วันที่ 6 มิถุนายนนี้ ทาง 𝗧𝗼𝗸𝘆𝗼 𝗗𝗶𝘀𝗻𝗲𝘆𝘀𝗲𝗮 จะเปิดโซนใหม่ชื่อ 𝗙𝗮𝗻𝘁𝗮𝘀𝘆 𝗦𝗽𝗿𝗶𝗻𝗴 พร้อมกับเครื่องเล่นใหม่ 4 เครื่องเล่น คือ
- Anna and Elsa's Frozen Journey
- Rapunzel's Lantern Festival
- Peter Pan's Never Land Adventure
- Fairy Tinker Bell's Busy Buggies
จากเรื่อง 𝘍𝘳𝘰𝘻𝘦𝘯, 𝘛𝘢𝘯𝘨𝘭𝘦𝘥, และ 𝘗𝘦𝘵𝘦𝘳 𝘗𝘢𝘯 นั่นเอง นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก และโรงแรมใหม่ด้วยครับ
ส่วนวิธีเข้าโซน 𝗙𝗮𝗻𝘁𝗮𝘀𝘆 𝗦𝗽𝗿𝗶𝗻𝗴𝘀 มี 2 วิธีครับ
1. 𝐃𝐢𝐬𝐧𝐞𝐲𝐬𝐞𝐚 𝐓𝐢𝐜𝐤𝐞𝐭 + 𝐒𝐭𝐚𝐧𝐝𝐛𝐲 𝐏𝐚𝐬𝐬, 𝐨𝐫 𝐃𝐏𝐀
เพราะเนื่องจากเป็นส่วนต่อขยายของ Disneysea เพราะฉะนั้นเราต้องมีบัตรเข้า Disneysea ก่อน เมื่อเข้าไปใน park ได้แล้ว ให้เปิด Disney resort app เพื่อจองเครื่องเล่นในโซน Fantasy Springs ซึ่งจะมีด้วยกัน 2 แบบ
- Standby Pass บัตรนี้ฟรีครับ
- Disney Premier Access (DPA) บัตรนี้มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
Standby pass ใช้ได้กับทั้ง 4 เครื่องเล่น แต่ DPA ใช้ได้ 3 เครื่องเล่น ไม่รวม Fairy Tinker Bell's Busy Buggies ครับ
หลังจากจองเวลาเครื่องเล่นแล้ว ที่หน้า app ของเราจะแสดงเวลาสำหรับการเข้าโซน Fantasy Springs เช่น 11:00AM - 02:00PM โดยมีกรอบเวลา 3 ชั่วโมง ซึ่งเวลาที่ระบุนี้คือเวลาที่เราต้องเดินเข้าโซนให้ทัน โดยทางเข้าจะอยู่ใกล้ๆโซน Arabian coast ซึ่งพอเราเข้าไปแล้วเราจะอยู่ถึงกี่โมงก็ได้ครับ แต่ทั้งนี้ก็ควรเข้าให้ทันเวลาของเครื่องเล่นที่เราจองด้วยดีกว่าครับ แต่ข้อสำคัญคือถ้าเราเดินออกจากโซนแล้วจะไม่สามารถกลับเข้าไปใหม่ไม่ว่าจะอยู่ในกรอบเวลาหรือไม่ก็ตาม ซึ่งถ้าจะเข้าใหม่คงต้องไปจอง Standby pass หรือ DPA ใหม่
2. One-𝐃𝐚𝐲 𝐏𝐚𝐬𝐬𝐩𝐨𝐫𝐭: 𝐅𝐚𝐧𝐭𝐚𝐬𝐲 𝐒𝐩𝐫𝐢𝐧𝐠𝐬 𝐌𝐚𝐠𝐢𝐜
สำหรับแขกที่พักที่โรงแรม Fantasy Springs Hotel จะสามารถซื้อบัตร 1-𝐷𝑎𝑦 𝑃𝑎𝑠𝑠𝑝𝑜𝑟𝑡 𝐹𝑎𝑛𝑡𝑎𝑠𝑦 𝑆𝑝𝑟𝑖𝑛𝑔𝑠 𝑀𝑎𝑔𝑖𝑐 ของโซน Fantasy Springs ได้เลย ซึ่งบัตรนี้จะรวมค่าเข้า Disneysea ไปในตัวบัตรเรียบร้อยแล้ว
ข้อดีคือ สามารถเข้า-ออก โซน Fantasy Springs กี่ครั้งก็ได้รวมถึงเล่นเครื่องเล่นในโซนนี้แบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง แบบ Piorty access หรือไม่ต้องต่อคิวนานนั่นเอง แต่ข้อเสียสำหรับผมคือราคาบัตรค่อนข้างแพงทีเดียว ผู้ใหญ่อยู่ที่ 22,900 yen – 25,900 yen และต้องเป็นแขกที่เข้าพักที่ Disneysea Fantasy Springs Hotel เท่านั้นถึงสามารถซื้อได้ ...จากที่ผมทดลองกดจองโรงแรมในช่วงนี้ ต้องบอกว่าอัตราการแข่งขันสูงกว่า Miracosta Hotel ฝั่ง harbor view เสียอีก
หรือหากใครที่จอง Vacation Package ในช่วงนี้ก็จะได้ 1-Day Passport Fantasy Springs Magic ในวันที่ 2 ของการเข้าพักเช่นเดียวกันตัว package มี 2 แบบ
Enjoy Attractions
Enjoy Attractions & More
มีให้เลือกทั้งแบบ 2 และ 3 วัน ความแตกต่างของทั้ง 2 packages โดยคร่าวๆ คือแบบ more จะสามารถเลือกการชมแสดงและร้านอาหารกลางวันหรืออาหารเย็นในวันที่ 2 หรือ 3 ได้ ยกตัวอย่างเช่นสามารถจองร้านอาหารในโซน Fantasy Springs ได้ล่วงหน้า ซึ่งแน่นอนว่าช่วงนี้คิวเต็มเร็วมาก
2DAYS
วันแรกจะได้ Disneyland 1-day Passport
วันที่สองจะได้ 1-day Passport Fantasy Springs Magic สำหรับเข้า Disneysea และ โซน Fantasy Springs
3DAYS
สองวันแรกจะเหมือนกัน ส่วนวันที่สามจะได้ Disneysea 1-day Passport แต่ไม่มี 1-day Passport Fantasy Springs Magic ครับ
Package จะรวมห้องพักด้วยซึ่งเราสามารถเลือกโรงแรมได้ แต่ไม่ว่าเราจะนอนที่ Miracosta Hotel หรือ Disneyland Hotel ลำดับของบัตร 1-Days pass จะเรียงแบบที่นำเสนอด้านบนเสมอครับ
สำหรับราคารวมของ package จะขึ้นอยู่กลับกิจกรรมและโรงแรมที่เราเลือกรวมถึงร้านอาหารเช้าที่เราจองด้วยครับ
ซึ่งแน่นอนว่าโรงแรม Tokyo Disneysea Fantasy Springs นั้นเต็มตลอด ใครอยากไปพักช่วงนี้คงต้องรีบจองตั๋วกันหน่อย
เพราะฉะนั้นในกรณีที่เลือก Fantasy Springs ซึ่งน่าจะเป็นเป้าหมายหลักไม่ทัน ผมลองกดไล่ดูแล้ว ถ้านอน Toy Story Hotel จะประหยัดสุดครับ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่คนครับ
สำหรับเพื่อนๆที่มีแผนจะเดินทางช่วงเดือนตุลาคมนี้ 𝗩𝗮𝗰𝗮𝘁𝗶𝗼𝗻 𝗣𝗮𝗰𝗸𝗮𝗴𝗲 ของรอบเดือนตุลาจะเปิดให้จองวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ เวลาไทย 13:00 น. นะครับ อาจจะสามารถจองโรงแรมใหม่ Fantasy Spring ทันถ้าเข้าไปเร็วพอครับ
หากคิดว่ารีวิวนี้ถูกใจพอเป็นประโยชน์สามารถกดติดตามที่ page ของผมที่ link นี้ได้ครับ ขอบคุณครับ
https://www.facebook.com/h2journey 
𝗧𝗼𝗸𝘆𝗼 𝗗𝗶𝘀𝗻𝗲𝘆𝘀𝗲𝗮 จะเปิดโซนใหม่ชื่อ 𝗙𝗮𝗻𝘁𝗮𝘀𝘆 𝗦𝗽𝗿𝗶𝗻𝗴 พร้อมเครื่องเล่นในวันที่ 6 มิถุนายนนี้ครับ
- Anna and Elsa's Frozen Journey
- Rapunzel's Lantern Festival
- Peter Pan's Never Land Adventure
- Fairy Tinker Bell's Busy Buggies
จากเรื่อง 𝘍𝘳𝘰𝘻𝘦𝘯, 𝘛𝘢𝘯𝘨𝘭𝘦𝘥, และ 𝘗𝘦𝘵𝘦𝘳 𝘗𝘢𝘯 นั่นเอง นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก และโรงแรมใหม่ด้วยครับ
ส่วนวิธีเข้าโซน 𝗙𝗮𝗻𝘁𝗮𝘀𝘆 𝗦𝗽𝗿𝗶𝗻𝗴𝘀 มี 2 วิธีครับ
1. 𝐃𝐢𝐬𝐧𝐞𝐲𝐬𝐞𝐚 𝐓𝐢𝐜𝐤𝐞𝐭 + 𝐒𝐭𝐚𝐧𝐝𝐛𝐲 𝐏𝐚𝐬𝐬, 𝐨𝐫 𝐃𝐏𝐀
เพราะเนื่องจากเป็นส่วนต่อขยายของ Disneysea เพราะฉะนั้นเราต้องมีบัตรเข้า Disneysea ก่อน เมื่อเข้าไปใน park ได้แล้ว ให้เปิด Disney resort app เพื่อจองเครื่องเล่นในโซน Fantasy Springs ซึ่งจะมีด้วยกัน 2 แบบ
- Standby Pass บัตรนี้ฟรีครับ
- Disney Premier Access (DPA) บัตรนี้มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
Standby pass ใช้ได้กับทั้ง 4 เครื่องเล่น แต่ DPA ใช้ได้ 3 เครื่องเล่น ไม่รวม Fairy Tinker Bell's Busy Buggies ครับ
หลังจากจองเวลาเครื่องเล่นแล้ว ที่หน้า app ของเราจะแสดงเวลาสำหรับการเข้าโซน Fantasy Springs เช่น 11:00AM - 02:00PM โดยมีกรอบเวลา 3 ชั่วโมง ซึ่งเวลาที่ระบุนี้คือเวลาที่เราต้องเดินเข้าโซนให้ทัน โดยทางเข้าจะอยู่ใกล้ๆโซน Arabian coast ซึ่งพอเราเข้าไปแล้วเราจะอยู่ถึงกี่โมงก็ได้ครับ แต่ทั้งนี้ก็ควรเข้าให้ทันเวลาของเครื่องเล่นที่เราจองด้วยดีกว่าครับ แต่ข้อสำคัญคือถ้าเราเดินออกจากโซนแล้วจะไม่สามารถกลับเข้าไปใหม่ไม่ว่าจะอยู่ในกรอบเวลาหรือไม่ก็ตาม ซึ่งถ้าจะเข้าใหม่คงต้องไปจอง Standby pass หรือ DPA ใหม่
2. One-𝐃𝐚𝐲 𝐏𝐚𝐬𝐬𝐩𝐨𝐫𝐭: 𝐅𝐚𝐧𝐭𝐚𝐬𝐲 𝐒𝐩𝐫𝐢𝐧𝐠𝐬 𝐌𝐚𝐠𝐢𝐜
สำหรับแขกที่พักที่โรงแรม Fantasy Springs Hotel จะสามารถซื้อบัตร 1-𝐷𝑎𝑦 𝑃𝑎𝑠𝑠𝑝𝑜𝑟𝑡 𝐹𝑎𝑛𝑡𝑎𝑠𝑦 𝑆𝑝𝑟𝑖𝑛𝑔𝑠 𝑀𝑎𝑔𝑖𝑐 ของโซน Fantasy Springs ได้เลย ซึ่งบัตรนี้จะรวมค่าเข้า Disneysea ไปในตัวบัตรเรียบร้อยแล้ว
ข้อดีคือ สามารถเข้า-ออก โซน Fantasy Springs กี่ครั้งก็ได้รวมถึงเล่นเครื่องเล่นในโซนนี้แบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง แบบ Piorty access หรือไม่ต้องต่อคิวนานนั่นเอง แต่ข้อเสียสำหรับผมคือราคาบัตรค่อนข้างแพงทีเดียว ผู้ใหญ่อยู่ที่ 22,900 yen – 25,900 yen และต้องเป็นแขกที่เข้าพักที่ Disneysea Fantasy Springs Hotel เท่านั้นถึงสามารถซื้อได้ ...จากที่ผมทดลองกดจองโรงแรมในช่วงนี้ ต้องบอกว่าอัตราการแข่งขันสูงกว่า Miracosta Hotel ฝั่ง harbor view เสียอีก
หรือหากใครที่จอง Vacation Package ในช่วงนี้ก็จะได้ 1-Day Passport Fantasy Springs Magic ในวันที่ 2 ของการเข้าพักเช่นเดียวกันตัว package มี 2 แบบ
Enjoy Attractions
Enjoy Attractions & More
มีให้เลือกทั้งแบบ 2 และ 3 วัน ความแตกต่างของทั้ง 2 packages โดยคร่าวๆ คือแบบ more จะสามารถเลือกการชมแสดงและร้านอาหารกลางวันหรืออาหารเย็นในวันที่ 2 หรือ 3 ได้ ยกตัวอย่างเช่นสามารถจองร้านอาหารในโซน Fantasy Springs ได้ล่วงหน้า ซึ่งแน่นอนว่าช่วงนี้คิวเต็มเร็วมาก
2DAYS
วันแรกจะได้ Disneyland 1-day Passport
วันที่สองจะได้ 1-day Passport Fantasy Springs Magic สำหรับเข้า Disneysea และ โซน Fantasy Springs
3DAYS
สองวันแรกจะเหมือนกัน ส่วนวันที่สามจะได้ Disneysea 1-day Passport แต่ไม่มี 1-day Passport Fantasy Springs Magic ครับ
Package จะรวมห้องพักด้วยซึ่งเราสามารถเลือกโรงแรมได้ แต่ไม่ว่าเราจะนอนที่ Miracosta Hotel หรือ Disneyland Hotel ลำดับของบัตร 1-Days pass จะเรียงแบบที่นำเสนอด้านบนเสมอครับ
สำหรับราคารวมของ package จะขึ้นอยู่กลับกิจกรรมและโรงแรมที่เราเลือกรวมถึงร้านอาหารเช้าที่เราจองด้วยครับ
ซึ่งแน่นอนว่าโรงแรม Tokyo Disneysea Fantasy Springs นั้นเต็มตลอด ใครอยากไปพักช่วงนี้คงต้องรีบจองตั๋วกันหน่อย
เพราะฉะนั้นในกรณีที่เลือก Fantasy Springs ซึ่งน่าจะเป็นเป้าหมายหลักไม่ทัน ผมลองกดไล่ดูแล้ว ถ้านอน Toy Story Hotel จะประหยัดสุดครับ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่คนครับ
สำหรับเพื่อนๆที่มีแผนจะเดินทางช่วงเดือนตุลาคมนี้ 𝗩𝗮𝗰𝗮𝘁𝗶𝗼𝗻 𝗣𝗮𝗰𝗸𝗮𝗴𝗲 ของรอบเดือนตุลาจะเปิดให้จองวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ เวลาไทย 13:00 น. นะครับ อาจจะสามารถจองโรงแรมใหม่ Fantasy Spring ทันถ้าเข้าไปเร็วพอครับ
หากคิดว่ารีวิวนี้ถูกใจพอเป็นประโยชน์สามารถกดติดตามที่ page ของผมที่ link นี้ได้ครับ ขอบคุณครับ
https://www.facebook.com/h2journey