"ฉันเสนอเจนนี่ไปที่ Chanel และจีซูไปที่ Dior" เปิดบทสัมภาษณ์ Mirim Lee อดีตผู้อำนวยการด้านแฟชั่น Harper’s Bazaar Korea



"ฉันเสนอเจนนี่ไปที่ Chanel และจีซูไปที่ Dior"

เปิดบทสัมภาษณ์ Mirim Lee อดีตผู้อำนวยการด้านแฟชั่นของ Harper’s Bazaar Korea และผู้ร่วมก่อตั้ง TMN Agency ร่วมกับ KB Lee และ Gee Eun อดีตสไตลิสต์และผู้กำกับภาพของ YG Entertainment

ในปี 2023 เพียงปีเดียว ไอดอล K-pop มากกว่า 30 คนได้รับการเสนอชื่อให้เป็น Global Ambassador คนใหม่ของแบรนด์หรู RIIZE วงหน้าใหม่จาก SM Entertainment เซ็นสัญญากับ Louis Vuitton เพียง 98 วันหลังเดบิวต์ กลายเป็นไอดอลที่ใช้เวลาเร็วที่สุดที่ได้รับการแต่งตั้ง และมีรายงานว่า Louis Vuitton ได้จัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจในสำนักงานใหญ่ที่ปารีส โดยมีเป้าหมายเพื่อเซ็นต์สัญญากับ K-pop Ambassador ให้ได้มากที่สุด และสามารถเซ็นต์สัญญาถึง 5 ฉบับกับศิลปินจาก K-pop



ในขณะที่ Dior ได้แต่งตั้งแอมบาสเดอร์ใหม่เพียง 3 คนในปี 2023 คือ Jimin แห่ง BTS, Haerin แห่ง NewJeans และ TXT

นับตั้งแต่แต่งตั้งจีซู วง BLACKPINK เป็นแอมบาสเดอร์ในปี 2021 ยอดขายของ Dior ในเกาหลีเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าจาก 253 ล้านดอลลาร์ในปี 2020 เป็น 473 ล้านดอลลาร์ และยอดขายโดยรวมของแบรนด์จาก Gen MZs ก็เพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า



สำหรับแบรนด์ต่างๆ การแย่งชิงศิลปินจาก K-pop ไม่เพียงแต่เป็นวิธีการรักษาความเกี่ยวข้องในเกาหลี ซึ่งได้กลายเป็นหนึ่งในตลาดที่สำคัญที่สุดที่มีการใช้จ่ายสินค้าฟุ่มเฟือยต่อหัวสูงที่สุดในโลก แต่ยังเป็นการเดิมพันว่า K-pop จะครอบงำการเติบโตทุกที่

ยอดขายอัลบั้ม K-pop และรายได้จากเอเจนซี่หลักเพิ่มขึ้น 3 เท่านับตั้งแต่เกิดการระบาด และอุตสาหกรรมนี้คาดว่าจะมีมูลค่า 20 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2574 อัตราการเติบโตที่ไม่เคยมีมาก่อนในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดเพลงดิจิทัลและการสตรีมที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพลงภาษาเกาหลีมีผู้เล่นมากที่สุดเป็นอันดับ 3 รองจากเพลงภาษาอังกฤษและสเปนในช่วงครึ่งแรกของปี 2023

จากข้อมูลของ Lefty พบว่าครึ่งหนึ่งของผู้มีอิทธิพลด้านแฟชั่น 10 อันดับแรก เป็นศิลปิน K-pop รวมถึงสมาชิกทั้ง 4 ของ BLACKPINK และ V จาก BTS



ครั้งแรกที่ K-pop สร้างความสัมพันธ์กับแบรนด์แฟชั่นหรูของยุโรปในระดับที่มีความหมายที่สุดคือในปี 2019 เมื่อ Chanel เสนอสัญญา ambassador ให้กับ G-Dragon ของ BigBang

"ฉันสงสัยว่าสิ่งนั้นเป็นไปได้หรือไม่ แต่ในขณะเดียวกัน มันก็เป็นสิ่งที่เราคาดหวัง" KB Lee ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ที่เชื่อมโยงแบรนด์และศิลปินต่างๆเข้าด้วยกัน และยังเป็นเพื่อนและที่ปรึกษาของ G-Dragon กล่าว

"เขาเป็นศิลปินที่มีอิทธิพลมากที่สุดในเอเชียในขณะนั้น และฉันก็อยากรู้จริงๆ ว่าแบรนด์แฟชั่นอย่าง Chanel จะยอมรับเขาอย่างไร ความสัมพันธ์ระหว่าง K-pop และแบรนด์แฟชั่นสุดหรูเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงหลังจากนั้น"



Gee Eun ให้สัมภาษณ์ว่า

"มันไม่ใช่การประกาศอย่างกะทันหันสำหรับเรา เพราะเราได้ใช้ความพยายามอย่างมากในเบื้องหลังเพื่อให้มันเกิดขึ้น ฉันเป็นแฟนตัวยงของ Karl Lagerfeld และ Hedi Slimane ที่ Saint Laurent ดังนั้นในตอนแรกเราจึงไปชมแฟชั่นวีคที่ปารีสโดยการออกค่าใช้จ่ายเอง ด้วยความสนใจและความอยากรู้อยากเห็นล้วนๆ GD ชอบไปชมการแสดง และตระหนักว่ารันเวย์แฟชั่นสามารถเป็นแหล่งแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ได้เช่นกัน แสงทั้งหมด การแสดง และการผลิตแฟชั่นวีคมีผลกระทบต่อเขา ฉันเป็นเพื่อนสนิทกับ Kim Young-Seong ผู้อำนวยการฝ่ายผ้าของ Chanel ซึ่งเป็นคนเกาหลีเช่นกัน หาก Virginie เป็นมือขวาของ Karl แล้ว Young-Seong ก็เป็นมือซ้ายของเขา ฉันแนะนำพวกเขาเพราะฉันอยากให้ Chanel รู้ว่าเรามีศิลปินที่น่าทึ่งคนนี้ในเกาหลี และเมื่อใดก็ตามที่ GD ปรากฏตัวในงาน Fashion Week เขาก็กลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ และมันก็เป็นเช่นนี้ฤดูกาลแล้วฤดูกาลเล่า หลังจากนั้น 2-3 ปี Chanel ถามเราว่า GD สามารถเข้าร่วมงาน Chanel อย่างเดียวได้หรือไม่ แต่มันเป็นเรื่องยากสำหรับศิลปินอย่างเขาที่จะเดินทางไปยุโรปเพียงเพื่อแฟชั่นโชว์เดียว เพราะต้องใช้เงินจำนวนมากในการพาเขาและทีมงานทั้งหมดของเขาไป Chanel จึงหาทางออกด้วยการเซ็นสัญญา ambassador มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ไม่ใช่แค่เพราะ GD เป็นคนเอเชีย แต่เพราะเขายังเป็นศิลปินชายที่เซ็นสัญญากับ Chanel ที่เป็นเสื้อผ้าผู้หญิงโดยเฉพาะ มันได้ผลเพราะ Karl ก็มีเสื้อผ้าผู้ชาย 2-3 ชิ้นต่อการแสดง และ GD ก็สามารถดึงความเด่นของเสื้อผ้าผู้หญิงออกได้เช่นกัน"



Gee Eun:

"เป้าหมายสูงสุดของฉันกับ BLACKPINK คือการเซ็นสัญญากับแบรนด์หลัก 4 แบรนด์ หนึ่งแบรนด์สำหรับสมาชิกแต่ละคน เพราะฉันไม่สามารถทำแบบนั้นกับ BigBang ได้ เสื้อผ้าบุรุษเป็นตลาดขนาดเล็ก แต่สำหรับ BLACKPINK มันชัดเจนในใจของฉันตั้งแต่เริ่มต้นว่าแบรนด์ใดตรงกับสมาชิกคนใด ฉันเสนอเจนนี่ให้ Chanel ก่อนที่พวกเขาจะเดบิวต์ ฉันบอกพวกเขาว่าเรามีหญิงสาวสวยคนนี้อยู่ และพวกเขาจะเสียใจถ้าไม่ทำอะไรกับเธอ ฉันรู้มาตลอดว่าจีซูคือ Dior"



ทำไมการเซ็นสัญญากับสมาชิก BLACKPINK แต่ละคนในแบรนด์ที่แตกต่างกันจึงสำคัญมาก? คุณรู้สึกว่าสิ่งนี้จะเพิ่มความสำเร็จให้กับพวกเขาหรือไม่?

Gee: มันไม่ใช่การเซ็นสัญญาเพื่อเงินจำนวนหนึ่ง ฉันเพียงต้องการสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับสมาชิกแต่ละคน ตัวอย่างเช่น หากคุณนึกถึงงานประกาศรางวัล คุณอยากให้ศิลปินสวมใส่ผลงานที่ดีที่สุดและสวยที่สุด ดังนั้นเพื่อให้สมาชิกทุกคนสวมใส่เสื้อผ้าชิ้นที่ดีที่สุดจากแบรนด์ พวกเขาแต่ละคนจะต้องทำให้ดีที่สุดด้วยตัวเอง ฉันมีความเข้าใจในเอกลักษณ์ของแต่ละแบรนด์ ฉันจึงมีบทบาทเป็นแม่สื่อ มันมีโอกาสแค่หนึ่งในล้านเท่านั้นที่สมาชิกทุกคนในกลุ่มวงไอดอลจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ชัดเจนและพิเศษ ซึ่งฉันรู้ว่า BLACKPINK เป็นแบบนั้นตั้งแต่เดบิวต์ และพวกเขาได้ทำงานอย่างหนักเพื่อรักษาสถานะของพวกเขาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ความสำเร็จของพวกเขาล้วนเกิดจากความพยายามของพวกเขาเอง พวกเขาทำมันเพื่อตัวเอง



แปลไทยโดย : @ElamaniTh
Reference: System Magazine
https://system-magazine.com/issues/issue-22/influence-k-pop
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่