ค่ะก็ตามหัวข้อเลยคือเราต้องขอบอกก่อนว่าความสัมพันธ์ของเรากับย่าไม่ใช่ย่าหลานกันแท้ๆ คือพ่อกับแม่แท้ๆของเราแยกทางกันตั้งแต่เรายังเด็กและแม่ก็ได้มีครอบครัวใหม่ ก็คือพ่อเลี้ยงคนปัจจุบันและพ่อกับย่าคนนี้ก็ไม่ใช่แม่ลูกกัน คือย่าเป็นน้องสาวของแม่พ่ออีกทีค่ะ คือเราเป็นลูกติดแม่และเราก็ได้ย้ายมาอยู่กับแม่ที่ กทม ซึ่งส่วนตัวเราเป็นพวกที่มีพื้นที่ของตัวเองไม่ยุ่งเกี่ยวกับใครค่ะ เป็นคนที่หวงและไม่ชอบให้ใครเข้ามายุ่งในพื้นที่ส่วนตัวเลยแม้แต่พ่อแม่ก็ไม่เคยเข้ามายุ่งค่ะ ตอนที่เรามาอยู่แรกๆทุกอย่างก็ปกติค่ะเราไม่ล็อกห้องเราเปิดไว้ตลอดไม่มีอะไรแปลก แต่พอเราเริ่มอยู่มาได้ครึ่งปี ย่าก็เริ่มเข้ามาในห้องเราค่ะ เข้ามาเก็บมากวาด อันนี้เราก็เข้าใจได้ เพราะเขาคงเห็นว่าเราทำงานและไม่มีเวลามาเก็บตลอด แต่มันไม่แค่นี้ค่ะคือย่ารู้จักกับคนที่ทำงานเราซึ่งก็คือคนที่ฝากเราไปทำงานด้วย เขาชอบบอกคนที่ทำงานเราว่าราไม่ช่วยงานไม่ทำอะไรเลย ทั้งๆที่เราเองก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับในส่วนะนที่ของเขาคือชั้นหนึ่ง เวลาอาบน้ำหรือทำอะไรเราจะใช้ห้องน้ำชั้นสองในห้องแม่ตลอด และเวลาเลิกงานเราก็จะปลีกตัวเข้าห้องทันที กับข้าวเราก็กินแยก เพราะเวลาพ่อทำกับข้าวแล้วไม่มีใครกินค่ะเลยต้องซื้อกินใครกินมัน แล้วเขาก็เข้ามายุ่งในห้องเราเรื่อยๆจนบางทีขิงในห้องเราก็เริ่มไม่อยู่กับที่บางทีของบางอย่างเราก็ยากจะเก็บไว้แต่เขาก็เก็บทิ้ง เสื้อผ้าที่เราแขวนในห้องหรือตากไว้ดีๆเขาก็มาเอาของเราวางกองไว้บนพื้น จนเราเริ่มทนไม่ไหวเลยขอกุญแจจากพ่อมาล็อกห้อง ในเรื่องนี้เราก็ได้บอกพ่อไปแล้วว่าเราไม่โอเค พ่อก็บอกกับเราว่าพ่อเองก็เคยบอกไม่ให้มาเก็บห้องพ่อเองแล้วเหมือนกันแต่เขาก็มาเก็บก็ปล่อยไป ให้เราล็อกห้องไว้ ตอนแรกๆที่เราล็อกห้องทุกอย่างก็ปกติ เราสังเกตุห้องเราตลอดไม่ว่าจะข้าวของเล็กๆน้อยๆไปถึงยันข้าวของชิ้นใหญ่ๆ ค่ะก็ยังไม่พ้นเขาก็ยัง้ข้ามาได้คือเราก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องอยากเข้ามายุ่งในห้องเราขนาดนั้นทั้งๆที่ราก็ล็อกห้องแล้วเขาก็ต้องรู้ไหมคะว่าราไม่ต้องการให้ใครเข้ามายุ่งในห้องของเรา ซึ้งเราก็ไม่รู้ว่าเขาเข้ามาได้ยังไง ไม่รู้ว่ามีกุญแจสำรองหรืออะไรแต่กุญแจที่เรามีเราเอาติดตัวกระเป๋าเราไว้ตลอด และล่าสุดเขาไปพูดกับน้องของเราที่กำลังโตกำลังจำกำลังพูดบอกว่าเราขี้เกียจ มีวันนึงน้องเราเข้าห้องน้ำแล้วต้องการให้ไปล้างตัวให้ซึ้งน้องก็โตแล้วเราก็บอกให้น้องทำเอง ความเป็นเด็กน้องก็พูดจ้อไปเรื่อยแล้วสักพักก็ขึ้นหัวข้อมาว่ามีไรจะบอกน้องบอกว่าย่าบอกว่าเราเป็นคนขี้เกียจ คือในจุดๆนั้นคือเราทั้งเฟลทั้งนอยเราไม่เคยไปยุ่งไปทำอะไรเขาเลย ตื่นเช้ามาเราก็ไปทำงานกลับบ้านมาเราก็เข้าห้อง จะออกจากห้องก็นอกจากเวลาพ่อกับแม่อยากจะทำกับข้าวหรือเวลามีญาติคนอื่นๆมาไปช่วยทำกับข้าว เราคือเราหน้าถอดสีมาก พอเขาได้ยินน้องพูดน้องเรียกใฟ้เขามาล้างตัวให้เขาก็บอกเขาไม่อยากเข้ามา แต่ก็นทนลูกตื้อน้องไม่ไหวก็เดอนเข้ามา ตอนนั้นคือเราทั้งอึดอัดและมีหลายอย่างในหัวมากว่าทั้งๅที่เราไม่ได้ยุ่งอะไรกับเขาแล้วทำไมเขาต้องทำต้องพูดอะไรแบบนี้กับเรา แล้วก็เวลาเราจะออกไปดที่ยวหรือไปไหนกับพี่ที่ทำงาน อันนี้เราไม่คยบอกเขาค่ะจะไปเราก็ออกไปเลย แต่เราก็บอกพ่อกับแม่เราตลอด เวลาปู่ถามก็บอกแค่ว่าเราจะออกไปข้างนอก วันต่อมาพี่ที่ทำงานก็เอามาพูดว่าเราไม่นอนบ้านออกไปเที่ยวนู้นนี่นั่น คือมันสมควรหรอคะ? จนบางทีเราออกไปไหนมาไหนพี่คนนั้นก็รู้ตลอดแล้วบางทีถึงกับเอามาแซวกับพี่ที่เราออกไปเที่ยวด้วยว่าพาเราไปนู้นนี่หรอ คือเราอึดอัดและนอยมาก จนบางทีพี่เขาชวนไปไหนเราก็ไม่อยากไป เรากลัวจะทำให้พี่เขาเสียหายด้วย ตั้งแต่นั้นมาเวลาเรากลับมาถึงห้องเราก็ไม่กล้าออกจากห้องเลยค่ะเวลาที่เขายู่บ้าน เรากลัวกลัวมากว่าเขาจะยุ่งกับห้องของเราแล้วเอาไปพูดเสียๆหายๆ แล้วก็ล่าสุดเมื่อสองวันก่อน เรากลับมาจากต่างจังหวัด อันนี้เราจำได้ดี้ลยว่าเราดูห้องเราดกีแล้วว่าเราล็อกแล้วเราก็เดอนกลับมาเช็คตั้งสองสามรอบว่ามันล็อก แต่พอเรากลับมาแม่กุญแจถูกเปิดไม่ได้ล็อกไว้ เสื้อในตระกร้า ห้องเรา ข้าวของต่างๆของเรา ผิดจากที่เห็นก่อนไปมากๆ ที่เราโมโหที่สุดคือเขาเอาแก้วจากโรงหนังเราไปทิ้ง มันทั้งโมโห ทั้งไม่เข้าใจจน้ราต้องนั่งร้องไห้ แล้วพอวันต่อมาก็คือเมื่อวานเรากำลังเตรียมตัวออกไปเล่นสงกานต์เขาก็เดอนมาหาเราแล้วถามว่าราจะไปไหน ไปกับใคร ซึ่งมันเป็นคำถามที่เบสิคมากถ้าสำหรับคนทั่วไปแต่กับเขามันเป็นคำถามที่เราไม่อยากตอบและอึดอัดมากเวลาได้ยิน เพราะเรากลัวเราระวังว่าเขาจะเอาไปบอกคนที่ทำงาน แล้วเขาก็พูดขึ้นมาอีกว่าเห็นว่าเราไม่ได้ล็อกห้องเลยเขามาเก็บห้องซักผ้าให้ ในจุดๆนั้นเราก็ไม่รู้จะบอกเขาว่ายังไงดีเพราะเราก็ดูดีตั้งสองสามรอบแล้ว เราก็เลยบอกเขาไปว่าย่าไม่ต้องซักก็ได้ค่ะเพราะยังไงหนูก็ต้องเอาผ้าที่ไปงานกับผ้าห่มมาซักรวมกันอยู่ดีเพราะผ้าในตะกร้ามันมีนิดเดียว เขาก็บอกย่าทำแล้วก็ทำไป คือเราก็ไม่เข้าใจว่าเข้าจะรักสะอาดขนาดที่ต้องมายุ่งกับของส่วนตัวของคนอื่นเลยหรอคะ แล้วล่าสุดวันนี้แบบสดๆเลยเขาขึ้นมาเก็บห้องข้างๆเราคือห้องของลูกชายเขา เราก็ไม่อะไรเพราะเราก็ถือว่าเราไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับเขาก็อาจจะมีอึดอัดบ้างที่ต้องอยู่กับเขาสองคนถึงจะไม่ได้คุยอะไรกัน แต่บางทีเขาทำอะไรเสียงดังเหมือนตั้งใจจะทำใส่เรามาถูดพื้นก็เสียงดังชนกำแพงชนประตูแรงๆ แล้วเราก็ตกใจเราเริ่มอึดอัดขึ้นเรื่อยๆ เราเริ่มกระวนกระวายเพราะเขาเสียงดังมาก เราอึดอัดจนเราร้องไห้ เขาทำเท่าไหร่ก็ไม่เสร็จสักทีเขาทำตั้งแต่หกโมงต้นๆจนสองทุ่ม เราแน่นหน้าอกเรื่อยๆตอนที่ได้ยินเขาทำไรเสียงดังวางของเสียงดังหรือบจับอะไรที่เสียงดังๆ เรากระวนกระวายจนทำไรไม่ถูกแล้วมันทำให้เราหยิบจับอะไรก็มือสั่นไปหมดแล้วก็ร้องไห้ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นเราก็นอนดูหนังดูซีรี่ย์ปกติอารมณ์ดีหัวเราะสนุกสนานอยู่คนเดียว จนเขาขึ้นมาเราก็รู้สึกไม่โอเค อึดอัดไปหมดเลยค่ะไม่รู้จะต้องแก้ปัญหายังไงเลย
ย่าชอบเข้ามาในห้องทั้งๆที่เราก็ล็อกกุญแจตลอด