คือเล่าก่อนว่าช่วงนึงเราต้องเริ่มอ่านหนังสือติวเพื่อนอ่านสอบของtgattpatเรามาเริ่มอ่านและติวก่อนที่จะสอบใน2เดือน แต่เราก็สู้นะเพราะเราเป็นdek67ที่เพิ่งเคยสอบเป็นครั้งแรกก็หัวหมุนเลย😆 ในช่วงนั้นเราก็ต้องไปเรียนด้วยบวกกับโรงเรียนก็มีกิจกรรมอีก ช่วงเวลาที่เราอ่านหนังสือติวคือ เริ่มตั้งแต่4ทุ่มถึงตี2-3เกือบๆทุกวันทำให้เวลาในการนอนน้อยมากๆ บวกกับเราต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปเรียนในทุกวัน เรื่องที่บ่นไปข้างต้นเป็นแค่บางส่วนแต่จริงๆ ในส่วนนึงที่ทำให้เราเหนื่อยมากๆคือการที่พ่อแม่จะมาถามตลอดว่า อ่านหนังสือรึยัง? ทำไมไม่อ่าน ลงมหาลัยนี้รึเปล่า? ทำportfolio ส่งมหาลัยต่างๆ ซึ่งมันเหนื่อยมากกกก ในการทำportแต่ละมหาลัยกฏก็จะต่างกันซึ่งทำให้ตัวเราที่ออกแบบportเองทั้งหมดทำรูปเล่มลงรูป มันเหนื่อยมากๆและเสียเวลาในการอ่านหนังสือเป็นที่สุด🥹 แต่เราก็กำใจทำเพราะแม่จะคอยพูดหรือถ้าไม่ทำตามที่บอกก็จะมาว่าและบ่นว่าทำๆไปมันไม่ได้เสียหายอะไรเลยหนิแต่ที่แน่ๆช่วงนั้นเราต้องส่งportถึง5แห่ง และไม่ติดเลย😆เพราะเรารู้ว่าผลงานระดับเราคงไม่ติดแต่เราก็ส่งเพราะไม่ส่งแม่ก็จะคอยมาว่าอยู่ตลอด พอถึงวันสอบเราก็โล่งมากๆ เพราะเรารู้สึกว่าเราทำเต็มที่!! ไม่รึเหมือนกันนะแต่เราภูมิใจในตัวเองสุดๆ😆มั่นมาก แต่พอว่าคะแนนออกเราก็ได้เกินครึ่งมานิเนึง🤌😆 แต่เราก็ไม่ได้เสียใจมากเท่าไหร่ จนไปบอกคะแนน พ่อกับแม่ตัวเองนี้ละ พอพูดปึ้บ “น้อยจัง” “คะแนนน้อยกว่าพี่เราอีกนะ”
ซึ่งมันเป็นอะไรที่ทำให้เราซึมมากๆถึงกับกินข้าวไม่ลงเหมือนมันจุกไม่รู้ทำไมน้ำตามันซึมเลย555 แต่เราก็อยากลืมแต่ลืมไม่ได้ มันทำให้ไฟในตัวเราให้ไปนิดนึง เพราะสนามสอบต่อไปคือ Alevel✨ เราติวหนังสือช่วงนั้นดึกสุดๆ มันเป็นช่วงที่เหนื่อยมาก แต่แม่เรากลับพูดวนๆว่าโควต้าลงหรือยังทำไมไม่ลง ทำไมไม่ติดตามข่าวบ้างว่ามหาลัยไหนเปิด ทำไมไม่ดูเลย คะแนนยิ่งน้อยๆอยู่ ซึ่งเขาไม่เข้าใจในระบบtgat แต่แม่เราซ้ำเติมเราตลอดเลยว่าคะแนนน้อยมากนะ ดูลูกบ้านนั้นสิคะแนนเยอะมากทำไมลูกเราไม่เหมือนน้อ เราเสียใจนะกับคำพูดต่างๆแต่เราทำอะไรไม่ได้ จนมีช่วงนึง ไม่รู้แม่ต้องการคำตอบยังไงเขามาโวยวายใส่เราว่าจะทำยังไงคะแนนน้อยแบบนี้ไปดูเกณฑ์แล้วทำไมไม่มาบอกแม่บลาๆ จนมีคำนึงที่เราจำเลยคือ
”คะแนนเท่านี้จะเอาอะไรไปติดมหาลัย“
มันเป็นคำที่เราฟังแล้วเราเสียใจมากที่สุดเลยเราฟังแล้วเราชาไปทั้งตัวเลยหูอื้อเลย555 อยากร้องไห้สุดๆ พอแม่หยุดว่าเรา เราก็มานั่งอ่านหนังสือต่อแต่พอเรานั่งอ่านมันกลับไม่เข้าสมองเลย ตอนช่วงเวลานั้นเราเหมือนความ ทะเยอทะยาน ความมีไฟในการติวหนังสือเราหายไปเลย มันเป็นคำพูดจากแม่ตัวเอง ที่เราได้ยินแล้วฝังใจมากๆ มันทำให้เด็กคนนึงที่ตั้งใจมากๆ มาพอฟังคำพูดนั้นกลับทำให้ รู้สึกท้อมากๆ มันเลยทำให้เราพักอ่านหนังสือเพราะคำนั้นมันจำฟังใจจริงๆ ช่วงนั้นแค่นึกก็ร้องไห้เสียใจสุดๆ มันทำให้เราไม่มีกำลังใจในการทำอะไรเลยจริงๆนะ เหนื่อยกายแล้วเหนื่อยใจอีก จนถึงวันสอบเราก็ยังเก็บเอาไปคิดตอนสอบเลย 🥹เกือบน้ำตาซึมหยดใส่กระดาษ555 แต่รอดมาได้จนสอบเสร็จ
ในปัจจุบันเราสอบเสร็จคะแนนก็ออกมาแล้วก็น้อยตามคาด แต่น้อยรอบนี้ไม่เหมือนรอบก่อนตรงที่เราไม่มีความสุขและเราท้อแท้ เราเหนื่อยใจ เราหมดไฟ คำพูดที่ว่า ”คะแนนเท่านี้จะเอาอะไรไปติดมหาลัย“ มันเป็นสิ่งที่ บั่นทอนจิตใจของเด็กคนนึงมากๆที่พยายามสุดความสามารถแล้วจริงแต่พอมาพูดแบบนี้ทำให้เด็นคนนึงหมดความพยานามลง
ยิ่งถ้าเป็นช่วงติวอ่านหนังสือวอบยิ่งไม่ควร แต่ควรsupport เขาจะดีกว่า🙏✌️
..ในตอนนี้เรายังฝังใจกับคำๆนี้อยู่ต้องทำยังไงถึงหายคะ พอดีพอคิดแล้วก็จะปวดหัวบ้าง อยู่ๆนั่งอยู่เฉยๆน้ำตาก็ไหลเลยก็มี แค่พูดประโยคออกมายังเสียงสั่นเหมือนจะร้องตลอดเลย ต้องทำยังไงถึงหายคะ🥹🙏
รู้สึกฝังใจจากคำๆนึงมากๆต้องทำยังไงคะ?🥹
ซึ่งมันเป็นอะไรที่ทำให้เราซึมมากๆถึงกับกินข้าวไม่ลงเหมือนมันจุกไม่รู้ทำไมน้ำตามันซึมเลย555 แต่เราก็อยากลืมแต่ลืมไม่ได้ มันทำให้ไฟในตัวเราให้ไปนิดนึง เพราะสนามสอบต่อไปคือ Alevel✨ เราติวหนังสือช่วงนั้นดึกสุดๆ มันเป็นช่วงที่เหนื่อยมาก แต่แม่เรากลับพูดวนๆว่าโควต้าลงหรือยังทำไมไม่ลง ทำไมไม่ติดตามข่าวบ้างว่ามหาลัยไหนเปิด ทำไมไม่ดูเลย คะแนนยิ่งน้อยๆอยู่ ซึ่งเขาไม่เข้าใจในระบบtgat แต่แม่เราซ้ำเติมเราตลอดเลยว่าคะแนนน้อยมากนะ ดูลูกบ้านนั้นสิคะแนนเยอะมากทำไมลูกเราไม่เหมือนน้อ เราเสียใจนะกับคำพูดต่างๆแต่เราทำอะไรไม่ได้ จนมีช่วงนึง ไม่รู้แม่ต้องการคำตอบยังไงเขามาโวยวายใส่เราว่าจะทำยังไงคะแนนน้อยแบบนี้ไปดูเกณฑ์แล้วทำไมไม่มาบอกแม่บลาๆ จนมีคำนึงที่เราจำเลยคือ
”คะแนนเท่านี้จะเอาอะไรไปติดมหาลัย“
มันเป็นคำที่เราฟังแล้วเราเสียใจมากที่สุดเลยเราฟังแล้วเราชาไปทั้งตัวเลยหูอื้อเลย555 อยากร้องไห้สุดๆ พอแม่หยุดว่าเรา เราก็มานั่งอ่านหนังสือต่อแต่พอเรานั่งอ่านมันกลับไม่เข้าสมองเลย ตอนช่วงเวลานั้นเราเหมือนความ ทะเยอทะยาน ความมีไฟในการติวหนังสือเราหายไปเลย มันเป็นคำพูดจากแม่ตัวเอง ที่เราได้ยินแล้วฝังใจมากๆ มันทำให้เด็กคนนึงที่ตั้งใจมากๆ มาพอฟังคำพูดนั้นกลับทำให้ รู้สึกท้อมากๆ มันเลยทำให้เราพักอ่านหนังสือเพราะคำนั้นมันจำฟังใจจริงๆ ช่วงนั้นแค่นึกก็ร้องไห้เสียใจสุดๆ มันทำให้เราไม่มีกำลังใจในการทำอะไรเลยจริงๆนะ เหนื่อยกายแล้วเหนื่อยใจอีก จนถึงวันสอบเราก็ยังเก็บเอาไปคิดตอนสอบเลย 🥹เกือบน้ำตาซึมหยดใส่กระดาษ555 แต่รอดมาได้จนสอบเสร็จ
ในปัจจุบันเราสอบเสร็จคะแนนก็ออกมาแล้วก็น้อยตามคาด แต่น้อยรอบนี้ไม่เหมือนรอบก่อนตรงที่เราไม่มีความสุขและเราท้อแท้ เราเหนื่อยใจ เราหมดไฟ คำพูดที่ว่า ”คะแนนเท่านี้จะเอาอะไรไปติดมหาลัย“ มันเป็นสิ่งที่ บั่นทอนจิตใจของเด็กคนนึงมากๆที่พยายามสุดความสามารถแล้วจริงแต่พอมาพูดแบบนี้ทำให้เด็นคนนึงหมดความพยานามลง
ยิ่งถ้าเป็นช่วงติวอ่านหนังสือวอบยิ่งไม่ควร แต่ควรsupport เขาจะดีกว่า🙏✌️
..ในตอนนี้เรายังฝังใจกับคำๆนี้อยู่ต้องทำยังไงถึงหายคะ พอดีพอคิดแล้วก็จะปวดหัวบ้าง อยู่ๆนั่งอยู่เฉยๆน้ำตาก็ไหลเลยก็มี แค่พูดประโยคออกมายังเสียงสั่นเหมือนจะร้องตลอดเลย ต้องทำยังไงถึงหายคะ🥹🙏