สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ลักษณะการคุย คล้ายๆแนวเดียวกับ พวกมิจฉาชีพที่หลอก ชักชวนให้เราลงทุน เลยครับ แต่ก็ไม่ได้เหมือนไปหมดซะทีเดียว ยังมีพูดอ้อมไกลกว่า มิจฉาชีพ
มันรู้สึกหงุดหงิดนะแบบนี้ ทั้งๆที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเราดี แล้วมาพูดเป็นตุเป็นตะ
มันรู้สึกหงุดหงิดนะแบบนี้ ทั้งๆที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเราดี แล้วมาพูดเป็นตุเป็นตะ
สมาชิกหมายเลข 730259 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6614230 ถูกใจ, D-buarai ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1367064 ถูกใจ, poloyo ถูกใจ, ลาบราดอร์สีดำ ถูกใจ, *~ Chocolate Factory ~* ถูกใจ, Capture the Timeline ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4849556 ถูกใจ, อิฐมอญ ถูกใจรวมถึงอีก 10 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
ปัญหาชีวิต
ความรักวัยทำงาน
มนุษย์เงินเดือน
สุขภาพจิต
สังคมชาวพันทิป
มีคนมาบอกชอบ แต่พยายามเปลี่ยนเราทุกอย่าง (สรุปว่าเขาชอบเราจริงๆมั้ยครับ?)
ล่าสุดจขกท.มีคนนึงเข้ามาในฐานะเพื่อน ซึ่งผมเป็นคนค่อนข้างเฟรนลี่ก็เลยคุยไปปกติเหมือนกับเพื่อนๆทุกคน (ไม่มีการไปให้ความหวังเลยนะ) จนกระทั่งวันนึงเขามาบอกชอบผม บอกว่าผมนิสัยดีมากอย่างงั้น หน้าตาหล่อน่ารักอย่างงี้ (อวยเราสุดๆ...) เราซึ่งไม่มีประสบการณ์เรื่องพวกนี้ก็เลยบอกว่าเป็นเพื่อนกันก่อนดีกว่านะ
หลังจากนั้นก็เหมือนเพื่อนทั่วไป ทักทายช่วงเช้าและก็แค่ช่วงเย็นหลังเลิกงาน ซึ่งผมก็รู้สึกว่าไม่ปวดหัวดี ก็เพราะว่าพวกเรามันวัยทำงานแล้วนี่เนอะ ไม่ใช่ว่าต้องทักมาคุยกันตลอดเวลาแบบเด็กๆ
จนกระทั่งช่วงหลังเขาชอบพูดเรื่องเงินเพราะเขาอยู่ในสายงานไฟแนนซ์และโซนๆอสังหา เขาบอกว่าจขกท.เป็นคนที่มีความรู้ พูดอะไรมาก็คุยด้วยได้หมด แต่ทำไมไม่มีความสนใจในเรื่องเงินเลย ไม่มีความกระหายเงินหรือโลภเท่าที่ควร ทั้งๆที่มีความรู้แบบนี้ก็มีช่องทางหาเงินขึ้นได้ตั้งมากมาย? จขกท.ก็เลยอธิบายว่าชีวิตคนเรามันสั้น เงินเดือนจขกท.ก็ไม่ได้แย่เพราะทำงานอยู่ในบริษัทต่างชาติ แถมคิดว่ามีการบริหารจัดการเงินพอสมควรแล้ว (มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพหักเต็ม15% กองทุนรวม ประกันทั้งชีวิต/สุขภาพ/สะสมทรัพย์ สลากออมทรัพย์ ฯลฯ) ดังนั้นพอเลิกงานมาเลยอยากโฟกัสที่ความสุขในปัจจุบันมากกว่า เช่น คอลคุยกับเพื่อนๆอัพเดทชีวิต อยู่ในไลน์กลุ่มOpenChatที่ให้คำปรึกษากับคนป่วยซึมเศร้า เล่นพันทิปส่วนใหญ่ช่วงเย็นทุกวัน คอยช่วยเหลือคนอื่นเช่นรุ่นพี่รุ่นน้องที่มักจะทักมาให้ช่วยทำเรซูเม่หรือหางาน เลี้ยงสัตว์เลี้ยงและก็คุยกับครอบครัวบ้าง หมดเวลาไปกับเรื่องชาวบ้านซะส่วนใหญ่เพราะเราก็ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้เราจะตายหรือเปล่า เลยโฟกัสที่ความสุขส่วนตัวที่อยากทำมากกว่ามุ่งหาเงินเพียงอย่างเดียว
เขากลับบอกว่าเราอยู่ในคอมฟอร์ทโซนมากเกินไป ถ้าอีกหน่อยมีครอบครัวมีแฟนมันก็จะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม เราควรต้องเทรดหุ้น เทรดคริปโตเพิ่ม ไม่งั้นดีไม่ดีการเงินก็ไปกระทบกับแฟนอีก... เราต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตแบบนั้นแบบนี้ โฟกัสที่เงินมากขึ้นเพราะมันมีเรื่องเงินเฟ้อและค่าเงิน เศรษฐกิจ ฯลฯ เงินมันสำคัญมากกว่าที่ผมคิด ผมคิดน้อยเกินไป
ถึงประโยคนี้ผมก็เลยหงุดหงิดขึ้นมานิดนึงเพราะว่าผมก็อยู่ของผมอยู่ดีๆตั้งแต่แรก มีความสุขดีอยู่แล้ว ไม่เคยรบกวนเงินคนอื่นหรือคิดหยิบยืมใครเลย แถมยังสามารถส่งเงินให้ครอบครัวได้เดือนละ 5,000-10,000 ทุกเดือน อยู่ดีๆมีคนเข้ามาพูดใส่แบบนี้ก็เลยรู้สึกแปลกๆทำนองว่าเราใช้ชีวิตผิด แต่ก็ไม่อยากตัดสินเขาในแง่ลบ เพราะคิดว่าคนเราคงมีเป้าหมายชีวิตไม่เหมือนกัน
เลยอยากถามเพื่อนๆว่าคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้บ้างครับ ไม่ว่าผมจะผิดหรือถูก ผมก็พร้อมจะรับฟังครับ ขอบคุณครับ