ขออนุญาตตั้งกระทู้นี้เพื่อมาแชร์ประสบการณ์การทำการุณยฆาตสัตว์เลี้ยงแสนรักของตัวเองค่ะ เนื่องจากคิดว่ากระทู้คงเป็นประโยชน์ให้เจ้าของหลายท่านที่กำลังเผชิญสถานการณ์เดียวกันอยู่ หากมีคำผิด หรือข้อความใดที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจ ขออภัยล่วงหน้าไว้นะคะ
**กระทู้นี้ขอให้เป็นวิทยาทาน และหวังว่าหากมีประโยชน์กับใคร ขอให้ผลบุญทั้งหมดไปถึงเซเว่นนะลูก
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เราตัดสินใจพาหมาของเราไปทำการการุณยฆาตอย่างถูกต้องในคลินิกที่ได้รับการรับรอง
จากที่เราทำการหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต พบว่าคนไทยไม่ค่อยมีการแชร์เรื่องนี้หรือทำกันน้อย เราจึงลองหาข้อมูลไม่ว่าจะเป็นการโทรสอบถามคลินิกที่เราดูแลรักษาน้องเป็นประจำ คุณครูที่เป็นผู้ฝึกสุนัขทหาร และถามเพื่อนในเฟสบุ๊คที่ดูแลเรื่องการจับหมาจรทำหมัน ซึ่งเราพบว่าไม่มีใครรับทำสิ่งนี้จริงๆ อาจจะด้วยเรื่องจรรยาบรรณส่วนบุคคลหรือความรู้สึก อันนี้เราเข้าใจค่ะ เราเลยลองหาในเน็ตดูก็พบว่ามีคลินิกนึงที่แถวสุวินทวงศ์รับทำ โดยเขามีการใบรับรองจากอเมริกาค่ะ เราเลยติดต่อไป
*ส่วนเรื่องเหตุผลและหมาเราเป็นอะไร เราขออนุญาตเก็บไว้ตอนท้ายค่ะ
โรงพยาบาลสัตว์ที่เรานัดหมายไปชื่อ "โรงพยาบาลสัตว์ปาริชาติ สุวินทวงศ์" ค่ะ อยู่นอกเมือง แถวมีนบุรี ขับจากบ้านเราไปก็เกือบชั่วโมง
เขาให้ส่งข้อมูลและทำการนัดหมายเบื้องต้นผ่าน Line เราก็ทำการส่งวิดีโอ แจ้งรายละเอียดต่างๆและอาการของน้องหมาของเราไปก่อน เจ้าหน้าที่จึงทำการนัดหมายให้ในวันที่คุณหมอที่รับเคสนี้เข้า ซึ่งก็คือ 4 วันหลังจากนั้นค่ะ (จริงๆแล้วเขารับมาทำถึงที่บ้านนะคะ แต่เจ้าของต้องมีผลการตรวจโรคน้องและไปแนะนำจากสัตว์แพทย์ที่เคยวินิจฉัย รวมไปถึงทำแบบประเมินตามขั้นตอนก่อนค่ะ)
แต่ด้วยเราไม่มีใบรับรองแพทย์และผลตรวจเดิม (หาไม่เจอ) เราเลยขอนัดให้หมอรับเคสไปตรวจวินิจฉัยพร้อมกันเลย
สิ่งที่ รพส ให้เราทำตามขั้นตอนมีดังนี้ค่ะ (กรณีไม่มีผลตรวจจากที่เดิมมาก่อน+นำน้องไปเอง)
- ทำแบบประเมินคุณภาพชีวิต/อาการของน้อง/ความเป็นไปได้ในการรักษาน้องหายและกลับมาใช้ชีวิตปกติ/ความพร้อมของเจ้าของ จะมี 2 ใบค่ะ (ถ้าคะแนนสูง 70+ จาก 100 จะเข้าเกณฑ์พิจารณาให้การุณยฆาตได้)
- คุณหมอทำการตรวจสภาพน้องหมาที่จะเข้ามาทำการุณยฆาตด้วยตัวเอง ว่าเข้าเงื่อนไขไหม และตรงกับแบบที่เราประเมินหรือไม่ และให้ความเห็น
- ถ้าเข้าเกณฑ์ คุณหมอจะเริ่มอธิบายขั้นตอนการทำการการุณยฆาต สรุปคร่าวๆคือ จะเป็นการฉีดยานอนหลับเข้าเส้นทีละขั้น น้องจะค่อยๆหลับ และจากไปโดย "ไม่ทรมาน" เลยค่ะ หมอจะแจ้งว่าแต่ละขั้นอาการของน้องจะเป็นยังไง และอาจเกิดการลืมตาหรือกระตุกได้ตามธรรมชาติ เกิดการคลายตัวของกล้ามเนื้อ ฯลฯ เพื่อให้เจ้าของเตรียมใจก่อน
- หมอจะให้เจ้าของเลือกว่า จะอยู่ระหว่างขั้นตอนหรือจะออกไปรอ แต่คุณหมอแนะนำว่าบางทีน้องก็อาจจะอยากอยู่กับเจ้าของจนนาทีสุดท้ายก็ได้เพราะเป็นเรื่องของความรู้สึก (พิมพ์ไปก็ร้องไห้ไป เอาจริงๆก็พิมพ์ยากนะคะ)
- เขาจะเอากระดาษที่แสตมป์รอยเท้าน้องมาให้เป็นของดูต่างหน้าเก็บไว้ค่ะ (ได้รับปั๊ปร้องไห้หนักขึ้นไปอีก)
- พอจบขั้นตอน เขาสามารถช่วยโทรจองเตาเผาสุนัขได้ด้วยค่ะ ซึ่งด้วยเรื่องเวลา เราเลยเอาน้องไปเผาตรงวัดแถวบ้านแทน (วัดน้อยนอก เมืองทองธานี)
สรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมด (ขึ้นกับน้ำหนักสุนัขนะคะ) คือ 5800 บาท สำหรับสุนัข นน. 13.5 กก. (20+ จะ 6000+ ค่ะถ้าจำไม่ผิด)
คุณหมอเข้าแค่บางวันนะคะ ต้องนัดล่วงหน้าก่อน
------------------------------------------------------------------------------------------------------
ทีนี้มาคุยกันเรื่องเหตุผลที่เราตัดสินใจทำการการุณยฆาตน้องค่ะ
เราเป็นคนเลี้ยงหมามาหลายตัว และส่วนใหญ่ที่ผ่านมา น้องแก่ตายในอายุ 15+ปีค่ะ แต่การแก่ตายของเขาทุกครั้ง สร้างบาดแผลให้ทั้งเราและเขาเองค่ะ ที่โหดร้ายก็คือ คนอยู่ทรมาณกว่าในระยะยาวค่ะ
หมาที่แก่มาก วันที่น้องป่วย เขาจะเสื่อมถอยเร็วมากๆค่ะ วันก่อนยังเดินได้แต่ขาอ่อนแรงเล็กน้อย วันถัดไปเขาอาจจะไม่สามารถลุกได้อีกต่อไป หรือกระทั้งขยับตัวได้แค่ช่วงบนและเป็นอัมพาต เหล่านี้เป็นสิ่งที่พบเจอได้ค่ะ
สิ่งที่ตามมาคือน้องจะเริ่มปฏิเสธอาหารและน้ำหนักตัวลดลงเรื่อยๆ อย่างรวดเร็ว เจ้าของจะต้องทำการบังคับน้องให้ทานอาหาร อาจจะผ่านการป้อนหรือการยัด อันนั้นก็เป็นสิ่งที่โหดร้ายกับทั้งคู่ค่ะ ถ้าเจ้าของดูแลน้องไม่ดี แผลกดทับ น้องอาจจะแผลเหวอะหวะ หรือมีหนอนขึ้นจากแผลได้หากไม่มั่นทำความสะอาด และน้องไม่สามารถลุกออกไปอึฉี่ได้ เราต้องค่อยอาบน้ำ ทำความสะอาดและดูแลเขาเหมือนคนป่วยติดเตียงคนนึ่งค่ะ ผอมมากๆ ขยับผิดท่ามีโอกาสที่กระดูกจะทิ่มออกมาบาดเจ็บหนักอีกได้ (อันนี้เป็นเคสที่คุยกับครูฝึกหมาทหารมานะคะ)
เซเว่นอยู่ในสเตจที่เป็นอัมพาต อึฉี่ไม่ได้ ปฏิเสธอาหารจนน้ำหนัก 25 กก เหลือ 13.5 กก ทั้งที่เราพยายามบังคับให้น้องกิน ไม่ว่าจะพยายามหาอาหารทุกประเภท ให้นม ให้เนื้อไก่ ทำอาหารเหลว ให้อาหารกระป๋อง ให้ไข่ต้มไข่ตุ๋น และทุกครั้งที่เขาปฏิเสธอาหาร เราจะเสียใจมากค่ะเพราะเราไม่รู้ว่าเราสามารถทำอะไรให้เขาได้อีก เราร้องไห้ทุกวันวันหละหลายๆรอบ
น้องหายใจหอบๆ แต่ก็นอนอยู่ตรงนั้น ข้างในเขาแข็งแรงกว่าที่คิดค่ะ มันเป็นสิ่งที่ยืดเยื้อ ยาวนานและเจ็บปวดที่จะเห็นมากๆ เราพร้อมดูแลเขานะคะ แต่ทุกครั้งที่เห็นกลับคิดว่าเขากำลังทรมานอยู่ มันบีบใจเรามากๆ เราอยากให้เขาหยุดความทรมานสักที เราเลยตัดสินใจหาที่การุณยฆาตเขาค่ะ
สำหรับเราที่ผ่านเรื่องนี้มา มีแค่เจ้าของที่รักเขามากเท่านั้น ที่จะยอมผ่าน Process นี้ได้ เพราะมันใช้การทำใจและการตัดสินใจอย่างเด็ดเดียวค่ะ
สำหรับเรา เราไม่เสียใจสักนิดเดียวที่เราตัดสินใจพาน้องไปการุณยฆาตค่ะ เราขอบคุณตัวเองที่สามารถเด็ดเดียวได้แบบนี้ด้วยซ้ำ เพราะตอนที่น้องไปเขาดูสบายและมีความสุขในการนอนมากค่ะ เขาไปสบายแล้วจริงๆ
(น้องชื่อเซเว่นเพราะน้องเป็นหมาจรที่เราเก็บมาจากเซเว่นนะคะ เราอยู่ด้วยกันมา 7-8ปีก่อนน้องจะไป เราทำทุกวันดีที่สุดค่ะ เขากินอาหารดีๆ และเดินเที่ยวรอบหมู่บ้านทุกวันเช้าเย็น)
(รูปทีแรกตอนไปเก็บมาค่ะ เขามีปัญหาผิวหนังเหวอะหวะ เลยไปจับมารักษาโกนขึ้น ตอนแรกดุและดื้อมาก)
ขอบคุณที่เซเว่นช่วยมาเป็นวิทยาทานนะลูก ขอให้มีความสุขในดาวหมานะ
[CR] แชร์ประสบการณ์ การุณยฆาตสัตวเลี้ยง ในหมาชรา/ป่วยหนัก
**กระทู้นี้ขอให้เป็นวิทยาทาน และหวังว่าหากมีประโยชน์กับใคร ขอให้ผลบุญทั้งหมดไปถึงเซเว่นนะลูก
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เราตัดสินใจพาหมาของเราไปทำการการุณยฆาตอย่างถูกต้องในคลินิกที่ได้รับการรับรอง
จากที่เราทำการหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต พบว่าคนไทยไม่ค่อยมีการแชร์เรื่องนี้หรือทำกันน้อย เราจึงลองหาข้อมูลไม่ว่าจะเป็นการโทรสอบถามคลินิกที่เราดูแลรักษาน้องเป็นประจำ คุณครูที่เป็นผู้ฝึกสุนัขทหาร และถามเพื่อนในเฟสบุ๊คที่ดูแลเรื่องการจับหมาจรทำหมัน ซึ่งเราพบว่าไม่มีใครรับทำสิ่งนี้จริงๆ อาจจะด้วยเรื่องจรรยาบรรณส่วนบุคคลหรือความรู้สึก อันนี้เราเข้าใจค่ะ เราเลยลองหาในเน็ตดูก็พบว่ามีคลินิกนึงที่แถวสุวินทวงศ์รับทำ โดยเขามีการใบรับรองจากอเมริกาค่ะ เราเลยติดต่อไป
*ส่วนเรื่องเหตุผลและหมาเราเป็นอะไร เราขออนุญาตเก็บไว้ตอนท้ายค่ะ
โรงพยาบาลสัตว์ที่เรานัดหมายไปชื่อ "โรงพยาบาลสัตว์ปาริชาติ สุวินทวงศ์" ค่ะ อยู่นอกเมือง แถวมีนบุรี ขับจากบ้านเราไปก็เกือบชั่วโมง
เขาให้ส่งข้อมูลและทำการนัดหมายเบื้องต้นผ่าน Line เราก็ทำการส่งวิดีโอ แจ้งรายละเอียดต่างๆและอาการของน้องหมาของเราไปก่อน เจ้าหน้าที่จึงทำการนัดหมายให้ในวันที่คุณหมอที่รับเคสนี้เข้า ซึ่งก็คือ 4 วันหลังจากนั้นค่ะ (จริงๆแล้วเขารับมาทำถึงที่บ้านนะคะ แต่เจ้าของต้องมีผลการตรวจโรคน้องและไปแนะนำจากสัตว์แพทย์ที่เคยวินิจฉัย รวมไปถึงทำแบบประเมินตามขั้นตอนก่อนค่ะ)
แต่ด้วยเราไม่มีใบรับรองแพทย์และผลตรวจเดิม (หาไม่เจอ) เราเลยขอนัดให้หมอรับเคสไปตรวจวินิจฉัยพร้อมกันเลย
สิ่งที่ รพส ให้เราทำตามขั้นตอนมีดังนี้ค่ะ (กรณีไม่มีผลตรวจจากที่เดิมมาก่อน+นำน้องไปเอง)
- ทำแบบประเมินคุณภาพชีวิต/อาการของน้อง/ความเป็นไปได้ในการรักษาน้องหายและกลับมาใช้ชีวิตปกติ/ความพร้อมของเจ้าของ จะมี 2 ใบค่ะ (ถ้าคะแนนสูง 70+ จาก 100 จะเข้าเกณฑ์พิจารณาให้การุณยฆาตได้)
- คุณหมอทำการตรวจสภาพน้องหมาที่จะเข้ามาทำการุณยฆาตด้วยตัวเอง ว่าเข้าเงื่อนไขไหม และตรงกับแบบที่เราประเมินหรือไม่ และให้ความเห็น
- ถ้าเข้าเกณฑ์ คุณหมอจะเริ่มอธิบายขั้นตอนการทำการการุณยฆาต สรุปคร่าวๆคือ จะเป็นการฉีดยานอนหลับเข้าเส้นทีละขั้น น้องจะค่อยๆหลับ และจากไปโดย "ไม่ทรมาน" เลยค่ะ หมอจะแจ้งว่าแต่ละขั้นอาการของน้องจะเป็นยังไง และอาจเกิดการลืมตาหรือกระตุกได้ตามธรรมชาติ เกิดการคลายตัวของกล้ามเนื้อ ฯลฯ เพื่อให้เจ้าของเตรียมใจก่อน
- หมอจะให้เจ้าของเลือกว่า จะอยู่ระหว่างขั้นตอนหรือจะออกไปรอ แต่คุณหมอแนะนำว่าบางทีน้องก็อาจจะอยากอยู่กับเจ้าของจนนาทีสุดท้ายก็ได้เพราะเป็นเรื่องของความรู้สึก (พิมพ์ไปก็ร้องไห้ไป เอาจริงๆก็พิมพ์ยากนะคะ)
- เขาจะเอากระดาษที่แสตมป์รอยเท้าน้องมาให้เป็นของดูต่างหน้าเก็บไว้ค่ะ (ได้รับปั๊ปร้องไห้หนักขึ้นไปอีก)
- พอจบขั้นตอน เขาสามารถช่วยโทรจองเตาเผาสุนัขได้ด้วยค่ะ ซึ่งด้วยเรื่องเวลา เราเลยเอาน้องไปเผาตรงวัดแถวบ้านแทน (วัดน้อยนอก เมืองทองธานี)
สรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมด (ขึ้นกับน้ำหนักสุนัขนะคะ) คือ 5800 บาท สำหรับสุนัข นน. 13.5 กก. (20+ จะ 6000+ ค่ะถ้าจำไม่ผิด)
คุณหมอเข้าแค่บางวันนะคะ ต้องนัดล่วงหน้าก่อน
------------------------------------------------------------------------------------------------------
ทีนี้มาคุยกันเรื่องเหตุผลที่เราตัดสินใจทำการการุณยฆาตน้องค่ะ
เราเป็นคนเลี้ยงหมามาหลายตัว และส่วนใหญ่ที่ผ่านมา น้องแก่ตายในอายุ 15+ปีค่ะ แต่การแก่ตายของเขาทุกครั้ง สร้างบาดแผลให้ทั้งเราและเขาเองค่ะ ที่โหดร้ายก็คือ คนอยู่ทรมาณกว่าในระยะยาวค่ะ
หมาที่แก่มาก วันที่น้องป่วย เขาจะเสื่อมถอยเร็วมากๆค่ะ วันก่อนยังเดินได้แต่ขาอ่อนแรงเล็กน้อย วันถัดไปเขาอาจจะไม่สามารถลุกได้อีกต่อไป หรือกระทั้งขยับตัวได้แค่ช่วงบนและเป็นอัมพาต เหล่านี้เป็นสิ่งที่พบเจอได้ค่ะ
สิ่งที่ตามมาคือน้องจะเริ่มปฏิเสธอาหารและน้ำหนักตัวลดลงเรื่อยๆ อย่างรวดเร็ว เจ้าของจะต้องทำการบังคับน้องให้ทานอาหาร อาจจะผ่านการป้อนหรือการยัด อันนั้นก็เป็นสิ่งที่โหดร้ายกับทั้งคู่ค่ะ ถ้าเจ้าของดูแลน้องไม่ดี แผลกดทับ น้องอาจจะแผลเหวอะหวะ หรือมีหนอนขึ้นจากแผลได้หากไม่มั่นทำความสะอาด และน้องไม่สามารถลุกออกไปอึฉี่ได้ เราต้องค่อยอาบน้ำ ทำความสะอาดและดูแลเขาเหมือนคนป่วยติดเตียงคนนึ่งค่ะ ผอมมากๆ ขยับผิดท่ามีโอกาสที่กระดูกจะทิ่มออกมาบาดเจ็บหนักอีกได้ (อันนี้เป็นเคสที่คุยกับครูฝึกหมาทหารมานะคะ)
เซเว่นอยู่ในสเตจที่เป็นอัมพาต อึฉี่ไม่ได้ ปฏิเสธอาหารจนน้ำหนัก 25 กก เหลือ 13.5 กก ทั้งที่เราพยายามบังคับให้น้องกิน ไม่ว่าจะพยายามหาอาหารทุกประเภท ให้นม ให้เนื้อไก่ ทำอาหารเหลว ให้อาหารกระป๋อง ให้ไข่ต้มไข่ตุ๋น และทุกครั้งที่เขาปฏิเสธอาหาร เราจะเสียใจมากค่ะเพราะเราไม่รู้ว่าเราสามารถทำอะไรให้เขาได้อีก เราร้องไห้ทุกวันวันหละหลายๆรอบ
น้องหายใจหอบๆ แต่ก็นอนอยู่ตรงนั้น ข้างในเขาแข็งแรงกว่าที่คิดค่ะ มันเป็นสิ่งที่ยืดเยื้อ ยาวนานและเจ็บปวดที่จะเห็นมากๆ เราพร้อมดูแลเขานะคะ แต่ทุกครั้งที่เห็นกลับคิดว่าเขากำลังทรมานอยู่ มันบีบใจเรามากๆ เราอยากให้เขาหยุดความทรมานสักที เราเลยตัดสินใจหาที่การุณยฆาตเขาค่ะ
สำหรับเราที่ผ่านเรื่องนี้มา มีแค่เจ้าของที่รักเขามากเท่านั้น ที่จะยอมผ่าน Process นี้ได้ เพราะมันใช้การทำใจและการตัดสินใจอย่างเด็ดเดียวค่ะ
สำหรับเรา เราไม่เสียใจสักนิดเดียวที่เราตัดสินใจพาน้องไปการุณยฆาตค่ะ เราขอบคุณตัวเองที่สามารถเด็ดเดียวได้แบบนี้ด้วยซ้ำ เพราะตอนที่น้องไปเขาดูสบายและมีความสุขในการนอนมากค่ะ เขาไปสบายแล้วจริงๆ
(น้องชื่อเซเว่นเพราะน้องเป็นหมาจรที่เราเก็บมาจากเซเว่นนะคะ เราอยู่ด้วยกันมา 7-8ปีก่อนน้องจะไป เราทำทุกวันดีที่สุดค่ะ เขากินอาหารดีๆ และเดินเที่ยวรอบหมู่บ้านทุกวันเช้าเย็น)
(รูปทีแรกตอนไปเก็บมาค่ะ เขามีปัญหาผิวหนังเหวอะหวะ เลยไปจับมารักษาโกนขึ้น ตอนแรกดุและดื้อมาก)
ขอบคุณที่เซเว่นช่วยมาเป็นวิทยาทานนะลูก ขอให้มีความสุขในดาวหมานะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น