ผนึกกําลังแจ้งจับน้องไนซ์เชื่อมจิต อนันต์ชัย-พวกตีแผ่ลัทธิเพี้ยน จี้เอาผิดพ่อ-แม่
ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรมนำทีมคนดังเข้าแจ้งความ กับตำรวจ กก.2 บก.ปอท. เอาผิด กลุ่มลัทธิเชื่อมจิตในหลายข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฯ พ.ร.บ.ควบคุมการเรี่ยไรเงินฯและอื่นๆ หลังอุปโลกน์ให้น้องไนซ์มีอิทธิปาฏิหาริย์เหนือธรรมชาติ อ้างเป็นลูกพระพุทธเจ้า-ลูกบุญธรรมเจ้าแม่กวนอิม ตั้งลัทธิกำมะลอเรี่ยไรรับบริจาคเงินซื้อที่ดินจากพ่อ-แม่น้องไนซ์ในราคา 15 ล้านบาท เพื่อสร้างสถานปฏิบัติธรรมที่ จ.สุราษฎร์ธานี เผยยังมีเหยื่ออีกหลายรายเตรียมทยอยเข้าแจ้งความ
ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 พ.ค. นายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นายประยุทธ ประเทศเสนา หรือมหาหมี รองประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม ต้นอ้อ-น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ ประธานกลุ่มเป็นหนึ่ง อี้-แทนคุณ จิตต์อิสระ แพรี่-ไพรวัลย์ วรรณบุตร พร้อมผู้เกี่ยวข้องรวมตัวเข้าพบ พ.ต.ท.มนสิช ชุนดี รอง ผกก. (สอบสวน)
สืบเนื่องจากเมื่อเดือน ก.ค.64 นายพิชญะ ศูนยะคณิต น.ส.นัฐพร วงศ์ทวิชาติ พ่อแม่ของน้องไนซ์ อายุ 8 ปี พร้อมแอดมินเพจ หรือผู้ควบคุมเพจเฟซบุ๊กนิรมิตเทวาจุติ ผู้ใช้บัญชีติ๊กต่อก @niramittavajuti และบุคคลอื่นผู้เกี่ยวข้อง นำเสนอบทความพร้อมคลิปวิดีโอบิดเบือน หรือเป็นเท็จ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์รวม 23 ครั้ง
มีการกล่าวอวดอ้างในหลายประเด็นว่า
น้องไนซ์ลงไปในนรกเห็นสัตว์นรก,
มียมทูตเป็นเพื่อนกับน้องไนซ์,
น้องไนซ์ทำหน้าที่ลงมารับผู้มีบุญไปสู่ยุคพระศรีอาริย์,
น้องไนซ์เห็นวาระกรรมจากรูปภาพมองเห็นแบบภาพยนตร์มองย้อนกลับไปในอดีตได้หลายภพชาติ
, น้องไนซ์พูดว่า จะนิพพานได้ต้องนั่งสมาธิ
โดยอ้างตนเป็นลูกพระพุทธเจ้า เป็นลูกบุญธรรมเจ้าแม่กวนอิม พระอนาคามี
เป็นพระยานาคชื่อเพชรภัทรนาคานาคราช
แบ่งภาคลงมาเกิดในโลกมนุษย์เพื่อสอนธรรม สามารถ รู้ธรรมะและสอนธรรมะด้วยตนเองไม่มีใครมาสอน
, เปรียบตนเองเสมอด้วยพระพุทธเจ้าและพระปัจเจกพุทธเจ้า
รวมทั้งสร้างประวัติว่าน้องไนซ์มีชาติกำเนิดเป็นเทพบุตรแบ่งภาคลงมาเกิดชื่อ “เพชรภัทรนาคานาคราช” มีพระยานาคชื่อ “องค์แสนสิริจันทรานาคราช
” เป็นผู้ดูแล ทั้งหมดมีการเขียนบทความและ สรุปเป็นสารคดีโดยย่อ ยกให้น้องไนซ์เป็นเด็กวิเศษมีอิทธิปาฏิหาริย์เหนือผู้อื่น
รวมทั้งกล่าวอ้างว่า นายพิชญะ ผู้เป็นพ่อเป็นท้าวจตุโลกบาล
ส่วน น.ส.นัฐพร ผู้เป็นแม่ อยู่ชั้นนิมานรดีและชั้นดุสิต
ความรู้ของน้องไนซ์ติดตัวมาจาก องค์พระศากยมุนี เมื่อสอนธรรมะก็จะสอน
โดยวิธีเชื่อมจิต ซึ่งมี 2 วิธี
การเชื่อมจิตเวอร์ชันแรก คือการเชื่อมต่อ ยอด ขจัด เคลียรร์ ให้หลุดออกจากมาร
ใช้แสงจากข้างบนลงมาเป็นแสงสีทอง แล้วจากนั้นจะเอามือไปแตะที่หน้าผาก
โดยอาศัยตาที่สามปล่อยพลังไปทั่วร่างกาย เป็นการเชื่อมระหว่างจิตของเทพ กับจิตของมนุษย์ โดยได้รับพลังแสงสีทองมาจากองค์พระศากยมุนี
เพื่อไปต่อยอดในการปฏิบัติธรรม
ส่วนการเชื่อมจิต เวอร์ชันที่สอง คือการสอนในสมาธิ หรือการพูดคุยติดต่อกันในสมาธิ มีแอดมิน ใบเฟิร์น, แอดมินนรินทร์และทนายความคนหนึ่ง ระบุการเชื่อมจิตมีบัญญัติไว้ในพระไตรปิฎก แต่ความจริงแล้วการเชื่อมจิตไม่มีบัญญัติไว้ในพระไตรปิฎกอย่างแน่นอน ทั้ง 2 เวอร์ชัน เป็นการสอน ที่ผิดไปจากคำสอนของพระพุทธเจ้า เป็นการบิดเบือน ทำลายและกลืนคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อันเป็นการก่อให้เกิดสัจธรรมปฏิรูป คือ ธรรมปลอม
ถือเป็นภัยร้ายแรงอันดับแรกของ
การทำลายพระพุทธศาสนานิกายเถรวาท
การกระทำดังกล่าวเข้าข่าย ความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ เป็นการนำข้อมูล อันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
นายอนันต์ชัยกล่าวว่า วิธีการเชื่อมจิตถือเป็นการหลอกลวง
เรี่ยไรขอรับบริจาคเงินเพื่อสร้างสถานปฏิบัติธรรมสายธรรมแห่งองค์พุทธะ ต.คลองฉนาก อ.เมืองสุราษฎร์ธานี
ซื้อที่ดินของนายพิชญะและ น.ส.นัฐพร พ่อแม่ของน้องไนซ์ ในราคา 15 ล้านบาท
โดยมิได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการควบคุมการเรี่ยไร อาจเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. ควบคุมการเรี่ยไรฯ ส่วนการเปิดเพจเฟซบุ๊กและติ๊กต่อกเพื่อโฆษณาอวดอ้างให้น้องไนซ์เป็นเด็กวิเศษ มีประโยชน์แอบแฝง เพื่อให้ได้รับผลประโยชน์เป็นเงินซึ่งเข้าข่ายการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฯ
“ส่วนที่มีการบังคับเจิมหน้าผากเด็กโดยไม่ได้รับความยินยอมก็ดี การให้เด็กออกมาด่าพิธีกรหนุ่มกรรชัย หรือด้อยค่าเพศสภาพของแพรี่-ไพวัลย์ โดยนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ถือเป็นการเสี้ยมสอนยุยงส่งเสริมให้น้องไนซ์ ซึ่งเป็นเด็กที่เสี่ยงต่อการกระทำ ความผิด การกระทำดังกล่าวของกลุ่มบุคคลดังกล่าวอาจเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฯ ผมยืนยัน ศาสนาพุทธ ไม่มีอวตาร การกล่าวอ้างลูกของตัวเอง เป็นลูกของพระพุทธเจ้า ไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอนและ ไม่มีทางเป็นลูกของเจ้าแม่กวนอิม เพราะคนละนิกายกัน ลัทธิเชื่อมจิตแต่งเรื่องเป็นตุเป็นตะ ผมอยากถามว่า การสอนธรรมแบบนี้ ไปหลงเชื่อได้อย่างไร อยากให้ พ่อแม่น้องไนซ์เลิกซะ เอาลูกไปเรียนหนังสือ เรียนให้จบ อย่าอุปโลกน์อะไรขึ้นมาเอง” ทนายอนันต์ชัย กล่าว
อี้-แทนคุณ จิตต์อิสระ เปิดเผยว่า มีลูกศิษย์ลัทธิเชื่อมจิตติดต่อเข้าให้ข้อมูล การไปอบรมแต่ละครั้ง เสียเงินเสียทองเยอะมาก แรกๆเหมือนกับจะได้ผลเหมือนมีแสงอะไรบางอย่างขึ้นมาเหมือนจะบรรลุแล้ว แต่พออยู่ไปอยู่มาได้เห็นสภาพของน้องไนซ์เปลี่ยนไป คือแค่เอานิ้วแตะหัว แตะหน้าผาก มันจะเชื่อมจิตได้ อย่างไร ทำเป็นการ์ตูนไปได้ สุดท้ายผู้เสียหายรู้ว่า หลงผิดจึงเข้าให้ข้อมูล เตรียมชวนเหยื่อรายอื่นเข้าแจ้งความด้วย
ด้านต้นอ้อ-น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ ประธานกลุ่มเป็นหนึ่ง ระบุว่า เมื่อครั้งที่เข้าไปทำเรื่องนี้ ได้เข้าไป แจ้งเรื่องกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจ พม. พ.ศ.แต่ไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆ ส่วน พม.สุราษฎร์ธานี ก็ออกมาชื่นชมพ่อแม่น้องไนซ์ว่า ดูแลลูกได้ดีมาก ทั้งที่เห็นอยู่ว่ามีการใช้เด็กเป็นเครื่องมือ หลังจากเข้าไปแฉเรื่องที่ดินที่ลัทธิเชื่อมจิตเข้าไปมีผลประโยชน์ทับซ้อน ทำให้คนไทยตื่นตัวกับเรื่องนี้ จนลัทธิดังกล่าวไม่พอใจตนมาก ถึงกับไลฟ์สดด่าทุกวัน
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
https://www.thairath.co.th/news/society/2785361
ข้อกล่าวหา ลัทธิเชื่อมจิต อ้างเป็นลูกพระพุทธเจ้า เจ้าแม่กวนอิม เปรียบตนเองเสมอด้วยพระพุทธเจ้าและพระปัจเจก
ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรมนำทีมคนดังเข้าแจ้งความ กับตำรวจ กก.2 บก.ปอท. เอาผิด กลุ่มลัทธิเชื่อมจิตในหลายข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฯ พ.ร.บ.ควบคุมการเรี่ยไรเงินฯและอื่นๆ หลังอุปโลกน์ให้น้องไนซ์มีอิทธิปาฏิหาริย์เหนือธรรมชาติ อ้างเป็นลูกพระพุทธเจ้า-ลูกบุญธรรมเจ้าแม่กวนอิม ตั้งลัทธิกำมะลอเรี่ยไรรับบริจาคเงินซื้อที่ดินจากพ่อ-แม่น้องไนซ์ในราคา 15 ล้านบาท เพื่อสร้างสถานปฏิบัติธรรมที่ จ.สุราษฎร์ธานี เผยยังมีเหยื่ออีกหลายรายเตรียมทยอยเข้าแจ้งความ
ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 พ.ค. นายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นายประยุทธ ประเทศเสนา หรือมหาหมี รองประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม ต้นอ้อ-น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ ประธานกลุ่มเป็นหนึ่ง อี้-แทนคุณ จิตต์อิสระ แพรี่-ไพรวัลย์ วรรณบุตร พร้อมผู้เกี่ยวข้องรวมตัวเข้าพบ พ.ต.ท.มนสิช ชุนดี รอง ผกก. (สอบสวน)
สืบเนื่องจากเมื่อเดือน ก.ค.64 นายพิชญะ ศูนยะคณิต น.ส.นัฐพร วงศ์ทวิชาติ พ่อแม่ของน้องไนซ์ อายุ 8 ปี พร้อมแอดมินเพจ หรือผู้ควบคุมเพจเฟซบุ๊กนิรมิตเทวาจุติ ผู้ใช้บัญชีติ๊กต่อก @niramittavajuti และบุคคลอื่นผู้เกี่ยวข้อง นำเสนอบทความพร้อมคลิปวิดีโอบิดเบือน หรือเป็นเท็จ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์รวม 23 ครั้ง
มีการกล่าวอวดอ้างในหลายประเด็นว่า
น้องไนซ์ลงไปในนรกเห็นสัตว์นรก,
มียมทูตเป็นเพื่อนกับน้องไนซ์,
น้องไนซ์ทำหน้าที่ลงมารับผู้มีบุญไปสู่ยุคพระศรีอาริย์,
น้องไนซ์เห็นวาระกรรมจากรูปภาพมองเห็นแบบภาพยนตร์มองย้อนกลับไปในอดีตได้หลายภพชาติ
, น้องไนซ์พูดว่า จะนิพพานได้ต้องนั่งสมาธิ
โดยอ้างตนเป็นลูกพระพุทธเจ้า เป็นลูกบุญธรรมเจ้าแม่กวนอิม พระอนาคามี
เป็นพระยานาคชื่อเพชรภัทรนาคานาคราช
แบ่งภาคลงมาเกิดในโลกมนุษย์เพื่อสอนธรรม สามารถ รู้ธรรมะและสอนธรรมะด้วยตนเองไม่มีใครมาสอน
, เปรียบตนเองเสมอด้วยพระพุทธเจ้าและพระปัจเจกพุทธเจ้า
รวมทั้งสร้างประวัติว่าน้องไนซ์มีชาติกำเนิดเป็นเทพบุตรแบ่งภาคลงมาเกิดชื่อ “เพชรภัทรนาคานาคราช” มีพระยานาคชื่อ “องค์แสนสิริจันทรานาคราช
” เป็นผู้ดูแล ทั้งหมดมีการเขียนบทความและ สรุปเป็นสารคดีโดยย่อ ยกให้น้องไนซ์เป็นเด็กวิเศษมีอิทธิปาฏิหาริย์เหนือผู้อื่น
รวมทั้งกล่าวอ้างว่า นายพิชญะ ผู้เป็นพ่อเป็นท้าวจตุโลกบาล
ส่วน น.ส.นัฐพร ผู้เป็นแม่ อยู่ชั้นนิมานรดีและชั้นดุสิต
ความรู้ของน้องไนซ์ติดตัวมาจาก องค์พระศากยมุนี เมื่อสอนธรรมะก็จะสอน
โดยวิธีเชื่อมจิต ซึ่งมี 2 วิธี
การเชื่อมจิตเวอร์ชันแรก คือการเชื่อมต่อ ยอด ขจัด เคลียรร์ ให้หลุดออกจากมาร
ใช้แสงจากข้างบนลงมาเป็นแสงสีทอง แล้วจากนั้นจะเอามือไปแตะที่หน้าผาก
โดยอาศัยตาที่สามปล่อยพลังไปทั่วร่างกาย เป็นการเชื่อมระหว่างจิตของเทพ กับจิตของมนุษย์ โดยได้รับพลังแสงสีทองมาจากองค์พระศากยมุนี
เพื่อไปต่อยอดในการปฏิบัติธรรม
ส่วนการเชื่อมจิต เวอร์ชันที่สอง คือการสอนในสมาธิ หรือการพูดคุยติดต่อกันในสมาธิ มีแอดมิน ใบเฟิร์น, แอดมินนรินทร์และทนายความคนหนึ่ง ระบุการเชื่อมจิตมีบัญญัติไว้ในพระไตรปิฎก แต่ความจริงแล้วการเชื่อมจิตไม่มีบัญญัติไว้ในพระไตรปิฎกอย่างแน่นอน ทั้ง 2 เวอร์ชัน เป็นการสอน ที่ผิดไปจากคำสอนของพระพุทธเจ้า เป็นการบิดเบือน ทำลายและกลืนคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อันเป็นการก่อให้เกิดสัจธรรมปฏิรูป คือ ธรรมปลอม
ถือเป็นภัยร้ายแรงอันดับแรกของ
การทำลายพระพุทธศาสนานิกายเถรวาท
การกระทำดังกล่าวเข้าข่าย ความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ เป็นการนำข้อมูล อันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
นายอนันต์ชัยกล่าวว่า วิธีการเชื่อมจิตถือเป็นการหลอกลวง
เรี่ยไรขอรับบริจาคเงินเพื่อสร้างสถานปฏิบัติธรรมสายธรรมแห่งองค์พุทธะ ต.คลองฉนาก อ.เมืองสุราษฎร์ธานี
ซื้อที่ดินของนายพิชญะและ น.ส.นัฐพร พ่อแม่ของน้องไนซ์ ในราคา 15 ล้านบาท
โดยมิได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการควบคุมการเรี่ยไร อาจเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. ควบคุมการเรี่ยไรฯ ส่วนการเปิดเพจเฟซบุ๊กและติ๊กต่อกเพื่อโฆษณาอวดอ้างให้น้องไนซ์เป็นเด็กวิเศษ มีประโยชน์แอบแฝง เพื่อให้ได้รับผลประโยชน์เป็นเงินซึ่งเข้าข่ายการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฯ
“ส่วนที่มีการบังคับเจิมหน้าผากเด็กโดยไม่ได้รับความยินยอมก็ดี การให้เด็กออกมาด่าพิธีกรหนุ่มกรรชัย หรือด้อยค่าเพศสภาพของแพรี่-ไพวัลย์ โดยนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ถือเป็นการเสี้ยมสอนยุยงส่งเสริมให้น้องไนซ์ ซึ่งเป็นเด็กที่เสี่ยงต่อการกระทำ ความผิด การกระทำดังกล่าวของกลุ่มบุคคลดังกล่าวอาจเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฯ ผมยืนยัน ศาสนาพุทธ ไม่มีอวตาร การกล่าวอ้างลูกของตัวเอง เป็นลูกของพระพุทธเจ้า ไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอนและ ไม่มีทางเป็นลูกของเจ้าแม่กวนอิม เพราะคนละนิกายกัน ลัทธิเชื่อมจิตแต่งเรื่องเป็นตุเป็นตะ ผมอยากถามว่า การสอนธรรมแบบนี้ ไปหลงเชื่อได้อย่างไร อยากให้ พ่อแม่น้องไนซ์เลิกซะ เอาลูกไปเรียนหนังสือ เรียนให้จบ อย่าอุปโลกน์อะไรขึ้นมาเอง” ทนายอนันต์ชัย กล่าว
อี้-แทนคุณ จิตต์อิสระ เปิดเผยว่า มีลูกศิษย์ลัทธิเชื่อมจิตติดต่อเข้าให้ข้อมูล การไปอบรมแต่ละครั้ง เสียเงินเสียทองเยอะมาก แรกๆเหมือนกับจะได้ผลเหมือนมีแสงอะไรบางอย่างขึ้นมาเหมือนจะบรรลุแล้ว แต่พออยู่ไปอยู่มาได้เห็นสภาพของน้องไนซ์เปลี่ยนไป คือแค่เอานิ้วแตะหัว แตะหน้าผาก มันจะเชื่อมจิตได้ อย่างไร ทำเป็นการ์ตูนไปได้ สุดท้ายผู้เสียหายรู้ว่า หลงผิดจึงเข้าให้ข้อมูล เตรียมชวนเหยื่อรายอื่นเข้าแจ้งความด้วย
ด้านต้นอ้อ-น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ ประธานกลุ่มเป็นหนึ่ง ระบุว่า เมื่อครั้งที่เข้าไปทำเรื่องนี้ ได้เข้าไป แจ้งเรื่องกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจ พม. พ.ศ.แต่ไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆ ส่วน พม.สุราษฎร์ธานี ก็ออกมาชื่นชมพ่อแม่น้องไนซ์ว่า ดูแลลูกได้ดีมาก ทั้งที่เห็นอยู่ว่ามีการใช้เด็กเป็นเครื่องมือ หลังจากเข้าไปแฉเรื่องที่ดินที่ลัทธิเชื่อมจิตเข้าไปมีผลประโยชน์ทับซ้อน ทำให้คนไทยตื่นตัวกับเรื่องนี้ จนลัทธิดังกล่าวไม่พอใจตนมาก ถึงกับไลฟ์สดด่าทุกวัน
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
https://www.thairath.co.th/news/society/2785361