เครดิตแหล่งข่าว/เจ้าของบทความโดย
https://mgronline.com/entertainment/detail/9670000033525
ติดตามข่าวสารน่าสนใจมากมายได้ที่
https://mgronline.com
จ้าว เหว่ย คงไม่ได้คืนวงการภายในเร็ว ๆ นี้แน่ หลังจากถูกแบล็คลิสต์มานานกว่าสองปี มีข่าวลือแพร่สะพัดว่าเธอจะกลับมาในวงการบันเทิงในปีนี้ แต่กลับโดนอายัติทรัพย์สินอีกครั้ง
ล่าสุดความหวังเหล่านี้ต้องพังทลายลงเมื่อมีรายงานว่าทรัพย์สินของเธอถูกอายัด ทรัพย์สินที่ถูกแช่แข็งมีมูลค่าสูงถึง 5.4 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 5 ล้านหยวนจีน) ซึ่งส่งผลกระทบครั้งใหม่ให้กับอาชีพการงานที่กำลังลำบากหนักอยู่แล้วของเธอ
ครั้งหนึ่งเคยถูกมองว่าเป็นหนึ่งในนักแสดงนำในจีนแผ่นดินใหญ่ ร่วมกับ โจวซวิ่น และ จางจื่ออวี๋
แต่สุดท้ายอาชีพของ จ้าว เหว่ย ต้องหยุดชะงักลงในปี 2021 เมื่อเธอถูกเรียกว่าเป็นหนึ่งใน “ศิลปินที่มีปัญหาเรื่องศีลธรรม”
โดยในระหว่างที่เธอพักงาน มีรายงานว่า จ้าว เหว่ย ได้พยายามหลายครั้งเพื่อกลับเข้าสู่วงการบันเทิงอีกครั้ง เธอปรากฏตัวต่อสาธารณะที่สนามบินในจีนแผ่นดินใหญ่เป็นครั้งคราว โดยมีเป้าหมายเพื่อให้คนยังคงเห็นหน้าเห็นตา และป้องกันไม่ให้ตัวเองถูกลืม
ก่อนหน้านี้มีกระแสฮือฮาในโลกออนไลน์ เมื่อมีข่าวลือแพร่สะพัดว่าเธอใกล้จะคัมแบ็กแล้ว เว็บไซต์ในประเทศบางแห่งถึงกับปลดบล็อกวิดีโอของเธอ และบัญชีโซเชียลมีเดียของเธอก็กลับมาเป็นปกติ ทำให้เกิดความสนใจอย่างกว้างขวาง มีข่าวลือว่าเธอกำลังวางแผนโปรเจ็กต์ใหม่ในเดือนมิถุนายนปีนี้
อย่างไรก็ตามสุดท้ายข่าวก็ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นความจริง
จากข้อมูลของสื่อจีน สัดส่วนการถือหุ้นของเธอบางส่วนถูกอายัด โดยศาลประชาชนกลางที่ 4 แห่งกรุงปักกิ่งได้ออกคำสั่งอายัด ทรัพย์สินที่ถูกอายัดมีมูลค่า 5.4 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 5 ล้านหยวนจีน) และการอายัดดังกล่าวจะยังคงมีผลจนถึงวันที่ 10 เมษายน 2027 เป็นที่น่าสังเกตว่าความพยายามในการทำธุรกิจของ จ้าว เหว่ย ดูจะลดลงอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ที่ผ่านมาเธอลงทุนในบริษัท 17 แห่ง ซึ่งครอบคลุมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บันเทิง เทคโนโลยี และภาพยนตร์ ปัจจุบันเธอดำรงตำแหน่งตัวแทนทางกฎหมายในภาพยนตร์และสตูดิโอวัฒนธรรมแห่งเดียวเท่านั้น เนื่องจากบริษัทอื่นๆ ทั้งหมดถูกยุบหรือเพิกถอนแล้ว
ข่าวเกี่ยวกับทรัพย์สินที่ถูกแช่แข็งของ จ้าว เหว่ย ทำให้เกิดการถกเถียงอย่างดุเดือดในโลกออนไลน์ของจีน
โดยชาวเน็ตจำนวนมากแสดงความเชื่อว่าปัญหานี้จะทำให้เธอ "คืนวงการ" ยากมาก และทำได้เพียงอย่างเดียวคือการ "รอ" เท่านั้น
จ้าว เหว่ย มีแฟน ๆ ที่รักหลายล้านคน เธอมีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ แต่ปักกิ่งแทบจะ "ลบ" นักแสดงคนนี้ออกจากประวัติศาสตร์ไปแล้ว โดยไม่มีการเปิดเผยสาเหตุออกมาเลยว่า "เพราะอะไรกันแน่"
ชื่อของ จ้าว เหว่ย ถูกลบออกจากโลกกอนไลน์ของจีนทั้งหด ซีรีส์และรายการแชททั้งหมดที่มีเธอได้หายไปจากเว็บไซต์สตรีมมิ่งออนไลน์รายใหญ่ของจีน เธอไม่ปรากฏในเครดิตออนไลน์ของภาพยนตร์ที่เธอปรากฏอีกต่อไป
จ้าว เหว่ย มีชื่อเสียงในช่วงปลายทศวรรษ 1990 ในซีรีส์โทรทัศน์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของจีนอย่าง My Fair Princess "องค์หญิงกำมะลอ" ตั้งแต่นั้นมา เธอก็ก้าวหน้าจากการเป็นนักแสดงแถวหน้าไปจนถึงผู้กำกับ นักร้องเพลงป๊อป และนักธุรกิจหญิง
ความสำเร็จดังกล่าวภายใต้นโยบายของประธานเติ้ง เสี่ยวผิงในการ "เปิด" ประเทศจีน และการยอมรับสิ่งจูงใจจากองค์กรเอกชน ทำให้ จ้าว เหว่ย ประสบความสำเร็จทางธุรกิจ และกลายเป็นดาราระดับ "มหาเศรษฐี"
แต่อาณาจักรธุรกิจของเธอประสบปัญหาภายใต้การนำของสีจิ้นผิง เมื่อ จ้าว เหว่ย ถูกกล่าวหาว่าแสดงออกถึงความ "ไม่รักชาติ" ในการจ้างนักแสดงชาวไต้หวันมารับบทนักแสดงนำในภาพยนตร์ปี 2016
หลังจากนั้นไม่นาน การเข้าซื้อธุรกิจของ จ้าว เหว่ย ก็เริ่มดึงดูดการตรวจสอบด้านกฎระเบียบและภาษีอย่างละเอียด
บริษัทประชาสัมพันธ์แห่งหนึ่งที่เธอเป็นเจ้าของพัวพันกับเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับชาตินิยม หลังจากลูกค้ารายหนึ่งซึ่งเป็นนักแสดง จาง เจ้อฮั่น ถ่ายเซลฟี่ขณะเยี่ยมชมศาลเจ้าผู้วายชนม์ในสงครามยาสุกุนิของญี่ปุ่น
มีรายงานในเว็บไซต์ข่าวของจีนว่า จ้าว เหว่ย หลบหนีออกนอกประเทศด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว และถูกพบเห็นที่สนามบินบอร์กโดซ์ในฝรั่งเศส ซึ่งเธอและสามีของเธอที่เป็นเจ้าของไร่องุ่น
ตอนนี้ จ้าว เหว่ย ดูเหมือนจะกลายเป็นเหยื่อที่มีชื่อเสียงที่สุดของการปราบปรามพรรคคอมมิวนิสต์จีนต่อคนดังและมหาเศรษฐีเลยก็ว่าได้
"เจ้าเหว่ย" องค์หญิงกำมะลอ ถูกทางการจีนแบน ลบชื่อจากทุกผลงาน
31 สิงหาคม 2564
https://www.nationtv.tv/news/378836776
ตอนนี้รัฐบาลจีนกำลังลงดาบรื้อระบบวงการบันเทิงจีนใหม่ เชือดเหล่าคนดังของจีนที่มีข่าวฉาว มีนักแสดงศิลปินชื่อดังถูกแบนมาต่อเนื่องหลายคน ล่าสุด นักแสดงหญิงชื่อดัง เจ้าเหว่ย (Zhao Wei) ที่คนไทยรู้จักกันดีจากผลงาน องค์หญิงกำมะลอ ก็ถูกแบนเช่นกัน
31 สิงหาคม 2564 ล่าสุด เจ้าเหว่ย ได้ถูกถอดชื่อออกจากผลงานการแสดงของเธอทุกเรื่อง และถูกลบออกจากสตรีมมิ่งหลักทุกแพลตฟอร์มของจีน ซึ่งเป็นเรื่องร้ายแรงสำหรับนักแสดงที่ไม่มีชื่อหรือเครดิตบนผลงานสร้างชื่อของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม ไม่มีการเปิดเผยสาเหตุของการแบนครั้งนี้ ซึ่งตัวเจ้าเหว่ยได้มีการเคลื่อนไหว โดยโพสต์ภาพถ่ายผ่านไอจีสามภาพ เป็นภาพต้นไม้ออกผล พร้อมแคปชั่นระบุว่า เธอยังอยู่กับพ่อแม่ที่ปักกิ่ง ไม่ได้อยู่ฝรั่งเศส ก่อนที่โพสต์Instagram จะถูกลบในภายหลัง
เจ้าเหว่ย เป็นที่รู้จักในนาม Vicky หรือ Vicki Zhao มีผลงานการแสดงเรื่องดัง องค์หญิงกำมะลอ (My Fair Princess) ช่วงปลายยุค 90 และ Shaolin Soccer, Lost in Hong Kong รวมถึงผลงานอื่นๆ อีกมากมาย
จากนั้นผันเส้นทางจากดารานักแสดง กลายมาเป็นนักลงทุนระดับมหาเศรษฐีร่วมกับสามี จนกลายเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นก่อตั้งบริษัท อาลีบาบา (Alibaba) อันเป็นที่มาของกรณีอื้อฉาวทางธุรกิจที่ถูกตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้สั่งแบน และเจ้าเหว่ย ยังเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Fendi แบรนด์แฟชั่นสัญชาติอิตาลีในประเทศจีนด้วย
ซึ่งชุมชนออนไลน์จีนได้ตั้งข้อสังเกตว่า เธออาจเป็นหนึ่งในคนดังที่ถูกทางรัฐบาลจีนจัดระเบียบเหล่าคนดังที่มีประเด็นฉาว หลังรัฐบาลจีนได้ออกกฎใหม่ของวงการบันเทิงจีน ที่อาจทำให้นักแสดงท็อปสตาร์ ปลิวหายไปจากวงการได้ในพริบตา ซึ่งช่วงเวลานี้เป็นการรื้อระบบและจัดระเบียบวงการใหม่แบบสุดโหด
2 ปี หลังโดนแบน "จ้าว เหว่ย" นางเอกเรื่ององค์หญิงกำมะลอ ยังไร้วี่แววรีเทิร์น
https://mgronline.com/entertainment/detail/9670000033525
ติดตามข่าวสารน่าสนใจมากมายได้ที่
https://mgronline.com
จ้าว เหว่ย คงไม่ได้คืนวงการภายในเร็ว ๆ นี้แน่ หลังจากถูกแบล็คลิสต์มานานกว่าสองปี มีข่าวลือแพร่สะพัดว่าเธอจะกลับมาในวงการบันเทิงในปีนี้ แต่กลับโดนอายัติทรัพย์สินอีกครั้ง
ล่าสุดความหวังเหล่านี้ต้องพังทลายลงเมื่อมีรายงานว่าทรัพย์สินของเธอถูกอายัด ทรัพย์สินที่ถูกแช่แข็งมีมูลค่าสูงถึง 5.4 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 5 ล้านหยวนจีน) ซึ่งส่งผลกระทบครั้งใหม่ให้กับอาชีพการงานที่กำลังลำบากหนักอยู่แล้วของเธอ
ครั้งหนึ่งเคยถูกมองว่าเป็นหนึ่งในนักแสดงนำในจีนแผ่นดินใหญ่ ร่วมกับ โจวซวิ่น และ จางจื่ออวี๋
แต่สุดท้ายอาชีพของ จ้าว เหว่ย ต้องหยุดชะงักลงในปี 2021 เมื่อเธอถูกเรียกว่าเป็นหนึ่งใน “ศิลปินที่มีปัญหาเรื่องศีลธรรม”
โดยในระหว่างที่เธอพักงาน มีรายงานว่า จ้าว เหว่ย ได้พยายามหลายครั้งเพื่อกลับเข้าสู่วงการบันเทิงอีกครั้ง เธอปรากฏตัวต่อสาธารณะที่สนามบินในจีนแผ่นดินใหญ่เป็นครั้งคราว โดยมีเป้าหมายเพื่อให้คนยังคงเห็นหน้าเห็นตา และป้องกันไม่ให้ตัวเองถูกลืม
ก่อนหน้านี้มีกระแสฮือฮาในโลกออนไลน์ เมื่อมีข่าวลือแพร่สะพัดว่าเธอใกล้จะคัมแบ็กแล้ว เว็บไซต์ในประเทศบางแห่งถึงกับปลดบล็อกวิดีโอของเธอ และบัญชีโซเชียลมีเดียของเธอก็กลับมาเป็นปกติ ทำให้เกิดความสนใจอย่างกว้างขวาง มีข่าวลือว่าเธอกำลังวางแผนโปรเจ็กต์ใหม่ในเดือนมิถุนายนปีนี้
อย่างไรก็ตามสุดท้ายข่าวก็ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นความจริง
จากข้อมูลของสื่อจีน สัดส่วนการถือหุ้นของเธอบางส่วนถูกอายัด โดยศาลประชาชนกลางที่ 4 แห่งกรุงปักกิ่งได้ออกคำสั่งอายัด ทรัพย์สินที่ถูกอายัดมีมูลค่า 5.4 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 5 ล้านหยวนจีน) และการอายัดดังกล่าวจะยังคงมีผลจนถึงวันที่ 10 เมษายน 2027 เป็นที่น่าสังเกตว่าความพยายามในการทำธุรกิจของ จ้าว เหว่ย ดูจะลดลงอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ที่ผ่านมาเธอลงทุนในบริษัท 17 แห่ง ซึ่งครอบคลุมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บันเทิง เทคโนโลยี และภาพยนตร์ ปัจจุบันเธอดำรงตำแหน่งตัวแทนทางกฎหมายในภาพยนตร์และสตูดิโอวัฒนธรรมแห่งเดียวเท่านั้น เนื่องจากบริษัทอื่นๆ ทั้งหมดถูกยุบหรือเพิกถอนแล้ว
ข่าวเกี่ยวกับทรัพย์สินที่ถูกแช่แข็งของ จ้าว เหว่ย ทำให้เกิดการถกเถียงอย่างดุเดือดในโลกออนไลน์ของจีน
โดยชาวเน็ตจำนวนมากแสดงความเชื่อว่าปัญหานี้จะทำให้เธอ "คืนวงการ" ยากมาก และทำได้เพียงอย่างเดียวคือการ "รอ" เท่านั้น
จ้าว เหว่ย มีแฟน ๆ ที่รักหลายล้านคน เธอมีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ แต่ปักกิ่งแทบจะ "ลบ" นักแสดงคนนี้ออกจากประวัติศาสตร์ไปแล้ว โดยไม่มีการเปิดเผยสาเหตุออกมาเลยว่า "เพราะอะไรกันแน่"
ชื่อของ จ้าว เหว่ย ถูกลบออกจากโลกกอนไลน์ของจีนทั้งหด ซีรีส์และรายการแชททั้งหมดที่มีเธอได้หายไปจากเว็บไซต์สตรีมมิ่งออนไลน์รายใหญ่ของจีน เธอไม่ปรากฏในเครดิตออนไลน์ของภาพยนตร์ที่เธอปรากฏอีกต่อไป
จ้าว เหว่ย มีชื่อเสียงในช่วงปลายทศวรรษ 1990 ในซีรีส์โทรทัศน์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของจีนอย่าง My Fair Princess "องค์หญิงกำมะลอ" ตั้งแต่นั้นมา เธอก็ก้าวหน้าจากการเป็นนักแสดงแถวหน้าไปจนถึงผู้กำกับ นักร้องเพลงป๊อป และนักธุรกิจหญิง
ความสำเร็จดังกล่าวภายใต้นโยบายของประธานเติ้ง เสี่ยวผิงในการ "เปิด" ประเทศจีน และการยอมรับสิ่งจูงใจจากองค์กรเอกชน ทำให้ จ้าว เหว่ย ประสบความสำเร็จทางธุรกิจ และกลายเป็นดาราระดับ "มหาเศรษฐี"
แต่อาณาจักรธุรกิจของเธอประสบปัญหาภายใต้การนำของสีจิ้นผิง เมื่อ จ้าว เหว่ย ถูกกล่าวหาว่าแสดงออกถึงความ "ไม่รักชาติ" ในการจ้างนักแสดงชาวไต้หวันมารับบทนักแสดงนำในภาพยนตร์ปี 2016
หลังจากนั้นไม่นาน การเข้าซื้อธุรกิจของ จ้าว เหว่ย ก็เริ่มดึงดูดการตรวจสอบด้านกฎระเบียบและภาษีอย่างละเอียด
บริษัทประชาสัมพันธ์แห่งหนึ่งที่เธอเป็นเจ้าของพัวพันกับเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับชาตินิยม หลังจากลูกค้ารายหนึ่งซึ่งเป็นนักแสดง จาง เจ้อฮั่น ถ่ายเซลฟี่ขณะเยี่ยมชมศาลเจ้าผู้วายชนม์ในสงครามยาสุกุนิของญี่ปุ่น
มีรายงานในเว็บไซต์ข่าวของจีนว่า จ้าว เหว่ย หลบหนีออกนอกประเทศด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว และถูกพบเห็นที่สนามบินบอร์กโดซ์ในฝรั่งเศส ซึ่งเธอและสามีของเธอที่เป็นเจ้าของไร่องุ่น
ตอนนี้ จ้าว เหว่ย ดูเหมือนจะกลายเป็นเหยื่อที่มีชื่อเสียงที่สุดของการปราบปรามพรรคคอมมิวนิสต์จีนต่อคนดังและมหาเศรษฐีเลยก็ว่าได้
"เจ้าเหว่ย" องค์หญิงกำมะลอ ถูกทางการจีนแบน ลบชื่อจากทุกผลงาน
31 สิงหาคม 2564
https://www.nationtv.tv/news/378836776
ตอนนี้รัฐบาลจีนกำลังลงดาบรื้อระบบวงการบันเทิงจีนใหม่ เชือดเหล่าคนดังของจีนที่มีข่าวฉาว มีนักแสดงศิลปินชื่อดังถูกแบนมาต่อเนื่องหลายคน ล่าสุด นักแสดงหญิงชื่อดัง เจ้าเหว่ย (Zhao Wei) ที่คนไทยรู้จักกันดีจากผลงาน องค์หญิงกำมะลอ ก็ถูกแบนเช่นกัน
31 สิงหาคม 2564 ล่าสุด เจ้าเหว่ย ได้ถูกถอดชื่อออกจากผลงานการแสดงของเธอทุกเรื่อง และถูกลบออกจากสตรีมมิ่งหลักทุกแพลตฟอร์มของจีน ซึ่งเป็นเรื่องร้ายแรงสำหรับนักแสดงที่ไม่มีชื่อหรือเครดิตบนผลงานสร้างชื่อของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม ไม่มีการเปิดเผยสาเหตุของการแบนครั้งนี้ ซึ่งตัวเจ้าเหว่ยได้มีการเคลื่อนไหว โดยโพสต์ภาพถ่ายผ่านไอจีสามภาพ เป็นภาพต้นไม้ออกผล พร้อมแคปชั่นระบุว่า เธอยังอยู่กับพ่อแม่ที่ปักกิ่ง ไม่ได้อยู่ฝรั่งเศส ก่อนที่โพสต์Instagram จะถูกลบในภายหลัง
เจ้าเหว่ย เป็นที่รู้จักในนาม Vicky หรือ Vicki Zhao มีผลงานการแสดงเรื่องดัง องค์หญิงกำมะลอ (My Fair Princess) ช่วงปลายยุค 90 และ Shaolin Soccer, Lost in Hong Kong รวมถึงผลงานอื่นๆ อีกมากมาย
จากนั้นผันเส้นทางจากดารานักแสดง กลายมาเป็นนักลงทุนระดับมหาเศรษฐีร่วมกับสามี จนกลายเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นก่อตั้งบริษัท อาลีบาบา (Alibaba) อันเป็นที่มาของกรณีอื้อฉาวทางธุรกิจที่ถูกตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้สั่งแบน และเจ้าเหว่ย ยังเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Fendi แบรนด์แฟชั่นสัญชาติอิตาลีในประเทศจีนด้วย
ซึ่งชุมชนออนไลน์จีนได้ตั้งข้อสังเกตว่า เธออาจเป็นหนึ่งในคนดังที่ถูกทางรัฐบาลจีนจัดระเบียบเหล่าคนดังที่มีประเด็นฉาว หลังรัฐบาลจีนได้ออกกฎใหม่ของวงการบันเทิงจีน ที่อาจทำให้นักแสดงท็อปสตาร์ ปลิวหายไปจากวงการได้ในพริบตา ซึ่งช่วงเวลานี้เป็นการรื้อระบบและจัดระเบียบวงการใหม่แบบสุดโหด