สวัสดีเพื่อน ๆ ทุกคนค่ะ วันนี้เราจะพาไปรีวิวทริป ญาจาง - ดาลัด 6 วัน 5 คืน สำหรับทริปนี้เราเดินทางกัน 3 คน ในช่วงมีนาคม 2567 ด้วยสายการบิน air asia ทั้งขาไปและกลับจากสนามบินดอนเมือง ไปท่าอากาศยานกามซัญ (Cam ranh international airport) พักที่ ญาจาง 2 คืน และ ดาลัด 3 คืน ค่าใช้จ่ายรวมทุกอย่างไม่ถึง 14,000 บาท
ถือเป็นครั้งแรกของเราในการเดินทางไปเวียดนาม รู้สึกว่าเวียดนามเป็นประเทศที่เที่ยวง่าย นั่งเครื่องไป 2 ชั่วโมงก็ถึง บ้านเมืองมีความคล้ายคลึงไทย การเดินทางในเมืองสามารถเรียก Grab ได้สะดวก ผู้คนน่ารัก พูดอังกฤษได้บ้าง ไม่ได้บ้าง คนขับรถบางคนพูดอังกฤษไม่ได้ แต่ก็พยายามที่จะสื่อสารกับเรา ถ้ามีโอกาสก็อยากจะเชิญชวนเพื่อน ๆ ไปลองสัมผัสเวียดนามดูสักครั้งหรืออาจจะหลายครั้งก็ได้ค่ะ
สำหรับ
ญาจาง เป็นเมืองที่เริ่มจะได้รับความนิยมในหมู่คนไทย ให้ฟิลแบบ
เมืองตากอากาศริมทะเล มีทั้งชายหาดสำหรับทำกิจกรรม วัด โบสถ์ ร้านอาหารทะเล ผับบาร์ และไฮไลท์ คือ Vin wonders ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะ Vinpearl land มีทั้งสวนสนุก สวนน้ำ สวนพฤกษศาสตร์ สวนสัตว์ aquarium ทำออกมาได้อลังการ น่าประทับใจมากๆ
ดาลัด เป็น
เมืองแห่งดอกไม้ หันไปทางไหนก็เจอดอกไม้ อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี มีคาเฟ่ตามริมเขาให้ได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติ หรือชมพระอาทิตย์ตก ใครเป็นสายคาเฟ่ สายถ่ายรูปรับรองว่าถูกใจเมืองนี้แน่นอนค่ะ นอกจากนี้ยังมี วัด โบสถ์ ทะเลสาบ สวนสาธารณะ รวมถึง night market อีกด้วย
เตรียมตัวก่อนไปเวียดนาม
•
ซิมการ์ด : เราสั่งผ่าน shopee ของค่าย mobifone เน็ต 4G unlimited 7 วัน ราคาประมาณ 200 กว่าบาท ใช้งานจริงเน็ตเร็วแรง ไม่มีปัญหาหรือใครจะไปซื้อที่สนามบินกามซัญ บริเวณจุดรับกระเป๋าก็ได้นะคะ มีอยู่หลายร้านหาไม่ยาก คนขายจะคอยเรียกลูกค้าอยู่ตลอด เดินตามเสียงไปได้เลย
•
แลกเงิน : เราแลกเงินไปก่อนจากเมืองไทย แลกไปไม่ต้องเยอะนะคะ ถ้าใครวางแผนจะนั่ง grab สามารถตัดบัตรเครดิตได้ค่ะ สะดวก ไม่ต้องทอนเงิน เรทราคา 1 บาทไทย ประมาณ 689 ดอง เวลาไปซื้อของที่เวียดนาม คิดง่าย ๆ คือ ตัดเลข 0 3 ตัวสุดท้าย แล้วก็ คูณ 1.5 ก็จะได้เป็นเงินไทยโดยประมาณ เช่น 10,000 ดอง ก็จะเท่ากับประมาณ 15 บาทไทย
•
เวลา : เหมือนไทย
•
ปลั๊ก : เหมือนไทย
Day 1 เดินทางไปญาจาง - Ponagar temple - Thap Tram Huong - ซีฟู้ด Quan Oc ngon
เริ่มออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง ไปยังสนามบินกามซัญ ด้วยสายการบิน air asia รอบเวลา 11.10 – 13.15 ผ่านตม.อย่างรวดเร็ว แต่รอกระเป๋าอยู่นานมากเกือบชั่วโมง บริเวณจุดรับกระเป๋าจะเห็นร้านขายซิมโทรศัพท์อยู่เป็นแถว
เดินออกมาจากสนามบิน วางแผนไว้ว่าจะนั่งรถบัสเข้าญาจาง จึงเดินเลี้ยวซ้ายไปยังเสา No.3 มีป้าย
city shuttle bus อยู่ จากที่หาข้อมูลไป ราคาอยู่ที่ประมาณ 50k ดอง/คน แต่พอไปถามเจ้าหน้าที่เค้าบอกว่าบัสเพิ่งออกไป จะต้องรออีก 45 นาที แต่จะมีเป็นรถ limousine (คล้ายๆ รถตู้ VIP บ้านเรา) ซึ่งจะออกเร็วกว่า ราคารวม 3 คนอยู่ที่ 250k ดอง ด้วยความขี้เกียจรอรถ ก็เลยตกลงค่ะ แต่พอมานั่งคิดกับพี่ 250k ดอง มันหาร 3 ไม่ลงตัวหนิ แล้วตกลงค่าตั๋วต่อคนมันเท่าไหร่กันนะ 5555 แต่ราคาอยู่ในระดับที่รับได้ก็โอเคค่ะ
รอประมาณ 15 นาที ก็ได้ออกเดินทางไปยังญาจาง ใช้เวลาประมาณ 30 นาที แวะส่งผู้โดยสารตามโรงแรม เราพักที่
Erica hotel ห้องสำหรับ 3 คน ทั้ง 2 คืน จองผ่าน agoda ราคารวม 2 คืนอยู่ที่ 2100 บาท ทำเลโรงแรมถือว่าดีมาก ใกล้แหล่งของกิน หรือจะเดินไปทะเลก็ไม่ไกลค่ะ ห้องพักสบาย ห้องน้ำกว้างมาก เสียดายลืมถ่ายรูปห้องมาให้ดู เลยขอแปะรูปจากในเว็บแล้วกันนะคะ
หลังเก็บของเสร็จ ถึงเวลาออกไปตะลุยหาของกิน ร้านแรกที่เราไป เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวสไตล์เวียดนาม ชื่อร้าน
Quan Min ลักษณะคล้าย ๆ กับขนมจีนในน้ำซุปปลา เลือกใส่เครื่องเป็นปลาชิ้น แมงกะพรุน หรือกระดูกหมู และก็จะมีปลาแผ่นด้วยค่ะ เค้าจะเสริฟมาพร้อมผักสด แต่เห็นคนเวียดนามเค้าให้ทางร้านลวกให้ได้ค่ะ ราคาจะอยู่ที่ชามละ 40 – 50k ดอง ชามค่อนข้างใหญ่ โดยรวมถือว่าอร่อย น้ำซุปรสชาติดีค่ะ ถ้าใครชอบแซ่บ ๆ ปรุงพริกที่เค้าให้ กับบีบมะนาวเพิ่มจะยิ่งอร่อยมากขึ้น
เดินถัดไปอีก 2 ห้อง จะเจอกับร้าน
ขนมปังฝรั่งเศสที่คนเกาหลีต่อคิวซื้อเยอะมากค่ะ ชื่อร้าน
Banh Mi Phan (ต้องบอกก่อนว่าที่ญาจางมีร้านขนมปังฝรั่งเศสเยอะมากค่ะ น่าจะเพราะได้รับอิทธิพลมาจากการเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส มีตั้งแต่ร้าน local สำหรับคนท้องถิ่น ไปจนถึงร้านที่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยว และนักท่องเที่ยวที่นี่เป็นคนเกาหลีเยอะมากค่ะ) เป็นร้านที่อยากให้ทุกคนไปลอง เราสั่งเมนู Vegan :
braised tofu with pineapple & roasted cashew ขนมปังกรอบนอกนุ่มใน ไส้กำลังดี มีสับปะรดตัดรส เปรี้ยว ๆ หวาน ๆ อร่อยลงตัว และ อีกเมนู
Roast mushroom with mozzarella cheese ชีสดี เห็ดดี อร่อยลงตัวค่ะ ราคาชิ้นละ 35k ดอง ไม่แปลกใจที่มีคนต่อคิวเยอะมาก
หลังจากนั้นเราก็เรียก Grab ไปยัง
Ponagar temple สำหรับในญาจาง (รวมถึงดาลัดด้วยค่ะ) การเดินทางด้วย grab ถือว่าสะดวกมากค่ะ กดในแอพเดียวกับที่ใช้ในไทย คนขับเยอะ แถมมีโค้ดส่วนลดด้วย ราคาดีมากค่ะ เมื่อมาถึง Ponagar temple ก็ซื้อบัตรค่าเข้า คนละ 30k ดอง ด้านในสวยอลังการณ์ค่ะ จากประวัติเค้ากล่าวว่าที่แห่งนี้เป็นหอเทวาลัยของชาวจาม ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ก่อน ค.ศ. 781 เพื่อบูชายานโพนคร เทพธิดาแห่งแผ่นดินของศาสนาฮินดู บรรยากาศตามรูปเลยค่ะ ถ้าใครขยันหน่อยให้เดินขึ้นไปด้านหลังจะมีโขดหินจุดถ่ายรูปกับเทวาลัยอยู่ค่ะ ส่วนฝั่งข้าง ๆ ของเทวาลัยจะมีจุดนั่งพักชมวิวสะพานข้ามแม่น้ำไค บรรยากาศดีมาก ๆ ค่ะ
ด้วยความที่มองลงมาแล้วเห็นบรรยากาศดีในยามพระอาทิตย์ใกล้ตกแบบนี้ เราจึงเดินเล่นไปเก็บภาพจากตัวสะพาน ก็จะได้ประมาณนี้ค่ะ
จากนั้นเราก็เรียก grab ต่อไปเดินเล่นริมทะเล และไปอีกหนึ่ง landmark นั่นก็คือ
Thap Tram Huong แวะถ่ายรูปเล่นกันสักหน่อย บรรยากาศในวันนั้นดูคึกคักมากค่ะ เพราะเค้ามีจัดงานการแสดงพื้นเมืองด้วย ส่วนใกล้ ๆ กันก็มี night market แต่เราไม่ได้เดินเข้าไป เพราะเราตั้งใจจะไปกินซีฟู้ดต่อ
เราเดินเล่นชมเมืองมาเรื่อย ๆ และไปยังร้าน
Quan oc ngon ซึ่งเป็นร้านขายอาหารทะเลในซอยเล็ก ๆ แต่คนแน่นตลอด ราคาน่าคบหา สั่งอาหารตามรูป ซีฟู้ดสด รสชาติดี แถมมีกล้วยเสริฟให้ทานล้างปากด้วยค่ะ ส่วนผัดผักก็อร่อยนะคะ ผัดมากำลังดี แนะนำให้ไปลองค่ะ เราติดใจไปกิน 2 วันติดเลยค่ะ
จบวัน เตรียมตัวไปสวนสนุก Vin Wonders กันต่อในวันพรุ่งนี้ค่า
Day 2 Egg coffee - Long Son pagoda - Vin wonders
วันนี้เริ่มต้นวันด้วยอาหารเช้าที่โรงแรมค่ะ โดยรวมถือว่าโอเค มีทั้ง american breakfast ขนมพื้นเมือง เฝอ สลัด
จากนั้นเราก็เดินไปร้านกาแฟจึ๋ง หรือ กาแฟไข่ นั่นเอง ชื่อร้าน
egg coffee ซึ่งเค้าจะเอาครีมไข่มาทำเป็นฟองนมด้านบน ที่เด็ดสุดของยกให้
egg cocoa ครีมไข่หอมหวาน ไม่คาวเลย ตัดกับรสขมของโกโก้ได้อย่างดี ส่วน egg matcha อันนี้ก็หอมนะคะ แต่รู้สึกหวานไปนิดนึง ส่วนตัวไม่ค่อยชอบกินหวาน ถ้าคนที่ชอบหวานหน่อยอาจจะรู้สึกพอดี ส่วนมะนาวโซดาพอใช้ได้ค่ะ สั่งมาตัดรสชาติ เพิ่มความสดชื่น รวม 3 เมนูราคาอยู่ที่ 104k ดองค่ะ
จากนั้นเราก็เรียก grab ไป
วัด Long Son ซึ่งเป็นวัดพุทธมหายานที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในญาจาง มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ สีขาว ประดิษฐานอยู่ แต่จะต้องเดินขึ้นบันไดไปสักหน่อยค่ะ ไม่เหนื่อยมาก ทางเดินร่มรื่น เดินขึ้นไปประมาณ 5 - 10 นาทีก็ถึงค่ะ วันที่ไปคนเยอะนิดหน่อย เพราะมีทัวร์ลง ไม่มีค่าเข้านะคะ
หลังจากนั้นเราก็เรียก grab เดินทางไป
Vin wonders สวนสนุกบนเกาะ Vinpearl land กันต่อค่า ไปถึงที่สถานีกระเช้าประมาณ 10 โมงกว่า ๆ ตอนแรกคิดว่าไม่ต้องมาถึงเช้าเกินเพราะไม่น่าจะเล่นเครื่องเล่นอะไรกันเยอะ แต่เป็นความคิดที่ผิดค่ะ กว่าจะออกจาก Vin wonders ก็ 2 ทุ่มแล้ว ยังเที่ยวด้านในไม่ครบเลยค่ะ ถ้าใครอยากเที่ยวให้ครบแนะนำมาเช้าๆ หรือจะนอนบนเกาะเลยก็ได้ค่ะ เค้ามีรีสอร์ทอยู่
การจองตั๋วเข้าสวนสนุก
เราจองผ่าน klook ไปก่อนค่ะ เป็นตั๋วแบบรวมกระเช้าไป - กลับ และค่าเข้าสวนสนุก บัตรผู้ใหญ่คนละ 1396 บาท บัตรผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป อยู่ที่คนละ 1044 บาท ตอนเข้าสามารถโชว์ QR code สแกนเข้าได้เลยค่ะ ส่วนบัตรผู้สูงอายุพนักงานเค้าจะขอดู passport ค่ะ สะดวกมาก ไม่ต้องเสียเวลาซื้อตั๋ว
นั่งกระเช้าข้ามเกาะไปไม่นาน ชมวิว ถ่ายรูปยังไม่ทันเสร็จก็ถึงแล้วค่ะ บรรยากาศข้างในใหญ่โตอลังการมาก เค้าทำได้ดีจริง
[CR] เที่ยว ญาจาง-ดาลัด เวียดนามใต้ (2024) 6 วัน 5 คืน เที่ยวง่าย สบายกระเป๋า
ดาลัด เป็นเมืองแห่งดอกไม้ หันไปทางไหนก็เจอดอกไม้ อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี มีคาเฟ่ตามริมเขาให้ได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติ หรือชมพระอาทิตย์ตก ใครเป็นสายคาเฟ่ สายถ่ายรูปรับรองว่าถูกใจเมืองนี้แน่นอนค่ะ นอกจากนี้ยังมี วัด โบสถ์ ทะเลสาบ สวนสาธารณะ รวมถึง night market อีกด้วย
เตรียมตัวก่อนไปเวียดนาม
• ซิมการ์ด : เราสั่งผ่าน shopee ของค่าย mobifone เน็ต 4G unlimited 7 วัน ราคาประมาณ 200 กว่าบาท ใช้งานจริงเน็ตเร็วแรง ไม่มีปัญหาหรือใครจะไปซื้อที่สนามบินกามซัญ บริเวณจุดรับกระเป๋าก็ได้นะคะ มีอยู่หลายร้านหาไม่ยาก คนขายจะคอยเรียกลูกค้าอยู่ตลอด เดินตามเสียงไปได้เลย
• แลกเงิน : เราแลกเงินไปก่อนจากเมืองไทย แลกไปไม่ต้องเยอะนะคะ ถ้าใครวางแผนจะนั่ง grab สามารถตัดบัตรเครดิตได้ค่ะ สะดวก ไม่ต้องทอนเงิน เรทราคา 1 บาทไทย ประมาณ 689 ดอง เวลาไปซื้อของที่เวียดนาม คิดง่าย ๆ คือ ตัดเลข 0 3 ตัวสุดท้าย แล้วก็ คูณ 1.5 ก็จะได้เป็นเงินไทยโดยประมาณ เช่น 10,000 ดอง ก็จะเท่ากับประมาณ 15 บาทไทย
• เวลา : เหมือนไทย
• ปลั๊ก : เหมือนไทย
เริ่มออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง ไปยังสนามบินกามซัญ ด้วยสายการบิน air asia รอบเวลา 11.10 – 13.15 ผ่านตม.อย่างรวดเร็ว แต่รอกระเป๋าอยู่นานมากเกือบชั่วโมง บริเวณจุดรับกระเป๋าจะเห็นร้านขายซิมโทรศัพท์อยู่เป็นแถว
รอประมาณ 15 นาที ก็ได้ออกเดินทางไปยังญาจาง ใช้เวลาประมาณ 30 นาที แวะส่งผู้โดยสารตามโรงแรม เราพักที่ Erica hotel ห้องสำหรับ 3 คน ทั้ง 2 คืน จองผ่าน agoda ราคารวม 2 คืนอยู่ที่ 2100 บาท ทำเลโรงแรมถือว่าดีมาก ใกล้แหล่งของกิน หรือจะเดินไปทะเลก็ไม่ไกลค่ะ ห้องพักสบาย ห้องน้ำกว้างมาก เสียดายลืมถ่ายรูปห้องมาให้ดู เลยขอแปะรูปจากในเว็บแล้วกันนะคะ
เดินถัดไปอีก 2 ห้อง จะเจอกับร้านขนมปังฝรั่งเศสที่คนเกาหลีต่อคิวซื้อเยอะมากค่ะ ชื่อร้าน Banh Mi Phan (ต้องบอกก่อนว่าที่ญาจางมีร้านขนมปังฝรั่งเศสเยอะมากค่ะ น่าจะเพราะได้รับอิทธิพลมาจากการเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส มีตั้งแต่ร้าน local สำหรับคนท้องถิ่น ไปจนถึงร้านที่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยว และนักท่องเที่ยวที่นี่เป็นคนเกาหลีเยอะมากค่ะ) เป็นร้านที่อยากให้ทุกคนไปลอง เราสั่งเมนู Vegan : braised tofu with pineapple & roasted cashew ขนมปังกรอบนอกนุ่มใน ไส้กำลังดี มีสับปะรดตัดรส เปรี้ยว ๆ หวาน ๆ อร่อยลงตัว และ อีกเมนู Roast mushroom with mozzarella cheese ชีสดี เห็ดดี อร่อยลงตัวค่ะ ราคาชิ้นละ 35k ดอง ไม่แปลกใจที่มีคนต่อคิวเยอะมาก
หลังจากนั้นเราก็เรียก Grab ไปยัง Ponagar temple สำหรับในญาจาง (รวมถึงดาลัดด้วยค่ะ) การเดินทางด้วย grab ถือว่าสะดวกมากค่ะ กดในแอพเดียวกับที่ใช้ในไทย คนขับเยอะ แถมมีโค้ดส่วนลดด้วย ราคาดีมากค่ะ เมื่อมาถึง Ponagar temple ก็ซื้อบัตรค่าเข้า คนละ 30k ดอง ด้านในสวยอลังการณ์ค่ะ จากประวัติเค้ากล่าวว่าที่แห่งนี้เป็นหอเทวาลัยของชาวจาม ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ก่อน ค.ศ. 781 เพื่อบูชายานโพนคร เทพธิดาแห่งแผ่นดินของศาสนาฮินดู บรรยากาศตามรูปเลยค่ะ ถ้าใครขยันหน่อยให้เดินขึ้นไปด้านหลังจะมีโขดหินจุดถ่ายรูปกับเทวาลัยอยู่ค่ะ ส่วนฝั่งข้าง ๆ ของเทวาลัยจะมีจุดนั่งพักชมวิวสะพานข้ามแม่น้ำไค บรรยากาศดีมาก ๆ ค่ะ
จากนั้นเราก็เดินไปร้านกาแฟจึ๋ง หรือ กาแฟไข่ นั่นเอง ชื่อร้าน egg coffee ซึ่งเค้าจะเอาครีมไข่มาทำเป็นฟองนมด้านบน ที่เด็ดสุดของยกให้ egg cocoa ครีมไข่หอมหวาน ไม่คาวเลย ตัดกับรสขมของโกโก้ได้อย่างดี ส่วน egg matcha อันนี้ก็หอมนะคะ แต่รู้สึกหวานไปนิดนึง ส่วนตัวไม่ค่อยชอบกินหวาน ถ้าคนที่ชอบหวานหน่อยอาจจะรู้สึกพอดี ส่วนมะนาวโซดาพอใช้ได้ค่ะ สั่งมาตัดรสชาติ เพิ่มความสดชื่น รวม 3 เมนูราคาอยู่ที่ 104k ดองค่ะ
จากนั้นเราก็เรียก grab ไปวัด Long Son ซึ่งเป็นวัดพุทธมหายานที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในญาจาง มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ สีขาว ประดิษฐานอยู่ แต่จะต้องเดินขึ้นบันไดไปสักหน่อยค่ะ ไม่เหนื่อยมาก ทางเดินร่มรื่น เดินขึ้นไปประมาณ 5 - 10 นาทีก็ถึงค่ะ วันที่ไปคนเยอะนิดหน่อย เพราะมีทัวร์ลง ไม่มีค่าเข้านะคะ
หลังจากนั้นเราก็เรียก grab เดินทางไป Vin wonders สวนสนุกบนเกาะ Vinpearl land กันต่อค่า ไปถึงที่สถานีกระเช้าประมาณ 10 โมงกว่า ๆ ตอนแรกคิดว่าไม่ต้องมาถึงเช้าเกินเพราะไม่น่าจะเล่นเครื่องเล่นอะไรกันเยอะ แต่เป็นความคิดที่ผิดค่ะ กว่าจะออกจาก Vin wonders ก็ 2 ทุ่มแล้ว ยังเที่ยวด้านในไม่ครบเลยค่ะ ถ้าใครอยากเที่ยวให้ครบแนะนำมาเช้าๆ หรือจะนอนบนเกาะเลยก็ได้ค่ะ เค้ามีรีสอร์ทอยู่
การจองตั๋วเข้าสวนสนุก
เราจองผ่าน klook ไปก่อนค่ะ เป็นตั๋วแบบรวมกระเช้าไป - กลับ และค่าเข้าสวนสนุก บัตรผู้ใหญ่คนละ 1396 บาท บัตรผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป อยู่ที่คนละ 1044 บาท ตอนเข้าสามารถโชว์ QR code สแกนเข้าได้เลยค่ะ ส่วนบัตรผู้สูงอายุพนักงานเค้าจะขอดู passport ค่ะ สะดวกมาก ไม่ต้องเสียเวลาซื้อตั๋ว
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้