เชื่อว่าผู้หญิงหลายคนคงเคยประสบกับเหตุการณ์ไม่รู้จะแทนตัวเองว่าอะไรดีในหลาย ๆ สถานการณ์ จึงเป็นที่มาของกระทู้นี้ค่ะ ตัวเลือกจะมีคำว่า ฉัน, เรา ที่เป็นสรรพนามที่ใช้ได้ทั้งสองเพศ และคำว่า ผม ที่เป็นสรรพนามของผู้ชาย แต่ขอเอามาเป็นตัวเลือกในกระทู้นี้ เพราะเห็นว่า ฉัน, เรา ผู้ใช้ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง และคำว่าผม เคยเห็นผู้หญิงหลายคนบอกว่าอยากเปลี่ยนให้มันเป็นสรรพนามที่ใช้ได้ทั้งสองเพศค่ะ
ส่วนตัวอยากใช้คำว่าฉันค่ะ ซึ่งเป็นคำที่คนบอกว่าแปลกบ้าง ห้วนบ้าง หรือไม่เป็นกันเองบ้าง 555555 แต่ส่วนใหญ่จะบอกว่าแปลก ซึ่งฉันคิดว่าสาเหตุมาจากการที่ผู้หญิงไม่ได้ใช้คำนี้กันจนเป็นวงกว้างเหมือนผมของผู้ชาย จึงเกิดความไม่คุ้นชินเท่านั้น แต่สมมุติผู้หญิงรวมใจกันหันมาใช้คำนี้ พูดบ่อย ๆ เวลาผ่านไป ส่วนตัวเชื่อว่าสุดท้ายจะเกิดความคุ้นชินทั้งผู้ฟังและผู้พูดค่ะ เพราะสมัยก่อนผู้ชายก็ไม่ได้ใช้คำว่าผม ดังนั้นครั้งแรกที่ผู้ชายเปลี่ยนมาใช้คำนี้ ฉันเชื่อว่าทุกคนจะต้องรู้สึกแปลก ไม่คุ้นหู ห้วน ตลก หรือความรู้สึกอะไรก็ได้ที่เป็นเชิงลบ แต่ตอนนี้คำว่าผมถือเป็นสรรพนามที่ใช้กันเป็นปกติมากสำหรับคนยุคนี้ ก็เพราะเมื่อผู้ชายหลายล้านคนหันมาพูด และกาลเวลาผ่านไป จากความไม่คุ้นชินในตอนแรกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นคุ้นชินกันในที่สุด
อีกประเด็นหนึ่ง ความเห็นประมาณว่าสรรพนามฉัน, ดิฉัน ดูถือตัวและห่างเหินเกินไปบ้าง หรือชื่อตัวเอง ถ้าพูดกับคนแปลกหน้าแล้วฟังดูเป็นกันเองเกินไปบ้าง เอาจริงฉันรู้สึกว่ามันขึ้นอยู่กับสีหน้า น้ำเสียง ภาษากาย และกิริยามารยาทของผู้พูดเป็นหลักมากกว่าการเลือกใช้สรรพนามเพียงอย่างเดียว เช่น ผู้หญิงคนหนึ่งแทนตัวเองว่าดิฉัน แต่เจอหน้ากันทีไรก็ยกมือไหว้ ยิ้มแย้มน่ารัก เป็นคนพูดเพราะ กิริยามารยาทดี ฉันก็คิดว่าคงยากที่ใครจะคิดว่าผู้หญิงคนนี้ถือตัวหรือทำตัวห่างเหินกับผู้อื่น กลับกัน ผู้หญิงอีกคนหนึ่งแทนตัวเองว่าหนูหรือด้วยชื่อของตัวเอง แต่เจอหน้ากันทีไรก็ไม่ทักทาย ไม่มองหน้า น้ำเสียงเวลาคุยด้วยก็เหมือนอยากรีบออกไปจากตรงนั้นเร็ว ๆ สายตาที่มองคู่สนทนาฉายแววหยามเหยียด แบบนี้ก็คงไม่มีใครคิดว่าผู้หญิงคนนี้เป็นมิตรหรือทำตัวเป็นกันเองกับคู่สนทนา (ถึงแม้ผู้หญิงที่มีนิสัยหยิ่งส่วนใหญ่อาจจะไม่เลือกแทนตัวเองว่าหนูก็ตาม)
สงสัยส่วนตัว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้1. เคยเห็นความเห็นบนอินเทอร์เน็ตบอกว่าที่โคราช คนอายุน้อยกว่าแทนตัวเองว่าฉันกับคนอายุมากกว่าเป็นเรื่องปกติเลย ฉันแกคือสรรพนามปกติมากสำหรับคนจังหวัดนี้ ไม่ทราบว่าจริงหรือเปล่าคะ เผื่อมีคนโคราชเข้ามาอ่านกระทู้นี้
2. สรรพนาม ฉัน บางคนบอกเป็นทางการ บางคนบอกไม่เป็นทางการ ตอนแรกฉันก็คิดว่าคนส่วนใหญ่คิดว่ามันไม่เป็นทางการ เพราะเข้าใจว่าหลายคนใช้คำนี้เฉพาะกับคนสนิทเท่านั้น แต่พออ่านไปอ่านมา ปรากฎว่าส่วนใหญ่กลับเห็นว่ามันเป็นทางการ (บางคนก็ถึงกับบอกว่าเป็นทางการเกินไป) ฉันเลยสงสัยว่าสรุปแล้ว ฉัน เป็นคำที่เป็นทางการ กึ่งทางการ หรือไม่เป็นทางการกันแน่คะ
เดาผลโหวตล่วงหน้า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ถ้าให้คิดถึงคำแรกที่จะไม่ถูกเลือก ฉันคิดว่าคือคำว่าหนูค่ะ 55555 เพราะเคยเห็นผู้หญิงหลายคนบอกว่าไม่ชอบหรือเกลียดคำนี้ด้วยสาเหตุหลักสองประการ คือดูเด็กเกินไป หรือไม่ก็พูดแล้วรู้สึกว่าตนเองถูกกด กลายเป็นผู้น้อย บ้างก็ว่าถ้าพูดกับผู้ชายอายุมากกว่าก็เหมือนไปอ่อยเขา อีกตัวเลือกหนึ่งที่จะไม่ถูกเลือก ฉันคิดว่าเป็น ดิฉัน ค่ะ ถ้าสมมุติเทียบเฉพาะ ฉัน กับ ดิฉัน ส่วนตัวว่า ฉัน มีคนโหวตมากกว่าค่ะ เพราะผู้หญิงหลายคนใช้คำนี้แทนตัวเองเวลาคุยกับเพื่อน มีความคุ้นชินกันอยู่แล้ว ไม่เหมือนดิฉันที่คนส่วนใหญ่มองว่าเป็นทางการเกินไปและแทบไม่ได้พูดในชีวิตประจำวันเลย ส่วนตัวเลือกอีกสามตัวที่เหลือ นึกไม่ออกเลยค่ะว่าคนจะโหวตอันไหนมากที่สุด เพราะคิดว่าน่าจะสูสีกันอยู่
เคยเห็นใน X เสนอว่าให้ใช้ กู กันทั้งสองเพศเหมือนสมัยพ่อขุนรามคำแหง อาจจะฟังดูตลกสำหรับบางคน แต่ฉันรู้สึกว่าถ้าบังเอิญเราเปลี่ยนมาใช้คำนี้กันจริง ๆ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม บางทีสองคำนี้อาจจะเป็นคำที่มีประสิทธิภาพมากกว่าที่คิดก็เป็นได้นะคะ คือจะเหมือน I You ในภาษาอังกฤษเลย เพราะฉันเห็นด้วยกับการที่คนหนึ่งบอกว่ากูจะเป็นคำหยาบถ้าคนทั้งประเทศคิดว่ามันเป็นคำหยาบ แต่ดูแล้วน่าจะยากมากที่จะเปลี่ยน ไปลุ้นคำอื่นดีกว่า 55555
ความคิดเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับสรรพนามเพศหญิง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ในอนาคต ถ้าราชบัณฑิตสถานออกมาประกาศอย่างเป็นทางการถึงสรรพนามของผู้หญิงว่าให้ใช้คำนี้เหมือนกับคำว่าผมของผู้ชาย สมมุติเป็นคำอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่หนู (และอาจไม่ใช่ผม) ฉันคิดว่าสามเรื่องนี้ต้องควบคู่กันไปค่ะ
1. ผู้หญิงหลายคนต้องกล้าที่จะเปลี่ยน กล้าที่จะพูด ต้องพยายามไม่ยึดติดและขจัดความคิดทำนอง "เอ๊ะ พูดไปแล้วจะฟังดูแปลกรึเปล่า กระด้างไปรึเปล่า" ออกไป ถ้าใจกล้าพูดครั้งหนึ่ง ครั้งต่อ ๆ ไปก็คงง่ายขึ้น ถ้ากลัว ไม่กล้าพูด สุดท้ายเรื่องนี้ก็จะไม่ขับเคลื่อนไปข้างหน้า กลับไปสู่สภาวะเดิม
2. ผู้ใหญ่หลายคนต้องเปิดใจให้กว้างมากขึ้น ยึดติดกับระบบอาวุโสให้น้อยลง เช่น ไม่โวยวายที่เด็กไม่ได้แทนตัวเองว่าหนูเวลาคุยด้วย
3. เรื่องกาลเวลาอย่างที่พูดไป
ปัญหาของสรรพนามเพศหญิงรู้สึกจะมีพูดถึงเป็นระยะ แต่ก็เหมือนจะไม่ค่อยกระเตื้องขึ้นสักเท่าไร ส่วนตัวเห็นว่ามีสาเหตุหลักอยู่สองประการที่ทำให้ผู้หญิงไม่มีสรรพนามแทนตัวเองที่เป็นกลางเหมือนผมของผู้ชายเสียที
1. จำนวนผู้หญิงที่เรียกร้องในเรื่องนี้มีไม่มากพอ
2. ผู้หญิงที่เรียกร้องเหล่านั้นไม่ได้จริงจังกับการผลักดันเรื่องนี้มากพอ
ซึ่งทั้งสองสาเหตุเป็นที่เข้าใจได้ เพราะเรื่องสรรพนามแทนตัวเป็นเรื่องเล็กที่ไม่ได้กระทบถึงความยากดีมีจนของชีวิต เพียงแต่ผู้หญิงหลายคนประสบปัญหาเป็นบางครั้ง จึงอาจจะแค่มาบ่น ๆ แล้วก็ไปเท่านั้น
ทุกคนอยากผลักดันคำแทนตัวเองของผู้หญิงคำไหนให้เทียบเท่ากับคำว่าผมของผู้ชายคะ มาโหวตกันเลย ถึงกระทู้จะเขียนว่าถามคุณผู้หญิง แต่ผู้ชายก็โหวตได้ตามสบายเลยนะคะ ที่พิมพ์แบบนั้นก็เพราะเป็นเรื่องของผู้หญิงโดยตรงเท่านั้นเอง ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ แสดงความคิดเห็น และ/หรือกดโหวตค่ะ
*** ปิดโหวต วันที่ 04 พฤษภาคม พ.ศ.2567 เวลา 05:31:44 น.
ถามคุณผู้หญิง คุณอยากผลักดันคำแทนตัวเองของผู้หญิงคำไหนให้เทียบเท่ากับคำว่า ผม ของผู้ชายคะ มาโหวตกันค่ะ
ส่วนตัวอยากใช้คำว่าฉันค่ะ ซึ่งเป็นคำที่คนบอกว่าแปลกบ้าง ห้วนบ้าง หรือไม่เป็นกันเองบ้าง 555555 แต่ส่วนใหญ่จะบอกว่าแปลก ซึ่งฉันคิดว่าสาเหตุมาจากการที่ผู้หญิงไม่ได้ใช้คำนี้กันจนเป็นวงกว้างเหมือนผมของผู้ชาย จึงเกิดความไม่คุ้นชินเท่านั้น แต่สมมุติผู้หญิงรวมใจกันหันมาใช้คำนี้ พูดบ่อย ๆ เวลาผ่านไป ส่วนตัวเชื่อว่าสุดท้ายจะเกิดความคุ้นชินทั้งผู้ฟังและผู้พูดค่ะ เพราะสมัยก่อนผู้ชายก็ไม่ได้ใช้คำว่าผม ดังนั้นครั้งแรกที่ผู้ชายเปลี่ยนมาใช้คำนี้ ฉันเชื่อว่าทุกคนจะต้องรู้สึกแปลก ไม่คุ้นหู ห้วน ตลก หรือความรู้สึกอะไรก็ได้ที่เป็นเชิงลบ แต่ตอนนี้คำว่าผมถือเป็นสรรพนามที่ใช้กันเป็นปกติมากสำหรับคนยุคนี้ ก็เพราะเมื่อผู้ชายหลายล้านคนหันมาพูด และกาลเวลาผ่านไป จากความไม่คุ้นชินในตอนแรกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นคุ้นชินกันในที่สุด
อีกประเด็นหนึ่ง ความเห็นประมาณว่าสรรพนามฉัน, ดิฉัน ดูถือตัวและห่างเหินเกินไปบ้าง หรือชื่อตัวเอง ถ้าพูดกับคนแปลกหน้าแล้วฟังดูเป็นกันเองเกินไปบ้าง เอาจริงฉันรู้สึกว่ามันขึ้นอยู่กับสีหน้า น้ำเสียง ภาษากาย และกิริยามารยาทของผู้พูดเป็นหลักมากกว่าการเลือกใช้สรรพนามเพียงอย่างเดียว เช่น ผู้หญิงคนหนึ่งแทนตัวเองว่าดิฉัน แต่เจอหน้ากันทีไรก็ยกมือไหว้ ยิ้มแย้มน่ารัก เป็นคนพูดเพราะ กิริยามารยาทดี ฉันก็คิดว่าคงยากที่ใครจะคิดว่าผู้หญิงคนนี้ถือตัวหรือทำตัวห่างเหินกับผู้อื่น กลับกัน ผู้หญิงอีกคนหนึ่งแทนตัวเองว่าหนูหรือด้วยชื่อของตัวเอง แต่เจอหน้ากันทีไรก็ไม่ทักทาย ไม่มองหน้า น้ำเสียงเวลาคุยด้วยก็เหมือนอยากรีบออกไปจากตรงนั้นเร็ว ๆ สายตาที่มองคู่สนทนาฉายแววหยามเหยียด แบบนี้ก็คงไม่มีใครคิดว่าผู้หญิงคนนี้เป็นมิตรหรือทำตัวเป็นกันเองกับคู่สนทนา (ถึงแม้ผู้หญิงที่มีนิสัยหยิ่งส่วนใหญ่อาจจะไม่เลือกแทนตัวเองว่าหนูก็ตาม)
สงสัยส่วนตัว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เดาผลโหวตล่วงหน้า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ความคิดเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับสรรพนามเพศหญิง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ทุกคนอยากผลักดันคำแทนตัวเองของผู้หญิงคำไหนให้เทียบเท่ากับคำว่าผมของผู้ชายคะ มาโหวตกันเลย ถึงกระทู้จะเขียนว่าถามคุณผู้หญิง แต่ผู้ชายก็โหวตได้ตามสบายเลยนะคะ ที่พิมพ์แบบนั้นก็เพราะเป็นเรื่องของผู้หญิงโดยตรงเท่านั้นเอง ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ แสดงความคิดเห็น และ/หรือกดโหวตค่ะ