เมื่อก่อนการเขียนภาพให้สวยเนี้ยมันต้องใช้เวลาพอสมควรเลย ถึงจะวาดภาพสวยๆ ได้ภาพหนี่ง จำได้ว่าสมัยเด็กๆ ถ้าจะวาดภาพคนผมจะวาดรูปแบบหัวกลมๆ ตัวขีดๆ ผมว่าทุกคนต้องผ่านจุดนั้นมา
พอวาดได้ เราจะเริ่มวาดบ้านก่อน บ้านที่มันเป็นแบบสีเหลี่ยมหลังคาสามเหลี่ยมและมีหน้าต่างสี่เหลี่ยม ประตู สิ่งที่ลืมไม่ได้คือภูเขาสองลูกด้านหลัง และพระอาทิตย์ ถ้าอยากเพิ่มอย่างอื่นหน่อยต้องมี แม่น้ำข้างๆ บ้านสักหน่อย เอาหละสูตรสำเร็จ (ฮา)
หลังจากนั้นเราก็จะเริ่มวาดหมา วาดแมว วาดนก ภาพหน้าตรง เริ่มสวยขึ้น หน้าคนของเราอย่างกลมๆ เราก็จะมี จมูก มีหู มีตา แล้วเราก็พัฒนาไปเรื่อยๆ
บางคนก็เรียนศิลปะ บางคนก็ฝึกเอง มันไม่มีทางลัด มีแต่ต้องฝึกฝน เรียนรู้ สร้างคาเร็กเตอร์ตัวละคน เมื่อก่อนคนเราฝึกวาดรูปจากโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เช่น illustrator ,photoshop หรือโปรแกรมอื่นๆ การตกแต่งการตัดต่อ แต่ปัจจุบัน มีสิ่งที่สร้างสรรค์ได้เร็วกว่ามนุษย์มาก สิ่งนั้นคือ AI
โปรแกรม AI เริ่มเข้ามามีบทบาท เริ่มจาก Chat GPT ที่ฉลาดเกิดตัว การเขียนcode การตอบคำถามต่างๆ การเขียนบทความ เพียงเราพิมพ์คำสั่งไม่กี่คำ
ปัจจุบันมันไปเร็วมาก เวลาไม่นานมันเริ่มสร้างภาพ สร้างเพลง สร้างแม้แต่คลิปวีดีโอ ได้แล้ว แล้วพวกนักวาดจะทำอย่างไร เพราะแม้ว่าภาพวาดของเราจะสวยงาม แต่เราต้องใช้เวลาอย่างน้อยก็เป็นชั่วโมง แต่ว่า AI มันสร้างได้ระดับวินาทีด้วยซ้ำ
แม้หลายๆคนจะบอกว่า พวกนี้ภาพแข็งกระด้าง ไม่มีชีวิตชีวาอันนั้นนะใช่ แต่ก็แค่ตอนแรก ตอนนี้มันพัฒนาไวมาก จนเราแทบจะแยกไม่ออกว่า อันนี้ภาพวาดจากคนจริงๆ หรือว่า ภาพทีสร้างจาก AI กันแน่
แม้จะบอกว่า ภาพทีวาดด้วยภู่กัน ด้วยสีจริงๆ อย่างไร ก็สวยกว่า ม้นก็จริง แต่ว่าหากเป็นภาพดิจิตอลทีอยู่มน โซเชียลมีเดียแล้วละก็ เรียกว่าสู้ไม่ได้เลย เพราะการที่บางคนที่ใช้โปรแกรมวาดรูป ก็จะต้องเสียเวลา และใช้เทคนิคที่เคยเรียนมาในมหาลัย การจัดลำดับภาพ การใส่สีที่เข้ากัน ต้องผ่านการคิด การจัดวางภาพ ใช้ทัศนศิลป์ ทำงานนาน ก็มีความเหนื่อยล้า แต่ AI มันไม่เหนื่อยแถมสร้างภาพทีเดียวได้หลายๆภาพ ให้เราเลือก ไม่ต้องบรีฟงานให้เหนื่อย
ส่วนเรื่องสร้างภาพบิดเบี้ยวมือมีหกนิ้วอะไร แบบนี้ บอกได้คำเดียวว่าถ้าอัตราการพัฒนายังเป็นระดับนี้อยู่ อีกไม่ช้าไม่นานเกินรอ มันจะวาดรูปได้สัดส่วนยิ่งกว่าคนฝึกวาดรูปมาเป็นปีๆ เสียอีก
ส่วนเรื่องการพัฒนาอื่นๆ ที่ไปไกลกว่าแค่ภาพวาดก็มี แต่ไม่อยากพูดถึงในตอนนี้ เพราะตอนนี้ การจะหาภาพนางแบบเหมือนจริงมาเป็นแบบเสื้อผ้าแบรนด์ของเราเอง แทบไม่ต้องเสียเงินจ้าง สามารถสร้างขึ้นมาด้วยการพิมพ์คำสั่งอีกด้วย
ที่เขียนมาทั้งหมดนี้ไม่ได้หมายความ งานศิลปะจะหายไปหรอกนะครับ เพียงแต่ว่า ศิลปะ จะกลายเป็นศิลปะจริงๆ เป็นศิลปะที่เฉพาะคนกลุ่มที่ชอบและลุ่มหลงกับมันจะยังคงเสียเงิน เพื่อซื้อมาสะสมเหมือนเดิม ศิลปะที่เป็นผลงานของศิลปะระดับโลกก็ยังคงมีคุณค่าเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไป นิทัศการศิลปะ จะยังมีคนเยี่ยมชม แต่ศิปละเพื่อการพานิชย์ เท่านั้นที่กำลังจะเปลียนไปอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ เพราะการพานิชย์คือการแข่งขันคือการค้า การลดต้นทุน ความเร็วในการผลิตสื่อ อย่างไรเสียการใช้ AI ทำงานแทนก็ไวกว่ามาก
ตัดขั้นตอนการจ้างคน ไม่ต้องรอใบเสนอราคา ไม่ต้องหาเวลามาประชุม ไม่ต้องเสียเงินค่าแก้งาน ไม่ต้องทนรองานอีกสองสัปดาห์ ไม่ต้องรออีเมลภาพต้นฉบับ แต่พิมพ์ แก้ พิมพ์ เพิ่มสิ่งที่ต้องการ ไม่ถึงนาทีก็ได้ภาพที่ต้องการ อาจจะใช้โปรแกรมเพิ่มอีกหน่อยแค่ใส่ตัวหนังสือ เพิ่มคำบรรยาย หลังจากนั้นก็เอางานไปใช้ได้เลย (ภาพประกอบบทความผมก็ใช้ AI สร้างเหมือนกัน)
ล่าสุดมีคนหลายคนสอนการใช้ AI generate ภาพขายในwebsite ชื่อดังอย่าง shuterstock , canva และอื่นๆอีกมากมาย
เมื่อเราอยู่ในยุคสมัยที่ AI วาดภาพ แล้วคนเรียนศิลปะ จะทำอย่างไร
พอวาดได้ เราจะเริ่มวาดบ้านก่อน บ้านที่มันเป็นแบบสีเหลี่ยมหลังคาสามเหลี่ยมและมีหน้าต่างสี่เหลี่ยม ประตู สิ่งที่ลืมไม่ได้คือภูเขาสองลูกด้านหลัง และพระอาทิตย์ ถ้าอยากเพิ่มอย่างอื่นหน่อยต้องมี แม่น้ำข้างๆ บ้านสักหน่อย เอาหละสูตรสำเร็จ (ฮา)
หลังจากนั้นเราก็จะเริ่มวาดหมา วาดแมว วาดนก ภาพหน้าตรง เริ่มสวยขึ้น หน้าคนของเราอย่างกลมๆ เราก็จะมี จมูก มีหู มีตา แล้วเราก็พัฒนาไปเรื่อยๆ
บางคนก็เรียนศิลปะ บางคนก็ฝึกเอง มันไม่มีทางลัด มีแต่ต้องฝึกฝน เรียนรู้ สร้างคาเร็กเตอร์ตัวละคน เมื่อก่อนคนเราฝึกวาดรูปจากโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เช่น illustrator ,photoshop หรือโปรแกรมอื่นๆ การตกแต่งการตัดต่อ แต่ปัจจุบัน มีสิ่งที่สร้างสรรค์ได้เร็วกว่ามนุษย์มาก สิ่งนั้นคือ AI
โปรแกรม AI เริ่มเข้ามามีบทบาท เริ่มจาก Chat GPT ที่ฉลาดเกิดตัว การเขียนcode การตอบคำถามต่างๆ การเขียนบทความ เพียงเราพิมพ์คำสั่งไม่กี่คำ
ปัจจุบันมันไปเร็วมาก เวลาไม่นานมันเริ่มสร้างภาพ สร้างเพลง สร้างแม้แต่คลิปวีดีโอ ได้แล้ว แล้วพวกนักวาดจะทำอย่างไร เพราะแม้ว่าภาพวาดของเราจะสวยงาม แต่เราต้องใช้เวลาอย่างน้อยก็เป็นชั่วโมง แต่ว่า AI มันสร้างได้ระดับวินาทีด้วยซ้ำ
แม้หลายๆคนจะบอกว่า พวกนี้ภาพแข็งกระด้าง ไม่มีชีวิตชีวาอันนั้นนะใช่ แต่ก็แค่ตอนแรก ตอนนี้มันพัฒนาไวมาก จนเราแทบจะแยกไม่ออกว่า อันนี้ภาพวาดจากคนจริงๆ หรือว่า ภาพทีสร้างจาก AI กันแน่
แม้จะบอกว่า ภาพทีวาดด้วยภู่กัน ด้วยสีจริงๆ อย่างไร ก็สวยกว่า ม้นก็จริง แต่ว่าหากเป็นภาพดิจิตอลทีอยู่มน โซเชียลมีเดียแล้วละก็ เรียกว่าสู้ไม่ได้เลย เพราะการที่บางคนที่ใช้โปรแกรมวาดรูป ก็จะต้องเสียเวลา และใช้เทคนิคที่เคยเรียนมาในมหาลัย การจัดลำดับภาพ การใส่สีที่เข้ากัน ต้องผ่านการคิด การจัดวางภาพ ใช้ทัศนศิลป์ ทำงานนาน ก็มีความเหนื่อยล้า แต่ AI มันไม่เหนื่อยแถมสร้างภาพทีเดียวได้หลายๆภาพ ให้เราเลือก ไม่ต้องบรีฟงานให้เหนื่อย
ส่วนเรื่องสร้างภาพบิดเบี้ยวมือมีหกนิ้วอะไร แบบนี้ บอกได้คำเดียวว่าถ้าอัตราการพัฒนายังเป็นระดับนี้อยู่ อีกไม่ช้าไม่นานเกินรอ มันจะวาดรูปได้สัดส่วนยิ่งกว่าคนฝึกวาดรูปมาเป็นปีๆ เสียอีก
ส่วนเรื่องการพัฒนาอื่นๆ ที่ไปไกลกว่าแค่ภาพวาดก็มี แต่ไม่อยากพูดถึงในตอนนี้ เพราะตอนนี้ การจะหาภาพนางแบบเหมือนจริงมาเป็นแบบเสื้อผ้าแบรนด์ของเราเอง แทบไม่ต้องเสียเงินจ้าง สามารถสร้างขึ้นมาด้วยการพิมพ์คำสั่งอีกด้วย
ที่เขียนมาทั้งหมดนี้ไม่ได้หมายความ งานศิลปะจะหายไปหรอกนะครับ เพียงแต่ว่า ศิลปะ จะกลายเป็นศิลปะจริงๆ เป็นศิลปะที่เฉพาะคนกลุ่มที่ชอบและลุ่มหลงกับมันจะยังคงเสียเงิน เพื่อซื้อมาสะสมเหมือนเดิม ศิลปะที่เป็นผลงานของศิลปะระดับโลกก็ยังคงมีคุณค่าเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไป นิทัศการศิลปะ จะยังมีคนเยี่ยมชม แต่ศิปละเพื่อการพานิชย์ เท่านั้นที่กำลังจะเปลียนไปอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ เพราะการพานิชย์คือการแข่งขันคือการค้า การลดต้นทุน ความเร็วในการผลิตสื่อ อย่างไรเสียการใช้ AI ทำงานแทนก็ไวกว่ามาก
ตัดขั้นตอนการจ้างคน ไม่ต้องรอใบเสนอราคา ไม่ต้องหาเวลามาประชุม ไม่ต้องเสียเงินค่าแก้งาน ไม่ต้องทนรองานอีกสองสัปดาห์ ไม่ต้องรออีเมลภาพต้นฉบับ แต่พิมพ์ แก้ พิมพ์ เพิ่มสิ่งที่ต้องการ ไม่ถึงนาทีก็ได้ภาพที่ต้องการ อาจจะใช้โปรแกรมเพิ่มอีกหน่อยแค่ใส่ตัวหนังสือ เพิ่มคำบรรยาย หลังจากนั้นก็เอางานไปใช้ได้เลย (ภาพประกอบบทความผมก็ใช้ AI สร้างเหมือนกัน)
ล่าสุดมีคนหลายคนสอนการใช้ AI generate ภาพขายในwebsite ชื่อดังอย่าง shuterstock , canva และอื่นๆอีกมากมาย