คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
การเรียนภาษาอังกฤษในประเทศไทย ผู้เรียนมักจะเป็นท่องจำ และไม่ได้เข้าใจธรรมชาติของภาษา แบบที่เรียกว่าแพทเทิร์น
และผู้อยากรู้ภาษาอังกฤษประเภทใหญ่ที่สุด คือจำได้แบบเป็นคำๆหรือประโยค แต่ถ้าฝรั่งตอบจะไม่รู้ และยิ้ม หรือไม่ก็งง
เด็กไทยเมื่อเริ่มพูดภาษาไทย จะเป็นการตามแบบลอกเลียนแบบพ่อแม่ แต่เด็กเหล่านั้นอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้
คนไทยที่เรียกว่าไม่มีการศึกษา...........คนเหล่านั้นพูดภาษาไทย แต่เค้าเหล่านั้นไม่จำเป็นต้องรู้หลักภาษาไทย ถ้าไปสอบคือตก
การที่จขกทอยากทราบเรื่องภาษาอังกฤษ ซึ่งคนละอย่างกับภาษาแม่ แต่เป็นอยากรู้ตอนโตแล้ว
การลอกเลียนแบบเด็กๆจึงไม่ใช่ และไม่ได้ผล แต่คุณต้องไปเริ่มเรียนABC และหัดสะกดเข้าใจวิธีการและพื้นใหม่เลย
การเรียนในชั้นเรียนของไทย นักเรียนส่วนใหญ่ไม่ได้ต้องการเรียน ไม่ได้อยากรู้ด้วยตัวเอง
แต่เป็นการเอาคนมาคละกัน บังคับเรียนตามหลักสูตร เด็กเข้าใจได้ก็มี ไม่สนใจเลยก็มาก เรียนแค่ผ่านๆก็เยอะ จบชั่วโมงก็คืนครูไป
เพราะหลายๆคนภาษาเป็นเรื่องไกลตัว เรียนทำไม กลับบ้านก็ไม่ได้ใช้หรือสนใจแล้ว
แต่ที่จขกทมาถามและว่ามานั่นคือการที่คุณอยากทราบเอง.............การยอมรับว่าตัวเองไม่ทราบ เรื่องปกติ
อยู่ที่คุณจะหาคนชี้แนะได้หรือไม่ ตรงใจกับสิ่งที่อยากรู้อยากทราบหรือไม่ ตรงนั้นต้องหากันไป
แต่ไม่ใช่อ้างว่าอ่านนั่นนี่พอได้ เพราะการรู้แกรมมา หรือการรู้คำ การรู้ประโยค แต่ไม่สามารถสื่อสารทั้งส่งออกและนำเข้าได้
จะนับว่าได้ตามจุดประสงค์ได้รึ ?
ภาษาอังกฤษไม่ยาก ถ้าคุณเข้าใจธรรมชาติของภาษา เริ่มแบบเด็กๆเลย He is a boy.....he is a small boy.........he’s a handsome little boy .
อ่านแล้วมีตรงไหนไม่เข้าใจ แต่ละตัวมาได้อย่างไร ตัวไหนคืออะไร ต่างกันอย่างไร แปลว่าอะไร ทำไมวางอย่างนี้
สงสัยอะไรในสามประโยคนี้ ถามให้หมด เอาให้เคลียร์ หาคนสอนที่เค้าจะตอบบ้านๆให้คุณเข้าใจไม่มีอะไรค้างหรือสงสัยอีก
อย่าไปเชื่อพวกให้ดูหนังฟังเพลงเองอะไรนั่น ในเมื่อพื้นที่สุดยังไม่ได้ ไม่รู้ภาษาญี่ปุ่นเลย ไปนั่งฟังเพลงญี่ปุ่นจะรู้เรื่องได้อย่างไร
He a boy ได้มั้ย ทำไมไม่ได้ แล้วถ้าตอนนี้โตแล้วล่ะ สารพัดจะถาม หรือ he is small boy ได้มั้ย หรือ he is boy small ล่ะ
ไม่ได้ดูแคลน ยกตัวอย่างสิ่งที่ควรสงสัย.....
หมาพูดว่าอะไร ? ถ้าฟังหมาพูดแล้วไม่รู้เรื่อง หรือสงสัยว่าพูดอะไร ต้องเริ่มใหม่เลย
เพราะหมาพูดแบบเด็กๆน่ะคุณ ไม่ซับซ้อน และภาษาที่คุณมาถามคือต้องการเข้าใจที่พูดกันจริงๆ
คนจริงๆพูดกันแบบในคลิป ไม่ใช่เราอ่านหนังสือ ถ้าไม่ทราบไม่รู้เรื่อง สงสัย หาคนแนะ หาครูเรียนเข้า ผมอยากเข้าใจภาษาอังกฤษป1ครับ!!!
เริ่มที่พื้นที่สุด พอเข้าใจแล้ว ก็จะสนใจหายากหาเรื่องที่ยาวกว่าไปเอง
ในเมื่อไม่ได้ก็ต้องเริ่มใหม่ เรื่องปกตินะ เรียนในห้องคือบังคับเรียน แต่คราวนี้คุณอยากรู้อยากเรียนด้วยตัวเองจริงๆ คนละอย่างกัน
การเรียนภาษาอังกฤษในประเทศไทย ผู้เรียนมักจะเป็นท่องจำ และไม่ได้เข้าใจธรรมชาติของภาษา แบบที่เรียกว่าแพทเทิร์น
และผู้อยากรู้ภาษาอังกฤษประเภทใหญ่ที่สุด คือจำได้แบบเป็นคำๆหรือประโยค แต่ถ้าฝรั่งตอบจะไม่รู้ และยิ้ม หรือไม่ก็งง
เด็กไทยเมื่อเริ่มพูดภาษาไทย จะเป็นการตามแบบลอกเลียนแบบพ่อแม่ แต่เด็กเหล่านั้นอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้
คนไทยที่เรียกว่าไม่มีการศึกษา...........คนเหล่านั้นพูดภาษาไทย แต่เค้าเหล่านั้นไม่จำเป็นต้องรู้หลักภาษาไทย ถ้าไปสอบคือตก
การที่จขกทอยากทราบเรื่องภาษาอังกฤษ ซึ่งคนละอย่างกับภาษาแม่ แต่เป็นอยากรู้ตอนโตแล้ว
การลอกเลียนแบบเด็กๆจึงไม่ใช่ และไม่ได้ผล แต่คุณต้องไปเริ่มเรียนABC และหัดสะกดเข้าใจวิธีการและพื้นใหม่เลย
การเรียนในชั้นเรียนของไทย นักเรียนส่วนใหญ่ไม่ได้ต้องการเรียน ไม่ได้อยากรู้ด้วยตัวเอง
แต่เป็นการเอาคนมาคละกัน บังคับเรียนตามหลักสูตร เด็กเข้าใจได้ก็มี ไม่สนใจเลยก็มาก เรียนแค่ผ่านๆก็เยอะ จบชั่วโมงก็คืนครูไป
เพราะหลายๆคนภาษาเป็นเรื่องไกลตัว เรียนทำไม กลับบ้านก็ไม่ได้ใช้หรือสนใจแล้ว
แต่ที่จขกทมาถามและว่ามานั่นคือการที่คุณอยากทราบเอง.............การยอมรับว่าตัวเองไม่ทราบ เรื่องปกติ
อยู่ที่คุณจะหาคนชี้แนะได้หรือไม่ ตรงใจกับสิ่งที่อยากรู้อยากทราบหรือไม่ ตรงนั้นต้องหากันไป
แต่ไม่ใช่อ้างว่าอ่านนั่นนี่พอได้ เพราะการรู้แกรมมา หรือการรู้คำ การรู้ประโยค แต่ไม่สามารถสื่อสารทั้งส่งออกและนำเข้าได้
จะนับว่าได้ตามจุดประสงค์ได้รึ ?
ภาษาอังกฤษไม่ยาก ถ้าคุณเข้าใจธรรมชาติของภาษา เริ่มแบบเด็กๆเลย He is a boy.....he is a small boy.........he’s a handsome little boy .
อ่านแล้วมีตรงไหนไม่เข้าใจ แต่ละตัวมาได้อย่างไร ตัวไหนคืออะไร ต่างกันอย่างไร แปลว่าอะไร ทำไมวางอย่างนี้
สงสัยอะไรในสามประโยคนี้ ถามให้หมด เอาให้เคลียร์ หาคนสอนที่เค้าจะตอบบ้านๆให้คุณเข้าใจไม่มีอะไรค้างหรือสงสัยอีก
อย่าไปเชื่อพวกให้ดูหนังฟังเพลงเองอะไรนั่น ในเมื่อพื้นที่สุดยังไม่ได้ ไม่รู้ภาษาญี่ปุ่นเลย ไปนั่งฟังเพลงญี่ปุ่นจะรู้เรื่องได้อย่างไร
He a boy ได้มั้ย ทำไมไม่ได้ แล้วถ้าตอนนี้โตแล้วล่ะ สารพัดจะถาม หรือ he is small boy ได้มั้ย หรือ he is boy small ล่ะ
ไม่ได้ดูแคลน ยกตัวอย่างสิ่งที่ควรสงสัย.....
หมาพูดว่าอะไร ? ถ้าฟังหมาพูดแล้วไม่รู้เรื่อง หรือสงสัยว่าพูดอะไร ต้องเริ่มใหม่เลย
เพราะหมาพูดแบบเด็กๆน่ะคุณ ไม่ซับซ้อน และภาษาที่คุณมาถามคือต้องการเข้าใจที่พูดกันจริงๆ
คนจริงๆพูดกันแบบในคลิป ไม่ใช่เราอ่านหนังสือ ถ้าไม่ทราบไม่รู้เรื่อง สงสัย หาคนแนะ หาครูเรียนเข้า ผมอยากเข้าใจภาษาอังกฤษป1ครับ!!!
เริ่มที่พื้นที่สุด พอเข้าใจแล้ว ก็จะสนใจหายากหาเรื่องที่ยาวกว่าไปเอง
ในเมื่อไม่ได้ก็ต้องเริ่มใหม่ เรื่องปกตินะ เรียนในห้องคือบังคับเรียน แต่คราวนี้คุณอยากรู้อยากเรียนด้วยตัวเองจริงๆ คนละอย่างกัน
แสดงความคิดเห็น
คนที่เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองมีคนที่เรียนแล้วได้ผลไหมครับ ทำยังไง ฝึกยังไงจนได้ผล? ผมไม่เข้าใจทำไมผมไม่เก่งสักที
พอดีผมสงสัยครับ ผมดูคลิป youtube ทั้งไทยและนอกมาเป็น10ๆคลิป อ่านบทความเกิน20บทความ เกี่ยวกับการเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่พื้นฐานจนถึงขั้นสูง (A1-C2) ผมสรุปได้ว่าพวกเขาเหล่านั้นมักจะชอบพูดกว้างๆ บอกว่าอะไร แต่ไม่บอกว่าอย่างไรโดยละเอียด เช่นอยากเขียนภาษาอังกฤษได้ ก็อ่านให้เยอะหรือฝึกเขียนDiaryสิ เขียนเป็นเป็นภาษาของตัวเอง อยากฟังออกก็ดูหนัง ฟังเพลง อยากอ่านออกก็หาบทความภาษาอังกฤษมาอ่าน ฟังดูดีนะครับซึ่งก็อาจจะใช้ได้แต่ผมกลับรู้สึกใช้ไม่ได้
คือผมไม่เข้าใจเลยครับ ในเมื่อเราอ่านไม่ออก จะให้เราไปฝึกอ่านภาษาได้ยังไงในเมื่อมันอ่านไม่ออก หรือเราฟังไม่เข้าใจจะให้เราไปฝึกฟังเปิดกรอกหูได้ยังไงในเมื่อเราไม่เข้าใจ มันก็เหมือนกับฟังอะไรก็ไม่รู้ที่ไม่เข้าใจว่ามันหมายความว่าอะไร เขียนไม่ได้ก็ให้ฝึกเขียนหลายคนก็แนะนำว่าให้อ่านเยอะๆ ผมก็งงว่ามันจะช่วยยังไงผมจะบอกว่าผมอ่านโครตเยอะเลยครับ ผมอ่านบทความ อ่านวิจัย มีบ้างนะครับที่อ่านแล้วเข้าใจทั้งหมดโดยไม่ต้องแปลถ้าเขาใช้คำง่าย แต่ผมก็ไม่เห็นจะเขียนได้เลยครับ บางคำผมอ่านเจอบ่อยมาก เช่น แฟลชที่แปลว่าเร็ว ผมเคยเห็นคำนี้และต่อให้อ่านเจอก็เข้าใจว่าสื่อความหมายประมาณว่าเร็ว ในภาษาไทย แต่ก็เขียนไม่ได้เลยครับ ผมงงไปหมดละครับ เหมือนเจอทางตัน คนที่แนะนำให้เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองบางคนก็เคยเรียนนานาชาติ บางคนก็เรียนรร.ระดับTop แม้ว่าขะพูดไม่ได้ ฟังไม่ได้แต่แกรมม่าและคำศัพท์เน้น กลับกันกับผมที่ผมนึกไม่ออกเลยว่ารร.มัธยมสอนสอนภาษาอังกฤษผมเรื่องอะไรบ้าง ซึ่งจะมีอธิบายเรื่องรร.ผมด้านล่างนะครับ
ผมก็สงสัยลองเปรียบเทียบกัยตอนที่ตัวเองเรียนภาษาไทยในวัยเด็ก ถ้าเราจะอ่านให้ออกเราไม่ต้องเรียนรู้การสะกดหรือ? หรือจะเขียนได้เราไม่ต้องเข้าใจหลักการผสมตัวอักษร ซึ่งก็คือการสะกดและการสะกดก็ต้องเข้าใจการออกเสียงของแต่ละตัวอักษรว่าออกเสียงไร หรือหลายเจ้าก็แนะนำว่าถ้าอยากคิดแปลภาษาอังกฤษก็อย่าแปล เวลาเรียนรู้คำศัพท์ก็อ่านความหมายเป็นภาษาอังกฤษ ผมก็ลองทำดูพยายามไม่แปลไทยในหัวเจอศัพท์ใหม่ก็อ่านเป็นภาษาอังกฤษแล้วก็ค้นพบว่าอ่านความหมายไม่ออก ไม่เข้าใจ พยายามท่องศัพท์ก็ค้นพบว่าท่องไปมากเลยแต่จำไม่ได้ ใช้ไม่เป็น ผมลองท่องศัพท์จาก 3000 Oxford ท่องไปได้ประมาณ100คำ ที่ผมไม่รู้จักซึ่งมักอยู่ระดับA2และB1ขึ้น ผมท่องแบบเขียนจดลงสมุดแบ่งเป็น3คอลัมท์ ครั้งที่ท่องผมจะเขียนลงคอลัมน์1 วันที่2ผมจะมาทวนซ้ำและเขียนลงคอลัมน์ที่2 วันที่3ก็เช่นกันเท่ากับว่าผมท่องคำเดิมซ้ำๆ 3ครั้บภายใน3วัน ผมพบว่าจำได้แต่ไม่ทุกคำ และมักใช้ไม่เป็นผมไปลองfast card ผมมีทั้งในคอร์สเรียนที่ผมสมัคร และในแอพAnki ที่มันจะมีคำศัพท์4000คำพื้นฐาน ผมท่องอยู่อย่างงั้นไปได้ประมาณ300คำในAnkiและ1000กว่าคำ ในวิดีโอ ตัววิดีโอผมใช้หลักการท่องแบบเดิม3วันต่อกัน(คลิปหนึ่งประมาณ50คำตก3นาที ผมท่องวันละ3วิดีโอ ซ้ำ3วัน) ซึ่งน่าเบื่อมากแต่ก็ทำได้ระยะหนึ่ง
ผมค้นพบว่าเข้าใจคำศัพท์เพิ่มแต่เขียนไม่ได้ อ่านคำใหม่ก็ไม่ออก แถมเป็นความเข้าใจแบบแปลเทียบความหมายในภาษาไทยด้วย ทุกครั้งที่ผมอ่านบทความภาษาซึ่งผมอ่านค่อนข้างเยอะเพราะผมชอบเรียนรู้ และความรู้เป็นภาษาอังกฤษมันมีเยอะมากแต่ผมก็ยังประติประต่อความทั้งหมดในแต่ละประโยคไม่ได้แม้บางคำจะแปลได้ แต่กลับไม่เข้าในบริบทในประโยคนี้ ทำให้ผมยังคงต้องพึ่ง google translate อยู่ดี
ผมเลยสงสัยมากครับ ว่าพี่ๆหรือท่านอื่นเข้าใจภาษาอังกฤษได้ยังไง เรียนอย่างไร ผมจะอธิบายบริบทของผมให้รู้คร่าวๆครับว่าผมทำอะไรบ้างในแต่ละทักษะพร้อมหลักฐาน
ระยะเวลา
ถ้าเอาแบบที่มีหลักฐานบันทึกไว้ผมเรียนแบบจริงจังมาเกิน200วันแล้วครับผ่านแอป Duologue
ผมยังเรียนใน BusuuและเคยเรียนในHello English
ด้านการศึกษาในระบบ
- ผมเรียนในไทยมาโดยตลอดครับและเป็นเกรดBด้วย คือเป็นรร.ที่รองรับเด็กที่สอบรร.ใหญ่ไม่ผ่าน ผมจำไม่ได้ว่าได้อะไรจาการเรียนภาษาในห้องเรียนบ้างเพราะช่วงมัธยมศึกษาครูปล่อยให้เล่นครับไม่ก็โยนงานมาให้ทำและตัวเองก็ไม่สอนแถมสอนห่วยด้วย
-ที่ผมได้ภาษามาจากรร.น่าจะมีแค่ตอนประถมครับที่ทำให้ผมท่อง ABC ได้แล้วก็ได้คำศัพท์A1มานิดหน่อย แต่พื้นฐานการสะกดผมไม่มีเลยครับเหมือนครูจะไม่ได้สอนเรื่องนี้ด้วยซ้ำ
-ปัจจุบันผมเรียนอยู่มหาลัยขอนแก่นครับ ซึ่งถือเป็นมหาลัยชั้นนำของไทยแห่งหนึ่ง แต่ภาษาอังกฤษผมห่วยมากสู้เพื่อนร่วมชั้นไม่ได้เลย เพิ่งมาเข้าใจว่าทำไมต้องเติม s ใน verbเมื่อประธานเป็น He she itหรือคำเอกพจน์ ก็เมื่อไม่นานมานี้เองครับ
ด้านทักษะภาษาอังกฤษ
- ด้านทักษะการอ่าน ผมเป็นคนชอบการอ่านครับ ผมเรียนภาษาอังกฤษเพราะต้องการเรียนรู้นี่แหละครับ ทั้งการอ่าน การฟังเพราะความรู้ส่วนใหญ่ สำคัญๆ มันเป็นภาษาอังกฤษหมด (ผมเรียนด้านfinanceและก็ชอบinvestment and trade ครับตอนนี้ก็สนใจโลก cryprto แต่ติดปัญหาตรงที่ความรู้เรื่องพวกนี้เป็นภาษาอังกฤษหมดเวลาอ่านงานวิจัยมันเป็นเรื่องยากมากๆสำหรับผม) ผมพออ่านภาษาอังกฤษได้ระดับ A1-A2 ถ้าเริ่มเป็นB1ขึ้นไปผมจะเริ่มติดครับและไม่เข้าใจบางคำบางความหมาย
-ด้านการฟัง ผมฟังแทบไม่ออกเลยครับ ฟังได้แค่ระดับ A1 ถ้าฟังคนพูดกันจริงๆก็ฟังก็ฟังไม่เข้าใจทั้งหมดครับ แต่ผมชอบดูคลิปฝรั่งนะครับ มันบันเทิงดีแต่ก็ฟังออกบ้างไม่ออกบ้าง ส่วนใหญ่จะฟังไม่ทัน ไม่เคยได้ยินศัพท์มันจะอารมณ์ประมาณนี้ครับ
-ด้านการพูด ผมพอสื่อสารเบื้องต้นแบบไม่เป๊ะเรื่องแกรมม่าได้ครับ พูดแบบภาษาพูดเน้นสื่อสาร พอดีผมเป็นคนกล้าพูดครับไม่กลัวผิดพลาดเวลาเจอฝรั่งผมชอบพูดกวนตีน ทำให้ผมไม่ได้มีปัญหาเรื่องของการพูดไม่ได้ แต่ผมติดตรงที่ผมนึกคำพูดเป็นภาษาอังกฤษไมออก คือนึกคำไทยได้แต่เรียบเรียงเป็นประโยคภาษาอังกฤษไม่ได้ บางครั้งคำนั้นผมก็ไม่รู้จัก เช่น หยิบจานมาให้หน่อย ผมก็ไม่รู้จะพูดอังกฤษยังไง ให้เดาตอนนี้คงเป็น take plate come to me รึเปล่าอันนี้ไม่แน่ใจแต่ผมพอสื่อสารได้เพียงแต่ไม่ถูกต้อง และยังอยู่ในระดับไม่เกิน A2แน่ๆ เผลอยังอยู่A1อยู่เลย
-ด้านการเขียน พอได้ครับแต่ได้แค่คำที่จำรูปแบบ จำภาพได้ผมพอเรียงประโยคขั้นต้นได้แต่ถ้าจะให้เขียนคล่องแบบภาษาไทยผมทำไม่ได้เลย ผมลองเปรียบเทียบกับภาษาไทย ผมเข้าใจว่าผมยังสะกดคำไม่ได้ คือไม่เข้าใจว่าจะผสมตัวอักษรออกมายังไงให้อยู่ในรูปของคำศัพท์ อย่างภาษาไทยเรามีหลักการสะกดชัดเจน แต่อังกฤษมันยังไงอะครับมันงงๆ ผมลองหาเรียนในyoutube ก็ยังรู้สึกว่าใช้งานยาก เช่นคำว่า กิน (สะกดว่า กอ-อิ-นอ) =กิน เราเข้าใจหลักการมันทำให้เราอ่านคำว่ากินได้และเขียนคำว่ากินเป็น หรือต่อให้เป็นคำที่เราไม่เคยเจออย่างคำว่า "กัญญาณัฐ" ซึ่งเราอาจไม่รู้ความหมายด้วยซ้ำ แต่เมื่อเจอครั้งแรกเราก็อ่านออกทันทีว่า กัน-ยา-นัท แถมเขียนได้เลยด้วยแม้ไม่เข้าใจความหมายแต่เพราะเข้าใจหลักการสะกดคำ เราจึลสามารถอ่านออก เขียนได้ เป็นภาษาไทย
สรุป
- ลำดับขั้นการเรียนภาษาอังกฤษ ถามคนที่คล่องภาษาอังกฤษว่าเราต้องเริ่มเรียนจากอะไรครับและฝึกอย่างไร
จะดีมากถ้าพี่ๆแนะนำให้ด้วยว่าพวกพี่เองฝึกและเรียนจากที่ไหนผมอยากอ่านครับ เพราะผมรู้สึกว่ามันอึดอัดและติดขัดเหมือนเรียนไม่ถูกต้อง เกาไม่ถูกที่คัน เท่าที่ผมเข้าใจลำดับขั้นในการเรียนนะครับแบบเริ่มตั้งแต่0 เสมือนไม่เคยเรียนในระบบมาก่อน
1.เรียนรู้ตัวอักษรอังกฤษ(phonics) (พร้อมคำศัพท์ง่ายๆและตัวอย่างการใช้เบื้องต้นเช่น A-ant , B - bird , c- cat โดยไม่ต้องเข้าใจความหใายและยังไม่ต้องสะกดแต่แค่เห็นภาพเปรียบเทียบและเช้าใจว่ามันต้องออกเสียงยังไง อย่าพึ่งสนหลักการเพราะภาษาโดยแก่นมันก็คือสัญลักษณ์เพื่อสื่อความหมาย ฉะนั้นเข้าใจว่ามันเป็นรูปภาพสัญลักษณ์ก็พอ)
2.เรียนรู้การสะกด(Spelling) ตัวสะกดคืออะไร พยัญชนะคืออะไร สระคืออะไรแล้วก็นำสิ่งเหล่านั้นมาผสมรวมกันและอ่านออกเสียงจนเกิดเป็นคำ เรียนจากตั้งแต่มีสระเดี่ยวๆ a e i o u เงื่อนเสียงสั้น เสียงยาว จนเริ่มยากขึ้นเป็นประโยค 2สระเช่น ai,ea,ui,ue,or,oo,oe,ia,ie เป็นต้นว่าพอมันอยู่ด้วยกันมันออกเสียงว่าอะไร
3.เริ่มเรียนรู้โครงสร้างประโยค (sentence structure) เริ่มเอาคำที่ผสมตัวอักษรได้มาสร้างเป็นประโยคเพื่อสื่อสารและอธิบายสิ่งต่างๆรอบตัว พร้อมกับเรียนหน้าที่ของคำจะได้เรียงประโยคได้ถูกต้องและมีความหมาย (part of speech)
4.จึงค่อยเรียนรู้ไวยากรณ์ (grammar) พวกกฎต่างๆในการเขียนเชื่อมประโยคหรืออธิบายสิ่ง
ต่างๆ เช่น a,an,the adj order, linking verbs , linking of purpose , if clause , แล้วจึงเป็น tense ต่างๆเพื่ออธิบายเรื่องของเวลา ทีนี้มันก็จะตามมาด้วย v1,2,3 ตามลำดับ แล้วก็จะมีpronunciation แทรกๆไปด้วย
5.ที่นี้พอมีพื้นฐานทั้งหมดนี้เราจึงค่อยเริ่มฝึกตามที่บทความหรือที่หลายๆคนชอบบอกให้ฝึกทำ เช่นอยากอ่านเก่งก็ให้อ่านเยอะๆ(มีคำถามอีกว่าอ่านยังไงให้เข้าใจความหมายและจำคำศัพท์ได้) หรืออยากฟังเก่งก็ให้ฝึกฟังผ่านหนัง ผ่านเพลงหรือสื่อที่ชอบ ฟังซ้ำ3รอบ ซึ่งผมรู้สึกว่ามันทำซ้ำได้จริงหรอ ในแต่ละจุดก็ต้องจด ต้องไล่อ่านบทที่ละจุดด้วยเยอะและกินเวลามาก หรือแม้แต่ฝึกเขียนก็ให้เขียนนั้นเขียนนี้ เขียนDiary เขียนสรุป ฝึกพูดก็ลองหาคุยกับคนที่ใช้ภาษาอังกฤษ ลองพูดกับตัวเองอธิบายสิ่งต่างๆเป็นภาษา
สรุปคำถาม
- ทั้ง5ข้อผมเข้าใจถูกไหมครับถ้าต้องเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่0ลำดับการเรียนมันจะประมาณนี้ แล้วอันที่พี่ๆใช้เรียนใช้ฝึกจนเก่งมีหน้าตาเป็นอย่างไร จะดีมากเลยครับถ้าพี่ๆแบ่งปันแหล่งทรัพยากรที่พี่ใช้เรียนหรือฝึกจากอ่อนจนคล่องมาด้วย
ข้อมูลข้างบนอาจยาว แต่ก็ขอบคุณที่อาจจนจบนะครับ ผมต้องการความช่วยเหลือจากพี่ๆจริงๆ ขอบคุณครับ