ผ่านมาครบ 1 ปีแล้วกับอภิมหาโปรเจ็กต์คอนเสิร์ต "แกรมมี่" ประชัน "อาร์เอส" ที่รวบรวมศิลปินศิษย์เก่าจากสองฝั่งมาจับคู่ขึ้นเวทีเดียวกัน
ท่ามกลางเสียงสะท้อนจากผู้รู้ข่าวทั้งสองด้าน ด้านที่เห็นด้วยระบุว่าเป็นนิมิตหมายอันดีที่จะทำงานร่วมกันให้โจ่งแจ้งสักที เรียกว่า "สามัคคีต้องมาก่อน"
ส่วนที่ไม่เห็นด้วยก็เพราะไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะเกิดงานนี้ขึ้น เก็บเอาไว้เปิดเพลงประชันเล่น ๆ ที่บ้านจะดีกว่า
ในอดีตคนส่วนใหญ่มักมองว่าทั้ง "แกรมมี่" และ "อาร์เอส" ต่างแข่งขันช่วงชิงฟัดเหวี่ยงกัน นั่นเป็นแค่ธุรกิจ
แต่ไม่ว่าอดีตหรือปัจจุบัน ยักษ์สองฝั่งต่างก็เป็นเพื่อนที่แสนดี คอยปรึกษาหารือซึ่งกันและกัน
ขนาดเคยส่งคนรักกันมาแต่งงานกันจนเกิดครอบครัวที่สมบูรณ์ ดังเช่นกรณี ดี.เจ.เอกกฤษฯ กับ กรพินธุ์ หรือ อัลเบิร์ต ยูเอชที กับ อ้อน ลัคนา
แม้กระทั่งคู่รักคู่ร้างอย่าง นัท กับ เต๋า หรือคู่ลม ๆ อย่าง ทาทา กับ เจมส์ ก็ยังเป็นเพื่อนกันตลอดไป
ไม่อย่างนั้น เราคงได้ดูศึกกำปั้นสะท้านค่าย ระหว่าง ทัช กับ เจตริน เป็นแน่
หรืออาจมีกลุ่มผู้ฝักใฝ่ค่ายใดค่ายหนึ่งยกพวกตีกันหน้าเวทีคอนเสิร์ต เพื่อให้มิตรภาพขาดสะบั้นไปเลย
นั่นแสดงว่าตราบใดที่ใครหนีใคร ตราบนั้นคือจุดบอด วงการเพลงก็ย่ำอยู่กับที่เหมือนเดิม
มาวันนี้ โปรเจ็กต์คอนเสิร์ตยังเดินหน้าต่อไปจนกว่าจะหมดวาระ หลายคนที่ไปดูก็บอกว่าเป็นงานที่สนุก มีสีสัน และมีกึ๋น ดีใจที่มีงานดี ๆ เช่นนี้ แต่ในใจก็ยังมีอีกบางจุดที่ยังขาดหรือน่าจะเติมเต็มกว่านี้
และคิดว่าอาจจะมีงานทางอื่นให้แควน ๆ ได้รอลุ้น เท่าที่มีความเป็นไปได้สนิทที่สุดคือสายหนังหรือสายซีรีส์
บุคคลที่ต้นตออย่าง "ป๋าเต๊ด" น่าจะไปพบด่วนที่สุด คือเพื่อนที่ชื่อว่า "ปรัชญา ปิ่นแก้ว" เพราะเคยทำงานให้ทั้งแกรมมี่และอาร์เอสมาแล้ว ถึงจะห่างเหินไปนานก็เถอะ
พี่ปัดนั่นแหละน่าจะเป็นกาวใจในการผลิตหนัง มีหวังอาจได้รับหน้าที่อำนวยการสร้างและที่ปรึกษา เพื่อให้ผลงานสมบูรณ์แบบ สมที่เรา ๆ และแควน ๆ ตั้งตารอ
ยังไงก็ติดตามความเคลื่อนไหวต่อไปจากการร่วมแรงร่วมใจของมนุษย์งานทั้งสองฝั่ง ทั้งในอดีตและปัจจุบัน
สวัสดี.
1 ปี "แกรมมี่+อาร์เอส" บทเรียนแห่งมิตรภาพ
ท่ามกลางเสียงสะท้อนจากผู้รู้ข่าวทั้งสองด้าน ด้านที่เห็นด้วยระบุว่าเป็นนิมิตหมายอันดีที่จะทำงานร่วมกันให้โจ่งแจ้งสักที เรียกว่า "สามัคคีต้องมาก่อน"
ส่วนที่ไม่เห็นด้วยก็เพราะไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะเกิดงานนี้ขึ้น เก็บเอาไว้เปิดเพลงประชันเล่น ๆ ที่บ้านจะดีกว่า
ในอดีตคนส่วนใหญ่มักมองว่าทั้ง "แกรมมี่" และ "อาร์เอส" ต่างแข่งขันช่วงชิงฟัดเหวี่ยงกัน นั่นเป็นแค่ธุรกิจ
แต่ไม่ว่าอดีตหรือปัจจุบัน ยักษ์สองฝั่งต่างก็เป็นเพื่อนที่แสนดี คอยปรึกษาหารือซึ่งกันและกัน
ขนาดเคยส่งคนรักกันมาแต่งงานกันจนเกิดครอบครัวที่สมบูรณ์ ดังเช่นกรณี ดี.เจ.เอกกฤษฯ กับ กรพินธุ์ หรือ อัลเบิร์ต ยูเอชที กับ อ้อน ลัคนา
แม้กระทั่งคู่รักคู่ร้างอย่าง นัท กับ เต๋า หรือคู่ลม ๆ อย่าง ทาทา กับ เจมส์ ก็ยังเป็นเพื่อนกันตลอดไป
ไม่อย่างนั้น เราคงได้ดูศึกกำปั้นสะท้านค่าย ระหว่าง ทัช กับ เจตริน เป็นแน่
หรืออาจมีกลุ่มผู้ฝักใฝ่ค่ายใดค่ายหนึ่งยกพวกตีกันหน้าเวทีคอนเสิร์ต เพื่อให้มิตรภาพขาดสะบั้นไปเลย
นั่นแสดงว่าตราบใดที่ใครหนีใคร ตราบนั้นคือจุดบอด วงการเพลงก็ย่ำอยู่กับที่เหมือนเดิม
มาวันนี้ โปรเจ็กต์คอนเสิร์ตยังเดินหน้าต่อไปจนกว่าจะหมดวาระ หลายคนที่ไปดูก็บอกว่าเป็นงานที่สนุก มีสีสัน และมีกึ๋น ดีใจที่มีงานดี ๆ เช่นนี้ แต่ในใจก็ยังมีอีกบางจุดที่ยังขาดหรือน่าจะเติมเต็มกว่านี้
และคิดว่าอาจจะมีงานทางอื่นให้แควน ๆ ได้รอลุ้น เท่าที่มีความเป็นไปได้สนิทที่สุดคือสายหนังหรือสายซีรีส์
บุคคลที่ต้นตออย่าง "ป๋าเต๊ด" น่าจะไปพบด่วนที่สุด คือเพื่อนที่ชื่อว่า "ปรัชญา ปิ่นแก้ว" เพราะเคยทำงานให้ทั้งแกรมมี่และอาร์เอสมาแล้ว ถึงจะห่างเหินไปนานก็เถอะ
พี่ปัดนั่นแหละน่าจะเป็นกาวใจในการผลิตหนัง มีหวังอาจได้รับหน้าที่อำนวยการสร้างและที่ปรึกษา เพื่อให้ผลงานสมบูรณ์แบบ สมที่เรา ๆ และแควน ๆ ตั้งตารอ
ยังไงก็ติดตามความเคลื่อนไหวต่อไปจากการร่วมแรงร่วมใจของมนุษย์งานทั้งสองฝั่ง ทั้งในอดีตและปัจจุบัน
สวัสดี.