ในชีวิตการลงทุนของผม เวลาที่มีความสุขคือเวลาที่สามารถขายได้กำไรมากพอจะชนะเงินเฟ้อ 
การลงทุนขายของในเฟสบุ๊คแล้วได้กำไร จะมีความสุขมาก สามารถนำเงินไปใช้จ่ายได้ ในพื้นที่อาศัย 
ด้วยความไม่ต้องห่วงว่าจะมีเงินไม่พอต่อปัจจัยบริโภคประจำ คนมีเงินไว้ซื้อของดีๆเพื่อขาย เก็บสะสมของ 
ตอนขายได้ก็ขายได้เลย ไม่ต้องรอกำไรหรือเสี่ยงขาดทุนระยะยาว มีโอกาสที่ชีวิตจะชนะเงินเฟ้อ ได้มากกว่า 
การใช้เงินเพื่อการเล่นหุ้น สะสมหุ้นราคาถูกๆและจะถูกลงไปมากกว่านี้มาก ในช่วงที่ตลาดหุ้นกำลังดิ่งลงเหว 
เพราะ ความสุข ในการลงทุน ก็คือ การมีอะไร ที่ชีวิตมีความพอใจ มีความหวัง และ มีผลกำไร ที่ได้จริงๆ 

ผมมีพอร์ตสินค้าที่ลงทุนสร้างมาแม้จะไม่มากแต่ก็มีการพัฒนามาได้มากจากอดีต มีโอกาสเกิดขึ้นได้มากกว่า 
ด้วยความไม่ต้องเสียเวลา มโนอะไรไปเอง เกินไป ถ้าขายของได้กำไร ได้เงินดีๆ ก็ต้องระวัง 
อย่าไปตามกระแสคนหัวอ่อนที่กำลังหลงไปกับความบันเทิงพนันในตลาดหุ้นให้ได้ 
และอย่าไปเสียเวลาคบหากับคนที่ไม่มีความรู้ความเข้าใจในการพัฒนาต้นทุนให้มีศักยภาพมีความคุ้มค่า 
หรือก็เลิกหวังกับคนที่มีเพียงภาษาจะสื่อสารให้คนหลงฝันตามมโนและกิเลสของเขามาก 
แต่ต้องยอมรับคนที่เรียนมามีความรู้จากหลักสูตรที่ดีถูกต้องจริงๆ ไม่เสียแรงที่หาเงินได้ 

มีใครสะสมของมีค่า มีราคาขายดีๆไว้สู้กับเงินเฟ้อบ้างครับ แล้วทำไมคนไม่มีก็ยังไม่มีอะไรเลยจริงๆ 
นึกแล้วก็เสียดายกับเงินที่เคยลงทุนเล่นหุ้น แต่เมื่อเปลี่ยนระบบความคิดว่าจะใช้เงินเพื่ออะไร 
ชีวิตก็มีความสุขมากขึ้น ไม่ต้องเสี่ยงที่จะเสียเงินรายได้ที่หาได้ ไปกับความฟุ่มเฟือยไร้สาระ 
กับการลงทุนในแพล็ตฟอร์มดิจิตัล ที่ไม่ก่อการสร้างสรรค์อะไรเลย 
นักลงุทนมักใจสปอร์ตฮึกเหิมเมื่อมีเงินในมือ ส่วนนักธุรกิจย่อมหาเงินได้เก่ง 
เพราะคนเล่นหุ้นก็คือติ่งของนักธุรกิจในเรื่องการหารายได้ คนที่มีความรู้มีประสบการณ์ในการทำธุรกิจ 
ก็มักจะมีอนาคตในโลกความจริงได้มากกว่าคนที่ใช้เงินเพื่อเล่นหุ้น 
ในสังคมไทยที่เห็นๆคนส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นได้จริง เพราะการลงทุนแตกต่างตั้งเริ่มแรกว่า 
คนที่มีเงินจะลงทุน มีสติลงทุนกับอะไรเป็นรูปธรรมได้จริงมากกว่า