ถึงคนที่นินทาว่าอายุมากแล้วยังไม่เป็นโล้เป็นพาย ตามญาติไปทั่ว เป็นภาระคนอื่น
ฟรีแลนซ์ที่จนๆ คนนึงบางครั้งต้องระหกระเหินตามญาติไปทำงาน
เนื่องจากญาติป่วยไม่สามารถยกของหนักได้ (หมอบอกว่ากระดูกสันหลังเละแล้ว)
และญาติอีกคนก็ตากำลังจะบอดและไม่มีทางรักษาได้และเป็นโรคประจำตัวอีกมากมาย
ต้องคอยตามดูแลตลอด
หาเงินได้ไม่ถึงหลักแสน แค่พอเลี้ยงตัวเองได้คนเดียว
เนื่องจากค่ารักษาพยาบาลคูณสอง มีค่ากายภาพบำบัดด้วย
จึงทำให้หาเงินได้เท่าไหร่ก็ไม่พอ ทำให้เงินเก็บของตัวเองไม่มีเลย
หมายถึงที่ตัวเองหามาได้
แต่ส่วนอื่นไม่เกี่ยว ซึ่งไม่อยากบอกใคร และไม่มีใครรู้
ไม่อยากบอกใครว่าชีวิตทำอะไรบ้าง และรุ่งหรือไม่รุ่ง
หรือมีทรัพย์สินอะไรบ้าง
ไม่อยากบอกใครเพราะเดี๋ยวมันยืมตัง
ภาพที่คนอื่นเห็นคืออยู่แต่บ้าน แต่งตัวโทรมๆ
ตามญาติไปโน่นนี่ ไม่ทำงานทำการ
แต่ความจริงคือแบกโน้ตบุคไปทำงานทุกที่ที่มีโอกาสทำได้
รอบตัวมีแต่คนแก่ที่ต้องดูแล 70 80 อัพทั้งนั้น
เวลามีใครป่วยก็ต้องไปคอยตามดูแล
ชีวิตอยู่กับคนแก่มานานมากตั้งแต่จำความได้ ก็เจอคนแก่มากสุดท้ายนอนติดเตียงแล้วจากไป
มา 5 คนแล้ว ยังไม่รวมคนแก่ที่บ้านอีก 5 คนได้ จริงๆนับรวมมีมากกว่านั้น
และในอนาคตฉันคงต้องดูแลทั้งหมดอยู่คนเดียว เพราะอายุน้อยสุดในบ้านแล้ว
ทำไมแบกอยู่คนเดียวเพราะเขาไม่มีลูกหลาน เป็นญาติสนิทชิดเชื้อ
บางคนอาจมองว่าฉันฝันเกินตัวไปไม่ถึงฝัน เลยต้องมาภาระคนอื่น
ลองมาอยู่ในสภาพอย่างฉัน จะเหลือฝันอะไรอีก
ได้แต่ฝันแหละ
ความจริงฉันไม่มีความฝันหรอก มีแต่ต้องคิดว่าจะหาค่ารักษาพยาบาลยังไงให้พอเท่านั้น
ไม่ต้องถามหาประกัน คนนึง เคยเจอประกันเบี้ยวไม่จ่ายตัง ปัจจุบันเลยไม่มีประกัน
เจอมาหมดแล้ว ญาติที่รักษากับรัฐ กับญาติที่หาเอกชน
สภาพต่างกันยังไง
โลกทุนนิยม ถ้าใครมีเงินมีทองจำนวนมากก็นับว่าประสบความสำเร็จในชีวิต
เป็นเรื่องธรรมดาที่คนจะคิดว่าไม่มีงานประจำที่มั่นคงคือชีวิตล้มเหลว
ชีวิตฉันมันตายด้านไปนานแล้ว ตอนนี้คิดแค่ว่าถ้าพวกเขาหมดบุญเมื่อไหร่ฉันก็คงอยากจะปล่อยวางทุกสิ่งและจากไปอย่างสงบเหมือนกัน
ไม่อยากมี ไม่อยากได้ ไม่อยากเป็น จะกิจการ จะที่ดิน จะอะไรก็ตามช่าง
ตายไปก็เอาไปไม่ได้อยู่ดี
การเป็นฟรีแลนซ์ที่หาเงินได้น้อยทำให้เป็นเสาหลักของครอบครัวไม่ได้ถือว่าเป็นคนไม่เอาไหนหรือเปล่า
ฟรีแลนซ์ที่จนๆ คนนึงบางครั้งต้องระหกระเหินตามญาติไปทำงาน
เนื่องจากญาติป่วยไม่สามารถยกของหนักได้ (หมอบอกว่ากระดูกสันหลังเละแล้ว)
และญาติอีกคนก็ตากำลังจะบอดและไม่มีทางรักษาได้และเป็นโรคประจำตัวอีกมากมาย
ต้องคอยตามดูแลตลอด
หาเงินได้ไม่ถึงหลักแสน แค่พอเลี้ยงตัวเองได้คนเดียว
เนื่องจากค่ารักษาพยาบาลคูณสอง มีค่ากายภาพบำบัดด้วย
จึงทำให้หาเงินได้เท่าไหร่ก็ไม่พอ ทำให้เงินเก็บของตัวเองไม่มีเลย
หมายถึงที่ตัวเองหามาได้
แต่ส่วนอื่นไม่เกี่ยว ซึ่งไม่อยากบอกใคร และไม่มีใครรู้
ไม่อยากบอกใครว่าชีวิตทำอะไรบ้าง และรุ่งหรือไม่รุ่ง
หรือมีทรัพย์สินอะไรบ้าง
ไม่อยากบอกใครเพราะเดี๋ยวมันยืมตัง
ภาพที่คนอื่นเห็นคืออยู่แต่บ้าน แต่งตัวโทรมๆ
ตามญาติไปโน่นนี่ ไม่ทำงานทำการ
แต่ความจริงคือแบกโน้ตบุคไปทำงานทุกที่ที่มีโอกาสทำได้
รอบตัวมีแต่คนแก่ที่ต้องดูแล 70 80 อัพทั้งนั้น
เวลามีใครป่วยก็ต้องไปคอยตามดูแล
ชีวิตอยู่กับคนแก่มานานมากตั้งแต่จำความได้ ก็เจอคนแก่มากสุดท้ายนอนติดเตียงแล้วจากไป
มา 5 คนแล้ว ยังไม่รวมคนแก่ที่บ้านอีก 5 คนได้ จริงๆนับรวมมีมากกว่านั้น
และในอนาคตฉันคงต้องดูแลทั้งหมดอยู่คนเดียว เพราะอายุน้อยสุดในบ้านแล้ว
ทำไมแบกอยู่คนเดียวเพราะเขาไม่มีลูกหลาน เป็นญาติสนิทชิดเชื้อ
บางคนอาจมองว่าฉันฝันเกินตัวไปไม่ถึงฝัน เลยต้องมาภาระคนอื่น
ลองมาอยู่ในสภาพอย่างฉัน จะเหลือฝันอะไรอีก
ได้แต่ฝันแหละ
ความจริงฉันไม่มีความฝันหรอก มีแต่ต้องคิดว่าจะหาค่ารักษาพยาบาลยังไงให้พอเท่านั้น
ไม่ต้องถามหาประกัน คนนึง เคยเจอประกันเบี้ยวไม่จ่ายตัง ปัจจุบันเลยไม่มีประกัน
เจอมาหมดแล้ว ญาติที่รักษากับรัฐ กับญาติที่หาเอกชน
สภาพต่างกันยังไง
โลกทุนนิยม ถ้าใครมีเงินมีทองจำนวนมากก็นับว่าประสบความสำเร็จในชีวิต
เป็นเรื่องธรรมดาที่คนจะคิดว่าไม่มีงานประจำที่มั่นคงคือชีวิตล้มเหลว
ชีวิตฉันมันตายด้านไปนานแล้ว ตอนนี้คิดแค่ว่าถ้าพวกเขาหมดบุญเมื่อไหร่ฉันก็คงอยากจะปล่อยวางทุกสิ่งและจากไปอย่างสงบเหมือนกัน
ไม่อยากมี ไม่อยากได้ ไม่อยากเป็น จะกิจการ จะที่ดิน จะอะไรก็ตามช่าง ตายไปก็เอาไปไม่ได้อยู่ดี