สวัสดีค่ะทุกคน
เรื่องมีอยู่ว่าเกิดแพลนปุ๊บปั๊บจะไปเที่ยวฝรั่งเศส ไปดูคอนเสิร์ต และไปเยี่ยมเพื่อนที่ประเทศข้างเคียงที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่ม schengen แต่สามารถใช้วีซ่าเข้าได้เช่นกัน ด้วยเวลาเดินทางที่กำหนดเอาไว้และอะไรหลาย ๆ อย่าง เช่น ศูนย์ VFS ที่ใกล้ที่สุดก็ไม่ได้ไปง่าย ๆ ไปมาก็เลยจำเป็นต้องหาข้อมูลทำวีซ่าเองอย่างเร่งด่วน แต่เอกสารบางข้อก็ดูจะคลุมเครือมากเหลือเกิน ข้อมูลสำหรับคนไทยยื่นในอเมริกาก็น้อยมากจนแทบจะหาไม่ได้ เพราะแบบนั้นเราก็คิดเอาไว้ว่าถ้าวีซ่าผ่านจะมาตั้งกระทู้ เผื่อว่าใครที่ตกอยู่ในสถานการณ์วิตกกังวลเดียวกันจะโล่งใจขึ้นมาบ้างเล็กน้อยค่ะ
เบื้องต้นก็คือเราถือวีซ่า F-1 เรียนอยู้ในรัฐ Massachusetts เพราะฉะนั้นศูนย์ยื่นวีซ่าที่ใกล้มากที่สุดของเราก็คือ VFS Global Boston แต่ถึงยื่นที่ไหน พาสฟอร์ตจะถูกส่ง และการตัดสินใจจะขึ้นอยู่กับสถานทูตที่ DC เท่านั้น
ขั้นตอนการทำวีซ่า
1. สร้างแอคเคาท์และกรอกข้อมูล online application form ใน France-Visas website
2. สร้างแอคเคาท์และกรอกข้อมูลใน French VFS Global USA เพื่อ schedule appoinment
3. เตรียมเอกสารให้ครบตามที่ถูกลิสก์เอาไว้ใน France-VIsas
4. ยื่นวีซ่า ณ ศูนย์ VFS ที่เลือก
เอกสารที่ต้องเตรียม (F-1)
**Required
ในความเป็นจริงเอกสารต้องเรียงตามที่ระบุไว้ใน France-Visas แต่อันนี้เราแยกตามหัวข้อเพื่อให้ keep track ง่าย ๆ
I. Forms / Pre-requisites
- I-20**
- Passport**
- Scanned version of passport**:
แสกนทุกหน้าที่มีตราปั๊มให้ครบ ส่วนตัวเราใช้ไอโฟนแสกนในแอพ Notes แล้วปริ้นออกมา
- 1 35x45mm photo**:
สำหรับคนที่ไม่อยากจ่ายเงินแพง ถ่ายเอง แต่งเอง จัดขนาดให้ถูก แล้วสั่งปริ้นรูปจาก CVS เลือก 4x6 แล้วเราก็จัดขนาดรูปของเราให้เป็น 35x45mm เองได้เลยค่ะ รวม ๆ จะได้ประมาณหลายรูปอยู่ในใบเดียว แต่ด้วยราคาไม่ถึงดอลล่าร์
- France-Visas Application forms + Receipt**:
ที่อยู่เรากรอกที่อยู่ในอเมริกา ส่วนใครที่กรอกข้อมูลผิดไม่ต้องกังวลนะคะ กรอกอันใหม่และปริ้นเอาไปด้วยค่ะ อย่าลืมบอกเจ้าหน้าที่ด้วยว่ามีฟอร์มใหม่เพราะอันแรกผิด
- Appoinment Confirmation from VFS**
II. Purpose of Stay
- Cover letter
ไม่ required แต่แนะนำให้เขียนนะคะ ใช้ภาษาสุภาพ อธิบายให้ละเอียดพอประมาณ ถ้าอยากจะขอ 3 เดือน 6 เดือน Single หรือ Multiple ก็เขียนขอตรงนี้ได้เลยค่ะ
- Plan programme**
คร่าว ๆ ว่าวันไหนทำอะไรบ้าง ใส่รูปพอให้เห็นเป็นพิธีว่าเรารู้จริงว่าจะไปไหน ส่วนตัวเราไม่ได้ใส่วิธีเดินทางไปเลยค่ะ นอกจากการเดินทางระหว่างเมืองที่ระบุว่าโดย train แต่ตรงนี้ต้องสอดคล้องกับตั๋วเครื่องบินนะคะ
- Pre-booked round trip (BKK-France)**
ในเอกสารระบุไว้แค่ Pre-booked round trip มันคลุมเครือและน่าสับสนมาก คือคนเราก็ไม่อยากจะจ่ายเงินจองตั๋วจริงก่อนที่จะได้วีซ่า มันก็จะเกิดกังวลขึ้นมาแล้วว่าจะเอาอย่างไรต่อดี เท่าที่อ่านและรวบรวมข้อมูลมานะคะ
I. จองตั๋วไปเลย เสี่ยงเป็นเสี่ยง
II. จองแบบ full refund ข้อดี: ไม่ผ่านได้เงินคืน ข้อเสีย: แพงมาก
III. จองผ่านเอเจ้น
IV. Hold the price: เราเลือกวิธีนี้ค่ะ กังวลมากกกกกกก ก ไก่ยาวไปเลยค่ะ ว่าจะผ่านไหม แต่สุดท้ายก็ไม่มีปัญหา เราใช้แค่ email reservation ที่ถูกส่งเข้ามาค่ะ
- Pre-booked round trip (USA-BKK)
ปัญหาที่ทำให้เรากังวลอีกเรื่องคือตรงนี้ล่ะค่ะ ทริปเราเริ่มจาก BKK แต่ตัวเรายื่นที่ USA เพราะว่าจะไปเที่ยวตอนปิดเทอม แต่เวลาที่บินกลับไทยกับเวลาบินไปเที่ยวมันน้อยกว่า 14 days ทำให้เรายื่นที่ไทยไม่ได้ เราก็เลยอธิบายไปใน cover letter และแนบตั๋วกลับบ้านไปด้วย
ถ้าถามว่าทำไมไม่บินตรงไปยุโรปแล้วค่อยกลับบ้าน คือมันไม่สะดวกเรื่องกระเป๋าเดินทางหลายใบน่ะค่ะ คนอื่นอาจจะต่างออกไป แต่เรากับคนที่เรารู้จักบินกลับประเทศกันทีก็สองสามใบไม่รวมเป้กับของขึ้นเครื่อง เยอะขนาดนั้นไปเดินในฝรั่งเศสคงไม่ไหวหรอกค่ะ นอกจากไม่สะดวกก็ยังอันตรายเกินไปอีกด้วย
- Certificate of enrollment + Transcript**
ใช้แบบ unofficial ที่ขอจากเว็บได้ค่ะ ไม่จำเป็นต้องของแบบ official ที่ใช้เวลานาน
- Hotel Reservation**
III. Money
- Health Insurance**
เพราะบินออกจากไทย แต่เรายื่นที่อเมริกา ด้วยความไม่แน่ใจเราเลยซื้อของ AXA จากยุโรปโดยตรงเลยค่ะ เพื่ความปลอดภัยว่าผ่านแน่นอน
- Bank Statement 3 months**
เรายื่นของที่นี่และของไทย ทั้งบัญชีและบัตรเครดิต แต่เอาของที่นี่ขึ้นก่อนนะคะเวลาเรียงเอกสาร
IV. Addition(s)
- Scholarship certification หรืออื่น ๆ ด้วยความเราได้ทุน เราก็แนบตัวนี้ไปด้วยค่ะ
คำแนะนำจากเราก็คือเตรียมเอกสารให้แน่นค่ะ แสดงให้เห็นว่าเราจะไม่อยู่ที่ประเทศเขาต่อ สำหรับผู้ที่ถือวีซ่า F-1 ของอเมริกาเราคิดว่าไม่ยากมากนะคะถ้ามี I-20, Certificate of enrollment + Transcript ครบ
เราเลือกให้ส่ง passport มาที่บ้านโดยจ่ายเงินเพิ่มกับทาง VFS สรุปค่าวีซ่าทั้งหมดที่จ่ายไปอยู่ข้างล่างนี่ค่ะ (2024)
- Visa fee 86$
- VFS fee 28$
- Courier service 35$
รวมทั้งสิ้น 149$ แต่ทั้งนี้ไม่รวมค่าเดินทางไปยื่นเอกสารต่าง ๆ ค่าประกัน ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าเอกสารทั้งหลาย ต่างออกไปแล้วแต่ผู้อื่น ของเราไม่กล้านับยอดเลยค่ะ จ่ายไปเยอะมาก🥲
ไทม์ไลน์การขอวีซ่า ยื่นวันจันทร์ได้รับวันจันทร์ รวมแล้วหนึ่งสัปดาห์พอดีเป๊ะ
8 April - Submit application and biometric at VFS Boston
9 April - Application has been dispatched to VFS Washington for processing
10 April - Application has been dispatched to the VFS Global Pvt. LTD, Washington in the USA for processing
12 April - Get email notification from UPS that the package has been received
15 April - Receive the package with signature required
เผื่อเวลาที่ VFS เอาไว้ชั่วโมงสองชั่วโมงนะคะ ของเราใช้เวลาไปหนึ่งชั่วโมงกว่า ๆ เมล์ที่ส่งมาบอกว่าไปถึงไหนแล้วก็ไม่ค่อยจะทำงาน หนักกว่านั้น tracking website ของ VFS ไม่ทำงานเลยค่ะ ขึ้น Invalid input ทุกครั้งที่ใส่ข้อมูล ที่รู้ว่าพาสปอร์ตจะมาส่งเพราะ UPS tracking ล้วน ๆ เลยค่ะ เท่าที่อ่าน ๆ ดูเหมือนว่าเคสแบบนี้จะเกิดขึ้นบ่อยมาก
เราขอวีซ่าไปแค่ตามจำนวนวันเดินทางค่ะ 6 วัน แต่ระบุไว้ใน cover letter ว่าอยากได้ multiple เผื่อบินไปเยี่ยมเพื่อนอีกทีหลัง แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่ได้อะไร สุดท้ายได้มา 3 เดือนช่วง summer แล้วก็ได้ multiple มา เย้
รีวิวการทำ Schengen Visa (FR) ด้วยตัวเองในอเมริกาในฐานะ F-1🇺🇸
เรื่องมีอยู่ว่าเกิดแพลนปุ๊บปั๊บจะไปเที่ยวฝรั่งเศส ไปดูคอนเสิร์ต และไปเยี่ยมเพื่อนที่ประเทศข้างเคียงที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่ม schengen แต่สามารถใช้วีซ่าเข้าได้เช่นกัน ด้วยเวลาเดินทางที่กำหนดเอาไว้และอะไรหลาย ๆ อย่าง เช่น ศูนย์ VFS ที่ใกล้ที่สุดก็ไม่ได้ไปง่าย ๆ ไปมาก็เลยจำเป็นต้องหาข้อมูลทำวีซ่าเองอย่างเร่งด่วน แต่เอกสารบางข้อก็ดูจะคลุมเครือมากเหลือเกิน ข้อมูลสำหรับคนไทยยื่นในอเมริกาก็น้อยมากจนแทบจะหาไม่ได้ เพราะแบบนั้นเราก็คิดเอาไว้ว่าถ้าวีซ่าผ่านจะมาตั้งกระทู้ เผื่อว่าใครที่ตกอยู่ในสถานการณ์วิตกกังวลเดียวกันจะโล่งใจขึ้นมาบ้างเล็กน้อยค่ะ
เบื้องต้นก็คือเราถือวีซ่า F-1 เรียนอยู้ในรัฐ Massachusetts เพราะฉะนั้นศูนย์ยื่นวีซ่าที่ใกล้มากที่สุดของเราก็คือ VFS Global Boston แต่ถึงยื่นที่ไหน พาสฟอร์ตจะถูกส่ง และการตัดสินใจจะขึ้นอยู่กับสถานทูตที่ DC เท่านั้น
ขั้นตอนการทำวีซ่า
1. สร้างแอคเคาท์และกรอกข้อมูล online application form ใน France-Visas website
2. สร้างแอคเคาท์และกรอกข้อมูลใน French VFS Global USA เพื่อ schedule appoinment
3. เตรียมเอกสารให้ครบตามที่ถูกลิสก์เอาไว้ใน France-VIsas
4. ยื่นวีซ่า ณ ศูนย์ VFS ที่เลือก
เอกสารที่ต้องเตรียม (F-1)
**Required
ในความเป็นจริงเอกสารต้องเรียงตามที่ระบุไว้ใน France-Visas แต่อันนี้เราแยกตามหัวข้อเพื่อให้ keep track ง่าย ๆ
I. Forms / Pre-requisites
- I-20**
- Passport**
- Scanned version of passport**:
แสกนทุกหน้าที่มีตราปั๊มให้ครบ ส่วนตัวเราใช้ไอโฟนแสกนในแอพ Notes แล้วปริ้นออกมา
- 1 35x45mm photo**:
สำหรับคนที่ไม่อยากจ่ายเงินแพง ถ่ายเอง แต่งเอง จัดขนาดให้ถูก แล้วสั่งปริ้นรูปจาก CVS เลือก 4x6 แล้วเราก็จัดขนาดรูปของเราให้เป็น 35x45mm เองได้เลยค่ะ รวม ๆ จะได้ประมาณหลายรูปอยู่ในใบเดียว แต่ด้วยราคาไม่ถึงดอลล่าร์
- France-Visas Application forms + Receipt**:
ที่อยู่เรากรอกที่อยู่ในอเมริกา ส่วนใครที่กรอกข้อมูลผิดไม่ต้องกังวลนะคะ กรอกอันใหม่และปริ้นเอาไปด้วยค่ะ อย่าลืมบอกเจ้าหน้าที่ด้วยว่ามีฟอร์มใหม่เพราะอันแรกผิด
- Appoinment Confirmation from VFS**
II. Purpose of Stay
- Cover letter
ไม่ required แต่แนะนำให้เขียนนะคะ ใช้ภาษาสุภาพ อธิบายให้ละเอียดพอประมาณ ถ้าอยากจะขอ 3 เดือน 6 เดือน Single หรือ Multiple ก็เขียนขอตรงนี้ได้เลยค่ะ
- Plan programme**
คร่าว ๆ ว่าวันไหนทำอะไรบ้าง ใส่รูปพอให้เห็นเป็นพิธีว่าเรารู้จริงว่าจะไปไหน ส่วนตัวเราไม่ได้ใส่วิธีเดินทางไปเลยค่ะ นอกจากการเดินทางระหว่างเมืองที่ระบุว่าโดย train แต่ตรงนี้ต้องสอดคล้องกับตั๋วเครื่องบินนะคะ
- Pre-booked round trip (BKK-France)**
ในเอกสารระบุไว้แค่ Pre-booked round trip มันคลุมเครือและน่าสับสนมาก คือคนเราก็ไม่อยากจะจ่ายเงินจองตั๋วจริงก่อนที่จะได้วีซ่า มันก็จะเกิดกังวลขึ้นมาแล้วว่าจะเอาอย่างไรต่อดี เท่าที่อ่านและรวบรวมข้อมูลมานะคะ
I. จองตั๋วไปเลย เสี่ยงเป็นเสี่ยง
II. จองแบบ full refund ข้อดี: ไม่ผ่านได้เงินคืน ข้อเสีย: แพงมาก
III. จองผ่านเอเจ้น
IV. Hold the price: เราเลือกวิธีนี้ค่ะ กังวลมากกกกกกก ก ไก่ยาวไปเลยค่ะ ว่าจะผ่านไหม แต่สุดท้ายก็ไม่มีปัญหา เราใช้แค่ email reservation ที่ถูกส่งเข้ามาค่ะ
- Pre-booked round trip (USA-BKK)
ปัญหาที่ทำให้เรากังวลอีกเรื่องคือตรงนี้ล่ะค่ะ ทริปเราเริ่มจาก BKK แต่ตัวเรายื่นที่ USA เพราะว่าจะไปเที่ยวตอนปิดเทอม แต่เวลาที่บินกลับไทยกับเวลาบินไปเที่ยวมันน้อยกว่า 14 days ทำให้เรายื่นที่ไทยไม่ได้ เราก็เลยอธิบายไปใน cover letter และแนบตั๋วกลับบ้านไปด้วย
ถ้าถามว่าทำไมไม่บินตรงไปยุโรปแล้วค่อยกลับบ้าน คือมันไม่สะดวกเรื่องกระเป๋าเดินทางหลายใบน่ะค่ะ คนอื่นอาจจะต่างออกไป แต่เรากับคนที่เรารู้จักบินกลับประเทศกันทีก็สองสามใบไม่รวมเป้กับของขึ้นเครื่อง เยอะขนาดนั้นไปเดินในฝรั่งเศสคงไม่ไหวหรอกค่ะ นอกจากไม่สะดวกก็ยังอันตรายเกินไปอีกด้วย
- Certificate of enrollment + Transcript**
ใช้แบบ unofficial ที่ขอจากเว็บได้ค่ะ ไม่จำเป็นต้องของแบบ official ที่ใช้เวลานาน
- Hotel Reservation**
III. Money
- Health Insurance**
เพราะบินออกจากไทย แต่เรายื่นที่อเมริกา ด้วยความไม่แน่ใจเราเลยซื้อของ AXA จากยุโรปโดยตรงเลยค่ะ เพื่ความปลอดภัยว่าผ่านแน่นอน
- Bank Statement 3 months**
เรายื่นของที่นี่และของไทย ทั้งบัญชีและบัตรเครดิต แต่เอาของที่นี่ขึ้นก่อนนะคะเวลาเรียงเอกสาร
IV. Addition(s)
- Scholarship certification หรืออื่น ๆ ด้วยความเราได้ทุน เราก็แนบตัวนี้ไปด้วยค่ะ
คำแนะนำจากเราก็คือเตรียมเอกสารให้แน่นค่ะ แสดงให้เห็นว่าเราจะไม่อยู่ที่ประเทศเขาต่อ สำหรับผู้ที่ถือวีซ่า F-1 ของอเมริกาเราคิดว่าไม่ยากมากนะคะถ้ามี I-20, Certificate of enrollment + Transcript ครบ
เราเลือกให้ส่ง passport มาที่บ้านโดยจ่ายเงินเพิ่มกับทาง VFS สรุปค่าวีซ่าทั้งหมดที่จ่ายไปอยู่ข้างล่างนี่ค่ะ (2024)
- Visa fee 86$
- VFS fee 28$
- Courier service 35$
รวมทั้งสิ้น 149$ แต่ทั้งนี้ไม่รวมค่าเดินทางไปยื่นเอกสารต่าง ๆ ค่าประกัน ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าเอกสารทั้งหลาย ต่างออกไปแล้วแต่ผู้อื่น ของเราไม่กล้านับยอดเลยค่ะ จ่ายไปเยอะมาก🥲
ไทม์ไลน์การขอวีซ่า ยื่นวันจันทร์ได้รับวันจันทร์ รวมแล้วหนึ่งสัปดาห์พอดีเป๊ะ
8 April - Submit application and biometric at VFS Boston
9 April - Application has been dispatched to VFS Washington for processing
10 April - Application has been dispatched to the VFS Global Pvt. LTD, Washington in the USA for processing
12 April - Get email notification from UPS that the package has been received
15 April - Receive the package with signature required
เผื่อเวลาที่ VFS เอาไว้ชั่วโมงสองชั่วโมงนะคะ ของเราใช้เวลาไปหนึ่งชั่วโมงกว่า ๆ เมล์ที่ส่งมาบอกว่าไปถึงไหนแล้วก็ไม่ค่อยจะทำงาน หนักกว่านั้น tracking website ของ VFS ไม่ทำงานเลยค่ะ ขึ้น Invalid input ทุกครั้งที่ใส่ข้อมูล ที่รู้ว่าพาสปอร์ตจะมาส่งเพราะ UPS tracking ล้วน ๆ เลยค่ะ เท่าที่อ่าน ๆ ดูเหมือนว่าเคสแบบนี้จะเกิดขึ้นบ่อยมาก
เราขอวีซ่าไปแค่ตามจำนวนวันเดินทางค่ะ 6 วัน แต่ระบุไว้ใน cover letter ว่าอยากได้ multiple เผื่อบินไปเยี่ยมเพื่อนอีกทีหลัง แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่ได้อะไร สุดท้ายได้มา 3 เดือนช่วง summer แล้วก็ได้ multiple มา เย้