คงไม่มีอาวุธหรืออุปกรณ์ทางการทหารไหนที่ทุกคนนั้นตั้งตารอเท่า F-16 แล้วโดยเฉพาะช่วงนี้ที่รัสเซียเริ่มบุกจากทางเหนืออีกครั้ง ติ่งจากหลายฝั่งก็เริ่มสันนิษฐานว่า F-16 นั้นจะส่งผลต่อสนามรบที่ยูเครนยังไง บ้างก็ว่าไร้ประโยชน์ บ้างก็ว่ามันสามารถพลิกสถานการณ์บนสนามรบได้ แต่ก่อนอื่นเราต้องมาดูก่อนว่าทำไมทุกคนถึงตั้งตารอเจ้า F-16 กัน
F-16AM/BM Block 15 MLU ที่เนเธอร์แลนด์จะส่งมอบให้กับยูเครน
ผมจะไม่พูดถึงประสิทธิภาพการบินของ F-16 เนื่องจากเป้าหมายหลักของ F-16 นั้นไม่ใช่การไปบวกกับกองทัพอากาศรัสเซียแต่เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพอาวุธที่ฝ่งตะวันตกส่งไปให้เช่น AGM-88C HARM, JDAM หรือ AIM-120D ซึ่งทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นอาวุธชั้นยอดที่ ณ ตอนนี้ไม่สามารถโชว์ศักยภาพได้ทั้งหมดเนื่องจากว่าอาวุธพวกนี้มันเอาไปใช้กับ MiG-29 ซึ่งระบบของอาวุธกับของเครื่องบินนั้นไม่เข้ากันเลย เจ้า F-16 นี้จะสามารถดึงศักยภาพทั้งหมดของอาวุธพวกนี้ออกมาได้
ผมจะอธิบายอาวุธที่ F-16 นั้นสามารถดึงศักยภาพทั้งหมดของอาวุธพวกนี้ออกมาได้
1. AGM-88 HARM (High Speed Anti Radiation Missile)
ให้พูดง่ายๆเลยก็คือมิสไซล์หรือขีปนาวุธที่เอาไว้ยิงเรดาร์ภาคพื้นดินนั่นเองโดยมันจะหาคลื่นเรดาร์และมุ่งไปยังที่ๆคลื่นเรดาร์อยู่ อาวุธนี่จะมีวิธีใช้อยู่ 3 วิธีด้วยกัน
1. SP (Self-Protect) - เวลาที่เรดาร์ภาคพื้นดินล็อกเข้ามานั้น เจ้า HARM จะหาคลื่นที่เรดาร์ที่ล็อคเข้ามาและมุ่งหน้าไปหาเรดาร์เมื่อยิงออกไป
2. TOO (Target Of Opportunity) - เซ็นเซอร์ของ HARM นั้นจะตรวจจับคลื่นเรดาร์ในวิสัยทัศน์ของ HARM ผู้ใช้สามารถเลือกเป้าที่จะยิงได้
3. PB (Pre-Briefed) - ตั้งค่าเจ้า HARM ให้ล็อคกับคลื่นเรดาร์ที่ตรงกับเรดาร์เป้าหมายและยิงไปในที่ๆคาดการณ์ว่าเรดาร์นั้นอยู่ หากเรดาร์เป้าหมายเปิดการใช้งานในระหว่างที่ HARM บินอยู่ เจ้า HARM นั้นจะล็อคใส่เรดาร์เป้าหมายทันที โหมดนี้เป็นโหมดที่คาดว่า MiG-29 นั้นใช้อยู่เนื่องจากโหมดนี้ไม่จำเป็นที่จะต้องเพิ่งเซ็นเซอร์ของตัวอากาศยาน
F-16 นั้นจะสามารถใช้โหมดทั้ง 3 โหมดนี้ได้แถมเจ้า F-16 ยังสามารถใช้ HTS (HARM targeting system) ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริมที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของ HARM ได้
2. JDAM (Joint Direct Attack Munition)
จากเว็บสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ
JDAM เป็นคำย่อมาจาก "Joint Direct Attack Munition" หมายถึงวัตถุระเบิดเพื่อใช้โจมตีร่วม JDAM เป็นชุดอุปกรณ์นำวิถี ที่สามารถแปลงระเบิดไม่นำวิถี (dumb bomb) ให้เป็นระเบิดฉลาด (smart bomb) ที่ใช้ได้ทุกกาลอากาศ โดยระเบิดที่ติดตั้งอุปกรณ์ JDAM แล้ว จะมีขีดความสามารถในการนำวิถีแบบบูรณาการระหว่าง inertial guidance system ควบคู่กับ GPS ซึ่งจะทำให้มีระยะปฏิบัติการถึง 15 nautical miles หรือประมาณ 28 กม.
ก่อนที่มีการปล่อยระเบิด จะต้องมีการปรับปรุงข้อมูลให้ตรงกันระหว่างระบบคอมพิวเตอร์กับระบบนำวิถีบนอากาศยาน โดยในระหว่างนี้จะมีการทดสอบระบบ Inertial Navigation System ของระเบิดกับระบบนำวิถีของอากาศยานเพื่อให้การติดตามเป็นไปอย่างถูกต้องแม่นยำ ระบบคอมพิวเตอร์บนอากาศยานยังต้องตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ของลูกระเบิดและระบบอื่นๆ อีกด้วย หากมีการตรวจพบข้อผิดพลาด จะทำให้ไม่สามารถใช้งานระเบิดได้ ต้องมีการเปลี่ยนทดแทนต่อไป
เมื่อลูกระเบิดถูกปล่อยออกไป จะใช้เวลาไม่เกิน 30 วินาทีสำหรับระบบ GPS ในการค้นหาพิกัดตำแหน่งของตนเอง หลังจากนั้นระบบ GPS, ระบบIMU และระบบคอมพิวเตอร์ จะส่งสัญญาณไปควบคุมครีบหางทั้ง 3 ครีบ เพื่อปรับเปลี่ยนมุม/ทิศทางและนำวิถีลูกระเบิดเข้าสู่เป้าหมายต่อไป
เหตุผลที่ F-16 สามารถใช้ JDAM ได้ดีกว่า MiG-29 มาจากที่ว่า F-16 นั้นสามารถเปลี่ยนเป้าหมายระหว่างที่บินอยู่ได้ในขณะที่ MiG-29 นั้นต้องตั้งค่า JDAM ตั้งแต่ที่พื้นและไม่สามารถเปลี่ยนเป้าหมายระหว่างที่บินอยู่ได้แถม F-16 ก็สามารถใช้ TGP (Targeting Pod) เพื่อหาเป้าหมายเช่นกัน
ปัญหาหลักที่ F-16 ต้องเจอในยูเครน
แน่นอนครับว่ารัสเซียนั้นไม่นิ่งเฉยแน่ถ้า F-16 มาถึงแต่ก่อนที่จะพูดถึงเรื่องนั้น เรามาพูดถึงว่าทำไมการที่จะใช้ F-16 ในยูเครนนั้นมันไม่ง่ายอย่างที่ใครหลายคนคิด
1. รันเวย์ที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไร
นกเวลาบินขึ้นฟ้าก็ต้องบินลงมาเป็นธรรมดาครับ เจ้า F-16 เองก็ไม่เว้น แต่ปัญหาคือรันเวย์ที่ใหญ่และในสภาพที่ดีพอที่ F-16 จะสามารถใช้งานได้นั้นรัสเซียจ้องรอไว้อย่างกับนกเหยี่ยวแล้วครับ ไม่จากโดรนก็จากดาวเทียม
ก็นะ ตามสภาพ
ลิ้งค์ถ้าอยากไปดู
และก็ตามที่
สื่อตะวันตกบอกมา F-16 นั้น ค่อนค้างที่จะอ่อนโยนต่อสภาพแว้ดล้อมของสนามบินต่างจาก MiG-29 และ Su-27 ที่รันเวย์รันทดแค่ไหนก็บินขึ้นได้
2. มีพอหรือเปล่า?
ตามที่ New York Times ว่าไว้
ยูเครนนั้นน่าจะได้ F-16 มาตอนประมาณเดือนกรกฎาคมแต่ว่าจะได้มาแค่ประมาณ 6 ลำในตอนต้นเท่านั้น คงไม่ต้องบอกว่าแค่นั้นช่วยอะไรไม่ค่อยได้อยู่แล้ว 45 ลำอาจจะช่วยได้เยอะหน่อยแต่ถ้าบางลำถูกยิงตกล่ะ จะมีมาเสริมมั้ยหรือ 45 ลำหมดแล้วหมดเลย
ผมไม่ได้จะกล่าวว่า F-16 นั้นช่วยอะไรไม่ได้แต่ว่าถ้าเราไม่มองปัญหาที่ยูเครนต้องแก้นั้น F-16 เองก็ทำอะไรได้ไม่เยอะกว่า MiG-29 หรือ Su-24 ที่ยูเครนมีอยู่แล้ว
ข้อดีของ F-16 กับปัญหาที่ตามมา
F-16AM/BM Block 15 MLU ที่เนเธอร์แลนด์จะส่งมอบให้กับยูเครน
ผมจะไม่พูดถึงประสิทธิภาพการบินของ F-16 เนื่องจากเป้าหมายหลักของ F-16 นั้นไม่ใช่การไปบวกกับกองทัพอากาศรัสเซียแต่เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพอาวุธที่ฝ่งตะวันตกส่งไปให้เช่น AGM-88C HARM, JDAM หรือ AIM-120D ซึ่งทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นอาวุธชั้นยอดที่ ณ ตอนนี้ไม่สามารถโชว์ศักยภาพได้ทั้งหมดเนื่องจากว่าอาวุธพวกนี้มันเอาไปใช้กับ MiG-29 ซึ่งระบบของอาวุธกับของเครื่องบินนั้นไม่เข้ากันเลย เจ้า F-16 นี้จะสามารถดึงศักยภาพทั้งหมดของอาวุธพวกนี้ออกมาได้
ผมจะอธิบายอาวุธที่ F-16 นั้นสามารถดึงศักยภาพทั้งหมดของอาวุธพวกนี้ออกมาได้
1. AGM-88 HARM (High Speed Anti Radiation Missile)
ให้พูดง่ายๆเลยก็คือมิสไซล์หรือขีปนาวุธที่เอาไว้ยิงเรดาร์ภาคพื้นดินนั่นเองโดยมันจะหาคลื่นเรดาร์และมุ่งไปยังที่ๆคลื่นเรดาร์อยู่ อาวุธนี่จะมีวิธีใช้อยู่ 3 วิธีด้วยกัน
1. SP (Self-Protect) - เวลาที่เรดาร์ภาคพื้นดินล็อกเข้ามานั้น เจ้า HARM จะหาคลื่นที่เรดาร์ที่ล็อคเข้ามาและมุ่งหน้าไปหาเรดาร์เมื่อยิงออกไป
2. TOO (Target Of Opportunity) - เซ็นเซอร์ของ HARM นั้นจะตรวจจับคลื่นเรดาร์ในวิสัยทัศน์ของ HARM ผู้ใช้สามารถเลือกเป้าที่จะยิงได้
3. PB (Pre-Briefed) - ตั้งค่าเจ้า HARM ให้ล็อคกับคลื่นเรดาร์ที่ตรงกับเรดาร์เป้าหมายและยิงไปในที่ๆคาดการณ์ว่าเรดาร์นั้นอยู่ หากเรดาร์เป้าหมายเปิดการใช้งานในระหว่างที่ HARM บินอยู่ เจ้า HARM นั้นจะล็อคใส่เรดาร์เป้าหมายทันที โหมดนี้เป็นโหมดที่คาดว่า MiG-29 นั้นใช้อยู่เนื่องจากโหมดนี้ไม่จำเป็นที่จะต้องเพิ่งเซ็นเซอร์ของตัวอากาศยาน
F-16 นั้นจะสามารถใช้โหมดทั้ง 3 โหมดนี้ได้แถมเจ้า F-16 ยังสามารถใช้ HTS (HARM targeting system) ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริมที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของ HARM ได้
2. JDAM (Joint Direct Attack Munition)
จากเว็บสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ
ก่อนที่มีการปล่อยระเบิด จะต้องมีการปรับปรุงข้อมูลให้ตรงกันระหว่างระบบคอมพิวเตอร์กับระบบนำวิถีบนอากาศยาน โดยในระหว่างนี้จะมีการทดสอบระบบ Inertial Navigation System ของระเบิดกับระบบนำวิถีของอากาศยานเพื่อให้การติดตามเป็นไปอย่างถูกต้องแม่นยำ ระบบคอมพิวเตอร์บนอากาศยานยังต้องตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ของลูกระเบิดและระบบอื่นๆ อีกด้วย หากมีการตรวจพบข้อผิดพลาด จะทำให้ไม่สามารถใช้งานระเบิดได้ ต้องมีการเปลี่ยนทดแทนต่อไป
เมื่อลูกระเบิดถูกปล่อยออกไป จะใช้เวลาไม่เกิน 30 วินาทีสำหรับระบบ GPS ในการค้นหาพิกัดตำแหน่งของตนเอง หลังจากนั้นระบบ GPS, ระบบIMU และระบบคอมพิวเตอร์ จะส่งสัญญาณไปควบคุมครีบหางทั้ง 3 ครีบ เพื่อปรับเปลี่ยนมุม/ทิศทางและนำวิถีลูกระเบิดเข้าสู่เป้าหมายต่อไป
ปัญหาหลักที่ F-16 ต้องเจอในยูเครน
แน่นอนครับว่ารัสเซียนั้นไม่นิ่งเฉยแน่ถ้า F-16 มาถึงแต่ก่อนที่จะพูดถึงเรื่องนั้น เรามาพูดถึงว่าทำไมการที่จะใช้ F-16 ในยูเครนนั้นมันไม่ง่ายอย่างที่ใครหลายคนคิด
1. รันเวย์ที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไร
นกเวลาบินขึ้นฟ้าก็ต้องบินลงมาเป็นธรรมดาครับ เจ้า F-16 เองก็ไม่เว้น แต่ปัญหาคือรันเวย์ที่ใหญ่และในสภาพที่ดีพอที่ F-16 จะสามารถใช้งานได้นั้นรัสเซียจ้องรอไว้อย่างกับนกเหยี่ยวแล้วครับ ไม่จากโดรนก็จากดาวเทียม
ก็นะ ตามสภาพ ลิ้งค์ถ้าอยากไปดู
และก็ตามที่สื่อตะวันตกบอกมา F-16 นั้น ค่อนค้างที่จะอ่อนโยนต่อสภาพแว้ดล้อมของสนามบินต่างจาก MiG-29 และ Su-27 ที่รันเวย์รันทดแค่ไหนก็บินขึ้นได้
2. มีพอหรือเปล่า?
ตามที่ New York Times ว่าไว้
ยูเครนนั้นน่าจะได้ F-16 มาตอนประมาณเดือนกรกฎาคมแต่ว่าจะได้มาแค่ประมาณ 6 ลำในตอนต้นเท่านั้น คงไม่ต้องบอกว่าแค่นั้นช่วยอะไรไม่ค่อยได้อยู่แล้ว 45 ลำอาจจะช่วยได้เยอะหน่อยแต่ถ้าบางลำถูกยิงตกล่ะ จะมีมาเสริมมั้ยหรือ 45 ลำหมดแล้วหมดเลย
ผมไม่ได้จะกล่าวว่า F-16 นั้นช่วยอะไรไม่ได้แต่ว่าถ้าเราไม่มองปัญหาที่ยูเครนต้องแก้นั้น F-16 เองก็ทำอะไรได้ไม่เยอะกว่า MiG-29 หรือ Su-24 ที่ยูเครนมีอยู่แล้ว