แม้ว่าเราจะไม่มีโอกาสได้เกิดหรือได้ฟังธรรมในสมัยพุทธกาลเลยก็ตาม...เพราะวิบาก เพราะกรรมที่ตนกระทำมาก็รับผลตามนั้น จึงมาเกิดในยุคนี้
แต่เราก็ยังเกิดมาพบพระพุทธศาสนา...ในสมัยที่พระไตรปิฎกยังอยู่ครบ...แสดงว่ายังมีวาสนาที่จะฟังธรรมและปฏิบัติธรรมตามนั้นจนบรรลุธรรมได้จริง...
แม้อุปสรรคจะมาก...เพราะวิบาก เพราะกรรมที่ตนกระทำขัดขวาง ทางสงบ ทำให้เนิ่นช้าก็ตาม หากไม่คบกัลยาณมิตรย่อมไม่เจริญขึ้นได้เลย
ผมเคารพรัก พระไตรปิฎก ดั่งกัลยาณมิตรที่แท้จริง...เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมทางและครูบาอาจารย์ที่เคารพพระพุทธ พระธรรม และเป็นพยานธรรมจริงๆ
เพราะมีเพียงพระพุทธเจ้าเท่านั้นที่สอนธรรมแท้ ผู้ที่สอนธรรมแท้ที่พระพุทธเจ้าสอน จึงเรียกได้ว่าเป็นพยานในธรรมจริงและบรรลุธรรมจริง....นั่นคือสงฆ์จริง
เว็บบอร์ดต่างๆและอินเทอร์เน็ตในสมัยนี้ที่เราเกิดมา เป็นเหมือน ท้องนา พื้นที่ที่สามารถหว่านเมล็ดธรรมที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่มาอ่าน แล้วสดับธรรมแท้จากพระไตรปิฎก(หรือจากคนที่เข้าใจตามพระไตรปิฎก ตามพระพุทธเจ้า) แต่เช่นเดียวกัน ก็เป็นโทษอย่างมากสำหรับผู้ประมาทแสดงธรรมเพื่อแลกอามิส และก็เป็นวิบากของผู้อ่านอยู่แล้วที่จะต้องเข้าใจธรรมผิดๆ เพราะเคยแสดงธรรมผิดๆแก่ผู้อื่น....ผลคือบุคคลเหล่านั้นไม่ได้บรรลุธรรมจริง วนเวียนในการแสดงธรรมแลกอามิสอยู่เรื่อยไป...การแก้ คือการหยุดกระทำกรรมนั้น แล้วสดับธรรมพระพุทธเจ้าให้มากๆ ไม่ใช่เอาธรรมแลกอามิส
ผมคิดและตรึกเรื่องนี้อยู่สักพัก ก็เห็นแต่ความเป็นทุกข์ในการสนทนาธรรมตามเว็บบอร์ดต่างๆ อุปกิเลสที่ปรากฏก็ดี การจะแสดงความเห็นอย่างไรไม่ให้ผิดศีล ไม่ให้เป็นเหตุให้ถึงความเสื่อมของสมาธิ ของปัญญาก็ดี.....รู้สึกว่านิ่งเงียบไว้เสียยังดีกว่า แม้เทวดา อินทร์ พรหม ต่างๆ และสัตว์ทั้งหลายที่พบพุทธศาสนา(ธรรม) จริง และปฏิบัติสมควรแก่ธรรมจริง มีวิเวก วิราคะ สันโดษจริง มีเนกขัมมะจริง หลีกออกจากการสนทนา การแสดงตัวเอากิเลสออกมา
ส่วนตัว ยังคงมีทิฏฐิอยู่ว่า หากเราจะแสดงความเห็น ก็จะแสดงอยู่ในขอบเขตดังนี้
เพื่อรักษาศีลและใจของเราให้ดีที่สุดคือ ตักเตือนตามประสบการณ์ของตนเท่าที่ตนรู้ สิ่งใดที่ไม่รู้ก็ไม่แสดงมั่วซั่ว ไม่แสดงความอวดรู้ในคำพูด(ยังทำไม่ค่อยได้) ฝึกมีเมตตา ไม่ยกทิฏฐิตนข่มผู้อื่น และใครแสดงธรรม ยกพระสูตรมา ยิ่งเป็นสิ่งที่ดี... สุดท้ายหากตนจะแนะนำผู้ใดในการกล่าวธรรมต่างๆจริง ขอให้ได้มรรคได้ผลเป็นพยานในขั้นต้นให้ได้เสียก่อน(การพูดจึงมีหลักมีเหตุผลชัดเจน)
ขอฝากกระทู้นี้เอาไว้เตือนตนเองให้ไม่ประมาทในการเข้ามาอ่าน เข้ามาแสดงความเห็น...หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้อื่นบ้างไม่มากก็น้อย
ขอบพระคุณเว็บบอร์ดที่นำพากัลยาณธรรม ให้ได้อ่านได้แสดงธรรมที่พระศาสดาตรัสไว้ดีแล้วด้วยครับ
เว็บบอร์ดและการปฏิบัติสมควรแก่ธรรม
แต่เราก็ยังเกิดมาพบพระพุทธศาสนา...ในสมัยที่พระไตรปิฎกยังอยู่ครบ...แสดงว่ายังมีวาสนาที่จะฟังธรรมและปฏิบัติธรรมตามนั้นจนบรรลุธรรมได้จริง...
แม้อุปสรรคจะมาก...เพราะวิบาก เพราะกรรมที่ตนกระทำขัดขวาง ทางสงบ ทำให้เนิ่นช้าก็ตาม หากไม่คบกัลยาณมิตรย่อมไม่เจริญขึ้นได้เลย
ผมเคารพรัก พระไตรปิฎก ดั่งกัลยาณมิตรที่แท้จริง...เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมทางและครูบาอาจารย์ที่เคารพพระพุทธ พระธรรม และเป็นพยานธรรมจริงๆ
เพราะมีเพียงพระพุทธเจ้าเท่านั้นที่สอนธรรมแท้ ผู้ที่สอนธรรมแท้ที่พระพุทธเจ้าสอน จึงเรียกได้ว่าเป็นพยานในธรรมจริงและบรรลุธรรมจริง....นั่นคือสงฆ์จริง
เว็บบอร์ดต่างๆและอินเทอร์เน็ตในสมัยนี้ที่เราเกิดมา เป็นเหมือน ท้องนา พื้นที่ที่สามารถหว่านเมล็ดธรรมที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่มาอ่าน แล้วสดับธรรมแท้จากพระไตรปิฎก(หรือจากคนที่เข้าใจตามพระไตรปิฎก ตามพระพุทธเจ้า) แต่เช่นเดียวกัน ก็เป็นโทษอย่างมากสำหรับผู้ประมาทแสดงธรรมเพื่อแลกอามิส และก็เป็นวิบากของผู้อ่านอยู่แล้วที่จะต้องเข้าใจธรรมผิดๆ เพราะเคยแสดงธรรมผิดๆแก่ผู้อื่น....ผลคือบุคคลเหล่านั้นไม่ได้บรรลุธรรมจริง วนเวียนในการแสดงธรรมแลกอามิสอยู่เรื่อยไป...การแก้ คือการหยุดกระทำกรรมนั้น แล้วสดับธรรมพระพุทธเจ้าให้มากๆ ไม่ใช่เอาธรรมแลกอามิส
ผมคิดและตรึกเรื่องนี้อยู่สักพัก ก็เห็นแต่ความเป็นทุกข์ในการสนทนาธรรมตามเว็บบอร์ดต่างๆ อุปกิเลสที่ปรากฏก็ดี การจะแสดงความเห็นอย่างไรไม่ให้ผิดศีล ไม่ให้เป็นเหตุให้ถึงความเสื่อมของสมาธิ ของปัญญาก็ดี.....รู้สึกว่านิ่งเงียบไว้เสียยังดีกว่า แม้เทวดา อินทร์ พรหม ต่างๆ และสัตว์ทั้งหลายที่พบพุทธศาสนา(ธรรม) จริง และปฏิบัติสมควรแก่ธรรมจริง มีวิเวก วิราคะ สันโดษจริง มีเนกขัมมะจริง หลีกออกจากการสนทนา การแสดงตัวเอากิเลสออกมา
ส่วนตัว ยังคงมีทิฏฐิอยู่ว่า หากเราจะแสดงความเห็น ก็จะแสดงอยู่ในขอบเขตดังนี้
เพื่อรักษาศีลและใจของเราให้ดีที่สุดคือ ตักเตือนตามประสบการณ์ของตนเท่าที่ตนรู้ สิ่งใดที่ไม่รู้ก็ไม่แสดงมั่วซั่ว ไม่แสดงความอวดรู้ในคำพูด(ยังทำไม่ค่อยได้) ฝึกมีเมตตา ไม่ยกทิฏฐิตนข่มผู้อื่น และใครแสดงธรรม ยกพระสูตรมา ยิ่งเป็นสิ่งที่ดี... สุดท้ายหากตนจะแนะนำผู้ใดในการกล่าวธรรมต่างๆจริง ขอให้ได้มรรคได้ผลเป็นพยานในขั้นต้นให้ได้เสียก่อน(การพูดจึงมีหลักมีเหตุผลชัดเจน)
ขอฝากกระทู้นี้เอาไว้เตือนตนเองให้ไม่ประมาทในการเข้ามาอ่าน เข้ามาแสดงความเห็น...หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้อื่นบ้างไม่มากก็น้อย
ขอบพระคุณเว็บบอร์ดที่นำพากัลยาณธรรม ให้ได้อ่านได้แสดงธรรมที่พระศาสดาตรัสไว้ดีแล้วด้วยครับ