สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์ความรักของเราที่ยังไม่เคยสมหวังสักครั้งให้ฟังกันค่ะ สำหรับใครที่ชอบอ่านอะไรยาวๆ ก็น่าจะพอทนอ่านได้นะคะ5555
ครั้งแรกที่เราเคยแอบชอบใครสักคนก็ประมาณประถม 6 ค่ะ เราจำได้ว่าตอนนั้นโรงเรียนของเรามีมาตรการที่จำเป็นต้องเรียนออนไลน์นานมากประมาณหนึ่งปีกว่าๆ มั้งถ้าเราจำไม่ผิด ตอนนั้นเราต้องนอนทำใบงานและเข้าเรียนออนไลน์กับคุณครูทุกวันโดยที่ไม่ได้เจอเพื่อนเลยค่ะ(ยกเว้นเพื่อนสาวนามสมมุติว่าเจย์ของเรา) และด้วยความที่ว่าห่างเพื่อนเราก็มีเวลาได้คุยกับเพื่อนร่วมชั้นของเราคนนึงค่ะ เราขอเรียกเขาว่าพีแล้วกันนะคะ
พีเป็นคนที่นิสัยดีและเป็นสุภาพบุรุษมากๆเลยค่ะ(ยกเว้นเรื่องเดียวที่มันจะหยอกเพื่อนที่สนิทกันด้วยการฟาดในแรงระดับเดียวกันโดยไม่สนชายหรือหญิง) แถมยังเป็นคนที่ปรึกษาได้ทุกเรื่องเลย
ตอนนั้นเรากับพีได้คุยกันบ่อยๆ ผ่านไลน์ค่ะ คุยกันแทบจะทุกวันเพราะเรากับมันสนิทกันเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเพราะเล่นเกมด้วยกันบ่อยและเรื่องอื่นๆ ที่ทำให้สนิทกัน
แรกๆ เราก็เห็นพีเป็นเพื่อนคนนึงแหละค่ะแต่ด้วยความที่ว่ามันเป็นสุภาพบุรุษ ให้เกียรติผู้หญิงและค่อนข้างจะอบอุ่นแถมยังเพิ่มพลังบวกให้กับคนรอบข้างได้นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เราค่อยๆ มีความรู้สึกดีๆ ให้ให้กับมัน
ตอนนั้นเราก็สับสนความรู้สึกตัวเองอยู่นานจนกระทั่งเราได้ปรึกษาเพื่อนสนิทของเรานามสมมุติว่าซิน ซินมันก็บอกเราให้บอกออกไปเลยเดี๋ยวจะมาเสียใจทีหลังเราก็เลยเชื่อซินและสารภาพกับไอ้พีออกไป
ในตอนที่เราสารภาพกับพีว่า ฉันชอบแกนะ พีมันก็โอเคไม่ได้ตกใจอะไร มันบอกกับเราว่า ‘ถ้าเธอเป็นเหมือนสาวๆ ในมังงะให้เราได้เราอาจจะชอบเธอกลับก็ได้นะ’ เราที่ได้ยินแบบนั้นก็ดีใจหมั่นออกกำลังกายทุกวันและพัฒนาตัวเองให้สวยขึ้น
แต่แล้วเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อจู่ๆ ตอนที่เรากำลังนั่งรถไปซื้อของกับมะม๊าและกลุ่มเพื่อนๆ ของมะม๊า ซินมันก็ทักมาถามเราพร้อมกับแนบรูปแชทการสนทนาของใครบางคนมาให้เราดูแล้วถามเราว่า ‘นี่ใช่แชทไอ้พีมั้ย’ เราก็เลยพึ่งถึงบางอ้อและดูรูปแชทนั้นแบบจริงจัง
พอเราดูรูปนั้นดีๆ มันคือแชทของใครบางคนที่คุยกับไอ้พีในเชิงกระหนุงกระหนิงที่ใครเห็นก็ว่าเป็นแฟนกัน ตอนนั้นเราแบบหัวใจตกไปอยู่ใต้เท้าเลย
สรุปก็คือซินมันไปได้รูปแชทจากเพื่อนร่วมห้องของเราอีกคนนามสมมุติว่าฟิล์ม และซินมันก็บอกเราอีกว่าฟิล์มกับพีมันคบกันจะครบเดือนแล้ว สีหน้าเราตอนที่รู้เรื่องนี้คือแบบ นี่กูโดนหลอกเหรอวะ เราแทบจะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเลยค่ะแถมยังร้องไห้ไม่ได้ด้วยถึงแม้จะเสียใจแค่ไหนเพราะตอนนั้นเราไม่ได้อยู่คนเดียว
และสิ่งที่ทำให้เราเจ็บยิ่งกว่าการโดนไอ้พีหลอกให้ทำแบบนั้นแบบนี้เพื่อมันคือการที่ฟิล์มแฟนสาวของไอ้พีทักแชทและแคปแชทบทสนทนาหวานๆ ของนางกับไอ้พีมาให้เราดูตลอดวันนั้นหลังจากวันที่เรารู้ว่ามันสองคนคบกัน เราเองที่ทำได้แต่ฟังก็แสดงความยินดีกับพวกเขาสองคนทั้งที่จริงๆ แล้วภายในใจเราโคตรดิ่ง ในตอนนั้นเราก็รู้สึกว่าฟิล์มเริ่มทำตัวแปลกๆ เหมือนนางอยากให้เรารู้ว่านางเป็นฝ่ายชนะแต่อันนี้เราไม่แน่ใจว่าใช่รึเปล่าเพราะเราก็ไม่อยากถามนางตรงๆเพราะกลัวว่าจะผิดใจกัน
แต่แล้วหลังจากที่เราเจอเรื่องนั้นมาเราก็เอนจอยกับการกินทั้งวันจนลืมความเศร้าไปได้(ต้องขอบคุณอาหารในวันนั้นอย่างสูง)
ไม่กี่เดือนต่อมาฟิล์มกับพีก็เลิกกันไปจากสาเหตุที่ว่าพีต้องย้ายไปเรียนในโรงเรียนในอำเภอ ซึ่งเราก็เดาได้ไม่ยากเพราะเราเองก็พอรู้มาบ้างว่าฟิล์มเองเป็นคนยังไงอีกอย่างเราก็ไม่ได้เชื่อเหตุผลการเลิกราแค่เพราะย้ายโรงเรียนร้อยเปอร์เซ็นต์
ปัจจุบันเรากับพี่ก็ปรับความเข้าใจกันและกลับมาพูดคุยกับเล่นเกมด้วยกันเหมือนเดิมส่วนฟิล์มก็มีแฟนใหม่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ
เวลาผ่านไปประมาณปีกว่าๆ เราก็ไปเจอกับคนๆ นึงที่มาทำให้เราหลงรักหัวปักหัวปำ รักขนาดที่ว่าเราทั้งแต่งกลอนทั้งร้องเพลงจีบเขาเลย แบบมีวิธีไหนที่ใครแนะนำมาเราจะใช้ให้หมดเลย
เราไปเจอเขาคนนี้ในเกมๆ นึงค่ะ ต้องบอกก่อนนะคะว่าเขาคนนี้เป็นผู้หญิงนามสมมุติว่าอิงค์ พอคุยๆ กันไปก็แลกช่องทางการติดต่อกัน แรกๆ เราก็ไม่ได้ติดใจอะไรเขาแต่พอคุยกันมานานๆ ด้วยความที่เขาดีกับเรามากเราก็เลยหลงรักเขาแบบไม่รู้ตัว แต่สุดท้ายเราก็สารภาพกับเขาไปว่าเราชอบเรารักเขานะ
ตอนแรกเขาก็ยังไม่ค่อยอะไรกับเรื่องนี้เพราะเขาก็พึ่งเลิกกับเก่าแฟนเขาไป แต่พอเขาทำใจได้เขาก็เปิดใจให้เราจีบเขา เราบอกเลยว่าเราจีบอิงค์อยู่นานมากประมาณเกือบจะ 2 ปี เรางัดทุกวิธีที่คิดว่าจะได้ผลมาใช้ จนในวันเกิดเมื่อต้นปีของเราเราก็ขออิงค์เป็นแฟน เขาก็บอกเราว่าถ้าเราไปเรียนที่สถาบันแห่งหนึ่งแถวที่อิงค์อยู่ได้เราจะได้เดทกันและอาจจะได้คบกันจริงๆ ตอนนั้นเรามีไฟมากจนอยากจะรีบเรียนให้จบเลยค่ะ
แต่พอผ่านมาประมาณเดือนนึง เราก็ถามอิงค์ว่า เธอมีใจให้เราบ้างรึยัง อิงค์ก็ตอบคำตอบเดิมคือ ‘ตอนนี้เรายังไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอเลย’ เราเองก็แบบโอเคเราก็จะจีบเธอต่อจนกว่าเธอจะมีใจให้เรา ซึ่งตอนนั้นเราก็แอบน้อยใจนิดหน่อยที่เราก็จีบเขามาตั้งนานเขาก็ไม่มีใจให้เราเลย(บางทีอาจจะผิดที่เรารึเปล่าเราก็ไม่แน่ใจ)
แต่พอผ่านมาอีกสักระยะ วันนึงเราถามอิงค์ว่า เธอชอบผู้ชายใช่มั้ย ที่เราถามแบบนั้นไปเพราะเราเห็นว่าอิงค์ชอบเล่าเรื่องที่มีผู้ชายมาจีบเขาบ่อยจนเราเริ่มไม่แน่ใจว่าเขาเล่าบ่อยขนาดนี้หรือว่าเขาจะชอบผู้ชายไม่ได้ชอบผู้หญิง ซึ่งเราก็รู้ว่าเราไม่ควรถามเพราะมันเป็นการเสียมารยาทแต่ด้วยความที่ว่าถ้าเราไม่ถามเราจะสงสัยต่อไปและมันอาจจะทำให้เราเจ็บยิ่งกว่าที่ต้องมารู้ทีหลังเสียอีก
หลังจากที่เราถามอิงค์ไปแบบนั้นเราก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราผิดขนาดนั้นเลยเหรอที่ถามเขาแบบนั้น ตอนนั้นอิงค์เหมือนวีนใส่เราจนเราต้องอธิบายแต่อิงค์ก็ไม่ฟังแล้วถามเรากลับว่า ‘เธอไม่ฟังเลยเหรอว่าเราถามอะไรไปเธอก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าเราชอบได้ทุกเพศ’ ตอนนั้นเราเองก็ยอมรับผิดที่ถามแบบนั้นไปเพราะคิดว่าเราเองที่เสียมารยาท แต่อิงค์ไม่ฟังคำขอโทษของเราเลย เราเลยตัดปัญหาด้วยการรอให้อิงค์ใจเย็นลงสองวันค่อยกลับมาเคลียร์กันใหม่
พอผ่านมาจนเราแน่ใจว่าอิงค์จะสงบลงบ้างแล้วเราก็ทักไปหาอิงค์ว่าเราจะเลิกจีบอิงค์แล้วนะและเราก็ขอโทษที่เราทำเรื่องแย่ๆ ใส่อิงค์ เพราะก่อนหน้าเราก็ไปปรึกษาเพื่อนและรุ่นพี่ของเรามาว่าเราควรไปต่อมั้ย ซึ่งเราก็เห็นสมควรว่าไม่ควรไปต่อถ้าอีกฝ่ายไม่สบายใจ
วันนั้นอิงค์ก็ปรับความเข้าใจกับเราจนกลับมาดีกัน แต่สิ่งที่ทำให้เราไม่พอใจอิงค์เลยก็คือ ในตอนที่เราบอกว่าเราจะไม่จีบอิงค์ต่อแล้วอิงค์ก็พึ่งมาบอกเราว่า ‘ขอโทษนะที่วันนั้นเราเอาแต่ใจเกินไป’ สีหน้าเราตอนได้ยินคือแบบ ทำไมคุณพึ่งมาบอกฉันว่าคุณเอาแต่ใจถ้าคุณบอกฉันเร็วกว่านี้ฉันก็จะไม่ติดใจอะไรและฉันก็จะง้อคุณด้วย
เราโคตรเสียความรู้สึกเลยที่ทำไมอิงค์พึ่งมาบอกเอาตอนที่เราจะเลิกจีบอิงค์และมูฟออน ถ้าอิงค์บอกเราเร็วกว่านี้เราอาจจะพอมีโอกาสไปต่อได้ หลังจากนั้นเราก็ไม่อะไรกับอิงค์เลยเพราะความรักที่เรามีให้อิงค์นั้นหายไปจากใจเราในเวลาไม่นาน
ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้เรากับอิงค์ก็ไม่ได้ติดต่อกันเลยแม้ว่าเราจะดีกันแล้วก็ตามแต่อย่างน้อยเราก็จบกันด้วยดีถึงแม้ความรู้สึกของเราที่มีต่ออิงค์จะเริ่มแข็งกระด้างไปมากแล้ว
สรุปก็คือความรักของเรายังไม่เคยสมหวังเลยค่ะ5555 แต่ตอนนี้เราเองก็มูฟออนได้และเอนจอยกับการทำในสิ่งที่เราชอบและการได้เล่นเกมกับเพื่อนก็ทำให้เรามีความสุขมากๆเลย
มหากาพย์ความรักที่ไม่สมหวัง
ครั้งแรกที่เราเคยแอบชอบใครสักคนก็ประมาณประถม 6 ค่ะ เราจำได้ว่าตอนนั้นโรงเรียนของเรามีมาตรการที่จำเป็นต้องเรียนออนไลน์นานมากประมาณหนึ่งปีกว่าๆ มั้งถ้าเราจำไม่ผิด ตอนนั้นเราต้องนอนทำใบงานและเข้าเรียนออนไลน์กับคุณครูทุกวันโดยที่ไม่ได้เจอเพื่อนเลยค่ะ(ยกเว้นเพื่อนสาวนามสมมุติว่าเจย์ของเรา) และด้วยความที่ว่าห่างเพื่อนเราก็มีเวลาได้คุยกับเพื่อนร่วมชั้นของเราคนนึงค่ะ เราขอเรียกเขาว่าพีแล้วกันนะคะ
พีเป็นคนที่นิสัยดีและเป็นสุภาพบุรุษมากๆเลยค่ะ(ยกเว้นเรื่องเดียวที่มันจะหยอกเพื่อนที่สนิทกันด้วยการฟาดในแรงระดับเดียวกันโดยไม่สนชายหรือหญิง) แถมยังเป็นคนที่ปรึกษาได้ทุกเรื่องเลย
ตอนนั้นเรากับพีได้คุยกันบ่อยๆ ผ่านไลน์ค่ะ คุยกันแทบจะทุกวันเพราะเรากับมันสนิทกันเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเพราะเล่นเกมด้วยกันบ่อยและเรื่องอื่นๆ ที่ทำให้สนิทกัน
แรกๆ เราก็เห็นพีเป็นเพื่อนคนนึงแหละค่ะแต่ด้วยความที่ว่ามันเป็นสุภาพบุรุษ ให้เกียรติผู้หญิงและค่อนข้างจะอบอุ่นแถมยังเพิ่มพลังบวกให้กับคนรอบข้างได้นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เราค่อยๆ มีความรู้สึกดีๆ ให้ให้กับมัน
ตอนนั้นเราก็สับสนความรู้สึกตัวเองอยู่นานจนกระทั่งเราได้ปรึกษาเพื่อนสนิทของเรานามสมมุติว่าซิน ซินมันก็บอกเราให้บอกออกไปเลยเดี๋ยวจะมาเสียใจทีหลังเราก็เลยเชื่อซินและสารภาพกับไอ้พีออกไป
ในตอนที่เราสารภาพกับพีว่า ฉันชอบแกนะ พีมันก็โอเคไม่ได้ตกใจอะไร มันบอกกับเราว่า ‘ถ้าเธอเป็นเหมือนสาวๆ ในมังงะให้เราได้เราอาจจะชอบเธอกลับก็ได้นะ’ เราที่ได้ยินแบบนั้นก็ดีใจหมั่นออกกำลังกายทุกวันและพัฒนาตัวเองให้สวยขึ้น
แต่แล้วเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อจู่ๆ ตอนที่เรากำลังนั่งรถไปซื้อของกับมะม๊าและกลุ่มเพื่อนๆ ของมะม๊า ซินมันก็ทักมาถามเราพร้อมกับแนบรูปแชทการสนทนาของใครบางคนมาให้เราดูแล้วถามเราว่า ‘นี่ใช่แชทไอ้พีมั้ย’ เราก็เลยพึ่งถึงบางอ้อและดูรูปแชทนั้นแบบจริงจัง
พอเราดูรูปนั้นดีๆ มันคือแชทของใครบางคนที่คุยกับไอ้พีในเชิงกระหนุงกระหนิงที่ใครเห็นก็ว่าเป็นแฟนกัน ตอนนั้นเราแบบหัวใจตกไปอยู่ใต้เท้าเลย
สรุปก็คือซินมันไปได้รูปแชทจากเพื่อนร่วมห้องของเราอีกคนนามสมมุติว่าฟิล์ม และซินมันก็บอกเราอีกว่าฟิล์มกับพีมันคบกันจะครบเดือนแล้ว สีหน้าเราตอนที่รู้เรื่องนี้คือแบบ นี่กูโดนหลอกเหรอวะ เราแทบจะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเลยค่ะแถมยังร้องไห้ไม่ได้ด้วยถึงแม้จะเสียใจแค่ไหนเพราะตอนนั้นเราไม่ได้อยู่คนเดียว
และสิ่งที่ทำให้เราเจ็บยิ่งกว่าการโดนไอ้พีหลอกให้ทำแบบนั้นแบบนี้เพื่อมันคือการที่ฟิล์มแฟนสาวของไอ้พีทักแชทและแคปแชทบทสนทนาหวานๆ ของนางกับไอ้พีมาให้เราดูตลอดวันนั้นหลังจากวันที่เรารู้ว่ามันสองคนคบกัน เราเองที่ทำได้แต่ฟังก็แสดงความยินดีกับพวกเขาสองคนทั้งที่จริงๆ แล้วภายในใจเราโคตรดิ่ง ในตอนนั้นเราก็รู้สึกว่าฟิล์มเริ่มทำตัวแปลกๆ เหมือนนางอยากให้เรารู้ว่านางเป็นฝ่ายชนะแต่อันนี้เราไม่แน่ใจว่าใช่รึเปล่าเพราะเราก็ไม่อยากถามนางตรงๆเพราะกลัวว่าจะผิดใจกัน
แต่แล้วหลังจากที่เราเจอเรื่องนั้นมาเราก็เอนจอยกับการกินทั้งวันจนลืมความเศร้าไปได้(ต้องขอบคุณอาหารในวันนั้นอย่างสูง)
ไม่กี่เดือนต่อมาฟิล์มกับพีก็เลิกกันไปจากสาเหตุที่ว่าพีต้องย้ายไปเรียนในโรงเรียนในอำเภอ ซึ่งเราก็เดาได้ไม่ยากเพราะเราเองก็พอรู้มาบ้างว่าฟิล์มเองเป็นคนยังไงอีกอย่างเราก็ไม่ได้เชื่อเหตุผลการเลิกราแค่เพราะย้ายโรงเรียนร้อยเปอร์เซ็นต์
ปัจจุบันเรากับพี่ก็ปรับความเข้าใจกันและกลับมาพูดคุยกับเล่นเกมด้วยกันเหมือนเดิมส่วนฟิล์มก็มีแฟนใหม่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ
เวลาผ่านไปประมาณปีกว่าๆ เราก็ไปเจอกับคนๆ นึงที่มาทำให้เราหลงรักหัวปักหัวปำ รักขนาดที่ว่าเราทั้งแต่งกลอนทั้งร้องเพลงจีบเขาเลย แบบมีวิธีไหนที่ใครแนะนำมาเราจะใช้ให้หมดเลย
เราไปเจอเขาคนนี้ในเกมๆ นึงค่ะ ต้องบอกก่อนนะคะว่าเขาคนนี้เป็นผู้หญิงนามสมมุติว่าอิงค์ พอคุยๆ กันไปก็แลกช่องทางการติดต่อกัน แรกๆ เราก็ไม่ได้ติดใจอะไรเขาแต่พอคุยกันมานานๆ ด้วยความที่เขาดีกับเรามากเราก็เลยหลงรักเขาแบบไม่รู้ตัว แต่สุดท้ายเราก็สารภาพกับเขาไปว่าเราชอบเรารักเขานะ
ตอนแรกเขาก็ยังไม่ค่อยอะไรกับเรื่องนี้เพราะเขาก็พึ่งเลิกกับเก่าแฟนเขาไป แต่พอเขาทำใจได้เขาก็เปิดใจให้เราจีบเขา เราบอกเลยว่าเราจีบอิงค์อยู่นานมากประมาณเกือบจะ 2 ปี เรางัดทุกวิธีที่คิดว่าจะได้ผลมาใช้ จนในวันเกิดเมื่อต้นปีของเราเราก็ขออิงค์เป็นแฟน เขาก็บอกเราว่าถ้าเราไปเรียนที่สถาบันแห่งหนึ่งแถวที่อิงค์อยู่ได้เราจะได้เดทกันและอาจจะได้คบกันจริงๆ ตอนนั้นเรามีไฟมากจนอยากจะรีบเรียนให้จบเลยค่ะ
แต่พอผ่านมาประมาณเดือนนึง เราก็ถามอิงค์ว่า เธอมีใจให้เราบ้างรึยัง อิงค์ก็ตอบคำตอบเดิมคือ ‘ตอนนี้เรายังไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอเลย’ เราเองก็แบบโอเคเราก็จะจีบเธอต่อจนกว่าเธอจะมีใจให้เรา ซึ่งตอนนั้นเราก็แอบน้อยใจนิดหน่อยที่เราก็จีบเขามาตั้งนานเขาก็ไม่มีใจให้เราเลย(บางทีอาจจะผิดที่เรารึเปล่าเราก็ไม่แน่ใจ)
แต่พอผ่านมาอีกสักระยะ วันนึงเราถามอิงค์ว่า เธอชอบผู้ชายใช่มั้ย ที่เราถามแบบนั้นไปเพราะเราเห็นว่าอิงค์ชอบเล่าเรื่องที่มีผู้ชายมาจีบเขาบ่อยจนเราเริ่มไม่แน่ใจว่าเขาเล่าบ่อยขนาดนี้หรือว่าเขาจะชอบผู้ชายไม่ได้ชอบผู้หญิง ซึ่งเราก็รู้ว่าเราไม่ควรถามเพราะมันเป็นการเสียมารยาทแต่ด้วยความที่ว่าถ้าเราไม่ถามเราจะสงสัยต่อไปและมันอาจจะทำให้เราเจ็บยิ่งกว่าที่ต้องมารู้ทีหลังเสียอีก
หลังจากที่เราถามอิงค์ไปแบบนั้นเราก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราผิดขนาดนั้นเลยเหรอที่ถามเขาแบบนั้น ตอนนั้นอิงค์เหมือนวีนใส่เราจนเราต้องอธิบายแต่อิงค์ก็ไม่ฟังแล้วถามเรากลับว่า ‘เธอไม่ฟังเลยเหรอว่าเราถามอะไรไปเธอก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าเราชอบได้ทุกเพศ’ ตอนนั้นเราเองก็ยอมรับผิดที่ถามแบบนั้นไปเพราะคิดว่าเราเองที่เสียมารยาท แต่อิงค์ไม่ฟังคำขอโทษของเราเลย เราเลยตัดปัญหาด้วยการรอให้อิงค์ใจเย็นลงสองวันค่อยกลับมาเคลียร์กันใหม่
พอผ่านมาจนเราแน่ใจว่าอิงค์จะสงบลงบ้างแล้วเราก็ทักไปหาอิงค์ว่าเราจะเลิกจีบอิงค์แล้วนะและเราก็ขอโทษที่เราทำเรื่องแย่ๆ ใส่อิงค์ เพราะก่อนหน้าเราก็ไปปรึกษาเพื่อนและรุ่นพี่ของเรามาว่าเราควรไปต่อมั้ย ซึ่งเราก็เห็นสมควรว่าไม่ควรไปต่อถ้าอีกฝ่ายไม่สบายใจ
วันนั้นอิงค์ก็ปรับความเข้าใจกับเราจนกลับมาดีกัน แต่สิ่งที่ทำให้เราไม่พอใจอิงค์เลยก็คือ ในตอนที่เราบอกว่าเราจะไม่จีบอิงค์ต่อแล้วอิงค์ก็พึ่งมาบอกเราว่า ‘ขอโทษนะที่วันนั้นเราเอาแต่ใจเกินไป’ สีหน้าเราตอนได้ยินคือแบบ ทำไมคุณพึ่งมาบอกฉันว่าคุณเอาแต่ใจถ้าคุณบอกฉันเร็วกว่านี้ฉันก็จะไม่ติดใจอะไรและฉันก็จะง้อคุณด้วย
เราโคตรเสียความรู้สึกเลยที่ทำไมอิงค์พึ่งมาบอกเอาตอนที่เราจะเลิกจีบอิงค์และมูฟออน ถ้าอิงค์บอกเราเร็วกว่านี้เราอาจจะพอมีโอกาสไปต่อได้ หลังจากนั้นเราก็ไม่อะไรกับอิงค์เลยเพราะความรักที่เรามีให้อิงค์นั้นหายไปจากใจเราในเวลาไม่นาน
ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้เรากับอิงค์ก็ไม่ได้ติดต่อกันเลยแม้ว่าเราจะดีกันแล้วก็ตามแต่อย่างน้อยเราก็จบกันด้วยดีถึงแม้ความรู้สึกของเราที่มีต่ออิงค์จะเริ่มแข็งกระด้างไปมากแล้ว
สรุปก็คือความรักของเรายังไม่เคยสมหวังเลยค่ะ5555 แต่ตอนนี้เราเองก็มูฟออนได้และเอนจอยกับการทำในสิ่งที่เราชอบและการได้เล่นเกมกับเพื่อนก็ทำให้เรามีความสุขมากๆเลย