เนื่องจากเราติดขายฝากบ้านไว้กับนายทุน จะย้ายออกมาเข้าแบ้งค์ แต่ตัวเองติดบูโร เลยจำเป็นต้องหาบริษัทที่ทำตัวเหมือนแบ้งค์แต่ไม่เช็คเครดิตบูโร เพื่อมาช่วยหาทางออก ก่อนจะครบกำหนดสัญญาขายฝากค่ะ
แล้วมาเจอบริษัทที่ว่านี้ แต่เหมือนโดนหลอก เพราะคุยกับเซลล์ แจ้งเซลล์ไปแล้วว่าติดขายฝากเท่านี้ ต้องการเงินเท่านี้ ส่งรายละเอียดให้ทุกอย่าง เพื่อให้บริษัทประเมินเบื้องต้น ว่ารายละเอียดแบบนี้ ต้องการวงเงินเท่านี้ มีความเป็นไปได้หรือไม่ เซลล์ก็บอกรายละเอียดมาว่า เงินต้นเท่านี้ เพิ่มอีก 25% ดอกเท่านี้ ค่างวดต่อเดือนเท่านี้ ลูกค้าไหวหรือเปล่า ถ้าไหว จะส่งให้บริษัทเข้าประเมินที่ดิน เราก็บอกไหว ถ้าผ่านนะ
เซลล์ก็บอกว่าเราต้องโอนเงินค่าประเมิน 26,000 ไม่สามารถหักจากสินเชื่อได้ แล้วบริษัทออกมาประเมินด้วยตัวเอง ไม่ใช้ใบประเมินจากกรมที่ดิน
ทุกคนคะ มาถึงจุดนี้โดยที่เราเข้าใจว่า ยังไงก็ต้องได้ราคามากกว่าที่ติดขายฝากไว้ เพราะแจ้งยอดให้บริษัททราบแล้ว แต่จะได้เพิ่มมากหรือน้อย แล้วแต่บริษัท เราเลยยืมเงินจากญาติมาก่อน 26,000
ผ่านมา 5 วัน บริษัทส่งคนมาประเมินจริงค่ะ แล้วก็แจ้งว่า ยังไงผลก็ออกทัน ก่อนครบกำหนดสัญญาขายฝาก อีก 10 วัน
ผ่านไป 5 วัน เราก็ตามผล ปรากฏว่าเซลล์แจ้งว่า ผลการประเมินได้ไม่เท่าที่เราต้องการ คือได้ไม่พอไถ่ถอนเลย อ้าว.. เราก็เหวอสิ แล้วจะเสียเงินค่าประเมินไปทำไม เซลล์ก็บอกพี่ต้องคุยกับเจ้าของบรษัทเอง เอาเบอร์ทิ้งให้ เราก็แอบคิด บริษัทอะไรให้ลูกค้าโทรตรงเจ้าของเลยรึ
ก่อนจะโทรหาเจ้าของบริษัท เราก็คุยกัยนายหน้า และคนมาประเมินแล้ว ทุกคนบอกไม่มีอำนาจตัดสินใจ ต้องคุยกับบอส
หลังจากคุยเสร็จ บอสยืนยันราคาเดิม เราก็แย้งว่า เราแจ้งรายละเอียดให้คุณทราบแต่แรกแล้ว ถ้ารู้ว่ายอดไม่ถึง ทำไมต้องให้เราเสียเงินก่อนด้วย
เขาก็บอกว่า คุณก็หาเงินมาเพิ่มเอาสิ ไม่งั้นก็รอให้หลุด เขาจะไปซื้อคืนให้เอง... ฟังแบบนี้แล้ว ไม่รู้จะพูดไรต่อค่ะ มาทุกอารมณ์
โกรธ โมโห ช็อค เสียใจมากค่ะ เงินค่าประเมินก็ยืมมา เสียเปล่า บ้านก็ไม่ได้ไถ่ถอน ความหวังพังทลาย ทั้งโกรธทั้งเสียใจ แต่ทำอะไรไม่ได้
ในข้อตกลงก่อนโอนค่าประเมิน ระบุ ถ้าลูกค้าไม่รับเงื่อนไขบริษัท ถือว่าเงินค่าประเมินตกเป็นของบริษัท
ผ่านมา เกือบ 1 เดือน นึกขึ้นได้ว่า ทำไมเราไม่ขอเอกสารการประเมินจากบริษัทมา ไหนๆก็เสียตังค์แล้ว อาจจะพอมีประโยชน์บ้าง
วันนี้เลยโทรไปคุยกับนายหน้า กับคนที่มาประเมิน เลยจับใจความได้ว่า บริษัทนี้ทำแบบนี้กับหลายคน ไม่ใช่แค่เราคนเดียว
ก็เลยจะหาคนที่ตกอยู่สถานะเดียวกันค่ะ เผื่อหาทางออกร่วมกันค่ะ
พิมพ์ไม่เข้าใจ ตกหล่นขออภัยด้วยค่ะ
ใครเคยโดนบริษัทอีซี่โฮมตุกติกบ้างค่ะ ขอคำปรึกษาค่ะ
แล้วมาเจอบริษัทที่ว่านี้ แต่เหมือนโดนหลอก เพราะคุยกับเซลล์ แจ้งเซลล์ไปแล้วว่าติดขายฝากเท่านี้ ต้องการเงินเท่านี้ ส่งรายละเอียดให้ทุกอย่าง เพื่อให้บริษัทประเมินเบื้องต้น ว่ารายละเอียดแบบนี้ ต้องการวงเงินเท่านี้ มีความเป็นไปได้หรือไม่ เซลล์ก็บอกรายละเอียดมาว่า เงินต้นเท่านี้ เพิ่มอีก 25% ดอกเท่านี้ ค่างวดต่อเดือนเท่านี้ ลูกค้าไหวหรือเปล่า ถ้าไหว จะส่งให้บริษัทเข้าประเมินที่ดิน เราก็บอกไหว ถ้าผ่านนะ
เซลล์ก็บอกว่าเราต้องโอนเงินค่าประเมิน 26,000 ไม่สามารถหักจากสินเชื่อได้ แล้วบริษัทออกมาประเมินด้วยตัวเอง ไม่ใช้ใบประเมินจากกรมที่ดิน
ทุกคนคะ มาถึงจุดนี้โดยที่เราเข้าใจว่า ยังไงก็ต้องได้ราคามากกว่าที่ติดขายฝากไว้ เพราะแจ้งยอดให้บริษัททราบแล้ว แต่จะได้เพิ่มมากหรือน้อย แล้วแต่บริษัท เราเลยยืมเงินจากญาติมาก่อน 26,000
ผ่านมา 5 วัน บริษัทส่งคนมาประเมินจริงค่ะ แล้วก็แจ้งว่า ยังไงผลก็ออกทัน ก่อนครบกำหนดสัญญาขายฝาก อีก 10 วัน
ผ่านไป 5 วัน เราก็ตามผล ปรากฏว่าเซลล์แจ้งว่า ผลการประเมินได้ไม่เท่าที่เราต้องการ คือได้ไม่พอไถ่ถอนเลย อ้าว.. เราก็เหวอสิ แล้วจะเสียเงินค่าประเมินไปทำไม เซลล์ก็บอกพี่ต้องคุยกับเจ้าของบรษัทเอง เอาเบอร์ทิ้งให้ เราก็แอบคิด บริษัทอะไรให้ลูกค้าโทรตรงเจ้าของเลยรึ
ก่อนจะโทรหาเจ้าของบริษัท เราก็คุยกัยนายหน้า และคนมาประเมินแล้ว ทุกคนบอกไม่มีอำนาจตัดสินใจ ต้องคุยกับบอส
หลังจากคุยเสร็จ บอสยืนยันราคาเดิม เราก็แย้งว่า เราแจ้งรายละเอียดให้คุณทราบแต่แรกแล้ว ถ้ารู้ว่ายอดไม่ถึง ทำไมต้องให้เราเสียเงินก่อนด้วย
เขาก็บอกว่า คุณก็หาเงินมาเพิ่มเอาสิ ไม่งั้นก็รอให้หลุด เขาจะไปซื้อคืนให้เอง... ฟังแบบนี้แล้ว ไม่รู้จะพูดไรต่อค่ะ มาทุกอารมณ์
โกรธ โมโห ช็อค เสียใจมากค่ะ เงินค่าประเมินก็ยืมมา เสียเปล่า บ้านก็ไม่ได้ไถ่ถอน ความหวังพังทลาย ทั้งโกรธทั้งเสียใจ แต่ทำอะไรไม่ได้
ในข้อตกลงก่อนโอนค่าประเมิน ระบุ ถ้าลูกค้าไม่รับเงื่อนไขบริษัท ถือว่าเงินค่าประเมินตกเป็นของบริษัท
ผ่านมา เกือบ 1 เดือน นึกขึ้นได้ว่า ทำไมเราไม่ขอเอกสารการประเมินจากบริษัทมา ไหนๆก็เสียตังค์แล้ว อาจจะพอมีประโยชน์บ้าง
วันนี้เลยโทรไปคุยกับนายหน้า กับคนที่มาประเมิน เลยจับใจความได้ว่า บริษัทนี้ทำแบบนี้กับหลายคน ไม่ใช่แค่เราคนเดียว
ก็เลยจะหาคนที่ตกอยู่สถานะเดียวกันค่ะ เผื่อหาทางออกร่วมกันค่ะ
พิมพ์ไม่เข้าใจ ตกหล่นขออภัยด้วยค่ะ