Elfin lake trip  เรียกได้ว่าเป็นทริปที่โหดสุดตั้งแต่มิ้วผจญภัยมาเลย
ใช้เวลา reflect ตกตะกอนหลายวัน พร้อมพักร่างและหลังพังๆ ด้วย วันนี้พร้อมมาเขียนให้ทุกคนอ่านกันแล้ว!!!

ทริปนี้ เราไปกัน 3 days 2 nights เป็น field trip ของ MEC ที่นี่จะเน้นให้คนออกไปใช้ชีวิตข้างนอก (get outside) พร้อมทดสอบ gears ที่เราขายอยู่ รวบครบทุกกิจกรรมไม่ว่าจะเป็น hiking, camping, climbing, cycling, watersports, snowsports and travel

https://www.mec.ca/en
Website ค่ะ เผื่อใครนึกภาพไม่ออกกก มีทุกกิจกรรม 

คำโปรยก่อนมิ้วสมัครงาน ที่นี่คือมันคือ hub for outdoor community ที่รวมผู้คนที่รักการผจญภัย และกิจกรรม outdoor จริงๆ 

มิ้วไม่เคยเจอ workplace ที่คนรักและหลงใหลในสิ่งที่ทำขนาดนี้มาก่อน สังคม mec จึงอบอุ่นและสนุกมากๆ ไม่เคยเจอที่ไหนมี diversity and inclusivity มากขนาดนี้มาก่อน 

เพื่อนร่วมงานมิ้วมีทั้งคนจากประเทศอังกฤษ เม็กซิโก ปานามา ฮ่องกง เกาหลี โปแลนด์ แคนนาดา ญี่ปุ่น แอฟริกา รัสเซีย ฝรั่งเศส อินเดีย และดูไบ ทุกคนก็จะจ้อๆๆๆ คุยกันตลอดว่าไปทริปที่ไหนมา หรือมี bucket list ที่ไหน 

สถานที่ ที่มิ้วได้ยินบ่อย เรียกได้ว่าแทบจะเป็น bucket list ของคนที่นี่แทบทุกคนเลยคือ 

Pacific Crest trail (เราเรียกสั้นๆว่า PCT) - The Pacific Crest Trail spans 2,650 miles (4,265 kilometers) from Mexico to Canada through California, Oregon, and Washington

 
อันนี้ดังมากกกก เกือบทุกคน จะมาซื้อรองเท้า Zamberlan ที่ MEC แล้วไปกัน เดินกันเป็นเดือนๆ นี่คือเทรลชื่อดังชองฝั่ง NA ค่ะ (North America)

กับอีกที่คือ 

Camino trail - El Camino de Santiago (a.k.a. the Way of St. James) begins at Saint Jean Pied de Port, France, and travels 500 miles through four of Spain's 15 regions, ending at the Cathedral of Santiago de Compostela in Galicia 
นี่ก็ดังมาก ของทางฝั่งยุโรป เริ่มเดินจากฝรั่งเศสไปยังสเปน มีหลายรูท ลองศึกษาดู ถ้ารูทง่ายหน่อยคือรูท Portugal 


กลับมาที่ทริปของเรา ทริปนี้เป็น backpacking + winter camping trip ครั้งแรกของมิ้วที่ต้องแบกกระเป๋าเอง 20 kg + elevation gain 500m

เดินบนหิโม๊ะหนาตึบ ตอนแรกคิดว่าจิ๊บๆ เพราะ grouse mountain (ที่ hiking ที่ขึ้นชื่อว่าชัน และเป็นระดับกลางของที่นี่ค่ะ ไม่เหมาะกับ beginner)

มิ้วก็ไปพิชิตมาแล้ว!! แต่นี่มันไม่ใช่ มันมาพร้อมกับแบ็คแพ็ค และความชัน

เพื่อนบอก ยูไป grouse ยูเดินบนบันได กับไม่มีแบคแพคและหิมะนะ มิ้วเลยเออว่ะ จริงของเธอ
มิ้วตื่นเต้นมากกกๆๆๆๆๆ เริ่มแพคของ ยืมของเพื่อนล่วงหน้าเป็นอาทิตย์ เพราะเรามันมือใหม่ไม่มีประสบการณ์มาก่อน ไหนจะลองแพ็ค ลองแบก ไม่รู้ต้องแต่งตัวยังไง วุ่นๆๆ ลองนู่นนี่นั่น ไม่อยาก overheated ร่างกายตัวเอง หรือว้าๆวุ้นๆ แต่งไปเดินไปหนาวเกินอีก ประสาทจะกินเอา 

เรามันสาวไทย อยู่เมืองร้อนมา 25 ปีมาเจอ อุณหภูมิ 2-3 c ก็วางแผนไม่ถูกสิคะขุ่นแม่ 

 Day 1 

ตื่นละค่ะ เกียมตัว!! แบกกระเป๋าขึ้นบัสไปที่ทำงาน ใส่รองเท้า hiking boots เรียบร้อย

เรานัดเจอกันที่ mec ตอน 8.30 am

เช็คของ important gears ต่างๆนานาๆ อย่างเช่น พวก fuel, นกหวีด emergency blanket, microspike, snowshoes and so on. ใครขาดอะไรยังไม่มีอะไร พร้อมไหม 

จริงๆก่อนวันเดินทางเรามีการนัดประชุมกันเพื่อ ตกลง พูดคุย ว่าเราเข้าใจตรงกันไหมอะไรยังไง วันที่2 แพลนหลวมๆไว้ว่าจะ hike สำรวจแอเรียรอบๆ แต่เดี๋ยวดูอีกทีว่าใครอยากไป ไม่อยากไปบ้าง (ตอนนั้นมิ้ว ยกมือเลย ชั้นไป!!! แต่หารู้ไม่ว่า ภาวะสู่ขิตกลางหิโม๊ะ จะมาเยือนดิชั้นแล้วค่า) 

โอเคร พอเราบอกว่าต้องการไปสำรวจแอเรียรอบๆ จะต้องมี gear เพิ่มมาอีกนั่นคือ avi gear = avalanche gear 
ประกอบไปด้วย 

- Beacons. Beacons (also known as avalanche transceivers) are electronic devices that are designed to both send and receive radio frequencies. เครื่องรับส่งสัญญาณ เพื่อหาคนที่ถูกหิมะ ปกคลุม หรือหลุดลงไปในโพรงข้างใต้ 

- Probes. Once you locate the buried victim with your beacon, it is time to pinpoint their location with a probe strike. ตัวนี้คล้ายๆเสาที่เอาไว้ปัก ว่ามีคนอยู่ตรงนี้นะ หลังจากจับสรญญาณของเค้าได้จากเครื่องบีคอนของเรา 

- Shovels พลั่ว 

ตอนแรกมิ้วก็ยังไม่เข้าใจ ทำไมต้องพกเยอะขนาดนี้ หนักอีก พอไปอยุ่ท่ามกลางเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ

มันอันตรายจริงๆ สวยแบบอันตรายอะ นึกออกป่ะ *เปิดเพลง dangerous woman - Adriana ขึ้นมาเลย ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรบ้าง safety first ค่ะ!
พอเช็คของเรียบร้อยเราก็ออกเดินทางกันเลย รถ2 คัน 9 นักผจญภัย!!! 

ต้องมี 2 คนในกรุ้ปที่มี First aid cert กับ avalanche cert ผ่านคอร์สอบรมมาแล้ว 

เอาของลงหลังรถ ออกเดินทางกัน!! มิ้วจำได้ล่าสุดตอนที่มิ้วนั่งรถออกไป hiking แบบนี้คือตอนที่ไป Joffre lake ปีที่แล้ว ครั้งนี้เราออกไปทางเดิมคือ Squamish ยังจำทางตรงนี้ได้ที่มีอุโมงค์ แล้ววิวภูเขาที่มีหิมะปกคลุมตัดกับทะเลสาบอันสวยงามอยู่ด้านล่าง 

ธรรมชาติที่แคนนาดามันสวยจริงๆนะ อยากให้มาเห็นกับตาตัวเองสักครั้ง

วิวระหว่างทางงง

เราแวะดื่มกาแฟกันที่ คาเฟ่ตรง Squamish แวะเติมพลัง กาแฟ แซนวิช มัฟฟิน ก่อนที่จะเริ่มเผาผลาญอย่างแรงเหมือนเตาอบพิซซ๋า



มิ้วและ แอน

อีตาหนุ่มทางขวา ชื่อ เบน ค่ะ  นักจ้อประจำทริป มันไม่หมดแรงพูดเลย ง๊ง 


วิวด้านนอกกก แดดจ้ามาก อากาศเป็นใจ!! 
ทานเสร็จเราเตรียมออกเดินทาง ล้อหมุนอีกรอบ 

ขับรถต่อไปอีกประมาณ 30 min ก่อนที่จะจอดรถที่ Trail head แล้วเริ่มเดินขึนไปกัน 

นี่คือแผนที่การเดินคร่าวๆ จอดรถทิ้งไว้ 2 คืน แล้วเราจะเดินเข้ากันไปยัน Elfin Lake shelter ค่ะ