จริงครับ


น้ำเนี่ย มันเป็นตัวระบายความร้อนในร่างกายครับ เมื่อระบบร่างกายมันรู้สึกร้อน มันก็จะพยายามกำจัดความร้อนด้วยเหงื่อ เวลาเหงื่อเราออก ความร้อนในร่างกายมันก็ออกมาด้วย เท่ากับว่าเราสูญเสียน้ำทุกครั้งที่เหงื่อออก  แต่ว่า ถ้าในร่างกายเราขาดน้ำ มันจะสร้างเหงื่อได้ยาก มันก็เหมือนขาดตัวระบายความร้อน ความร้อนมันจะไปสะสมในร่างกาย ทำให้อวัยวะในร่างกายรับความร้อนไม่ไหว (มันก็เหมือนเครื่องจักรที่ Overheated จนพัง) จนเกิดอาการลมแดด อ่อนเพลีย อวัยวะล้มเหลว และอาจถึงขั้นเส้นเลือดในสมองแตกได้เลย

นอกจากจะเป็นตัวระบายความร้อน น้ำยังเป็นส่วนประกอบของเลือด ถ้ามีน้ำมาก เลือดจะไหลเวียนดี ถ้ามีน้ำน้อย เลือดจะข้น ไหลเวียนยาก ทำให้เส้นเลือดรับภาระในการส่งเลือดมากขึ้น ลองนึกภาพว่า หัวใจสูบฉีดเลือดแรงเท่าเดิม แต่เลือดกลับไหลผ่านเส้นเลือดยากขึ้น มันก็มีโอกาสที่มันจะเสียหายและฉีกขาดครับ

แน่นอนว่าการกินน้ำสามารถทดแทนเหงื่อที่เสียไปได้ แต่ร่างกายมนุษย์ก็เหมือนวัตถุอื่นๆ ต่อให้เราพยายามทำให้มันเย็นยังไง มันก็มีขีดจำกัด ถ้าความร้อนมันสะสมมากเกินไป เกินกว่าที่ร่างกายจะระบายความร้อนได้ทัน เมื่อนั้นก็เกิดปัญหาครับ


นอกจากการกินน้ำหรือหาที่เย็นๆ อยู่แล้ว อีกทางที่ทำได้คือ การลดอุณหภูมิ การพยายามระบายความร้อน และการพยายามลดการเสียน้ำครับ

ผมเคยต้องเดินทางไกลๆ กลางแดดแรงครับ ผมเลยลองทำหลายอย่าง ซึ่งจากประสบการณ์แล้วมันได้ผล คือ

- หาหมวกมาใส่เพื่อบังแดด  เคยเห็นพวกคนอาหรับ คนจากแดนทะเลทราย หรือคนงานกลางแจ้ง สวมหมวกที่มีผ้าปิดสามด้าน ทั้งด้านหลังและด้านข้าง บ้างไหมครับ  นั่นละครับได้ผล พิสูจน์กันมาเป็นร้อยเป็นพันปีแล้วครับ เราอาจหาหมวกทรงแบบเขาไม่ได้ แต่สิ่งที่ทำได้ คือหาหมวกธรรมดา แล้วเอาผ้าเช็ดหน้าชุบน้ำหมาดๆ มาวางไว้ในลักษณะแบบหมวกของพวกคนอาหรับ แล้วเอาหมวกธรรมดาของเราสวมทับ อันนี้ได้ผลจริงครับ

- ทำหัวให้เปียกเข้าไว้ หัวนี่สำคัญที่สุดครับ ดังนั้นก็ต้องเอาน้ำมาพรมหัว หรือเอาผ้าชุบน้ำมาโปะหัวไว้ครับ ทำพร้อมๆกับข้อหมวกข้างบนนั่นละครับ แล้วก็หมั่นทำให้มันเปียกอยู่เสมอ ทั้งผ้า ทั้งหมวก ทั้งหัว พอมันแห้งก็เอาน้ำพรม เอาน้ำราดใหม่ ซึ่งทำแบบนี่แล้วมันจะลดอุณหภูมิได้ครับ

- แน่นอนว่า ถ้ามีร่ม ยิ่งดีเลยครับ และควรใส่เสื้อผ้าที่มันระบายความร้อนได้ดีครับ และก็ต้องระวังเรื่องแดดเผาด้วย

- เวลากินน้ำ อย่ากินทีเดียวหมด อย่ากินจนจุก แต่ให้ค่อยๆ จิบ ถ้าต้องทำงาน หรือเดินทางกลางแจ้ง ที่ไม่สะดวกจะหยิบขวดมาดื่มตลอดเวลา ก็ให้อมน้ำเอาไว้ในปาก แล้วค่อยๆจิบ ค่อยๆ แบบค่อยๆ จริงๆหน่ะครับ อึกละสิบนาที อะไรทำนองนั้นครับ

- เวลาหายใจ อย่าหายใจแบบปกติ ให้หายใจเข้าลึกๆ แล้วหายใจออกช้าๆ คล้ายกับตอนที่เรานั่งสมาธินั่นละครับ จะภาวนาพุทโธในใจหรือคิดอะไรตามปกติก็ได้ครับ แต่ผมว่าการมีสมาธิ ใจเย็น และไม่ฟุ้งซ่าน มันช่วยให้เหนื่อยน้อยลงครับ และการหายใจเข้าออกช้าๆ และลึก ทำให้เลือดมีออกซิเจนไปเลี้ยงมากกว่าหายใจตามปกติครับ พอมีออกซิเจน ระบบต่างๆของร่างกายมันก็ทำงานได้ดี

- เกลือแร่ น้ำหวานๆ ช่วยได้มากเลยครับ

- อาจจะพกฟ๊อกกี้ฉีดน้ำติดตัวไปสักนิด แล้วเอาน้ำฉีดพ่นให้เป็นละออง พ่นทั้งใบหน้าและลำตัว ช่วยได้มากเลยครับ

- น้ำเย็น อย่ากินพรวดเดียวหมดหรือทีละเยอะๆ  ค่อยๆ กิน เพราะเดี๋ยวร่างกายจะปรับตัวไม่ทัน ครับ เหมือนกับการเข้าห้องแอร์ฉ่ำๆ ทั้งๆที่พึ่งตากแดดร้อนมา ก็ไม่ดีครับ ควรจะนั่งพักสักนิดก่อนครับ

- อีกเรื่องคืออารมณ์ขันครับ แค่เปิดดูอะไรตลกๆ นึกถึงเรื่องตลก หรือเล่นตลกมุขกับเพื่อน แค่นี้ก็ช่วยให้คลายร้อนและหายเหนื่อยได้เยอะเลยครับ อารมณ์นี่ก็สำคัญครับ