ขอเท้าความก่อนนะครับ คือเมื่อ 15 เมษายน 2567 ไปเสี่ยงมาจากร้านนวดแห่งหนึ่งที่มีบริการเสริมคือออรัลเซ็กส์ให้ผม
วันที่ 25 เมษายน 2567 ผมมีตุ่มนูนไต่ผิวหนังตามแขน ข้อมือ และมีการลอกของผิวหนังตรงข้อพับนิ้มมือ มีตุ่มแดงขึ้นฝ่าเท้า อวัยวะเพศมีจุดแดงไม่นูนผิวเรียบ 2 ที่ ก็เลยเกิดความสงสัยว่าเราแพ้เหงื่อยในช่วงหน้าร้อน หรือแพ้น้ำที่เล่นสงกรานต์มา เลยไปปรึกษาเภสัชกรร้านขายยาแห่งหนึ่งเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 ได้คำตอบว่าน่าจะติดดเชื้อซิฟิลิสนะ ลองเอาชุดตรวจเบื้องต้นไปตรวจก่อนนะคะ ผมชำระเงินและกลับบ้านพัก พอมาถึงก็ไม่รอช้าจัดการเจาะเลือดตรวจตามคู่มือหยดเลือดตามด้วยน้ำยาในตลับเทส ยังไม่ถึง 5 วินาที ขึ้น 2 ขีดเลยครับ จากนั้นก็ค้นหาการรักษา อาการและวิธีรักษาให้พอเข้าใจ
วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 ได้พบแพทย์ที่โรงพยาบาล ก็เล่าประวัติความเสี่ยงล่าสุด และย้อนหลังไปอีก 3 เดือน ก็คือผมขอสรุปสั้นๆละกันครับว่า ผมได้ย้ายมาทำงานต่างจังหวัด มีภรรยาและลูก 1 คน ก็เกิดความเหงาเป็นธรรมดา ก็เลยไปซุกซนที่ร้านนวดและจัดบริการเสริมโดยมีการออรัลเซ็กให้ ซึ่งไม่มีการร่วมเพศหรือสอดใส่ใดๆทั้งสิ้นในทุกครั้งที่ไป (กลัวนำโรคกลับไปติดภรรยา) ความถี่ 2-3 อาทิตย์ต่อ 1 ครั้ง เปลี่ยนหมอนวดไปเรื่อยๆ จนครั้งล่าสุด 15 เมษายน ที่ผ่านมา คุณหมอก็บอกว่าผมน่าจะได้รับเชื้อมานานแล้ว ก็เลยสั่งเจาะเลือดตรวจหาซิซิลิส และเชื้อ HIV พร้อมกันเลย และกลับมาฟังผลตอนช่วงบ่ายปรากฏว่า เชื้อ HIV negative แต่เชื้อซิฟิลิส positive ได้ค่าไตเตอร์ 1:32 คุณหมอก็มาขอดูรอยโรคที่ขึ้นตามนิ้วและข้อมือ (แผลขึ้นไม่เยอะครับคล้ายๆแผลยุงกัด) แต่มีขอบที่ชัดเจน บางจุดก็เกิดรอยคล้ำแห้งไปแล้ว และสั่งจ่ายยา penicillin g 1.2 จำนวน 6 โดส และนัดมาติดตามอาการอีก 3 เดือน ช่วงนั้นกลับบ้านเพียงครั้งเดียวและภรรยาเป็นประจำเดือนพอดีเลยไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ด้วย และภรรยาเคยบอกไว้ตอนย้ายมาทำงานต่างจังหวัดว่าเที่ยวได้แต่ป้องกันด้วยนะและห้ามมีเป็นตัวเป็นตนอุ้มลูกกลับมาล่ะ
ผมก็มาชำระเงินและได้รับยาไปฉีดที่ห้องฉีดหาทำแผลของทางโรงพยาบาล ก็ยื่นใบคิวและยาทั้งหมดให้ พยาบาลก็อธิบายให้ฟังว่าต้องฉีดเข้ากล้ามเนื้อที่สะโพงข้าทั้ง 2 ข้าง จะมีอาการปวดเมื่อฉีดเข้าไปแต่จะผสมยาชาเข้ากับตัวยาไปด้วยเพื่อลดความปวดให้ก่อน ผมแอบเห็นพยาบาลปรุงยาเย่าขวดแบบแรงมาก พอก็หันมาบอกผมว่าเข็มใหญ่หน่อยนะเพราะยามันมีความข้นและหนืดมาก พอดูดเสร็จก็เช็ดด้วยแอลกอฮอล์และปักเข็มไปที่สะโพกทันที ผมไม่รู้สึกปวดแต่งอย่างใด รู้สึกเพียงว่ายามันเข้าสู่สะโพกผมแล้ว ใช้เวลาข้างละไม่เกิด 10 วินาที พยาบาลก็ถามว่าปวดไหมคะ ผมตอบไปว่าไม่ครับแต่รู้สึกปวดขัดที่สะโพกนิดหน่อยตอนถลกกางเกงขึ้น และบอกให้นั่งพักรอดูอาการ 15 นาที และก็ออกใบนัดให้มาชีดอีกทีในอาทิตย์ต่อไป คือ 9 พฤษภาคมคม 2567
พอมาถึงที่รถก็วีดิโอคอลไปเล่าการติดเชื้อซิฟอลิสและการรักษาให้ภรรยาฟังและพนมมือสวยๆขอโทษภรรยาที่ผมไม่ระวังตัว ภรรยาผมก็บอกว่าไม่เป็นไร มันรักษาหายได้ ค่อยๆรักษาไป แต่ห้ามมีครั้งต่อไปอีกนะ ภรรยาก็โอ๋ๆผมด้วยน้ำเสียงที่ดุดันนิดนึง
พอขับรรถกลับมาถึงบ้านก็รู้สึกปวดที่สะโพกมากขึ้นจนถึงตอนเข้านอน คือต้องนอนคว่ำอย่างเดียวเลยครับ นอนหงายหรือตะแคงจะปวดมาก ปวดจนกล้ามเนื้อสะโพกกระตุกเป็นจังหวะ กินยาแก้ปวดไป 2 เม็ก็ไม่หาย และก็ได้หลับไปไปในมี่สุด
หลังจากฉีดครั้งที่ 1 ไป 1-3 วัน ก็ยังไม่รู้สึกถึงอาการอะไรมากปกติทุกอย่าง แต่แผลตุ่มที่มีขอบเริ่มแห้ง ตุ่มใหม่ที่ขึ้นมาใหม่ไม่กี่ชั่วโมงก็หายไป ส่วนรอยโรคที่เกิดขึ้นก่อนก็เริ่มแห้งจนเป็นรอยแผลสีน้ำตาลเข้ม บางจุดก็เรียบเนีนนไปกับผิวทิ้งแต่รอยไว้
วันที่ 9 พฤษภาคม 2567 นัดฉีดครั้งที่ 2 พี่พยาบาลผสมยาใช้วิธีเดิมในการฉีด แต่ครั้งนี้ปวดขัดที่สะโพกเร็วมากพอ 1 ชั่วโมงผ่านไป มีอาการปวดมาก ปวดจนน้ำตาเร็ด กล้ามเนื้อสะโพกทั้ง 2 แข่งกันกระตุกเป็นจังหวะเลย 2-3 ชั่วโมงค่อยทุเลาลง หลังจากฉีดในครั้งที่ 2 ตื่นเช้ามาพบอาการฝ่ามือ ส้นเท้า แห้งเป็นขุย รอยโรดเดิมมีขอบและเหมือนมันจะลอกออก ผิวหนังบริเวนแผลแห้ง ข้อพับตรงข้อศอกทั้ง 2 ข้าง มีรอยแดงผิวสากๆแห้งมาก มีรอยแดงใหม่ขึ้นตามตัว และมีอาการคันยิบๆ ทั่วร่างกายรวมใบหน้าและศีรษะด้วย ไอ้ผมก็เกาบ้างในตอนที่เผลอตัว
เดี๋ยวจะมาอัปเดตอาการหลังฉีดยาครั้งต่อไปให้นะครับ
**เลยอยากถามผู้รู้หรือผู้เคยมีประสบการณ์ว่า หลังจากฉีดยามีอาการข้างต้นอย่างไรบ้าง และอาการหลังฉีดยาครั้งที่ 1-2 ของผมมันปกติไหมครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
การรักษาโรคซิฟิลิส อาการหลังจากฉีดยาแต่ละครั้งเป็นไงบ้าง????
วันที่ 25 เมษายน 2567 ผมมีตุ่มนูนไต่ผิวหนังตามแขน ข้อมือ และมีการลอกของผิวหนังตรงข้อพับนิ้มมือ มีตุ่มแดงขึ้นฝ่าเท้า อวัยวะเพศมีจุดแดงไม่นูนผิวเรียบ 2 ที่ ก็เลยเกิดความสงสัยว่าเราแพ้เหงื่อยในช่วงหน้าร้อน หรือแพ้น้ำที่เล่นสงกรานต์มา เลยไปปรึกษาเภสัชกรร้านขายยาแห่งหนึ่งเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 ได้คำตอบว่าน่าจะติดดเชื้อซิฟิลิสนะ ลองเอาชุดตรวจเบื้องต้นไปตรวจก่อนนะคะ ผมชำระเงินและกลับบ้านพัก พอมาถึงก็ไม่รอช้าจัดการเจาะเลือดตรวจตามคู่มือหยดเลือดตามด้วยน้ำยาในตลับเทส ยังไม่ถึง 5 วินาที ขึ้น 2 ขีดเลยครับ จากนั้นก็ค้นหาการรักษา อาการและวิธีรักษาให้พอเข้าใจ
วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 ได้พบแพทย์ที่โรงพยาบาล ก็เล่าประวัติความเสี่ยงล่าสุด และย้อนหลังไปอีก 3 เดือน ก็คือผมขอสรุปสั้นๆละกันครับว่า ผมได้ย้ายมาทำงานต่างจังหวัด มีภรรยาและลูก 1 คน ก็เกิดความเหงาเป็นธรรมดา ก็เลยไปซุกซนที่ร้านนวดและจัดบริการเสริมโดยมีการออรัลเซ็กให้ ซึ่งไม่มีการร่วมเพศหรือสอดใส่ใดๆทั้งสิ้นในทุกครั้งที่ไป (กลัวนำโรคกลับไปติดภรรยา) ความถี่ 2-3 อาทิตย์ต่อ 1 ครั้ง เปลี่ยนหมอนวดไปเรื่อยๆ จนครั้งล่าสุด 15 เมษายน ที่ผ่านมา คุณหมอก็บอกว่าผมน่าจะได้รับเชื้อมานานแล้ว ก็เลยสั่งเจาะเลือดตรวจหาซิซิลิส และเชื้อ HIV พร้อมกันเลย และกลับมาฟังผลตอนช่วงบ่ายปรากฏว่า เชื้อ HIV negative แต่เชื้อซิฟิลิส positive ได้ค่าไตเตอร์ 1:32 คุณหมอก็มาขอดูรอยโรคที่ขึ้นตามนิ้วและข้อมือ (แผลขึ้นไม่เยอะครับคล้ายๆแผลยุงกัด) แต่มีขอบที่ชัดเจน บางจุดก็เกิดรอยคล้ำแห้งไปแล้ว และสั่งจ่ายยา penicillin g 1.2 จำนวน 6 โดส และนัดมาติดตามอาการอีก 3 เดือน ช่วงนั้นกลับบ้านเพียงครั้งเดียวและภรรยาเป็นประจำเดือนพอดีเลยไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ด้วย และภรรยาเคยบอกไว้ตอนย้ายมาทำงานต่างจังหวัดว่าเที่ยวได้แต่ป้องกันด้วยนะและห้ามมีเป็นตัวเป็นตนอุ้มลูกกลับมาล่ะ
ผมก็มาชำระเงินและได้รับยาไปฉีดที่ห้องฉีดหาทำแผลของทางโรงพยาบาล ก็ยื่นใบคิวและยาทั้งหมดให้ พยาบาลก็อธิบายให้ฟังว่าต้องฉีดเข้ากล้ามเนื้อที่สะโพงข้าทั้ง 2 ข้าง จะมีอาการปวดเมื่อฉีดเข้าไปแต่จะผสมยาชาเข้ากับตัวยาไปด้วยเพื่อลดความปวดให้ก่อน ผมแอบเห็นพยาบาลปรุงยาเย่าขวดแบบแรงมาก พอก็หันมาบอกผมว่าเข็มใหญ่หน่อยนะเพราะยามันมีความข้นและหนืดมาก พอดูดเสร็จก็เช็ดด้วยแอลกอฮอล์และปักเข็มไปที่สะโพกทันที ผมไม่รู้สึกปวดแต่งอย่างใด รู้สึกเพียงว่ายามันเข้าสู่สะโพกผมแล้ว ใช้เวลาข้างละไม่เกิด 10 วินาที พยาบาลก็ถามว่าปวดไหมคะ ผมตอบไปว่าไม่ครับแต่รู้สึกปวดขัดที่สะโพกนิดหน่อยตอนถลกกางเกงขึ้น และบอกให้นั่งพักรอดูอาการ 15 นาที และก็ออกใบนัดให้มาชีดอีกทีในอาทิตย์ต่อไป คือ 9 พฤษภาคมคม 2567
พอมาถึงที่รถก็วีดิโอคอลไปเล่าการติดเชื้อซิฟอลิสและการรักษาให้ภรรยาฟังและพนมมือสวยๆขอโทษภรรยาที่ผมไม่ระวังตัว ภรรยาผมก็บอกว่าไม่เป็นไร มันรักษาหายได้ ค่อยๆรักษาไป แต่ห้ามมีครั้งต่อไปอีกนะ ภรรยาก็โอ๋ๆผมด้วยน้ำเสียงที่ดุดันนิดนึง
พอขับรรถกลับมาถึงบ้านก็รู้สึกปวดที่สะโพกมากขึ้นจนถึงตอนเข้านอน คือต้องนอนคว่ำอย่างเดียวเลยครับ นอนหงายหรือตะแคงจะปวดมาก ปวดจนกล้ามเนื้อสะโพกกระตุกเป็นจังหวะ กินยาแก้ปวดไป 2 เม็ก็ไม่หาย และก็ได้หลับไปไปในมี่สุด
หลังจากฉีดครั้งที่ 1 ไป 1-3 วัน ก็ยังไม่รู้สึกถึงอาการอะไรมากปกติทุกอย่าง แต่แผลตุ่มที่มีขอบเริ่มแห้ง ตุ่มใหม่ที่ขึ้นมาใหม่ไม่กี่ชั่วโมงก็หายไป ส่วนรอยโรคที่เกิดขึ้นก่อนก็เริ่มแห้งจนเป็นรอยแผลสีน้ำตาลเข้ม บางจุดก็เรียบเนีนนไปกับผิวทิ้งแต่รอยไว้
วันที่ 9 พฤษภาคม 2567 นัดฉีดครั้งที่ 2 พี่พยาบาลผสมยาใช้วิธีเดิมในการฉีด แต่ครั้งนี้ปวดขัดที่สะโพกเร็วมากพอ 1 ชั่วโมงผ่านไป มีอาการปวดมาก ปวดจนน้ำตาเร็ด กล้ามเนื้อสะโพกทั้ง 2 แข่งกันกระตุกเป็นจังหวะเลย 2-3 ชั่วโมงค่อยทุเลาลง หลังจากฉีดในครั้งที่ 2 ตื่นเช้ามาพบอาการฝ่ามือ ส้นเท้า แห้งเป็นขุย รอยโรดเดิมมีขอบและเหมือนมันจะลอกออก ผิวหนังบริเวนแผลแห้ง ข้อพับตรงข้อศอกทั้ง 2 ข้าง มีรอยแดงผิวสากๆแห้งมาก มีรอยแดงใหม่ขึ้นตามตัว และมีอาการคันยิบๆ ทั่วร่างกายรวมใบหน้าและศีรษะด้วย ไอ้ผมก็เกาบ้างในตอนที่เผลอตัว
เดี๋ยวจะมาอัปเดตอาการหลังฉีดยาครั้งต่อไปให้นะครับ
**เลยอยากถามผู้รู้หรือผู้เคยมีประสบการณ์ว่า หลังจากฉีดยามีอาการข้างต้นอย่างไรบ้าง และอาการหลังฉีดยาครั้งที่ 1-2 ของผมมันปกติไหมครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ