วันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายของน้อง ๆ BNK48 รุ่นที่2 แล้ว ดังนั้นผมขออนุญาตแบ่งปันความประทับใจ และ ข้อเสนอแนะ เผื่อเป็นประโยชน์จากที่ได้รับชม BNK48 2nd Generation Last Season Concert Last Season เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน 2567 ที่ผ่านมาครับ
เริ่มด้วยความประทับใจกันก่อนเลย
เนื่องจากผมเองโชคดีที่ได้มีส่วนร่วมในคอนเสิร์ต BNK48 ตั้งแต่ STARTO มาจนถึงปัจจุบัน ทั้งหมด ก็บอกได้แบบเต็มปากเต็มคำเลยว่านี่คือ Top 3 คอนเสิร์ต BNK48 เลยครับ สำหรับผม จากที่ผ่านมา ที่การจัดการเคยผิดพลาดกับ รุ่น 1 ทั้งเรื่อง ระยะห่างที่นั่งVIP ภาพ เสียง และ องค์รวมของการแสดง ได้มีการนำบทเรียนมาทำให้ดีขึ้น
ตั้งแต่คอนเสิร์ตรุ่น 3 ก็ขอขอบคุณที่ปรับที่นั่ง VIP ให้ใกล้ชิดมาขึ้น ไม่เว้นที่เตะตระก้อแล้ว เพียงแต่ครั้งนี้มีการผิดพลาดการคำนวณบัตรยืนผิด ทำให้ยืนแออัดมาถึงโซน VIP และน้อง ๆ เดินมาทักทายตอน Encore ไม่ได้เลย รบกวนแก้ไขต่อไปนะครับ แต่ค่อย ๆ มาถูกทางละ ทีมงานควรไปดูสถานที่ก่อนขายบัตรนะครับ
ภาพและเสียงเช่นกัน ก็มีการเปลี่ยนทีมงาน ทำให้ได้คุณภาพที่ดีออกมา ไม่มีภาพไม่ตรง ซ้อมจังหวะมาก่อนว่ากล้องต้องจับใคร และเสียงไมค์หอนและหายน้อยลงไปมาก ส่วนที่ผมชอบมากที่สุดคือ ดนตรีสด ส่วนตัวรู้สึกสะใจมากที่เปิดเพลง ฤดูใหม่ มาเพลงแรก แล้วเบสกระแทกหน้ารัว ๆ ยิ่งผมโชคดีนั่งอยู่ VIP กลาง ๆ แถวหน้า มันสุดยอดเลยครับ มันไม่ใช่เธียร์เตอร์ขยายส่วนที่มาเปิด Back Tracking ให้ฟังในราคา 10 เท่า เรื่องดนตรี ขอบคุณจากใจกับทีมงาน ABAC ที่รักน้อง ๆ และช่วยเหลือ เติมเต็ม ให้มันสมบูรณ์จริง ๆ ครับ
และที่ขาดไม่ได้ อยากจะกราบแทบเท้า PD Panda และ Co-PD Niky & Nine ที่รังสรรค์งานศิลปะนี้ออกมาให้ได้ชมอย่างกลมกล่อมครับ ถ้าได้ไปฟังไลฟ์ของทั้งสาม จะรู้ว่าการวางแต่ละส่วนประกอบครั้งนี้ มันมีความหมายโดยนัยมากมายอยู่ แม้จะมีบางอย่างที่หน้างานไม่เป็นอย่างหวัง เช่น การปิดไฟตอนจบไม่มาตามคิว แต่ทั้งหมดองค์รวม ก็ออกมาเป็นภาพรวมที่ประทับใจและสุดยอดไปเลยครับ มันสวยงามที่สุดแล้วสำหรับผม การที่น้อง ๆ ได้ทำเองทั้งหมด แม้จะมาจากเหตุที่ บริษัทไม่อยากลงทุน ปล่อยแพ หรือเวลามันไม่ทัน ซึ่งก็ใจร้ายล่ะ แต่ผมอยากให้มองในแง่ดีของมันบ้างว่ามันทำให้ทุกอย่าง Authentic และมาจากน้อง ๆ จริง ๆ ครับ เพียงแค่น้อง ๆ ที่เป็นหัวเรือจะเหนื่อยหน่อย แต่คิดว่ามันน่าจะคุ้มค่านะครับ และช่วยบริษัทให้รอด ในห้วงที่ไม่ได้เฟื่องฟู เช่นนี้
อยากจะขอชื่นชมเป็นพิเศษกับความสามารถของ Panda ที่เป็นแม่งานและปลุกปั้นกับงานนี้ได้ขนาดนี้ น้องภูมิใจเถอะครับ ความสามารถของน้องมันไปไกลสุด ๆ ใจผมคิดว่าน้องคือคนที่มีความสามารถทั้ง เบื้องหน้า และ เบื้องหลัง เหมือนศิลปินอย่าง BOWKYLION เลย ก็หวังว่าน้องจะประสบความสำเร็จเช่นเดียวกันนะครับ
ถ้าไม่นับเพลง Climax อย่าง ฤดูใหม่ รวมรุ่น และมี Fond โชว์พลังเสียงอันสวยงาม แล้ว 3 การแสดงที่ประทับใจของผม เรียงตามลำดับการแสดง คือ
1. Oshibe v.JKT48 ที่ คุณพระ คุณเจ้า เพลงนี้ Minmin กินขาดหมดครับ การที่ Minmin ได้เต้นเพลงนี้มาน่าจะเป็นร้อยครั้ง แต่ยังไม่หน่ายตัวเพลง และส่งอารมณ์ได้อย่างทรงพลัง รวมทั้ง Panda Fond Gygee Nine ก็ยกระดับพลังงานเพลงที่ยิงใส่กันรัว ๆ ขึ้นไปอีก
2. Only Today v.Mix ซึ่งเพลงนี้คือการโชว์พลังของสายร้องที่ฟังแล้วหูเคลือบทอง จนผมกลับมานั่งฟังย้อนหลังวนไปวนมาซ้ำแล้วซ้ำอีก อยากจะเซฟเก็บฟังเรื่อย ๆ เลยครับ
3. เด็กดื้อ ที่มี Pakwan Gygee Minmin ขึ้นไปเฉิดฉายกันสามคนช่วงสุดท้าย เป็นโชว์ดึงสายตาสำหรับ VIP zone ที่ไม่มีน้อง ๆ เดินมาเล่นด้วย ต้องขอขอบคุณ Minmin ที่มาช่วยเติมเต็มส่งท้าย eRAA รุ่น 2 ครับ มันเข้ากับ Minmin ดีมาก เป็นการแสดงที่ Minmin ส่งพลังงานจนจบสวย ๆ เลยครับ
พูดถึงความประทับใจไปแล้ว ขอกล่าวถึงข้อเสนอแนะบ้าง
ผมอยากเสนอให้รุ่น 3 4 5 และทางบริษัทเตรียมแผนล่วงหน้า ยาว ๆ เมื่อเวลามาถึงครับ เพราะจากที่ผ่านมา ทั้งงานจบรุ่น 1 & 2 เป็นงานเร่ง งานด่วน ทั้งสิ้น
ทั้งนี้ทั้งนั้น ขอกล่าวนิดนึงว่า บริษัทใจร้ายมาก ที่เกือบจะไม่ให้มีงานนี้เกิดขึ้น ผมเข้าใจในแง่ธุรกิจ ว่าบริษัทอยู่ในสภาพที่ไม่อยากเสี่ยง เนื่องจากผมเองติดตามงบการเงินของ iAm มาตลอด และทราบว่าปี 2566 ก็ขาดทุนติดเป็นปีที่ 3 แล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้จากงบการเงินบริษัท Plan B ครับ
แต่การที่มีความคิดจะละทิ้งงานจบการศึกษาขอเด็ก ๆ ขึ้นมาในหัว มันโหดร้ายใจดำมาก มันมีทางออกเช่น การลดขนาด ลดทุน ได้ แต่สุดท้าย ขอชื่นชมที่ท้ายที่สุดก็ตัดสินใจได้ โดยการลดสเกล ไม่ทำ Full ทั้งเพลงจบ ทั้งเปิดตัว ทั้งคอน แบบรุ่น 1 แล้วให้มันเกิดขึ้นมา ไม่รู้ว่า Cherprang และ รุ่น 2 ต้องต่อสู้กันแค่ไหนถึงได้มา แต่ดีที่เกิดครับ มันไม่ควรให้เด็กต้องร้องขอ แต่ปรับลดขนาดงานไปตามสภาวะแฟนคลับ ที่ทุกคนก็ต้องยอมรับว่ามันไม่ใช่วันรุ่งโรจน์เหมือนเก่า ซึ่งเอาไปเทียบกันไม่ได้
ทีนี้ก็เลยวนมาเรื่องการไม่ทำเพลง ส่วนนี้ผมเข้าใจในแง่ธุรกิจนะว่ามันทำแบบรุ่น 1 ค่าใช้จ่ายเยอะ แล้วก็ต้องยอมรับกันตรง ๆ อีกครั้งว่า BNK48 ไม่เหมือนเดิม จึงต้องลดการลงทุนลง ไม่เช่นนั้น ก็คงต้องยุบธุรกิจปิดร้านกันไป ซึ่งคงไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น แต่สุดท้าย ทางบริษัทก็เอื้อเฟื้อ จนเกือบได้ Happy End มาเป็นเพลงพิเศษจบรุ่นในคอนเสิร์ต เพียงแต่โดนญี่ปุ่นเทนาทีสุดท้าย ตอนผมดูไลฟ์ Gygee แล้วน้องบอกว่าตัวเองเป็น Center เพลงนี้ ก็ทำให้ผมจุกและเสียดายแทนน้องมาก ๆ
ท้ายนี้ โดยรวมแล้วยังไงก็ต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยกันผลักจนมันเกิดจนได้ ผมเข้าใจทุกฝ่าย ทั้งบริษัท น้อง ๆ และแฟนคลับ ที่อาจจะมีแรงกระแทกกันไปบ้าง แต่ลากทึ้งกันมาจนคอนเสิร์ตนี้ก็กลายคอนเสิร์ตที่ประทับใจ Top 3 ของผมเลยครับ
-- So long BNK48 2nd Generation and May your next season blooming blissfully --
ความประทับใจกับการจากลาด้วยความสวยงาม (BNK48 2nd Generation Last Season Concert Last Season)
เริ่มด้วยความประทับใจกันก่อนเลย
เนื่องจากผมเองโชคดีที่ได้มีส่วนร่วมในคอนเสิร์ต BNK48 ตั้งแต่ STARTO มาจนถึงปัจจุบัน ทั้งหมด ก็บอกได้แบบเต็มปากเต็มคำเลยว่านี่คือ Top 3 คอนเสิร์ต BNK48 เลยครับ สำหรับผม จากที่ผ่านมา ที่การจัดการเคยผิดพลาดกับ รุ่น 1 ทั้งเรื่อง ระยะห่างที่นั่งVIP ภาพ เสียง และ องค์รวมของการแสดง ได้มีการนำบทเรียนมาทำให้ดีขึ้น
ตั้งแต่คอนเสิร์ตรุ่น 3 ก็ขอขอบคุณที่ปรับที่นั่ง VIP ให้ใกล้ชิดมาขึ้น ไม่เว้นที่เตะตระก้อแล้ว เพียงแต่ครั้งนี้มีการผิดพลาดการคำนวณบัตรยืนผิด ทำให้ยืนแออัดมาถึงโซน VIP และน้อง ๆ เดินมาทักทายตอน Encore ไม่ได้เลย รบกวนแก้ไขต่อไปนะครับ แต่ค่อย ๆ มาถูกทางละ ทีมงานควรไปดูสถานที่ก่อนขายบัตรนะครับ
ภาพและเสียงเช่นกัน ก็มีการเปลี่ยนทีมงาน ทำให้ได้คุณภาพที่ดีออกมา ไม่มีภาพไม่ตรง ซ้อมจังหวะมาก่อนว่ากล้องต้องจับใคร และเสียงไมค์หอนและหายน้อยลงไปมาก ส่วนที่ผมชอบมากที่สุดคือ ดนตรีสด ส่วนตัวรู้สึกสะใจมากที่เปิดเพลง ฤดูใหม่ มาเพลงแรก แล้วเบสกระแทกหน้ารัว ๆ ยิ่งผมโชคดีนั่งอยู่ VIP กลาง ๆ แถวหน้า มันสุดยอดเลยครับ มันไม่ใช่เธียร์เตอร์ขยายส่วนที่มาเปิด Back Tracking ให้ฟังในราคา 10 เท่า เรื่องดนตรี ขอบคุณจากใจกับทีมงาน ABAC ที่รักน้อง ๆ และช่วยเหลือ เติมเต็ม ให้มันสมบูรณ์จริง ๆ ครับ
และที่ขาดไม่ได้ อยากจะกราบแทบเท้า PD Panda และ Co-PD Niky & Nine ที่รังสรรค์งานศิลปะนี้ออกมาให้ได้ชมอย่างกลมกล่อมครับ ถ้าได้ไปฟังไลฟ์ของทั้งสาม จะรู้ว่าการวางแต่ละส่วนประกอบครั้งนี้ มันมีความหมายโดยนัยมากมายอยู่ แม้จะมีบางอย่างที่หน้างานไม่เป็นอย่างหวัง เช่น การปิดไฟตอนจบไม่มาตามคิว แต่ทั้งหมดองค์รวม ก็ออกมาเป็นภาพรวมที่ประทับใจและสุดยอดไปเลยครับ มันสวยงามที่สุดแล้วสำหรับผม การที่น้อง ๆ ได้ทำเองทั้งหมด แม้จะมาจากเหตุที่ บริษัทไม่อยากลงทุน ปล่อยแพ หรือเวลามันไม่ทัน ซึ่งก็ใจร้ายล่ะ แต่ผมอยากให้มองในแง่ดีของมันบ้างว่ามันทำให้ทุกอย่าง Authentic และมาจากน้อง ๆ จริง ๆ ครับ เพียงแค่น้อง ๆ ที่เป็นหัวเรือจะเหนื่อยหน่อย แต่คิดว่ามันน่าจะคุ้มค่านะครับ และช่วยบริษัทให้รอด ในห้วงที่ไม่ได้เฟื่องฟู เช่นนี้
อยากจะขอชื่นชมเป็นพิเศษกับความสามารถของ Panda ที่เป็นแม่งานและปลุกปั้นกับงานนี้ได้ขนาดนี้ น้องภูมิใจเถอะครับ ความสามารถของน้องมันไปไกลสุด ๆ ใจผมคิดว่าน้องคือคนที่มีความสามารถทั้ง เบื้องหน้า และ เบื้องหลัง เหมือนศิลปินอย่าง BOWKYLION เลย ก็หวังว่าน้องจะประสบความสำเร็จเช่นเดียวกันนะครับ
ถ้าไม่นับเพลง Climax อย่าง ฤดูใหม่ รวมรุ่น และมี Fond โชว์พลังเสียงอันสวยงาม แล้ว 3 การแสดงที่ประทับใจของผม เรียงตามลำดับการแสดง คือ
1. Oshibe v.JKT48 ที่ คุณพระ คุณเจ้า เพลงนี้ Minmin กินขาดหมดครับ การที่ Minmin ได้เต้นเพลงนี้มาน่าจะเป็นร้อยครั้ง แต่ยังไม่หน่ายตัวเพลง และส่งอารมณ์ได้อย่างทรงพลัง รวมทั้ง Panda Fond Gygee Nine ก็ยกระดับพลังงานเพลงที่ยิงใส่กันรัว ๆ ขึ้นไปอีก
2. Only Today v.Mix ซึ่งเพลงนี้คือการโชว์พลังของสายร้องที่ฟังแล้วหูเคลือบทอง จนผมกลับมานั่งฟังย้อนหลังวนไปวนมาซ้ำแล้วซ้ำอีก อยากจะเซฟเก็บฟังเรื่อย ๆ เลยครับ
3. เด็กดื้อ ที่มี Pakwan Gygee Minmin ขึ้นไปเฉิดฉายกันสามคนช่วงสุดท้าย เป็นโชว์ดึงสายตาสำหรับ VIP zone ที่ไม่มีน้อง ๆ เดินมาเล่นด้วย ต้องขอขอบคุณ Minmin ที่มาช่วยเติมเต็มส่งท้าย eRAA รุ่น 2 ครับ มันเข้ากับ Minmin ดีมาก เป็นการแสดงที่ Minmin ส่งพลังงานจนจบสวย ๆ เลยครับ
พูดถึงความประทับใจไปแล้ว ขอกล่าวถึงข้อเสนอแนะบ้าง
ผมอยากเสนอให้รุ่น 3 4 5 และทางบริษัทเตรียมแผนล่วงหน้า ยาว ๆ เมื่อเวลามาถึงครับ เพราะจากที่ผ่านมา ทั้งงานจบรุ่น 1 & 2 เป็นงานเร่ง งานด่วน ทั้งสิ้น
ทั้งนี้ทั้งนั้น ขอกล่าวนิดนึงว่า บริษัทใจร้ายมาก ที่เกือบจะไม่ให้มีงานนี้เกิดขึ้น ผมเข้าใจในแง่ธุรกิจ ว่าบริษัทอยู่ในสภาพที่ไม่อยากเสี่ยง เนื่องจากผมเองติดตามงบการเงินของ iAm มาตลอด และทราบว่าปี 2566 ก็ขาดทุนติดเป็นปีที่ 3 แล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แต่การที่มีความคิดจะละทิ้งงานจบการศึกษาขอเด็ก ๆ ขึ้นมาในหัว มันโหดร้ายใจดำมาก มันมีทางออกเช่น การลดขนาด ลดทุน ได้ แต่สุดท้าย ขอชื่นชมที่ท้ายที่สุดก็ตัดสินใจได้ โดยการลดสเกล ไม่ทำ Full ทั้งเพลงจบ ทั้งเปิดตัว ทั้งคอน แบบรุ่น 1 แล้วให้มันเกิดขึ้นมา ไม่รู้ว่า Cherprang และ รุ่น 2 ต้องต่อสู้กันแค่ไหนถึงได้มา แต่ดีที่เกิดครับ มันไม่ควรให้เด็กต้องร้องขอ แต่ปรับลดขนาดงานไปตามสภาวะแฟนคลับ ที่ทุกคนก็ต้องยอมรับว่ามันไม่ใช่วันรุ่งโรจน์เหมือนเก่า ซึ่งเอาไปเทียบกันไม่ได้
ทีนี้ก็เลยวนมาเรื่องการไม่ทำเพลง ส่วนนี้ผมเข้าใจในแง่ธุรกิจนะว่ามันทำแบบรุ่น 1 ค่าใช้จ่ายเยอะ แล้วก็ต้องยอมรับกันตรง ๆ อีกครั้งว่า BNK48 ไม่เหมือนเดิม จึงต้องลดการลงทุนลง ไม่เช่นนั้น ก็คงต้องยุบธุรกิจปิดร้านกันไป ซึ่งคงไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น แต่สุดท้าย ทางบริษัทก็เอื้อเฟื้อ จนเกือบได้ Happy End มาเป็นเพลงพิเศษจบรุ่นในคอนเสิร์ต เพียงแต่โดนญี่ปุ่นเทนาทีสุดท้าย ตอนผมดูไลฟ์ Gygee แล้วน้องบอกว่าตัวเองเป็น Center เพลงนี้ ก็ทำให้ผมจุกและเสียดายแทนน้องมาก ๆ
ท้ายนี้ โดยรวมแล้วยังไงก็ต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยกันผลักจนมันเกิดจนได้ ผมเข้าใจทุกฝ่าย ทั้งบริษัท น้อง ๆ และแฟนคลับ ที่อาจจะมีแรงกระแทกกันไปบ้าง แต่ลากทึ้งกันมาจนคอนเสิร์ตนี้ก็กลายคอนเสิร์ตที่ประทับใจ Top 3 ของผมเลยครับ
-- So long BNK48 2nd Generation and May your next season blooming blissfully --