เครดิตแหล่งข่าว/เจ้าของบทความโดย
https://www.thairath.co.th/money/economics/world_econ/2785760
Henley & Partner บริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนเพื่อย้ายถิ่นฐานและขอสัญชาติชั้นนำระดับโลก ได้เปิดเผยรายงาน การจัดอันดับ World’s Wealthiest Cities Report 2024 เมืองที่รวยที่สุดในโลก ประจำปี 2567 มีข้อมูลคนรวยที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
วันนี้ผมจะพาไปดู “เมืองคนรวยที่สุดในโลกปี 2567” กันนะครับ แม้หลายปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจโลกจะได้รับผลกระทบจากโควิดระบาด สงครามการค้าสหรัฐฯ จีน ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ การล่มสลายของโลกการค้าเสรี Globalization สงครามรัสเซีย-ยูเครน สงครามอิสราเอลกับฮามาส แต่เศรษฐกิจโลกก็ยังเติบโต ล่าสุด IMF ประเมิน ว่าเศรษฐกิจโลกปี 2567 จะเติบโต 3.2% ขณะเดียวกัน มหาเศรษฐีใหม่ในโลกก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุกปี ล่าสุด Henley & Partner บริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนเพื่อย้ายถิ่นฐานและขอสัญชาติชั้นนำระดับโลก ได้เปิดเผยรายงาน การจัดอันดับ World’s Wealthiest Cities Report 2024 เมืองที่รวยที่สุดในโลก ประจำปี 2567 มีข้อมูลคนรวยที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
Henley & Partner ได้จัดอันดับ “เมืองที่รวยที่สุดในโลกปี 2567” ไว้ 50 เมืองด้วยกัน
สหรัฐอเมริกา ยังครองแชมป์อันดับ 1 ประเทศที่มีเมืองคนรวยมากที่สุดถึง 11 เมือง รองลงมาเป็น ประเทศจีน 5 เมือง ออสเตรเลีย 4 เมือง เยอรมนี 3 เมือง และ อังกฤษ สวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี ฝรั่งเศส แคนาดา ญี่ปุ่น อินเดีย ประเทศละ 2 เมือง สิ่งที่ทำให้สหรัฐฯ ซึ่งมีขนาด เศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก สามารถครองความมั่งคั่งอันดับ 1 ของโลก ก็คือ อุตสาหกรรมและธุรกิจด้านเทคโนโลยี ซึ่งมีการเติบโตอย่างรวดเร็วจำนวนมาก สร้างเม็ดเงินมหาศาลให้กับเศรษฐีหน้าใหม่และเศรษฐีหน้าเก่าในสหรัฐฯ
ข้อมูลจาก ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เปิดเผยว่า ประชากรสหรัฐฯ 1% ที่มีความร่ำรวยระดับมหาเศรษฐีเพิ่มขึ้นมากกว่า 40% จาก ความแข็งแกร่งของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ทั้ง ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ แนสแด็ก เอสแอนด์พี 500 และ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลัง ในช่วงโควิดระบาด ส่งผลให้มี Fund Flow เงินทุนไหลเข้าตลาดสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นถึง 6 ล้านล้านดอลลาร์ หรือกว่า 200 ล้านล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 1 พฤษภาคม 2567)
จีน ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของโลก ปีนี้มีเมืองคนรวยติดอันดับท็อป 10 เป็นครั้งแรก คือ กรุงปักกิ่ง มีมหาเศรษฐีเพิ่มขึ้นถึง 90% ในช่วง 10 ปี ระหว่าง 2556–2566 และปีนี้ สิงคโปร์ เกาะเล็กๆทางใต้ของ ไทยที่เพิ่งได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ มีเศรษฐีใหม่เพิ่มขึ้นแซงหน้า กรุงโตเกียว ของญี่ปุ่นไปเรียบร้อยแล้ว เศรษฐีหน้าใหม่ของสิงคโปร์มาจาก “เศรษฐีจีน” ที่ย้ายถิ่นฐานจากจีนมาปักหลักที่สิงคโปร์ เฉพาะปี 2566 เพียง ปีเดียว มีเจ้าสัวจีนย้ายมาอยู่ที่สิงคโปร์กว่า 3,400 คน ส่งผลให้สิงคโปร์มีเศรษฐีเพิ่มขึ้นถึง 64%
ไปดู 10 อันดับเมืองที่มีคนรวยมากที่สุดในโลกปี 2567 กันครับ
1.ซานฟรานซิสโกย่านเบย์เอเรีย สหรัฐฯ มีเศรษฐีพันล้าน (ดอลลาร์) 68 คน มากที่สุดในโลก เศรษฐีร้อยล้าน (ดอลลาร์) 675 คน เศรษฐีเงินล้าน (1 ล้านดอลลาร์ขึ้นไป) 305,700 คน
2.นิวยอร์ก สหรัฐฯ มีเศรษฐีพันล้าน 60 คน เศรษฐีร้อยล้าน 744 คน เศรษฐีเงินล้าน 349,500 คน
3.ลอสแอนเจลิส สหรัฐฯ มีเศรษฐีพันล้าน 43 คน เศรษฐี ร้อยล้าน 496 คน เศรษฐีเงินล้าน 212,100 คน
4.ปักกิ่ง จีน มีเศรษฐีพันล้าน 42 คน เศรษฐีร้อยล้าน 347 คน เศรษฐีเงินล้าน 125,600 คน
5.เซี่ยงไฮ้ จีน มีเศรษฐีพันล้าน 39 คน เศรษฐีร้อยล้าน 322 คน เศรษฐี เงินล้าน 123,400 คน
6.ลอนดอน อังกฤษ มีเศรษฐีพันล้าน 35 คน เศรษฐีร้อยล้าน 370 คน เศรษฐีเงินล้าน 227,000 คน
7.ฮ่องกง มีเศรษฐี พันล้าน 35 คน เศรษฐีร้อยล้าน 320 คน เศรษฐีเงินล้าน 143,400 คน
8.สิงคโปร์ มีเศรษฐีพันล้าน 30 คน เศรษฐีร้อยล้าน 336 คน เศรษฐีเงินล้าน 244,800 คน
9.มุมไบ อินเดีย มีเศรษฐีพันล้าน 29 คน เศรษฐี ร้อยล้าน 236 คน เศรษฐีเงินล้าน 58,000 คน
10.ชิคาโก สหรัฐฯ มีเศรษฐี พันล้าน 24 คน เศรษฐีร้อยล้าน 290 คน เศรษฐีเงินล้าน 120,500 คน
รวม 10 เมือง มีเศรษฐีเงินล้านดอลลาร์ขึ้นไปกว่า 1.91 ล้านคน
ถ้ามีการสำรวจ ความรํ่ารวย ของ นักการเมือง รัฐมนตรี บิ๊กข้าราชการ ระดับโลก เมื่อไหร่ ประเทศไทย น่าจะมีโอกาส ติดท็อป 50 ของโลก ได้อย่างแน่นอน.
“ลม เปลี่ยนทิศ”
50 เมืองคนรวยที่สุดในโลกปี 67
https://www.thairath.co.th/money/economics/world_econ/2785760
Henley & Partner บริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนเพื่อย้ายถิ่นฐานและขอสัญชาติชั้นนำระดับโลก ได้เปิดเผยรายงาน การจัดอันดับ World’s Wealthiest Cities Report 2024 เมืองที่รวยที่สุดในโลก ประจำปี 2567 มีข้อมูลคนรวยที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
วันนี้ผมจะพาไปดู “เมืองคนรวยที่สุดในโลกปี 2567” กันนะครับ แม้หลายปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจโลกจะได้รับผลกระทบจากโควิดระบาด สงครามการค้าสหรัฐฯ จีน ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ การล่มสลายของโลกการค้าเสรี Globalization สงครามรัสเซีย-ยูเครน สงครามอิสราเอลกับฮามาส แต่เศรษฐกิจโลกก็ยังเติบโต ล่าสุด IMF ประเมิน ว่าเศรษฐกิจโลกปี 2567 จะเติบโต 3.2% ขณะเดียวกัน มหาเศรษฐีใหม่ในโลกก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุกปี ล่าสุด Henley & Partner บริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนเพื่อย้ายถิ่นฐานและขอสัญชาติชั้นนำระดับโลก ได้เปิดเผยรายงาน การจัดอันดับ World’s Wealthiest Cities Report 2024 เมืองที่รวยที่สุดในโลก ประจำปี 2567 มีข้อมูลคนรวยที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
Henley & Partner ได้จัดอันดับ “เมืองที่รวยที่สุดในโลกปี 2567” ไว้ 50 เมืองด้วยกัน
สหรัฐอเมริกา ยังครองแชมป์อันดับ 1 ประเทศที่มีเมืองคนรวยมากที่สุดถึง 11 เมือง รองลงมาเป็น ประเทศจีน 5 เมือง ออสเตรเลีย 4 เมือง เยอรมนี 3 เมือง และ อังกฤษ สวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี ฝรั่งเศส แคนาดา ญี่ปุ่น อินเดีย ประเทศละ 2 เมือง สิ่งที่ทำให้สหรัฐฯ ซึ่งมีขนาด เศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก สามารถครองความมั่งคั่งอันดับ 1 ของโลก ก็คือ อุตสาหกรรมและธุรกิจด้านเทคโนโลยี ซึ่งมีการเติบโตอย่างรวดเร็วจำนวนมาก สร้างเม็ดเงินมหาศาลให้กับเศรษฐีหน้าใหม่และเศรษฐีหน้าเก่าในสหรัฐฯ
ข้อมูลจาก ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เปิดเผยว่า ประชากรสหรัฐฯ 1% ที่มีความร่ำรวยระดับมหาเศรษฐีเพิ่มขึ้นมากกว่า 40% จาก ความแข็งแกร่งของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ทั้ง ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ แนสแด็ก เอสแอนด์พี 500 และ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลัง ในช่วงโควิดระบาด ส่งผลให้มี Fund Flow เงินทุนไหลเข้าตลาดสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นถึง 6 ล้านล้านดอลลาร์ หรือกว่า 200 ล้านล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 1 พฤษภาคม 2567)
จีน ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของโลก ปีนี้มีเมืองคนรวยติดอันดับท็อป 10 เป็นครั้งแรก คือ กรุงปักกิ่ง มีมหาเศรษฐีเพิ่มขึ้นถึง 90% ในช่วง 10 ปี ระหว่าง 2556–2566 และปีนี้ สิงคโปร์ เกาะเล็กๆทางใต้ของ ไทยที่เพิ่งได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ มีเศรษฐีใหม่เพิ่มขึ้นแซงหน้า กรุงโตเกียว ของญี่ปุ่นไปเรียบร้อยแล้ว เศรษฐีหน้าใหม่ของสิงคโปร์มาจาก “เศรษฐีจีน” ที่ย้ายถิ่นฐานจากจีนมาปักหลักที่สิงคโปร์ เฉพาะปี 2566 เพียง ปีเดียว มีเจ้าสัวจีนย้ายมาอยู่ที่สิงคโปร์กว่า 3,400 คน ส่งผลให้สิงคโปร์มีเศรษฐีเพิ่มขึ้นถึง 64%
ไปดู 10 อันดับเมืองที่มีคนรวยมากที่สุดในโลกปี 2567 กันครับ
1.ซานฟรานซิสโกย่านเบย์เอเรีย สหรัฐฯ มีเศรษฐีพันล้าน (ดอลลาร์) 68 คน มากที่สุดในโลก เศรษฐีร้อยล้าน (ดอลลาร์) 675 คน เศรษฐีเงินล้าน (1 ล้านดอลลาร์ขึ้นไป) 305,700 คน
2.นิวยอร์ก สหรัฐฯ มีเศรษฐีพันล้าน 60 คน เศรษฐีร้อยล้าน 744 คน เศรษฐีเงินล้าน 349,500 คน
3.ลอสแอนเจลิส สหรัฐฯ มีเศรษฐีพันล้าน 43 คน เศรษฐี ร้อยล้าน 496 คน เศรษฐีเงินล้าน 212,100 คน
4.ปักกิ่ง จีน มีเศรษฐีพันล้าน 42 คน เศรษฐีร้อยล้าน 347 คน เศรษฐีเงินล้าน 125,600 คน
5.เซี่ยงไฮ้ จีน มีเศรษฐีพันล้าน 39 คน เศรษฐีร้อยล้าน 322 คน เศรษฐี เงินล้าน 123,400 คน
6.ลอนดอน อังกฤษ มีเศรษฐีพันล้าน 35 คน เศรษฐีร้อยล้าน 370 คน เศรษฐีเงินล้าน 227,000 คน
7.ฮ่องกง มีเศรษฐี พันล้าน 35 คน เศรษฐีร้อยล้าน 320 คน เศรษฐีเงินล้าน 143,400 คน
8.สิงคโปร์ มีเศรษฐีพันล้าน 30 คน เศรษฐีร้อยล้าน 336 คน เศรษฐีเงินล้าน 244,800 คน
9.มุมไบ อินเดีย มีเศรษฐีพันล้าน 29 คน เศรษฐี ร้อยล้าน 236 คน เศรษฐีเงินล้าน 58,000 คน
10.ชิคาโก สหรัฐฯ มีเศรษฐี พันล้าน 24 คน เศรษฐีร้อยล้าน 290 คน เศรษฐีเงินล้าน 120,500 คน
รวม 10 เมือง มีเศรษฐีเงินล้านดอลลาร์ขึ้นไปกว่า 1.91 ล้านคน
ถ้ามีการสำรวจ ความรํ่ารวย ของ นักการเมือง รัฐมนตรี บิ๊กข้าราชการ ระดับโลก เมื่อไหร่ ประเทศไทย น่าจะมีโอกาส ติดท็อป 50 ของโลก ได้อย่างแน่นอน.
“ลม เปลี่ยนทิศ”