[CR] Le Café Louis Vuitton @ LV The Place Bangkok รอ 2 เดือนกว่าจะได้กิน~




Le Café Louis Vuitton
📍LV The Place Bangkok, Gaysorn Amarin




ไม่เคยตั้งกระทู้รีวิวห้องก้นครัวมาก่อน แต่พอได้โอกาสลองคาเฟ่หลุยส์ วิตตองทั้งทีก็อดจะมาแบ่งปันประสบการณ์ให้เพื่อนๆ ไม่ได้ค่ะ หากผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

.
.
.

จุดเริ่มต้นมาจากหลังจากห้างโซโก้ เอ๊ย อัมรินทร์ ได้กลับมาทำการเปิดตัวอีกครั้งในนามเกษรอัมรินทร์ พร้อมกับ LV The Place, Experiential Store ของลักซูรีแบรนด์อย่าง Louis Vuitton แห่งแรกของโลก แน่นอนว่าเกิดเป็นกระแสขึ้นมาทันที ส่วนตัวไม่ได้สนใจเพราะไม่ใช่ลูกค้าเค้าอยู่แล้ว เดินผ่านอัมรินทร์ทุกวันเช้า-เย็นยังไม่รู้เลยว่าเป็นร้านหลุยส์ แต่เพื่อนสนิทเราไม่ใช่ค่ะ หลังจากเปิดตัวช่วงกุมภาไม่กี่วันชีก็นั่งกดเว็บจองจนได้คิวมาเป็นช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา และเป็นโชคดีมากที่อยู่ในช่วงวันเกิดเราพอดี เลยได้โอกาสลองเข้าไปนั่งทานขนมในคาเฟ่หลุยส์ วิตตองหลังจากรอมา 2 เดือนค่ะ ✌🏻

เพื่อนเราจองคิวได้วันจันทร์ รอบ 11.45 น. เราเลยใช้สิทธิวันเกิดขอลาที่ทำงานช่วงเที่ยงหนึ่งชม.เดินกางร่มจากชิดลมไปอัมรินทร์ค่ะ ด้วยความอยู่ใกล้เลยถึงก่อนคนจอง แต่สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้เลยว่าจองไว้ชื่อนี้ เท่านี้เจ้าหน้าที่ก็จะเชิญให้เราเดินตัวปลิวเข้าไปด้านในไม่ต้องต่อคิวรอค่ะ ซึ่งถ้าใครผ่านไปผ่านมาแถวนั้นจะเห็นคนยืนรอต่อคิวยาวตลอด และคิว walk-in ไม่ใช่ว่าจะโชคดีได้นั่งทุกคน ส่วนใหญ่ได้เข้ามาซื้อแบบ take away ค่ะ







ภายในร้านมีทั้งหมด 6 โต๊ะค่ะ รอบที่เราเข้าไปเป็นชาวต่างชาติหมดเลย มีโต๊ะเราเป็นคนไทยโต๊ะเดียว 😅 จองไว้ทั้งหมด 3 ที่ บนโต๊ะก็จะเตรียมอุปกรณ์การกินให้ครบถ้วนพอดีจำนวนแขกไม่มีขาดไม่มีเกินค่ะ 







ของบนโต๊ะก็จะเป็นหลุยส์แทบทั้งหมดค่ะ แถบกระดาษม้วนผ้ารองตักก็เป็นมาสคอตประจำแบรนด์อย่างน้อง Vivienne พนักงานแจ้งว่าสามารถนำกลับไปเป็นที่ระลึกได้ ซึ่งตัวกระดาษแข็งแรงดีเหมือนคิดมาแล้วว่าทำให้ลูกค้าเอากลับค่ะ







หลังจากเปิดเมนูดูแล้วพนักงานก็มาชวนให้เราเดินไปเยี่ยมชมขนม เมล็ดกาแฟ และใบชาที่ใช้ เพื่อเพิ่มทางเลือกในการตัดสินใจ จุดนี้น่าประทับใจมากค่ะ พนักงานอธิบายละเอียดทุกอย่างว่าชิ้นนี้ทำมาจากอะไร รสชาติประมาณไหน ใช้ใบชาจากที่ไหน และเปิดให้ลองดมกลิ่นด้วยว่าเป็นยังไงค่ะ







เราไม่ดื่มกาแฟเลยสั่งเป็นชา LV The Place กลิ่นหอมดีค่ะ รสชาติฝาดๆ มีไซรัปให้เติมแต่เราไม่กินหวานก็เลยไม่ได้เติมค่ะ ส่วนเพื่อนอีกสองคนสั่งมาเป็น Salted Caramel Macciato กับ Latte เครื่องดื่มทุกแก้วจะได้บิสกิตหนึ่งชิ้น เนื้อกรอบร่วน รสชาติหวานๆ ใครชอบหวานกินได้เพลินๆ ค่ะ







ด้านเค้กสั่งมาแค่ 2 ชิ้น เพราะเพื่อนอีกคนลดความอ้วนไม่กินขนมหวานเลย เพื่อนสั่ง Monogram Cake เนื้อข้างในเป็นพิสตาชิโอกับมาร์มาเลด สัมผัสร่วนๆ ด้านนอกเป็นผงพิสตาชิโอปั๊มลาย monogram ของ Louis Vuitton เหมาะแก่การถ่ายรูปเพื่อโชว์ลงโซเชียลให้รู้ว่าได้มาคาเฟ่หลุยส์แล้วอย่างที่สุด 555 ส่วนเราสั่งเป็น Mango Tart เมนูที่มีเฉพาะประเทศไทยค่ะ เนื้อทาร์ตกรอบร่วน เนื้อมะม่วงหอมหวานกำลังดีอ่อนเปรี้ยวไปนิด รสชาติโดยรวมคือกลางๆ มาตรฐาน อย่าหวังกินแล้วอร่อยแสงออกปากออกหู คาเฟ่นี้เน้นขายประสบการณ์ค่ะ







ความพิเศษคือเพื่อนแจ้งพนักงานไปว่าเป็นวันเกิดเรา พนักงานเลยช่วยถ่ายรูปให้หลายรูป รวมถึงเซอร์ไพรส์ถ่ายรูปโพลาลอยด์พร้อมกับมอบการ์ด Happy Birthday ให้อีกหนึ่งใบค่ะ แบบกรี๊ดเลย น่ารักมาก ไม่คิดว่าจะมีของพิเศษมอบให้ด้วย ถึงจะเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็ประทับใจที่สุดค่ะ






โดยรวมถือว่าประทับใจพอสมควรค่ะ แม้บางทีจะรู้สึกว่าวุ่นวายไปหน่อยเพราะลูกค้า walk-in เข้าออกตลอดเวลา แล้วพนักงานก็ให้ทุกคนสามารถเดินถ่ายรูปภายในร้านได้เต็มที่ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกน่ารำคาญอะไรขนาดนั้น ฟีลคาเฟ่สวยๆ ทั่วไป






สิริรวมค่าเสียหายสามคน เครื่องดื่ม 3 แก้ว น้ำแร่ 1 ขวด เค้ก 2 ชิ้น อยู่ที่ 2,244 บาทพอดีค่ะ (ราคาข้างบนคือราคาถอด VAT7%) ถือว่ารับได้เพราะเดี๋ยวนี้คาเฟ่ nicheๆ ก็ราคาประมาณนี้กันเกือบหมดล่ะ (ก่อนหน้ามาคาเฟ่หลุยส์เจอร้านขนมแถวบ้าน(แจ้งวัฒนะ)ขนมตกก้อนละ 500 😂) เอาเป็นว่าใครรอคิวได้ไม่รีบก็มาลองเอาฟีลสักครั้ง ได้รูปสวยๆ กลับบ้านแน่นอนค่ะ🥰



ชื่อสินค้า:   Le Café Louis Vuitton
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่