กลยุทธ์ marketing ที่ทำให้คนทะเลาะกัน ของ Netflix และ โน๊ต อุดม

ผมจะให้ดูว่าคนกำลังโดนหลอกให้ทะเลาะกันเองยังไง 

บทสรุปเรื่องนี้คือ มีคนที่มีแต่ได้กับได้ คือ netflix กับ โน๊ต นะครับ 

#1 ทุกคนที่ดูจะบอกว่า "ก่อนวิจารณ์ให้ไปดูเต็มๆ ก่อน" แทบทุกคน เพราะอะไร 
ก็เพราะว่า ads ที่ยิงออกมาก่อนหน้านี้ มันไม่เหมือนกันเนื้อหาจริง ยังไงหละครับ 

แล้วใครเป็นคนยิง ads ?



#2 ถ้าผมเปลี่ยนคำ quote ด้านบนจาก

"ไอ่คนรุ่นใหม่เนี่ย สิ่งที่ทำได้อย่างเดียว คือ" 

"ช่วยทำตัวน่ารักๆ ไม่ต้องมาประท้วง ไม่ต้องโพส x ให้ผู้ใหญ่เอ็นดูอยู่ก็พอ"

รับรองว่าทัวร์ gen z ลงทันที เพราะอะไร 

คือคน ไม่ได้จะมีเวลาไปเปิด netflix ดู 2 ชม เพื่อดูตลก ไงครับ แต่อย่างที่บอก พอมีคนออกมาด่า ก็มีคนไล่ไปดู netflix -> คนได้ก็คือคนเดิม 

#3 เอาจาน เอากล่องไปคืน 

เห็นมีโพสกันบอกว่า คนแก่ เป็นคนบอก โวยวาย ว่าจะเอาจาน เอากล่องไปคืน เป็นเรื่องตลก ซึ่งเอาจริงๆ นะ

ยังหาตัวไม่ได้เลย ว่าใครมันเริ่มพูด (ไม่นับว่าเป็นการดูถูกคน ที่ไม่รู้ เพราะไม่ใช่ทุกบ้านที่มี smart tv หรือเอา tv ต่อคอม) 

แต่คนที่ถ่ายรูปเอาจานไปคืน ก็มีอยู่คนเดียว 



และประโคมข่าวทุกสื่อ ว่าทนไม่ไหว 

สุดท้ายเรื่องนี้สังคมได้อะไรจาก marketing campaign นี้ครับ 

เด็กๆได้รู้ว่า คนแก่ที่ออกมามันโง่อย่างนั้นเหรอ สะใจกันมาก ที่เห็นออกมาดิ้น แบบนี้เหรอ 

ได้พูดออกมาในสิ่งที่คิดลึกๆ แบบนั้นเหรอ 

สังคมไม่ได้อะไรจากการโดนหลอกให้ทะเลาะกันเลยนะครับ คนได้มีอยู่แค่ โน๊ต ที่สร้างฐานลูกค้า gen z ได้มากขึ้น และ netflix ได้ traffic 

หยุดคิดซักนิด อย่าเป็นเหยื่อ marketing ครับ

-- 

เคยอ่านมาว่าทีม creative marketing ของ netflex ในไทยไม่ธรรมดา ครั้งนี้เห็นได้ชัดทำได้ไปไกลจริง โดยไม่สนใจผลกระทบต่อสังคมใดๆ 

ไม่จำเป็นต้องดราม่าต่อ ขอแบบแฟร์ๆ ละกันนะ สำหรับทีมงาน และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ที่ทำการตลาดแบบนี้ 
ในวันที่ครอบครัวคุณเปราะบางมากที่สุด ขอให้ผลในสิ่งที่คุณทำในวันนี้กลับคืนสู่ตัวเองและครอบครับ ใครคิด ทำอะไรย่อมรู้อยู่แก่ใจ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่