สวัสดีค่ะพี่ๆชาวพันทิป วันนี้หนูอยากจะมาถามความเห็นพี่ๆค่ะ
ว่าสิ่งที่หนูจะทำต่อไปนี้ ถูกต้องไหม ....
.. เรื่องตามหัวกระทู้เลยค่ะ แม่เป็นหนี้นอกระบบ และหนี้ธนาคาร โดยที่พ่อไม่รู้..
พ่อเป็นหัวหน้าครอบครัว มีธุรกิจบ้านเช่า มีบ้านปลอดหนี้ พ่อทำงานหนักเพื่อไม่อยากให้เราเป็นหนี้
แต่บ้าน ชื่อแม่ .....
เล่าก่อนนะคะ
บ้านเรามีกัน 4 คน เตี่ย แม่ เราอายุ 26 และน้องชายอายุ 20 ปี เราเติบโตมากับคำว่าต้องประหยัด .. อะไรที่อยากได้ไม่เคยได้
อยากได้อะไร ทำงานซื้อเอง สอบติดมหาลัยรัฐเคยคุยค่าเทอมกับครอบครัวเทอมละ 20,000 บาท เตี่ยบอกแพง
(ช่วงนั่นเตี่ยเลือกเอาเงินไปลงทุนซื้อที่ดิน เราก็แอบน้อยใจนิดหน่อย แต่ไม่เป็นไรจากสถานการณ์ตอนนั้นเราเลยเลือกเรียนรามคำแหง เพื่อช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่าย)
ระหว่างเรียนเราก็ทำงาน หาเงินใช้เอง จนเรียนจบ เจอช่วงโควิดพอดี
แล้วพอน้องชายเรียนเข้ามหาลัย แม่ก็เลือกที่จะส่งน้องเรียนเอกชน ชื่อดังในกรุงเทพ นอนหอเดี่ยว ค่าใช้จ่ายเดือนละเกือบ 10,000 ค่าเทอมอีกไม่ทราบว่าเท่าไหร่
ช่วงน้องเรียนเตี่ยเกษียณพอดี ทำให้ทำให้การเงินช่วงนี้อาจจะสะดุด (แต่เห็นว่าพ่อเอาเงินเกษียณบางส่วนให้แม่เพื่อไว้เป็นทุนการศึกษาน้องด้วย)
จนมาถึงวันนี้น้องเรียนถึงปีสอง จะโทรมาบอกที่บ้านว่าเรียนไม่ไหว อยากกลับมาอยู่ที่บ้าน
โดยให้ข้อแม้แม่ว่า ต้องซื้อของเครื่องใหม่ให้เครื่องละ 40,000 บาท แม่ก็เลยยอมไปเป็นหนี้ ผ่อนเดือนละ 4000
ปัจจุบันน้องก็เรียนวันอาทิตย์ นอกจากนั้นคือเล่นเกม หมกตัวอยู่ในห้องเปิดแอร์ทั้งวันทั้งคืน ค่าไฟ 5,000
ไอ้เราก็นั่งจ่ายค่าไฟไปดิ เราเครียดมากเลย เราไม่อยากเล่าเรื่องนี้ให้แฟนฟังเลยเราไม่อยากเป็นพลังงานลบให้แฟน
ส่วนเราเองก็ใช้ชีวิตทำงานส่วนเราเองก็ใช้ชีวิตทำงาน ช่วยแบ่งเบาภาระภาระที่บ้านจ่ายค่าไฟ ค่าผ่อนบ้าน 2,000 ช่วยพ่อ
(จริงๆพ่อไม่ต้องการให้เราช่วยผ่อนเลย เพราะพ่ออยากให้เราตั้งตัวให้ได้ เนื่องจากเรามีการเก็บเงินไว้แต่งงานกับแฟน โดยแม่เรียกสินสอดมาประมาณ 700,000 บาท)
จนมาวันนึง .. แม่โทรมาหาเราในขณะที่เรากำลังทำงานแม่โทรมาหาเราในขณะที่เรากำลังทำงานอยู่...
" โทรมาให้เรายื่นขอกู้ซื้อบ้านในชื่อเรา โดยห้ามบอกเตี่ย "
เราก็เลยถามแม่ไปว่า " เตี่ยไม่เห็นพูดเรื่องนี้เลย การจะทำเรื่องการจะทำเรื่องเนี่ยต้องคุยกับเตียก่อนนะ "
คุยไปคุยมา จนแม่เฉลยว่า อยากให้เรากู้ซื้อบ้านแทน และจะเอาเงินออกมาใช้หนี้ นี้บัง 300,0000 หนี้ธนาคาร 100,000
ทำให้เรารู้สึกรู้สึกแย่มากๆ เพราะบ้านหลังนี้พ่อเคยพูดกับลูกลูกว่าพ่อจะผ่อนให้หมดเป็นของขวัญให้ลูก
แล้วแม่เราก็อ้าง ต่างๆว่าเงินที่เป็นหนี้ก็เอามากินใช้ในบ้าน ค่ากับข้าวค่าโน่นค่านี่
จนเราอ่ะกลับรู้สึกผิดว่านี่เราเป็นภาระให้แม่เป็นหนี้หรอ ???
เรากลับมาทบทวนกับตัวเองว่าที่ผ่านมาเราเป็นภาระครอบครัวไหม..
ค่ากิน ค่าใช้จ่ายค่าเครื่องสำอางค่าใช้จ่ายค่าเครื่องสำอางค่าของใช้ของที่อยากได้ทุกอย่าง เราไม่ได้ขอครอบครัวมาตั้งแต่ช่วง ม. 6 แล้ว ..
เราไปทำงานเราแทบจะไม่ได้กินที่บ้านเลย ค่าไฟเราก็ช่วย
เราก็เลยให้เหตุผลแม่ว่า เราไม่สามารถกู้ได้หรอกเพราะว่าเราเป็นหนี้กู้ยืมเรียนมาอยู่
จนแม่ด่าเราในสายโทรศัพท์นั้น ว่างานที่เราทำว่างานที่เราทำถ้ามันได้เงินน้อย ก็ให้ไปหางานอื่นทำ ก็ให้ไปหางานอื่นทำเพิ่ม
เราก็เลยคุยกับแม่ ว่าให้บอกเรื่องนี้กับเตี่ยเถอะ สงสารเตี่ย แล้วเตี่ยอาจจะช่วยหาทางออกให้ได้
... เรากลับได้แต่คำเรากลับได้แต่คำด่ากลับมา ว่า เราไม่มีทางเจริญหรอก... ถ้าบอกเรื่องนี้ให้เตี่ยรู้
แม่อ้างว่าค่าใช้จ่ายต่อเดือนหมุนไม่ทัน
* ถึงเตี่ยจะเกษียณออกมา แต่ก็ยังมีเงินให้แม่เดือนละ 12,000 ค่าเช่าบ้านได้จากห้องเช่า
ส่วนเราเองก็ไม่ได้ให้เงินแม่ใช้ต่อเดือน เพราะเราบอกแม่แล้ว ว่าเราจะช่วยค่าไฟและค่าผ่อนบ้าน
ส่วนการ ใช้ชีวิตในเมืองกรุง เพื่อนเพื่อนก็น่าจะรู้ว่าค่าของชีพค่อนข้างสูง กับเงินที่จะใช้แต่งงานอีก ..
สินสอด 700,000 ให้เวลาสองปี ...
จนตอนนี้เรารู้สึกผิดกับตัวเอง ในสมองเราคิดอยู่ว่าเราผิดหรอ เราผิดหรือเปล่า ที่ไม่ประสบความสำเร็จ
ตอนนี้เรารู้สึกไม่มีกำลังใจตอนนี้เรารู้สึกไม่มีกำลังใจในการทำงาน หมกตัวอยู่แต่ในห้อง ไม่มีความสุขกับการใช้ชีวิต
เราควรจะเอาเรื่องนี้ไปคุยกับเตี่ยดีไหม ถ้าการที่เราเรื่องนี้ไปคุยกับเตี่ยเราจะโดนแม่ว่าว่าเป็นลูกไม่ดีไหม
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ ถ้าพี่พี่มีความคิดเห็นอะไรแนะนำน้องถ้าพี่พี่มีความคิดเห็นอะไรแนะนำน้องคนนี้ได้นะคะ....
อยากมีชีวิตอยู่ต่อแบบสดใสค่ะ ...
แม่เป็นหนี้หลายแสน โดยที่เตี่ยไม่รับรู้
ว่าสิ่งที่หนูจะทำต่อไปนี้ ถูกต้องไหม ....
.. เรื่องตามหัวกระทู้เลยค่ะ แม่เป็นหนี้นอกระบบ และหนี้ธนาคาร โดยที่พ่อไม่รู้..
พ่อเป็นหัวหน้าครอบครัว มีธุรกิจบ้านเช่า มีบ้านปลอดหนี้ พ่อทำงานหนักเพื่อไม่อยากให้เราเป็นหนี้
แต่บ้าน ชื่อแม่ .....
เล่าก่อนนะคะ
บ้านเรามีกัน 4 คน เตี่ย แม่ เราอายุ 26 และน้องชายอายุ 20 ปี เราเติบโตมากับคำว่าต้องประหยัด .. อะไรที่อยากได้ไม่เคยได้
อยากได้อะไร ทำงานซื้อเอง สอบติดมหาลัยรัฐเคยคุยค่าเทอมกับครอบครัวเทอมละ 20,000 บาท เตี่ยบอกแพง
(ช่วงนั่นเตี่ยเลือกเอาเงินไปลงทุนซื้อที่ดิน เราก็แอบน้อยใจนิดหน่อย แต่ไม่เป็นไรจากสถานการณ์ตอนนั้นเราเลยเลือกเรียนรามคำแหง เพื่อช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่าย)
ระหว่างเรียนเราก็ทำงาน หาเงินใช้เอง จนเรียนจบ เจอช่วงโควิดพอดี
แล้วพอน้องชายเรียนเข้ามหาลัย แม่ก็เลือกที่จะส่งน้องเรียนเอกชน ชื่อดังในกรุงเทพ นอนหอเดี่ยว ค่าใช้จ่ายเดือนละเกือบ 10,000 ค่าเทอมอีกไม่ทราบว่าเท่าไหร่
ช่วงน้องเรียนเตี่ยเกษียณพอดี ทำให้ทำให้การเงินช่วงนี้อาจจะสะดุด (แต่เห็นว่าพ่อเอาเงินเกษียณบางส่วนให้แม่เพื่อไว้เป็นทุนการศึกษาน้องด้วย)
จนมาถึงวันนี้น้องเรียนถึงปีสอง จะโทรมาบอกที่บ้านว่าเรียนไม่ไหว อยากกลับมาอยู่ที่บ้าน
โดยให้ข้อแม้แม่ว่า ต้องซื้อของเครื่องใหม่ให้เครื่องละ 40,000 บาท แม่ก็เลยยอมไปเป็นหนี้ ผ่อนเดือนละ 4000
ปัจจุบันน้องก็เรียนวันอาทิตย์ นอกจากนั้นคือเล่นเกม หมกตัวอยู่ในห้องเปิดแอร์ทั้งวันทั้งคืน ค่าไฟ 5,000
ไอ้เราก็นั่งจ่ายค่าไฟไปดิ เราเครียดมากเลย เราไม่อยากเล่าเรื่องนี้ให้แฟนฟังเลยเราไม่อยากเป็นพลังงานลบให้แฟน
ส่วนเราเองก็ใช้ชีวิตทำงานส่วนเราเองก็ใช้ชีวิตทำงาน ช่วยแบ่งเบาภาระภาระที่บ้านจ่ายค่าไฟ ค่าผ่อนบ้าน 2,000 ช่วยพ่อ
(จริงๆพ่อไม่ต้องการให้เราช่วยผ่อนเลย เพราะพ่ออยากให้เราตั้งตัวให้ได้ เนื่องจากเรามีการเก็บเงินไว้แต่งงานกับแฟน โดยแม่เรียกสินสอดมาประมาณ 700,000 บาท)
จนมาวันนึง .. แม่โทรมาหาเราในขณะที่เรากำลังทำงานแม่โทรมาหาเราในขณะที่เรากำลังทำงานอยู่...
" โทรมาให้เรายื่นขอกู้ซื้อบ้านในชื่อเรา โดยห้ามบอกเตี่ย "
เราก็เลยถามแม่ไปว่า " เตี่ยไม่เห็นพูดเรื่องนี้เลย การจะทำเรื่องการจะทำเรื่องเนี่ยต้องคุยกับเตียก่อนนะ "
คุยไปคุยมา จนแม่เฉลยว่า อยากให้เรากู้ซื้อบ้านแทน และจะเอาเงินออกมาใช้หนี้ นี้บัง 300,0000 หนี้ธนาคาร 100,000
ทำให้เรารู้สึกรู้สึกแย่มากๆ เพราะบ้านหลังนี้พ่อเคยพูดกับลูกลูกว่าพ่อจะผ่อนให้หมดเป็นของขวัญให้ลูก
แล้วแม่เราก็อ้าง ต่างๆว่าเงินที่เป็นหนี้ก็เอามากินใช้ในบ้าน ค่ากับข้าวค่าโน่นค่านี่
จนเราอ่ะกลับรู้สึกผิดว่านี่เราเป็นภาระให้แม่เป็นหนี้หรอ ???
เรากลับมาทบทวนกับตัวเองว่าที่ผ่านมาเราเป็นภาระครอบครัวไหม..
ค่ากิน ค่าใช้จ่ายค่าเครื่องสำอางค่าใช้จ่ายค่าเครื่องสำอางค่าของใช้ของที่อยากได้ทุกอย่าง เราไม่ได้ขอครอบครัวมาตั้งแต่ช่วง ม. 6 แล้ว ..
เราไปทำงานเราแทบจะไม่ได้กินที่บ้านเลย ค่าไฟเราก็ช่วย
เราก็เลยให้เหตุผลแม่ว่า เราไม่สามารถกู้ได้หรอกเพราะว่าเราเป็นหนี้กู้ยืมเรียนมาอยู่
จนแม่ด่าเราในสายโทรศัพท์นั้น ว่างานที่เราทำว่างานที่เราทำถ้ามันได้เงินน้อย ก็ให้ไปหางานอื่นทำ ก็ให้ไปหางานอื่นทำเพิ่ม
เราก็เลยคุยกับแม่ ว่าให้บอกเรื่องนี้กับเตี่ยเถอะ สงสารเตี่ย แล้วเตี่ยอาจจะช่วยหาทางออกให้ได้
... เรากลับได้แต่คำเรากลับได้แต่คำด่ากลับมา ว่า เราไม่มีทางเจริญหรอก... ถ้าบอกเรื่องนี้ให้เตี่ยรู้
แม่อ้างว่าค่าใช้จ่ายต่อเดือนหมุนไม่ทัน
* ถึงเตี่ยจะเกษียณออกมา แต่ก็ยังมีเงินให้แม่เดือนละ 12,000 ค่าเช่าบ้านได้จากห้องเช่า
ส่วนเราเองก็ไม่ได้ให้เงินแม่ใช้ต่อเดือน เพราะเราบอกแม่แล้ว ว่าเราจะช่วยค่าไฟและค่าผ่อนบ้าน
ส่วนการ ใช้ชีวิตในเมืองกรุง เพื่อนเพื่อนก็น่าจะรู้ว่าค่าของชีพค่อนข้างสูง กับเงินที่จะใช้แต่งงานอีก ..
สินสอด 700,000 ให้เวลาสองปี ...
จนตอนนี้เรารู้สึกผิดกับตัวเอง ในสมองเราคิดอยู่ว่าเราผิดหรอ เราผิดหรือเปล่า ที่ไม่ประสบความสำเร็จ
ตอนนี้เรารู้สึกไม่มีกำลังใจตอนนี้เรารู้สึกไม่มีกำลังใจในการทำงาน หมกตัวอยู่แต่ในห้อง ไม่มีความสุขกับการใช้ชีวิต
เราควรจะเอาเรื่องนี้ไปคุยกับเตี่ยดีไหม ถ้าการที่เราเรื่องนี้ไปคุยกับเตี่ยเราจะโดนแม่ว่าว่าเป็นลูกไม่ดีไหม
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ ถ้าพี่พี่มีความคิดเห็นอะไรแนะนำน้องถ้าพี่พี่มีความคิดเห็นอะไรแนะนำน้องคนนี้ได้นะคะ....
อยากมีชีวิตอยู่ต่อแบบสดใสค่ะ ...