คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
เห็นรอบเว้าๆ ในกระสุนซ้ายไหม?
เขาเรียกว่า "rifle mark" เกิดจากการเสียดสีของลูกปืนกับเกลียวในลำกล้อง ทำให้ลูกกระสุนเกิดการหมุนควงสว่าน "เจาะ" เข้าไปในอากาศได้โดยไม่ส่ายไปมา
กระสุนลูกขวา ไม่มีรอย ก็คือ กระสุนที่อยู่นิ่งๆ ในแม็กกาซีน หรือแหนบ ก็ว่าไป
ยิ่งสมัยก่อน จะมีแหนบกระสุนกันชีพ ซึ่งเป็นตำแหน่งให้น่าเล็งเป็นที่สุด คนยิงจึงมีสิทธิซัดโดน
กระสุนชนกันกลางอากาศ ในสมัยใช้ดินดำเป็นตัวขับ มีเยอะ
เพราะความเร็วกระสุนต่ำมาก และยิงสวนกันอุตลุดจากระยะใกล้ มีหลักฐานว่า พลปืนบางคนถูกฝึกให้ยิงสวนเข้าไปที่ปากกระบอกของอีกฝ่าย เพื่อทำลายอาวุธ (เพราะคนหนึ่งตาย อีกคนยังหยิบปืนมายิงต่อได้) โอกาสที่กระสุนชนกันแบบ head on จึงมี
เขาเรียกว่า "rifle mark" เกิดจากการเสียดสีของลูกปืนกับเกลียวในลำกล้อง ทำให้ลูกกระสุนเกิดการหมุนควงสว่าน "เจาะ" เข้าไปในอากาศได้โดยไม่ส่ายไปมา
กระสุนลูกขวา ไม่มีรอย ก็คือ กระสุนที่อยู่นิ่งๆ ในแม็กกาซีน หรือแหนบ ก็ว่าไป
ยิ่งสมัยก่อน จะมีแหนบกระสุนกันชีพ ซึ่งเป็นตำแหน่งให้น่าเล็งเป็นที่สุด คนยิงจึงมีสิทธิซัดโดน
กระสุนชนกันกลางอากาศ ในสมัยใช้ดินดำเป็นตัวขับ มีเยอะ
เพราะความเร็วกระสุนต่ำมาก และยิงสวนกันอุตลุดจากระยะใกล้ มีหลักฐานว่า พลปืนบางคนถูกฝึกให้ยิงสวนเข้าไปที่ปากกระบอกของอีกฝ่าย เพื่อทำลายอาวุธ (เพราะคนหนึ่งตาย อีกคนยังหยิบปืนมายิงต่อได้) โอกาสที่กระสุนชนกันแบบ head on จึงมี
แสดงความคิดเห็น
จากรูปเราสามารถพิสูจน์ได้ไหมว่ากระสุนชนกันที่กลางอากาศจริง
แล้วข้อสมมุติฐานของผมคือเอากระสุนลูกนึงนั่งแท่นไว้ แล้วใช้อีกลูกพยามยิงใส่ จะได้ผลลัพเหมือนกันไหมครับ