะทุกคนมีข้อดี และข้อเสียทั้งนั้น ใครดีควรชื่นชม ใครไม่ดีก็หาวิธีช่วยแก้ไข ไม่ใช่การบ่น ด่า
จำไว้เสมอ ว่าบริษัทไม่ใช่ของเรา วันใดวันหนึ่งเราก็อาจได้หัวหน้าที่นิสัยไม่ดีได้เช่นเดียวกัน
ความคิดเห็นที่ 70
เคยมีพี่บางคนที่โดนแบบคุณค่ะ คือมีคนทยอยลาออก แล้วเขียนเหตุผลที่ลาออกว่า เพราะทำงานร่วมกับพี่คนนั้นไม่ได้
พี่คนนั้นมาปรึกษาหัวหน้า ซึ่งก็คือหัวหน้าเราด้วยเช่นกัน หัวหน้าเราก็บอกว่าให้เพลาๆการใช้อารมณ์ลง
ประเด็นคือ สิ่งที่พี่คนนั้นด่าเด็กก็ไม่ได้มีคำหยาบคายค่ะ แต่มันเต็มไปด้วยอารมณ์ เช่นเสียงดัง หรือมาแนวๆจี้ กดดัน คนบางคนเค้าก็ไม่ชอบสไตล์นี้ รับไม่ได้ และมองว่าเค้าก็มีดีที่จะไปที่อื่น ทำไมเค้าต้องมาทนรองรับสภาพแบบนี้
ส่วนพี่ที่เป็นต้นเหตุ เค้าก็มองว่าตัวเค้าเองตามงาน ไม่เคยใช้คำหยาบคาย เค้าต้องการทำให้งานออกมาดี ออกมาสำเร็จ
ที่เราเล่าให้คุณฟัง เพราะเห็นว่าเคสคล้ายๆกันค่ะ ส่วนตัวเรา เราทำงานกับพี่คนที่เป็นต้นเหตุให้คนอื่นๆลาออกได้ ไม่มีปัญหาอะไรเลย ชอบทำงานกับเค้าด้วยซ้ำ และเราก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยเจอตอนเค้าอารมณ์ไม่ดี แต่เราก็มีวิธีการแบบเราที่จะ manage ให้เรายังทำงานกันต่อไปได้ โดยที่ไม่ได้เก็บอะไรตรงนี้มาคิดเล็กคิดน้อยด้วยซ้ำ
สำหรับเคสคุณ เราคิดว่า คุณควรต้องมองดูตัวเองอย่างถ่องแท้ ว่าคุณเองมีลักษณะแบบไหน แล้วลองดูว่า ทำยังไง ถึงจะทำงานร่วมกับคนอื่นได้ เราเชื่อว่าคุณไม่ผิดหรอกที่จริงจัง อยากให้งานมาดี แต่บางที คนร่วมทางเค้าไม่ทันคุณอ่ะค่ะ เราเองเคยเจอ น้องทีมอื่นที่มาทำงานร่วมกับเรา เค้าไปฟ้องหัวหน้าเค้าว่า เราไปกดดันเค้า หาว่าเค้าทำงานช้า (แต่มันช้าจริงๆ ทั้งๆที่เราแนะนำวิธีการที่เร็วกว่า แต่เค้าบอกว่าเค้าสวิสต์หัวไปทำแบบที่เราแนะนำไม่ได้ หัวเค้าไปไม่ไหว) เราเจอแบบนั้นเราก็ย้อนกลับมาทบทวน และสรุปได้ว่า เร็วช้า ของแต่ละคนไม่เท่ากันจริงๆ คนเราถึงได้มีเลเวลต่างกันในที่ทำงานเพราะเหตุแบบนี้แหละ แล้วเราก็ต้องเรียนรู้ที่จะต้องประนีประนอม เพื่อให้เราสามารถทำงานร่วมกับทุกคนได้ เรื่องงานบางเรื่องถ้ามันมีเหตุต้องล่าช้าเพราะบางสิ่ง เราก็ต้องทำใจยอมรับ และปล่อยวางค่ะ เพราะหากเราไปหักหาญ นอกจากจะไม่ได้เร็วขึ้น ยังสร้างความเกลียดชังให้กับคนอื่นๆ เราต้องเรียนรู้ที่จะช้าเพื่อประคองไปด้วยกัน ก็ในเมื่อบริษัทสรรหาพนักงานร่วมงานให้เราได้แค่นี้ เราก็ต้องพยายามทำให้ดีเพื่อให้ไปด้วยกันอ่ะค่ะ
ตรงกันข้าม หากเราไปอยู่องค์กรที่มีแต่คนเก่งกว่าเรา เราก็อาจจะเจอว่าเราทำงานช้าจนคนพวกนั้นไม่รอเราก็ได้ 555
พี่คนนั้นมาปรึกษาหัวหน้า ซึ่งก็คือหัวหน้าเราด้วยเช่นกัน หัวหน้าเราก็บอกว่าให้เพลาๆการใช้อารมณ์ลง
ประเด็นคือ สิ่งที่พี่คนนั้นด่าเด็กก็ไม่ได้มีคำหยาบคายค่ะ แต่มันเต็มไปด้วยอารมณ์ เช่นเสียงดัง หรือมาแนวๆจี้ กดดัน คนบางคนเค้าก็ไม่ชอบสไตล์นี้ รับไม่ได้ และมองว่าเค้าก็มีดีที่จะไปที่อื่น ทำไมเค้าต้องมาทนรองรับสภาพแบบนี้
ส่วนพี่ที่เป็นต้นเหตุ เค้าก็มองว่าตัวเค้าเองตามงาน ไม่เคยใช้คำหยาบคาย เค้าต้องการทำให้งานออกมาดี ออกมาสำเร็จ
ที่เราเล่าให้คุณฟัง เพราะเห็นว่าเคสคล้ายๆกันค่ะ ส่วนตัวเรา เราทำงานกับพี่คนที่เป็นต้นเหตุให้คนอื่นๆลาออกได้ ไม่มีปัญหาอะไรเลย ชอบทำงานกับเค้าด้วยซ้ำ และเราก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยเจอตอนเค้าอารมณ์ไม่ดี แต่เราก็มีวิธีการแบบเราที่จะ manage ให้เรายังทำงานกันต่อไปได้ โดยที่ไม่ได้เก็บอะไรตรงนี้มาคิดเล็กคิดน้อยด้วยซ้ำ
สำหรับเคสคุณ เราคิดว่า คุณควรต้องมองดูตัวเองอย่างถ่องแท้ ว่าคุณเองมีลักษณะแบบไหน แล้วลองดูว่า ทำยังไง ถึงจะทำงานร่วมกับคนอื่นได้ เราเชื่อว่าคุณไม่ผิดหรอกที่จริงจัง อยากให้งานมาดี แต่บางที คนร่วมทางเค้าไม่ทันคุณอ่ะค่ะ เราเองเคยเจอ น้องทีมอื่นที่มาทำงานร่วมกับเรา เค้าไปฟ้องหัวหน้าเค้าว่า เราไปกดดันเค้า หาว่าเค้าทำงานช้า (แต่มันช้าจริงๆ ทั้งๆที่เราแนะนำวิธีการที่เร็วกว่า แต่เค้าบอกว่าเค้าสวิสต์หัวไปทำแบบที่เราแนะนำไม่ได้ หัวเค้าไปไม่ไหว) เราเจอแบบนั้นเราก็ย้อนกลับมาทบทวน และสรุปได้ว่า เร็วช้า ของแต่ละคนไม่เท่ากันจริงๆ คนเราถึงได้มีเลเวลต่างกันในที่ทำงานเพราะเหตุแบบนี้แหละ แล้วเราก็ต้องเรียนรู้ที่จะต้องประนีประนอม เพื่อให้เราสามารถทำงานร่วมกับทุกคนได้ เรื่องงานบางเรื่องถ้ามันมีเหตุต้องล่าช้าเพราะบางสิ่ง เราก็ต้องทำใจยอมรับ และปล่อยวางค่ะ เพราะหากเราไปหักหาญ นอกจากจะไม่ได้เร็วขึ้น ยังสร้างความเกลียดชังให้กับคนอื่นๆ เราต้องเรียนรู้ที่จะช้าเพื่อประคองไปด้วยกัน ก็ในเมื่อบริษัทสรรหาพนักงานร่วมงานให้เราได้แค่นี้ เราก็ต้องพยายามทำให้ดีเพื่อให้ไปด้วยกันอ่ะค่ะ
ตรงกันข้าม หากเราไปอยู่องค์กรที่มีแต่คนเก่งกว่าเรา เราก็อาจจะเจอว่าเราทำงานช้าจนคนพวกนั้นไม่รอเราก็ได้ 555
ความคิดเห็นที่ 13
ผิดมากหรือไม่นั้นตอบยาก ฟังความข้างเดียวโดยไม่รู้ว่าในข้อเท็จจริงอีกฝ่ายต้องเจอกับอะไรบ้าง ถ้าสมมมุติให้อีกฝ่ายมาเล่ามีโอกาสเป็นหนังคนละม้วนหรือไม่ ฯลฯ
เอาเป็นว่า ถ้าต้องการถาม feedback เพื่อต้องการฟังและพิจารณาตัวเองว่าปรับปรุงตรงไหนหรือไม่จริง ๆ ให้ลองถามกับเพื่อนร่วมงานที่อาจรู้จักคุณดีกว่าคนภายนอกว่าเขามองการปฏิบัติต่อผู้อื่นของคุณอย่างไร
เอาเป็นว่า ถ้าต้องการถาม feedback เพื่อต้องการฟังและพิจารณาตัวเองว่าปรับปรุงตรงไหนหรือไม่จริง ๆ ให้ลองถามกับเพื่อนร่วมงานที่อาจรู้จักคุณดีกว่าคนภายนอกว่าเขามองการปฏิบัติต่อผู้อื่นของคุณอย่างไร
ความคิดเห็นที่ 10
ก่อนอื่นขอเป็นกำลังใจให้ จขกท. นะคะ
ในเมื่อเราเป็นหัวหน้า เราทำถูกต้องแล้วค่ะ แล้วยิ่งถ้ามั่นใจว่าพูดตักเตือนตามหน้าที่ ใช้คำสุภาพไม่ได้หยายคาย เค้าผิดพลาดจริง ก็สมควรแล้วค่ะ เราเป็นหัวหน้าไม่ต้องแคร์ค่ะ เพราะถ้าเกิดปัญหาหัวหน้าต้องมีส่วนรับผิดชอบก่อน คนที่เราเตือนแล้วเค้าลาออกแสดงว่าเค้าทำงานไม่ได้ ไม่มีความสามารถพอ ไม่มีใครบังคับให้ลาออกได้ ควรสนใจคนที่เราเตือนแล้วพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นดีกว่า
ในเมื่อเราเป็นหัวหน้า เราทำถูกต้องแล้วค่ะ แล้วยิ่งถ้ามั่นใจว่าพูดตักเตือนตามหน้าที่ ใช้คำสุภาพไม่ได้หยายคาย เค้าผิดพลาดจริง ก็สมควรแล้วค่ะ เราเป็นหัวหน้าไม่ต้องแคร์ค่ะ เพราะถ้าเกิดปัญหาหัวหน้าต้องมีส่วนรับผิดชอบก่อน คนที่เราเตือนแล้วเค้าลาออกแสดงว่าเค้าทำงานไม่ได้ ไม่มีความสามารถพอ ไม่มีใครบังคับให้ลาออกได้ ควรสนใจคนที่เราเตือนแล้วพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นดีกว่า
แสดงความคิดเห็น
น้องที่ทำงานลาออก แล้วทักมาบอกว่าลาออกเพราะเรา
พอดีว่าน้องที่ทำงานจะลาออกแล้วเมื่อวานเป็นวันสุดท้ายที่เขาทำงาน ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา น้องทักมาในไลน์ค่ะ บอกประมาณว่า "ที่เขาลาออกเนี่ย รู้มั้ยเพราะอะไร จะบอกให้นะ เพราะพี่นั่นแหละ ก่อนจะด่าจะว่าใครหัดย้อนดูตัวเองก่อน ใช่ว่าคำพูดแต่ละคำ คนอื่นเขาจะรับได้ ถ้ายังไม่ปรับปรุงตัว ก็จะมีคนทยอยลาออกเพราะพี่เหมือนที่เราลาออก " แล้วก็บอกว่าเตือนละนะ
คือเรางงแล้วก็แอบเสียใจเล็กๆค่ะ คือในที่ทำงานเราเป็นหัวหน้าน้องเขา เวลาน้องทำงานไม่ถูกหรือไม่ตั้งใจทำงาน เราก็เตือนๆปกติ ไม่ได้มีคำหยาบเลย แต่เราพูดเตือนทุกวัน ย้ำๆซ้ำๆ เพราะเราต้องการงานที่ดีขึ้นค่ะ น้องคนนี้รับรู้ แต่ไม่ทำให้ดีขึ้นสักครั้งเลยค่ะ หลังๆเราเลยไม่พูด แล้วอยู่ๆก็เกิดเรื่องที่เขาจะลาออกนี่มา สักพักพอคนอื่นตามงานกันน้องคนนี้ น้องเขาก็มักจะบอกปัดว่าไม่ทำ ยังไงก็จะออกอยู่ละ แบบนี้ประจำ จนบอสเขาจัดการเรื่องลาออกของน้องให้เร็วขึ้นค่ะ
คือเราอยากถาม การถามตามงาน ตักเตือนในหน้าที่ของหัวหน้างาน เราทำผิดมากจนน้องต้องลาออกเหรอคะ
#พึ่งลองใช้ครั้งแรก อาจจะลงแท็กผิดนะคะ แต่ช่วยตอบเราทีค่ะ