คนที่ไม่ชอบเรา ลงงานตามเรา ปกติมั้ยคะ และเขาไม่ชอบเราเพราะเหตุผลนี้ค่ะ

ที่โรงเรียนเรามีกิจกรรมปฐมนิเทศ เขาขออาสาสมัครไปดูแล และทำกิจกรรมให้น้องๆใยสายการเรียนเดียวกัน เราเลยลงชื่อไป ตื่นมาวันรุ่งขึ้นคนที่ไม่ชอบเรามาลงต่อค่ะ ไม่ได้ลงแค่คนเดียวด้วย มีเพื่อนเขาอีก 2 คนค่ะ มันเป็นปกติมั้ยคะ พอเราเห็นชื่อเขาเราก็อ้ำๆอึ้งๆค่ะ ทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะไปดีมั้ย เพราะก่อนหน้านี้ เขาเคยเป็นเพื่อนเรามาก่อนค่ะ แต่ปัจจุบันเลิกคบกันแล้ว เขาทำเราอึดอัดมากๆค่ะ

ตอนที่เป็นเพื่อนก็เขาก็ชอบบังคับแบบนัยๆให้ตามเขาไปซะทุกอย่าง ทำอะไรก็ต้องรอทั้งๆที่เขาช้าอยู่คนเดียว พอไม่รอก็จะร้องไห้ค่ะ ( ปัจจุบันคิดว่าการทำแบบนี้มัน gaslight มากๆ ) แล้วเวลานัดมาทำงานกลุ่มที่บ้านเรา เขาก็เหมือนทำส่งๆ ถ้าไม่สั่งก็ไม่ทำ พอทำได้ไม่ถึงครึ่งก็ไปนอนแผ่ ทั้งๆที่ผู้ปกครองเขาก็อยู่ต่อหน้าเขาค่ะ

ส่วนสาเหตุที่เลิกคบกัน คือเราไม่ชอบการทำงานของอีกคนในกลุ่ม (ซึ่งหนักกว่าแต่ไม่ขอพูดถึง เพราะปัจจุบันเขาน้อมรับและปรับปรุงจนดีขึ้นมามากแล้ว) แต่ก่อนหน้านี้เคยคุยเคลียร์ใจไปแล้ว ไม่ดีขึ้นเลย เราคิดว่าถ้ายังทนอยู่แบบนี้ต่อไปคนที่จะแย่ก็คือเรา ( ขยายความนิดนึงค่ะ ก่อนหน้านี้เราทำงานกลุ่มคนเดียว 95% อีก5% คือสั่งให้ทำค่ะ ถ้าไม่สั่งก็ไม่ทำ ) เราเหนื่อยมากๆค่ะ เราเลยตัดสินใจไปเล่าให้โยเกิร์ต (นามสมมุติ) กลุ่มใหม่เราฟังเผื่อที่เขาจะได้รู้ต้นสายปลายเหตุ และคุยกับเพื่อนๆเขาว่าโอเคมั้ยถ้าเราจะย้ายไปอยู่ ถ้ากลุ่มใหม่โอเค เราจึงค่อยไปบอกกลุ่มเดิมค่ะ

ตอนนั้น เรากับเพื่อนกลุ่มเดิมอีก 2 คนกำลังนั่งทำงานกลุ่มกันอยู่กันอยู่ เขาหายไปเกือบ 20 กว่านาที ( งานนี้นัดกันแล้ว เรากับเพื่อนในกลุ่มอีก 1คนมีธุระต่อเลยจะรีบทำให้มันคืบหน้าที่สุด เดดไลน์อีก 2 สองข้างด้วยค่ะ ) อยู่ๆเขาเดินมา แล้วมาร้องไห้ใส่บอกว่าทำไมไม่บอกก่อน ไม่พอใจเขาตรงไหน เขาทำอะไรผิด แต่เขาไปรู้จากไหนไม่รู้ค่ะ ตอนนั้นเราก็อึ้งๆแต่พยามควบคุมสติเพราะตอนนั้นคุยทำงานกันอยู่ เราพยามคุมน้ำเสียงให้เป็นปกติ ปกติเราใจร้อนแต่พยามเลิกอยู่เลยทำแบบนั้นค่ะ  และตอนนั้นเราก็ยังไม่ได้คำตอบจากกลุ่มใหม่ว่าเขาโอเคมั้ย

เรามองนาฬิกาเพื่อนประเมินเวลาว่ามันมากพอที่จะเคลียร์เรื่องนี้มั้ย แต่มันก็ใกล้เวลาธุระของเราด้วย เราเลยบอกให้เขาหยุดร้องให้ก่อน รีบคุยเรื่องงานให้เสร็จ แล้วบอกเขาว่า ถ้าถึงบ้านแล้วจะติดต่อไป

เราพิมพ์เอาเพราะเราเป็นพวกคิดก่อนพูดในบางครั้ง และเข้าใจว่าเป็นเรื่องอ่อนไหว เราเลยพิมพ์ๆลบๆเผื่อให้เขารู้เรื่องในสิ่งที่เราจะสื่อ

เราอธิบายอย่างละเอียดเลยค่ะ ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงไม่บอก และสาเหตุทุกๆอย่างค่ะ เขาอ่านไม่ตอบ เราไม่รู้ว่าเขารู้สึกยังไง

วันถัดมาทัศนศึกษา เกิดเหตุรถสองชั้นขัดข้องห้องอื่นต้องนั่งเรากับห้องเรา เขาทิ้งเรานั่งด้านล่างคนเดียวกับห้องอื่นค่ะ เราอึดอัดมากแต่ทำอะไรไม่ได้ เลยได้แต่เอาเสื้อคลุมแล้วร้องไห้เงียบๆค่ะ

พอถึงสถานที่ เป็นกลางแจ้ง อากาศร้อน ปกติเรานั่งทานข้าวด้วยกันแต่วันนี้เขาไปทานกับคนอื่นทั้งๆที่ข้างเราว่างและ มีพัดลมจ่อด้วยค่ะ เราเลยรู้สึกไม่ดียิ่งกว่าเดิม

ตกเย็นขากลับเรานั่งทำงานกลุ่ม 2 ชิ้น(มีเขาอยู่ด้วย) มีเพื่อนเรียกเพื่อนเราในกลุ่มอีกคนขึ้นไป บอกว่าจะคุยเรื่องงานวิชาแสดง เราเลยให้เขาไปก่อนเราก็นั่งทำงานรอจนเสร็จ 2 ชิ้น เพื่อนก็ยังไม่ลงมา เลยเลยขึ้นไป เพราะอยากรู้ด้วยว่าคุยงานส่วนไหนเพราะงานนั้นเราเป็นผู้กำกับค่ะ ถ้าเราไม่รู้เรื่องด้วยอาจจะเกิดความขัดแย้งได้ แต่พอขึ้นไปชั้นสองบนรถเงียบมากค่ะ ทั้งๆที่ตอนเราขึ้นบันไดยังมีเสียงจอแจ วินาทีนั้นเรารู้เลยค่ะ ว่าเขาเอาเรื่องเราไปพูด เราเลยบอกเพื่อนไปว่าให้ลงไปทำต่อนะ เราถึงลงมาแล้วค่อยไล่ลบงานที่เราทำเอาไว้ออกไปส่วนหนึ่งค่ะ

เพื่อนลงมาก็เงียบ ไม่คุยกับเราเลย เราชวนคุยก็ไม่คุย

วันต่อมาเป็นวันแสดงแล้ว เราเตรียมชุดในบทบาทของเรามา แต่เขา(คนในพารากราฟแรก) มาใช้เราให้หยิบน้ำ เราหยิบให้ พอเราชวนคุยก็ไม่พูดตอบ เมินเราไปคุยกับคนอื่น และขอยืมเสื้อเราด้วย เราบอกว่าไม่ได้ค่ะ เพราะตัวนั้นเป็นเสื้อสถาบันการศึกษามีทั้งตราและชื่อคุณพ่อ เราขอคุณพ่อมาแสดงพ่อกำชับว่าห้ามใครใส่ต่อด้วย เราอธิบายไปแต่เราชักสีหน้า แล้วเมินเราเหมือนเดิมค่ะ

ตกเย็นเราคุยเรื่องงานในกลุ่มไม่มีใครตอบ แต่เพื่อนอีกคนในกลุ่มงานทวงให้เราเข้ากลุ่มโทรไม่หยุด แต่เราไม่รู้ว่าเรื่องอะไร เราเลยตอบว่าไว้ก่อน ขอพิมพ์งานก่อนเดี๋ยวเราลืม

ในการโทรเราขอตั้งนามสมมุตินะคะ มีเขา(หลิว) เพื่อนเราในกลุ่ม ( ขนม , บุ้ค , เพ็น , ชมพู , โยเกิร์ต )

หลักๆในการโทรเราจำได้ว่า หลิวบอกว่าเราอีโก้สูง ชอบสั่งงาน อยากให้เราแรับตรงนี้ ตอนนี้เรากลัวไม่มีเพื่อนมากๆ จนลืมคิดนู้นคิดนี้ บวกกับวันแสดงเรารู้สึกไม่ดีมากๆ และนี่เป็นเหตุการณ์ครั้งแรกของเราที่แย่ อึดอัด และส่งผลกระทบกับชีวิตเราขนาดนี้ เราเลยตอบตกลง และบอกว่าจะปรับตัว หลิวยังพูดต่อว่า ' เราไม่อยากเป็นเพื่อนกับแกแล้ว ' เราไม่รู้ว่าชาวพันทิปจะเข้าใจเรามั้ย ความรู้สึกและอารมณ์ต่อนั้นมันสวิงมาก บางทีก็อ่อนปวกเปียก บางทีก็แข็งทื่ออย่างกับกำปั้นทุบดิน เราตอบไปแค่ว่า ' โอเค'

พอจบการโทรเรานึกได้ว่า ชมพู และ เพ็นไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้เลย แต่ว่าเราในการโทรนั้นเยอะมาก และบอกว่าเราใจร้อน เป็นคนที่นั่งด้านหน้าหลิวในเหตุการณ์บนรถทัศนศึกษา เรายิ่งเครียดกว่าเดิม กลัวคนเกลียดเรา โยเกิร์ตไม่ได้แก้ต่างให้เราด้วย ทั้งๆที่เราน้ำเรื่องนี้ไปบอกโยเกิร์ตก่อนหลิวจะรู้เรื่องนี้

หลังจากนั้นหลิวก็ทำพฤติกรรมแย่ๆใส่ ไม่ว่าจะเป็น โยนของใส่โต๊ะเราทั้งๆที่เรานั่งอยู่ และคุยเสียงดังมากๆ ไม่นานเราได้ทำงานกับกลุ่มโยเกิร์ต เราสบายตัวขึ้นมาก เราไม่ต้องสั่งอะไรเลย กลุ่มเขารู้งานกันมากๆและทำงานกันดีมาก เพื่อนในกลุ่มโยเกิร์ตคนนึงชื่อนามสมมุติว่า เครป บ้านอยู่ใกล้เราเลยสนิทกันประมาณนึง เขาบอกว่าเราว่าหลิวถามถึงเรากับเราเรื่องงานกลุ่มงานนี้ หลิวถามว่า เราเป็นยังไง เราไม่เขาใจและอึดอัดมาก หลิวเป็นพูดกับปากว่าไม่อยากมีเพื่อนแบเราแต่ถามถึงเรา โดยพื้นฐานเราไม่ชอบคนนิสัยแบบนี้อยู่แล้ว พอมีเกตุการณ์นี้เรายิ่งไม่ชอบเขาไปใหญ่ เครปยังบอกกับเราด้วยว่าไม่เข้าใจเหมือนกัน เรื่องแบบนี้ทำไมไม่ถามเองฝากคนอื่นถามทำไม เราเลยถามต่อว่าเครปตอบหลิวมั้ย เครปบอกว่าตอบไปว่า ก็ดีนะ ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย ใจเรากลัวมากตอนนั้น แต่ที่ผ่านมาช่วงนั่งรถกลับด้วยกันมี deep talk กับเครปเยอะมาก เราเลยค่อนข้างมั่นใจว่าเครปจะเข้าใจเรา ความจริงหลิวเคยนินทาเครปกับเรา แต่เราไม่กล้าบอกเครปเพราะไม่อยากให้เครปรู้สึกไม่ดี รวมถึงนินทาคนอื่นด้วย แต่ปัจจุบันหลิวกับเขาที่เอามานินทากับเรา คบกันดี

หลังจากนั้นเราไม่ได้ทำงานกลุ่มกับโยเกิร์ตและเครป เพราะสมาชิกเกิน และใกล้ปิดภาคเรียนแล้วประมาณ 3 เดือนหลัง เราจึงมาอยู่กับ ก้อย นามสมมุติ เพื่อนอีกกลุ่มแทน ก่อนหน้านี้ไม่สนิทมาก แต่คุยกันไม่ได้ไม่มีปัญหากัน


เรื่องนี้เราอึดอัดอยากระบาย และเอามาประกอบการตัดสินใจชาวพันทิปด้วยค่ะ ตอนนี้เราสภาพจิตใจโอเคขึ้นมาก แต่ยังมีกลัวการเข้าสังคมบ้าง ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่