เรื่อง....บทความนี้อยากส่งไปให้ถึงเธอ
สวัสดีครับผมขอเเทนตัวเองว่า อ เเล้วกันนะครับ ผมเป็นนศ.ปวช ที่สอบติดมหาวิทยาลัยเเห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ คณะที่ไม่ค่อยจะได้นอนกันเท่าไหร่ ในคณะจะมีต้นไม้ใหญ่อยู่กลางคณะเเล้วมีตึกเรียนล้อมรอบ โอเค เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ
ขอพาทุกคนย้อนกลับไปเมื่อตอนปี 61 หลังจากที่ผมสอบติดเเละจะเริ่มเข้าไปเรียนนั้นผมเกิดอุบัติเหตุรถล้มทำให้ไห่ปลาร้าข้างขวาหัก(ข้างถนัดด้วยนะ)ได้ใส่เฝือกอ่อน พอถึงช่วงเรียนก็จะมีวิชาดออิ้งที่ นศ.มาวาดรูปด้วยกันเเละมักจะมีรุ่นพี่ในคณะเเวะมาดูบ้าง มีพี่สาย บางสายเอาขนม น้ำมาให้บ้างพอช่วงเย็นในคณะก็จะมีกิจกรรมที่ให้ เฟรชชี ร่วมทำกิจกรรมด้วยกันก็คือรับน้องนั้นเอง ก็จะมีทำกำเเพงรุ่น ร้องเพลง เต้นกันอะไรต่างๆกิจกรรมก็จะไม่เครียดไม่รุ่นเเรง ก็จะมีรุ่นพี่ปี2 มาเส้นเต้นท่าต่างๆเยอะเเยะไปหมดเราเนื่องจากใส่เฝือกอยู่ก็จะได้เพียงเเค่นั่งดู พอเรานั่งดูๆไปสายตาก็จะสอดส่องไปทั่ว ดูรุ่นพี่เเต่ละคนเป็นแบบนั้นไปเรื่อยๆ พอผ่านไปได้หลายวัน
วันที่ทำให้ใจเรานั้นสั่นไหวเกิดขึ้นถ้าจำไม่ผิดตอนนั้นน่าจะผ่านจากช่วงกิจกรรมมาได้เดือนเเล้วมั้งเเล้วเราก็ได้ถอดเฝือกเเล้วด้วย วันนั้นก็เหมือนกับวันธรรมดาทั่วไปที่เราทำงานวิชานึ่งเสร็จเเล้วเลยบอกเพื่อนสนิทว่าเดียวลงไปอยู่ใต้ถุนคณะที่โต๊ะปิงปองรอ เราก็ยืนรอคนเดียว ยืนไปหันไปหันมากซักพักก็มีรุ่นพี่คนหนึ่งเดินมา ขอเเทนชื่อรุ่นพี่ด้วย พี่ ป เเล้วกันครับ พี่ ป อยุ่ปี2
เเล้วทักผมว่า พี่ ป : ทำงานเสร็จละก๋า
อ : ครับ
พี่ ป : เว่ยน้ออ เเล้วก็เดินขึ้นบันไดไป
ใช่ครับประโยคสนทนาจบเเค่นั้น เเละเราก็คิดในหัวว่าปี้นี่จะมาทักเฮายะหยัง เฮาก็อยู่เงียบๆของเฮา (พี่นี่จะมาทักเราทำไม เราก็อยู่คนเดียวเงียบๆ) ผมก็ไม่ได้สนใจพี่เลย
ซักพักเพื่อนก็ลงมาเเล้วก็ไปกินข้าวปกติ พอตอนเย็นก็มีกิจกรรมรับน้องเต้นร้องเพลงกันตามปกติ พอมาถึงเพลงหนึ่งรุ่นพี่ก็จะให้นั่งเป็นวงกลมเเล้วก็จะมีรุ่นพี่ปี2มาอยู่ในวงกลม โดยรุ่นพี่ที่เข้ามาจะสมัครเข้ามาเอง รุ่นพี่ก็จะสอนเต้นท่าต่างๆ (รุ่นพี่เต้นเก่งทุกคนคณะนี้) ซักพักผมก็สังเกตุว่า เอ๊ะมีพี่ ป อยูในวงกลมด้วยเราก็ดูพี่เขาสอนไปเรื่อยๆ พอเลิกกิจกรรมก็กลับบ้าน พอค่ำๆหน่อยเพื่อนก็จะเเชร์โพสรุ่นพี่ที่เก็บภาพบรรยากาศตอนทำกิจกรรมลงFB เพื่อนเเชร์กันหลายคนมากเราก็กดไปดู ก็เลื่อนดูไปเรื่อยๆ ๆ จนไปหยุดอยู่กับรูปหนึ่ง ใช่ครับ รูปพี่ ป ที่กำลังเตรียมที่จะเต้นท่าประจำคณะ(รูปเห็นรายละเอียดทรงผมหน้าตาชัดเจน) พอเห็นรูปนั้นเท่านั้นเเหละภาพทุกอย่างในหัวก็ย้อนกลับไปในตอนที่ พี่ป เดินเข้าทัก เหมือนภาพที่ย้อนไปในคือ พี่ป ยิ้มเเย้มเดินเข้ามาทักอย่างจริงใจเราเห็นรอยยิ้มตามมุมปากต่างๆได้อย่างชัดเจน (จนตอนนี้ยังจำได้ไม่เคยลืม) หลังจากนั้นผมรีบเข้าส่องเพื่อนของเพื่อนพี่รหัสในเฟสเลยหาไปได้ไม่นานนัก็เจอเฟส พี่ป ครับเเล้วก็ค่อยเเอดไปตอนก่อนนอน
เช้าวันต่อมาก็เปิดเฟสดู พี่ป รับเป็นเพื่อนในเฟสเเล้วครับ ผมไม่ได้ทักพี่เขาไปครับ ไม่คุยด้วย เราก็จะลองคิดในหัวเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่เราจะได้คบกับพี่เขาไหม เราคิดทบทวนกับตัวเองนานมากครับ คิดวกไปวนมา ทั้งที่ยังไม่เคยคุยกันหลังจากตอนครั้งเเรก
เเต่เเล้ววันหนึ่ง เราก็อยู่ใต้ถุนคณะเเหละเราก็เผลอหันไปมอง พี่ป ที่อยู่ไกลๆ เเอบมองไกลๆเเหละว่าเขาอยู่ตรงนั้น ซักพัก พี่ป หันมาสบตาเราเเบบเต็มๆเรารีบเนียนมองผ่านไป ทำเหมือนบังเอิญ เวลาก็ผ่านไปเรื่อยๆเราก็เริ่มแปลกใจว่า เราก็มักเผลอไปสบตากับพี่ปบ่อยมากขึ้น เเละเเทบจะทุกวันเลยก็ว่าได้อย่างเช่น ผมอยู่บนชั้น 3 พี่ปอยู่โถงชั้นหนึ่ง ผมมองลงไปพี่เขาก็หันขึ้นมาสบตา หรือจังหวะที่ผมเดินขึ้นบันไดหันไปดูใต้ถุนก็เห็นพี่เขาที่นั่งม้านั่งอยู่มองเราอยู่พอสบตากันต่างฝ่ายก็รีบหันกลับ คือเป็นอย่างนี้บ่อยมากคือเจอกันทุกวัน สบตากันร้านข้าว สบตากันตรงข้ามถนน สบตากันระหว่างตึก เเม้กระทั่งตอนที่เรานั่งเรียนอยู่ก็เผลอไปสบตาพี่ป ที่กำลังเดินผ่านหน้าห้อง จนระยะเวลาผ่านไปนานมาก จนผมขึ้นปี2 พี่ปขึ้นปี3
พอวันหนึ่งผมก็ลองเดิมพัน กับเเผ่นโง่ๆที่อาจต้องใช้ระยะเวลาถึง 3 ปีเลยทีเดียว
คืออันดับ1.ผมจะถ่ายรูปมุมต่างๆที่เคยสบตากันเก็บไว้ทุกมุม
2.เฟสพี่ปผมจะไปไลน์ทุกโพส เเต่ไม่ใช่กดวันเดียวนะมีชั้นเชิงด้วย เช่นพี่เขาโพสเราจะรอให้ผ่านไป2-3วันเเล้วค่อยไปกดไลน์ก่อนที่ผมจะนอนททำแบบนี้ทุกโพส ทุกเเชร์ ดีนะที่พีเขาเป็นคนโพสน้อย55555.
3.3ปีที่ว่าคือ คณะเราหลักสูตร5ปี ก็เท่ากับว่าพี่ปจะ รับปริญญาพอดี เราก็จะเอารูปมุมที่เราเคยสบตากันติดลงไปในสมุด1เล่มที่ซื้อมาใหม่เเละปาก1ด้ามที่จะเอาไปให้พี่เขาวันรับปริญญา โดยหน้าสุดท้ายจะติดรูปสถานที่1ไว้โดยจะเขียนวันที่ เดือน ปี ไว้ เเต่จะเป็นวันที่ยังไม่ถึง ใช่ครับคือเหมือนกับนัดเจอกันถ้าเข้าใจความหมายหรือที่เราคิดเหมือนกันตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา
โอเคมาต่อกันหลังจากที่สบตากันบ่อยมากขึ้นเราเริ่มเลยคิดว่าจะไม่มองจะแอบมองแบบลับอย่างเช่นถ้าเห็นพี่เขาเดินมาไกลๆก้จะคุยกับเพื่อนไปตลอดทาง ใช่ครับมันได้ผลผมสบตาพี่เขาน้อยลงจนผ่านไปสักพัก เราก็ทำเหมือนเดิมโดยคุยกลับเพื่อนเเหละก็เดินไปคุยไปเเต่เรารู้ว่ากลุ่มพี่ปกำลังเดินมาด้านหน้ากำลังจะเดินสวนกลุ่มเรา จังหวะจะสวนกันก็จะต้องทำกลุ่มเล็กลงเพราะเป็นถนนจังหวะนั้นเเหละที่เรารู้ว่าพี่เขากำลังผ่านไปเราเลยเเอบหันไปมอง แต่กลับว่าพี่ปก็แอบมองอยู่เหมือนกันต่างฝ่ายก็รีบหันกลับเลย อีกจังหวะหนึ่งเรามามอเช้าเราเห็นไกลๆละว่าพี่เขาขับรถมาเราก็เเกล้งก้มหน้าลงโต๊ะเล่นโทรศัพท์เสียงรถจอดลงเราก็มีเสียงเดินผ่านไปเราก็เลยเงยหน้าแอบมองตามแต่จังหวะนั้นคือพี่ปเหล่ตามองพอสบตากันก็รีบหันกลับตอนนี้เราคิดว่าคงมีความคิดคล้ายกันมั้งเพราะเป็นบ่อยมาก ทุกวันเลยย
เเต่เเล้วก็เกิดการเเพร่ระบาดของ covid ทำให้ต้องเรียนออนไลน์เเทนจำเวลาได้ไม่เเน่นอน จนผ่านไปนานมากพอกลับมาเรียนมหาลัยเราก็ปี3เทอม2เเล้ว พี่ป อยู่ปี4เเล้ว เวลาเรียนในมหาลัยน้อยลงทำให้เจอกันน้อยลง เเต่ก็สบตากันทุกครั้งที่มาเรียน
จนวันหนึ่งเราเห็นพี่ป อยู่กับพี่ปี5คนหนึ่งอยู่ด้วยกันบ่อยมาก ซ้อนรถกัน ทำอะไรด้วยกันต้างๆเยอะเราเลยตัดสินใจว่าโอเคถ้าเขาคบกันเราก็จะไม่ทำตามแผ่นที่ว่างไว้เวลาผ่านไปเราก็ไม่รู้ว่าพี่เขาคบกันไม่หรือยังไง เราก็ไม่รู้เลยตัดสินใจเองเลยว่ายกเลิกแผนและทิ้งไป
เหตุผลที่ไม่เข้าไปคุยด้วย
-เราชอบการสบตากลัวทำเสียเรื่องคุยไม่เก่ง
-เราตอนนั้นเรารู้ตัวเองอยู่เเล้วว่าเราไม่สามารถทำให้เขามีความสุขได้ในตอนนั้น ไม่มีเวลา ไม่มีงาน ต่างคนไม่มีประสบการณ์การทำงาน
โอเคตอนนี้ก็ถึงตอนท้ายเเล้วครับ ฝากข้อคิดไว้นิดนึง บางครั้งเราก็ต้องปล่อยเขาไปถ้าเรารักเขา
ถึงเเม้จะไม่เคยได้คุยด้วยกันก็ตาม แต่ขอให้พี่ป มีความสุขกับการใช้ชีวิต ทุกวันนี้ผมยังแอบไปส่องเฟสพี่ปอยู่นะ เเต่ๆนานๆๆที ตอนนั้นผมชอบพี่เเละรักพี่มากครับ พอนึกถึงก็อยากรู้ว่าพี่ป ตอนนั้นคิดเหมือนกันไหม ถ้าไม่ผมคงคิดไปเอง5555.
(เขียนผิด เขียนงง ก็ขอโทษด้วยครับ) เขียนเมื่อ 26 เม.ย. 64
อยากรู้ใจเธอเมื่อตอนนั้น ว่าเธอคิดอะไรอยู่ (เรื่องที่เก็บไว้ในใจมานาน เรื่องจริง)
สวัสดีครับผมขอเเทนตัวเองว่า อ เเล้วกันนะครับ ผมเป็นนศ.ปวช ที่สอบติดมหาวิทยาลัยเเห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ คณะที่ไม่ค่อยจะได้นอนกันเท่าไหร่ ในคณะจะมีต้นไม้ใหญ่อยู่กลางคณะเเล้วมีตึกเรียนล้อมรอบ โอเค เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ
ขอพาทุกคนย้อนกลับไปเมื่อตอนปี 61 หลังจากที่ผมสอบติดเเละจะเริ่มเข้าไปเรียนนั้นผมเกิดอุบัติเหตุรถล้มทำให้ไห่ปลาร้าข้างขวาหัก(ข้างถนัดด้วยนะ)ได้ใส่เฝือกอ่อน พอถึงช่วงเรียนก็จะมีวิชาดออิ้งที่ นศ.มาวาดรูปด้วยกันเเละมักจะมีรุ่นพี่ในคณะเเวะมาดูบ้าง มีพี่สาย บางสายเอาขนม น้ำมาให้บ้างพอช่วงเย็นในคณะก็จะมีกิจกรรมที่ให้ เฟรชชี ร่วมทำกิจกรรมด้วยกันก็คือรับน้องนั้นเอง ก็จะมีทำกำเเพงรุ่น ร้องเพลง เต้นกันอะไรต่างๆกิจกรรมก็จะไม่เครียดไม่รุ่นเเรง ก็จะมีรุ่นพี่ปี2 มาเส้นเต้นท่าต่างๆเยอะเเยะไปหมดเราเนื่องจากใส่เฝือกอยู่ก็จะได้เพียงเเค่นั่งดู พอเรานั่งดูๆไปสายตาก็จะสอดส่องไปทั่ว ดูรุ่นพี่เเต่ละคนเป็นแบบนั้นไปเรื่อยๆ พอผ่านไปได้หลายวัน
วันที่ทำให้ใจเรานั้นสั่นไหวเกิดขึ้นถ้าจำไม่ผิดตอนนั้นน่าจะผ่านจากช่วงกิจกรรมมาได้เดือนเเล้วมั้งเเล้วเราก็ได้ถอดเฝือกเเล้วด้วย วันนั้นก็เหมือนกับวันธรรมดาทั่วไปที่เราทำงานวิชานึ่งเสร็จเเล้วเลยบอกเพื่อนสนิทว่าเดียวลงไปอยู่ใต้ถุนคณะที่โต๊ะปิงปองรอ เราก็ยืนรอคนเดียว ยืนไปหันไปหันมากซักพักก็มีรุ่นพี่คนหนึ่งเดินมา ขอเเทนชื่อรุ่นพี่ด้วย พี่ ป เเล้วกันครับ พี่ ป อยุ่ปี2
เเล้วทักผมว่า พี่ ป : ทำงานเสร็จละก๋า
อ : ครับ
พี่ ป : เว่ยน้ออ เเล้วก็เดินขึ้นบันไดไป
ใช่ครับประโยคสนทนาจบเเค่นั้น เเละเราก็คิดในหัวว่าปี้นี่จะมาทักเฮายะหยัง เฮาก็อยู่เงียบๆของเฮา (พี่นี่จะมาทักเราทำไม เราก็อยู่คนเดียวเงียบๆ) ผมก็ไม่ได้สนใจพี่เลย
ซักพักเพื่อนก็ลงมาเเล้วก็ไปกินข้าวปกติ พอตอนเย็นก็มีกิจกรรมรับน้องเต้นร้องเพลงกันตามปกติ พอมาถึงเพลงหนึ่งรุ่นพี่ก็จะให้นั่งเป็นวงกลมเเล้วก็จะมีรุ่นพี่ปี2มาอยู่ในวงกลม โดยรุ่นพี่ที่เข้ามาจะสมัครเข้ามาเอง รุ่นพี่ก็จะสอนเต้นท่าต่างๆ (รุ่นพี่เต้นเก่งทุกคนคณะนี้) ซักพักผมก็สังเกตุว่า เอ๊ะมีพี่ ป อยูในวงกลมด้วยเราก็ดูพี่เขาสอนไปเรื่อยๆ พอเลิกกิจกรรมก็กลับบ้าน พอค่ำๆหน่อยเพื่อนก็จะเเชร์โพสรุ่นพี่ที่เก็บภาพบรรยากาศตอนทำกิจกรรมลงFB เพื่อนเเชร์กันหลายคนมากเราก็กดไปดู ก็เลื่อนดูไปเรื่อยๆ ๆ จนไปหยุดอยู่กับรูปหนึ่ง ใช่ครับ รูปพี่ ป ที่กำลังเตรียมที่จะเต้นท่าประจำคณะ(รูปเห็นรายละเอียดทรงผมหน้าตาชัดเจน) พอเห็นรูปนั้นเท่านั้นเเหละภาพทุกอย่างในหัวก็ย้อนกลับไปในตอนที่ พี่ป เดินเข้าทัก เหมือนภาพที่ย้อนไปในคือ พี่ป ยิ้มเเย้มเดินเข้ามาทักอย่างจริงใจเราเห็นรอยยิ้มตามมุมปากต่างๆได้อย่างชัดเจน (จนตอนนี้ยังจำได้ไม่เคยลืม) หลังจากนั้นผมรีบเข้าส่องเพื่อนของเพื่อนพี่รหัสในเฟสเลยหาไปได้ไม่นานนัก็เจอเฟส พี่ป ครับเเล้วก็ค่อยเเอดไปตอนก่อนนอน
เช้าวันต่อมาก็เปิดเฟสดู พี่ป รับเป็นเพื่อนในเฟสเเล้วครับ ผมไม่ได้ทักพี่เขาไปครับ ไม่คุยด้วย เราก็จะลองคิดในหัวเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่เราจะได้คบกับพี่เขาไหม เราคิดทบทวนกับตัวเองนานมากครับ คิดวกไปวนมา ทั้งที่ยังไม่เคยคุยกันหลังจากตอนครั้งเเรก
เเต่เเล้ววันหนึ่ง เราก็อยู่ใต้ถุนคณะเเหละเราก็เผลอหันไปมอง พี่ป ที่อยู่ไกลๆ เเอบมองไกลๆเเหละว่าเขาอยู่ตรงนั้น ซักพัก พี่ป หันมาสบตาเราเเบบเต็มๆเรารีบเนียนมองผ่านไป ทำเหมือนบังเอิญ เวลาก็ผ่านไปเรื่อยๆเราก็เริ่มแปลกใจว่า เราก็มักเผลอไปสบตากับพี่ปบ่อยมากขึ้น เเละเเทบจะทุกวันเลยก็ว่าได้อย่างเช่น ผมอยู่บนชั้น 3 พี่ปอยู่โถงชั้นหนึ่ง ผมมองลงไปพี่เขาก็หันขึ้นมาสบตา หรือจังหวะที่ผมเดินขึ้นบันไดหันไปดูใต้ถุนก็เห็นพี่เขาที่นั่งม้านั่งอยู่มองเราอยู่พอสบตากันต่างฝ่ายก็รีบหันกลับ คือเป็นอย่างนี้บ่อยมากคือเจอกันทุกวัน สบตากันร้านข้าว สบตากันตรงข้ามถนน สบตากันระหว่างตึก เเม้กระทั่งตอนที่เรานั่งเรียนอยู่ก็เผลอไปสบตาพี่ป ที่กำลังเดินผ่านหน้าห้อง จนระยะเวลาผ่านไปนานมาก จนผมขึ้นปี2 พี่ปขึ้นปี3
พอวันหนึ่งผมก็ลองเดิมพัน กับเเผ่นโง่ๆที่อาจต้องใช้ระยะเวลาถึง 3 ปีเลยทีเดียว
คืออันดับ1.ผมจะถ่ายรูปมุมต่างๆที่เคยสบตากันเก็บไว้ทุกมุม
2.เฟสพี่ปผมจะไปไลน์ทุกโพส เเต่ไม่ใช่กดวันเดียวนะมีชั้นเชิงด้วย เช่นพี่เขาโพสเราจะรอให้ผ่านไป2-3วันเเล้วค่อยไปกดไลน์ก่อนที่ผมจะนอนททำแบบนี้ทุกโพส ทุกเเชร์ ดีนะที่พีเขาเป็นคนโพสน้อย55555.
3.3ปีที่ว่าคือ คณะเราหลักสูตร5ปี ก็เท่ากับว่าพี่ปจะ รับปริญญาพอดี เราก็จะเอารูปมุมที่เราเคยสบตากันติดลงไปในสมุด1เล่มที่ซื้อมาใหม่เเละปาก1ด้ามที่จะเอาไปให้พี่เขาวันรับปริญญา โดยหน้าสุดท้ายจะติดรูปสถานที่1ไว้โดยจะเขียนวันที่ เดือน ปี ไว้ เเต่จะเป็นวันที่ยังไม่ถึง ใช่ครับคือเหมือนกับนัดเจอกันถ้าเข้าใจความหมายหรือที่เราคิดเหมือนกันตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา
โอเคมาต่อกันหลังจากที่สบตากันบ่อยมากขึ้นเราเริ่มเลยคิดว่าจะไม่มองจะแอบมองแบบลับอย่างเช่นถ้าเห็นพี่เขาเดินมาไกลๆก้จะคุยกับเพื่อนไปตลอดทาง ใช่ครับมันได้ผลผมสบตาพี่เขาน้อยลงจนผ่านไปสักพัก เราก็ทำเหมือนเดิมโดยคุยกลับเพื่อนเเหละก็เดินไปคุยไปเเต่เรารู้ว่ากลุ่มพี่ปกำลังเดินมาด้านหน้ากำลังจะเดินสวนกลุ่มเรา จังหวะจะสวนกันก็จะต้องทำกลุ่มเล็กลงเพราะเป็นถนนจังหวะนั้นเเหละที่เรารู้ว่าพี่เขากำลังผ่านไปเราเลยเเอบหันไปมอง แต่กลับว่าพี่ปก็แอบมองอยู่เหมือนกันต่างฝ่ายก็รีบหันกลับเลย อีกจังหวะหนึ่งเรามามอเช้าเราเห็นไกลๆละว่าพี่เขาขับรถมาเราก็เเกล้งก้มหน้าลงโต๊ะเล่นโทรศัพท์เสียงรถจอดลงเราก็มีเสียงเดินผ่านไปเราก็เลยเงยหน้าแอบมองตามแต่จังหวะนั้นคือพี่ปเหล่ตามองพอสบตากันก็รีบหันกลับตอนนี้เราคิดว่าคงมีความคิดคล้ายกันมั้งเพราะเป็นบ่อยมาก ทุกวันเลยย
เเต่เเล้วก็เกิดการเเพร่ระบาดของ covid ทำให้ต้องเรียนออนไลน์เเทนจำเวลาได้ไม่เเน่นอน จนผ่านไปนานมากพอกลับมาเรียนมหาลัยเราก็ปี3เทอม2เเล้ว พี่ป อยู่ปี4เเล้ว เวลาเรียนในมหาลัยน้อยลงทำให้เจอกันน้อยลง เเต่ก็สบตากันทุกครั้งที่มาเรียน
จนวันหนึ่งเราเห็นพี่ป อยู่กับพี่ปี5คนหนึ่งอยู่ด้วยกันบ่อยมาก ซ้อนรถกัน ทำอะไรด้วยกันต้างๆเยอะเราเลยตัดสินใจว่าโอเคถ้าเขาคบกันเราก็จะไม่ทำตามแผ่นที่ว่างไว้เวลาผ่านไปเราก็ไม่รู้ว่าพี่เขาคบกันไม่หรือยังไง เราก็ไม่รู้เลยตัดสินใจเองเลยว่ายกเลิกแผนและทิ้งไป
เหตุผลที่ไม่เข้าไปคุยด้วย
-เราชอบการสบตากลัวทำเสียเรื่องคุยไม่เก่ง
-เราตอนนั้นเรารู้ตัวเองอยู่เเล้วว่าเราไม่สามารถทำให้เขามีความสุขได้ในตอนนั้น ไม่มีเวลา ไม่มีงาน ต่างคนไม่มีประสบการณ์การทำงาน
โอเคตอนนี้ก็ถึงตอนท้ายเเล้วครับ ฝากข้อคิดไว้นิดนึง บางครั้งเราก็ต้องปล่อยเขาไปถ้าเรารักเขา
ถึงเเม้จะไม่เคยได้คุยด้วยกันก็ตาม แต่ขอให้พี่ป มีความสุขกับการใช้ชีวิต ทุกวันนี้ผมยังแอบไปส่องเฟสพี่ปอยู่นะ เเต่ๆนานๆๆที ตอนนั้นผมชอบพี่เเละรักพี่มากครับ พอนึกถึงก็อยากรู้ว่าพี่ป ตอนนั้นคิดเหมือนกันไหม ถ้าไม่ผมคงคิดไปเอง5555.
(เขียนผิด เขียนงง ก็ขอโทษด้วยครับ) เขียนเมื่อ 26 เม.ย. 64