สื่อ กับการนำเสนอ วีดีโอ เรื่องราวบนถนน

มันมีเรื่องนึงที่เคยเกิดขึ้นจริง

กลางดึกคืนหนึ่ง มีคนทนไม่ไหวกับเสียงโวยวายที่ริมถนน เขาลุกออกไปดู เห็นคนตีกัน มีรถตำรวจเปิดไฟแว้บๆ เขาเลยเอาแฮนดี้แคมถ่ายไว้ เป็นตำรวจปะทะคนผิวดำบนถนน เทปนี้เขาเอาไปขายช่องทีวี เคทีแอลเอ ได้เอาไปออกอากาศเป็นที่แรก

ช่องทีวีเอาไปออกอากาศ ตัดส่วนหัวไปหลายวินาทีออกไป ทำให้เหลือแต่ส่วนที่เป็น "ตำรวจรุมฟาดคนผิวดำจมถนน" คนดำนั้นคือรอดนีย์คิง

คนแอลเอที่เห็นเทปนี้ไม่พอใจมาก เพราะเป็นอีกครั้งที่คนผิวดำโดนเล่น เมื่อก่อนนี้มีคนผิวดำโดนเจ้าของร้านชำเกาหลียิงกลางหลังตาย เพราะขโมยน้ำส้มหนึ่งขวด แต่ศาลก็ไม่ทำให้คนดำพอใจ

มีการตัดสินคดีรอดนีย์คิง ศาลให้ตำรวจไม่ผิด ผลคือแอลเอลุกเป็นไฟ ถนนคือเละ ฝรั่งขาว คนเกาหลี ยับเยิน ตำรวจหาย ทหารมาแทน แถมมาช้าด้วย

เมื่อการจราจลจบลง มีการตั้งคำถามว่าทำไมคนถึงคลั่ง ที่ศาลไม่ให้ตำรวจผิด

คำตอบอยู่ในเทป

ส่วนหัวของเทปหลายวินาที ช่องทีวีตัดออกเพราะมันไม่ชัด แต่นั่นคือประเด็น ทนายจำเลยขอดูเทป จึงได้รู้ว่า รอดนีย์คิงลุกขึ้นมาหลังจากโดนปืนไฟฟ้าสองครั้ง พุ่งใส่ตำรวจหลายที ลูกขุนจึงให้ตำรวจไม่ผิด เพราะรอดนีย์คิงมีพฤติกรรมอันตราย

แต่ประชาชนไม่ได้ดูส่วนที่ช่องทีวีตัดออกไป และทึกทักเอาเองว่าพวกเขาได้เห็นทั้งหมด ของเหตุการณ์บนถนนคืนนั้น

สื่อมีส่วนต้องรับผิดชอบต่อการนำเสนอ วีดีโอ ที่สร้างความสับสน เข้าใจผิด ต่อประชาชนหรือไม่ คำตอบคือ ไม่รู้หรอก

แต่พึงระลึกเสมอ เวลาดูข่าวทีวี ใครส่งคลิปมาให้เปิด คนที่ส่งนั่นล่ะ ถือคติ เปิดก่อนได้เปรียบ ทริม เอาส่วนพีคที่เราได้เปรียบเอาไปแจกสื่อ คดีจะเป็นไงก็ค่อยว่ากัน เผลอๆ มันพลิก แล้วสื่อก็หายหัว

เอาตามความจริงที่ จขกท เจอมา

จขกท เจอรถตัดหน้าเข้าซอย เฟสบุคของเทศบาลเอาคลิปไปลง เพราะคงเห็นว่าร้อยเวรมาขอคลิป

รู้ไหมว่า ร้อยคอมเมนต์ที่ด่าเราว่าไม่ระวังรถตัดหน้า หรือขับรถต้องระวังมอเตอร์ไซค์ พวกคนจนรกถนน ไม่มีราคาเลย เพราะอีกฟากของตาชั่ง ร้อยเวรให้ทางนั้นผิด ซ่อมรถให้เรา และทางนั้นมอบเงินมนุษยธรรมก้อนนึงเพื่อจบเรื่อง เพราะทำงานไม่ได้หนึ่งอาทิตย์

เนี่ย เทศบาลตั้งตัวเป็นสื่อ โพสเปิดเรื่องให้คนมาด่าฟรี เราจะไปต่อกรยังไง ชาวบ้าน vs ข้าราชการเชียวนะเว้ย แล้วนักคอมเมนต์มันจำลงสมองถาวรไปแล้วว่าเราเลว มีคนในซอยแวะมาดู มันยังเชื่อเลยว่าเราผิด เราก็แก้ข่าวไป ถึงยังงั้นสีหน้ามันก็ไม่เชื่อเรา

ทุกวันนี้คือเฟสบุคนั้นมันเปลี่ยนคนดูแล ลงคลิปแล้วปิดคอมเมนต์ คือ ยังเสี้ยนจะเป็นสื่ออยู่นั่นล่ะ ยอดติดตามมันมีค่าต่อตำแหน่งงานเค้ามั๊ง

ทุกวันนี้จึงได้แต่ทำใจกับสื่อ ทั้งบนทีวีและบนจอออนดีมานด์ ที่ทำทุกอย่างเพื่อเลี้ยงกิจการให้ดำเนินไป โดยไม่ต้องรีไรท์ บก ไม่อ่าน กดโพสสดๆ ลากท้ายด้วยไทด์อิน หรือยัดใส่รันดาว แล้วใช้นักเล่าข่าวมาปรุงด้วยลมปาก ยิ่งสื่อตั้งกันเอง เอามันส์ เอากระแส ไม่มีวิชาชีพ ไม่ต้องมีจรรยาบรรณ เจอตอก็ล้มเพจเป็นนินจา พอกางขาได้นานก็กร่าง เป็นบริษัททัวร์ไว้รุมสกรัมเหยื่อ

วิจารณญาณของผู้รับสารจึงเป็นสิ่งสำคัญ ความจริงนั้น มันเป็นความจริงของใคร มันใช่ความจริงของเราหรือ ลองเป็นคนในข่าวแล้วจะรู้ซึ้ง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่