ขี่มอไซค์ไปตลาดโดนสาดน้ำเลยไปแจ้งความ ที่โรงพัก
ตำรวจ1: จะให้แจ้งข้อหาอะไรก็ในเมื่อไม่มีอะไรเสียหาย
ฉัน:ไม่เป็นไรคะถ้าไม่รับแจ้งจะไปแจ้งที่อื่นก็ได้
ตำรวจ1:โทรหาใครสักคนปรึกษา
ตำรวจ2:เข้ามาในห้องสอบถามเหตุการณ์ ถามซ้ำจะให้แจ้งข้อหาอะไรดูแล้วมันไม่เข้ากับข้อหา
ฉัน: สภาพจิตใจไง สิทธิมนุษยชนไงคะ
ตำรวจ2: คุณต้องเข้าใจว่านี่มันเป็นประเพณีแต่ผมก็เข้าใจคุณนะเอาเป็นว่าลงปจว.ละกัน แล้วประสานงานให้พาไปเจรจาคู่กรณี
ก่อนออกไปที่เกิดเหตุ
ตำรวจ3:คุณต้องเข้าใจนะว่ามันเป็นประเพณีเดียวถ้าคุณออกจากโรงพักไปขี่มอไซค์คุณก็ต้องโดนสาดน้ำอยู่ดีแล้วถ้าโดนเด็กสาดล่ะถ้าไม่อยากโดนสาดก็ไม่ต้องออกบ้านวันที่13-15
ฉัน:ไมเป็นไรคะถ้าไม่ทำไรให้ก็จะกลับล่ะคะ
ตำรวจ1:งั้นจะให้ตำรวจทำไง
ฉัน:ไม่รู้สิคะจะไปตักเตือนหรือทำไรก็แล้วแต่ะ
ตำรวจ1:ขี่รถนำไปที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุ
ฉัน:ชี้ตัวคนสาดน้ำ
ตำรวจ3:ผมเข้าใจนะว่ามันเป็นประเพณีถ้าไม่อยากเปียกไม่ต้องออกจากบ้านวันท13-15แล้วหันมองหน้าฉัน
คู่กรณี:ไหว้ขอโทษ
ตำรวจ1:เขาขอโทษแล้วพี่ก็กลับบ้านซะ
ฉัน:ออกมาแบบงงๆ
ไม่เล่นสงกรานต์แต่โดนสาดน้ำแจ้งความข้อหาอะไรได้บ้างคะ
ตำรวจ1: จะให้แจ้งข้อหาอะไรก็ในเมื่อไม่มีอะไรเสียหาย
ฉัน:ไม่เป็นไรคะถ้าไม่รับแจ้งจะไปแจ้งที่อื่นก็ได้
ตำรวจ1:โทรหาใครสักคนปรึกษา
ตำรวจ2:เข้ามาในห้องสอบถามเหตุการณ์ ถามซ้ำจะให้แจ้งข้อหาอะไรดูแล้วมันไม่เข้ากับข้อหา
ฉัน: สภาพจิตใจไง สิทธิมนุษยชนไงคะ
ตำรวจ2: คุณต้องเข้าใจว่านี่มันเป็นประเพณีแต่ผมก็เข้าใจคุณนะเอาเป็นว่าลงปจว.ละกัน แล้วประสานงานให้พาไปเจรจาคู่กรณี
ก่อนออกไปที่เกิดเหตุ
ตำรวจ3:คุณต้องเข้าใจนะว่ามันเป็นประเพณีเดียวถ้าคุณออกจากโรงพักไปขี่มอไซค์คุณก็ต้องโดนสาดน้ำอยู่ดีแล้วถ้าโดนเด็กสาดล่ะถ้าไม่อยากโดนสาดก็ไม่ต้องออกบ้านวันที่13-15
ฉัน:ไมเป็นไรคะถ้าไม่ทำไรให้ก็จะกลับล่ะคะ
ตำรวจ1:งั้นจะให้ตำรวจทำไง
ฉัน:ไม่รู้สิคะจะไปตักเตือนหรือทำไรก็แล้วแต่ะ
ตำรวจ1:ขี่รถนำไปที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุ
ฉัน:ชี้ตัวคนสาดน้ำ
ตำรวจ3:ผมเข้าใจนะว่ามันเป็นประเพณีถ้าไม่อยากเปียกไม่ต้องออกจากบ้านวันท13-15แล้วหันมองหน้าฉัน
คู่กรณี:ไหว้ขอโทษ
ตำรวจ1:เขาขอโทษแล้วพี่ก็กลับบ้านซะ
ฉัน:ออกมาแบบงงๆ