คำติชมของผมต่อรายการ Hell's Kitchen Thailand และคำติชมรายบุคคล

ความตั้งใจในตอนแรก อย่างที่บอกไว้ในกระทู้ที่แล้ว ผมไม่เคยคิดว่าจะดูถึงตอนสุดท้ายแบบเกาะติดขนาดนี้ แต่ยอมรับว่าความเข้มข้น ความตื่นเต้น สร้างทุกอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นในรายการแข่งขันทำอาหารมาก่อน สามารถเรียกสิ่งนี้ว่าเป็นมาสเตอร์พีซของเฮลิโคเนีย เอช ได้เลย นี่คือสิ่งที่ผมอยากจะบอกกั ผู้จัดทำรายการ

อย่างแรกที่ผมประทับใจ คือมิตรภาพของผู้เข้าแข่งขันทุกคน ไม่เพียงแต่ในจอ แต่นอกจอทุกคนเป็นเพื่อนกันอย่างสนิทใจ ผมดูรายการ ละคร มาหลายเรื่อง แต่มีไม่กี่เรื่องที่ทำให้คนหน้ากล้องสามารถเป็นเพื่อนซี้กันในชีวิตจริงได้ ผมเห็นความประทับใจของเพื่อนในกลุ่ม ร้องไห้เสียใจ ร้องไห้ดีใจ ขณะที่หลายคนคิดแค่ว่ามีเพียงการห้ำหั่นเชือดเฉือนกัน แต่ผมเห็นมิตรภาพมากกว่า เห็นความมุ่งมั่น การพัฒนาตัวเอง บางคนถึงตกรอบ แต่เส้นทางอาชีพเชฟของพวกเขา ไปไกลแน่นอน

อย่างที่สอง ผมประทับใจกับการให้ความรู้ การให้ความเพลิดเพลินต่อผู้ชม เรื่องอาหาร ได้มากกว่าแค่ดราม่า เป็นเหมือนรายการสอนอาหารไปในตัวด้วย รวมถึงการมีลูกเล่นเฮฮากับผู้ชม การ Tie-in ผู้สนับสนุนรายการอย่างน่าดึงดูดใจ (ยกเว้นตอนเชฟป้อมโปรโมทกะทิ กับเชฟออฟโปรโมทเครื่องเทศ ดูฮาหน่อย)​ จนเชื่อว่าเป็นการทำรายการที่ลงทุนที่สุดของ เฮลิโคเนีย เอช ทุกอย่างดูดีและสวยงามอย่างที่ช่อง 7 ควรเป็น

อย่างสุดท้าย ผมประทับใจกับการเล่นอารมณ์คนดูด้วยโปรดักชั่น ตั้งแต่ฉาก การตัดต่อ จนถึงการดึงอารมณ์ร่วมของคนหน้ากล้องถึงคนดู และคิดว่าน่าจะทำได้ดีกว่าละครบางค่ายอีก ดูได้จากคนดูที่อินผู้เข้าแข่งขันบางคนจนตามไปด่าเขาเลยก็มี

ข้อติติง ผมอยากให้ความเป็น Hell เน้นความกดดัน ตึงเครียด ดีกว่าด่า พูดหยาบ หรือตะโกนใส่ บาง EP เฮดเชฟก็ตะโกนโวยวายเกินเหตุไปหน่อย เรื่องที่บอกว่าไม่มีสคริปต์ ผมเชื่อ แต่เรื่องไม่เตี๊ยม ไม่แอคติ้ง  ผมว่าต้องมี อันนี้ถ้ามีอีกต้องปรับปรุงให้มีเหตุผลหน่อยนะครับ เพราะรายการนี้ ทำหลายประเทศ แต่ทำซีซั่นเดียวแล้วพับก็มีเยอะ

คำติชมรายบุคคล

เฮดเชฟ

เชฟวิลแมน = ติเรื่องโวยวาย ตะโกนเยอะไป ดูโหดผิดปกติ แต่ให้คะแนนความเข้มงวดเรื่องอาหาร ดูมีคุณภาพ นอกจอดูเป็นคนตึงๆ ใครเคยเจอครูสอนภาษาจีนในโรงเรียนจะเข้าใจ แบบนั้นเลย 5555

เชฟเอียน = ติเรื่องโวยวายเหมือนกัน แต่ใจดีกับผู้เข้าแข่งขันกว่าคนอื่น เฟรนลี่ที่สุด ควรมาทางสายเฮฮามากกว่าดุ

เชฟอ๊อฟ = คิดว่าทีมงานให้เป็นเฮดเชฟเพราะร่างใหญ่ ดุหนัก แต่ดูนอกรายการแล้วโอ๊ต ปราโมทย์ เวอร์ชั่นเชฟชัดๆ 5555 อันนี้ไม่รู้จะติอะไรเพราะมีเหตุผลกว่าเฮดเชฟคนอื่น

เชฟป้อม = ติเรื่องโวยวายเหมือนกัน บางคนว่าเล่นใหญ่เกิ๊น ติดดุ ติดจริงจังตลอดเวลา ไม่เหมือนนอกรายการที่เฮฮาเก่งกว่าใครเพื่อน 5555

ซูส์เชฟ

เชฟอาร์ = ดูเฮฮาสุดในบรรดา 6 เชฟ ดูผ่อนคลายกว่าตอนเข้าแข่งใน The Next Iron Chef ด้วยซ้ำ ขำตอนขายน้ำพริกกับเฮียมารวย

เขฟพฤกษ์ = ดูเป็นผู้ใหญ่ใจดีแต่ตอนดุก็แอบกลัวว่าองค์จะลงมั้ย แต่โดยรวมคือเป็นคนใจดี อธิบายเรื่องอาหารที่จะบริการได้ดี

ผู้เข้าแข่งขัน

เชฟบิว = ผมเคยกินของเชฟบิวตอนยังอยู่เกาะช้าง  จำไม่ได้แล้วว่ากินอะไร รู้แต่ว่าพี่บิวใส่ใจกับทั้งการทำอาหารและการให้บริการมาก ผมนับถือพี่บิวมากครับ ดีใจมากๆ และไม่เคยแปลกใจที่พี่บิวเป็นผู้ชนะเลย (กระทู้ก่อน ผมจำไม่ได้ว่าเชฟบิวเคยทำอาหารให้ผมด้วย ต้องขออภัยครับ)​ พูดตามตรงนะ ถ้าไม่ติดว่าตัวเองเป็นผู้ชาย แล้วตัวเชฟบิลก็มีภรรยาแล้ว ผมเองนี่แหละที่อยากเป็นแฟนเชฟบิว.. คนอะไรไมโครเวฟเกิ๊น

เชฟเคอร์ = เรื่องความสามารถ ผมยอมรับว่าเชฟเคอร์อาจจะไม่ค่อยได้ดีเท่าไร (จากที่ต้องไปยืนอยู่บ่อยๆ)​ แต่เรื่องจิตใจ ความสู้ การแก้ไขตัวเอง ผมยกย่องว่าเชฟเคอร์เก่งมากๆ เพียงแต่ที่ผ่านมาอาจจะไม่ใช่ทางถนัดของเชฟเคอร์เท่านั้นเอง หวังว่าเส้นทางอาชีพเชฟจะทำให้เชฟเคอร์เติบโตและมีหน้ามีตาตั้งแต่วันนี้ไปครับ

เชฟจิ๊บ = คนนี้ติดเรื่องโวยวาย คุมอารมณ์ไปหน่อย แต่ถ้าเรื่องใจสู้ผมยอมรับนับถืออีกคน ได้ยินว่าช่วงโควิดเคยเปิดร้านอาหารตามสั่งด้วย แต่ตอนนี้ปิดไปแล้ว กลับมาทำหน้าที่เป็นเชฟในร้านอาหารโรงแรม ผมเชื่อว่าเชฟจิ๊บก็ไปรอดครับ

เชฟลูกจรรย์ = น้องลูกจรรย์เป็นคนน่ารักสำหรับผม ใจสู้ มองโลกในแง่ดีตลอด น่ารักเรียบร้อย ผมไม่แน่ใจว่าตอนนี้และอนาคตน้องลูกจรรย์ทำอะไร แต่ผมว่าทำอะไรก็สดใสหมด

เชฟเบียร์ = หนุ่มออส คิดว่าตอนนี้กำลังสนุกกับการทำอาหารไทยในย่าน Kew พี่เบียร์คนนี้ผมก็สัมผัสได้ว่าใจสู้และมีความสามารถครับ แอบเสียดายที่ EP สุดท้าย ใจไม่สู้แล้ว ถ้าพยายามอีกนิดอาจจะแซงหน้าเชฟบิวหรือเชฟเคอร์ได้เลย

เชฟเก่ง = คนนี้ ถึงจะดูเป็นสายมืดสายมาร แต่ตัวจริงน่าคบ มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีมาก ได้ยินว่าเคยเล่น Hunger ด้วย เรื่องฝีมือทำอาหารก็เข้าขั้นแชมป์ แต่กลายเป็นว่าพลาดไปอย่างน่าเสียดายเลยทีเดียว

เชฟมารวย = เพิ่งทานร้านพี่มารวยที่ชลบุรีมา บอกเลยว่าทำอาหารอิตาลีได้สุดยอดมากๆ แบบเรียกว่าสุดยอดกว่าร้านในห้างดังๆ อีก พี่มารวยก็บริการดีสุดๆ เป็นคนเฮฮา ทำให้ร้านบรรยากาศดีไปด้วย เชื่อว่าพี่มารวยจะไปรอดในสายทางนี้ครับ

เชฟเฟน = เชฟเฟนอาจจะไปไม่ถึงฝัน แต่เชื่อว่าประสบการณ์จะทำให้เชฟเฟนมีอนาคตที่ดี ยิ่งมีเพื่อนๆ ช่วยเหลือแล้ว อนาคตน่าจะไปไกล

เชฟใบตอง = พี่ใบตอง คนนี้ใจสู้อีกคน เคยสมัคร AF 2 ครั้ง (แม่ผมเคยโหวตให้ด้วย)​ และหนนี้ก็มาทางสายเชฟ เป็นคนที่ไม่ค่อยเก่ง แต่พยายามเรียนรู้ตลอด เชื่อว่าพี่ใบตองก็มีอนาคตสดใสเช่นกัน

เชฟแอ้ม = ในรายการเหมือนดูร้าย แต่ที่ผมสัมผัสมา เจ๊แอ้มเป็นคนฉลาด มีความเป็นมืออาชีพสูง บริหารธุรกิจเก่ง ที่สำคัญคือมี Mindset ที่ค่อนข้างดีและบวก ใครที่เกลียดเจ๊แอ้มอยู่ แนะนำให้ดูตัวตนนอกจอกันก่อนครับ เชื่อว่าบางคนต้องรักแน่นอน

เชฟเปียโร่ = ผมเชื่อว่าคุณเปียโร่มีความสามารถไม่ใช่น้อย เพียงแต่ปัญหาคือเรื่องภาษา รวมถึงเรื่องการทำเนื้อ ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นตั้งแต่เวอร์ชั่นของกอร์ด้อนแล้ว ซึ่งนั่นอาจจะทำให้เชฟเปียโร่ ไปไม่ถึงฝันในท้ายที่สุด อย่างไรก็ตามผมเชื่อว่าเชฟเปียโร่ยังมีอนาคตที่ดีเสมอกับร้านเดิม

เชฟเจมส์ = นักสร้างความบันเทิงของรายการ ทำให้รายการมีความเฮฮาขึ้นได้เพราะเขาคนนี้ บางคนคิดว่าเชฟเจมส์ว่าจะถนัดแค่เรื่องการบริหาร แต่ความจริงเขาก็เก่งเรื่องอาหารเหมือนกัน แล้วความจริงน่าจะไปถึงขั้นลึกได้ด้วย แม้แต่ Ep ที่เขาออกไป ผมยังเชื่อว่าเขาจงใจพลาดมากกว่าพลาดด้วยซ้ำ เพราะตัวเชฟเจมส์ ก็ทำอาหารญี่ปุ่นอยู่ เป็นไปไม่ได้ที่ไม่ตั้งใจ ทำเนื้อปลาไม่เสร็จ

เชฟพริกเผ็ช = คนนี้ก็เป็นนักสร้างความบันเทิงอีกคนของรายการ เสียดายที่ออกไปตั้งแต่ตอนต้นๆ เชื่อมั่นในศักยภาพของพริกเผ็ช ว่าจะไปไกลกว่านี้เหมือนกัน

เชฟกบ = คนนี้ผมนับถือเรื่องความใจสู้เป็นที่หนึ่งของรายการ กล้าทำ กล้ารับ เสียดายที่ออกจากรายการไปตั้งแต่ตอนต้นๆ ผมได้แต่อวยพรขอให้น้ากบ สมหวังกับทุกสิ่งที่ปรารถนา หากจะทำร้านอีกก็ขอให้ร้านขายดี หรือทำกิจการใดอยู่ก็ขอให้ได้ดี

เชฟมาลี = คนนี้ผมรู้เรื่องน้อยที่สุด แต่คิดว่าเขาก็เป็นคนเก่งไม่แพ้คนอื่นเหมือนกัน ตอนนี้พี่มาลีทำร้านอาหารผัดไทอยู่แถวสีลม หากใครสนใจก็แวะได้ครับ

เชฟยิส = ตอนแรกคิดว่าน่าจะเป็นมือสมัครเล่น แต่ดูแล้ว ไม่ใช่มือสมัครเล่นเลย เป็นคนที่ทำร้านอาหารไทยฝรั่งแบบฮาลาลที่มีหลายคนแนะนำหรือสื่อไปหากันเยอะมาก จนยังรู้สึกงงว่าเป็นไปได้อย่างไรที่พลาดตั้งแต่ EP แรก

ผมยังขอขอบคุณทีมงานเบื้องหลังทุกคน โดยเฉพาะคุณหนุ่ม กิติกร ผมยอมรับว่าที่ผ่านมารายการอื่นๆ ไม่ค่อยน่าสนใจ ถ้าผมจะดูเกี่ยวกับอาหาร ผมจะดูเกี่ยวกับการทำอาหารมากกว่าการแข่งขันทำอาหาร แต่รายการนี้ต่างออกไปกับรายการอื่นๆ ที่เคยมีในประเทศ เป็นรายการแข่งขันที่ให้อารมณ์ความตื่นเต้นกลับมา ผมหวังว่ารายการนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนที่คิดจะทำอาหาร

สำหรับน้องๆ ที่ยังหาที่เรียนไม่เจอ และคิดจะเป็นเชฟ ผมแนะนำวิทยาลัยดุสิตธานี เป็นทางเลือกสำหรับน้องๆ ที่อยากเป็นเชฟ เชฟหลายคนทั้งเชฟอาร์ เชฟมารวย ก็เคยจบจากที่นี่มา จบมามีโอกาสได้งานดีๆ มีหลายโรงแรมจอง หรือจะออกมาทำร้านอาหารเองก็พอได้ ทั้งยังมีหลักสูตรร่วมกันกับสถาบันในฝรั่งเศส ซึ่งเชฟเคอร์ก็เคยเรียนที่นั่น

ปล. ถ้าผมพูดเรื่องอาหาร รสชาติอาหาร ทำอาหารน้อยไปหน่อย ขออภัย เพราะผมไม่เก่งเรื่องนี้เลยจริงๆ แม้แต่เรื่องวิจารณ์รสชาติอาหารผมยังทำไม่เป็น แยกได้แค่อร่อยกับไม่อร่อยเท่านั้น

ขอบคุณภาพประกอบจากทางรายการครับ

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่