จุดแข็ง 
1. สัมผัสได้ถึง energy ของเรื่อง มี dynamic ที่ทำให้การดำเนินเรื่องไม่น่าเบื่อ การเล่าเรื่องไม่เนิบนาบ  ในภาพรวมน่าติดตาม
2. นักแสดงเล่นเป็นธรรมชาติ แม้ในบท ต้องเล่นออกมาอ่อนกว่าอายุจริง แต่ไม่ถึงกับขัดสายตา แต่ถ้านำนักแสดงที่อายุ
ใช่กว่า อย่างนนกุล ... เล่นแทนมาร์ค ไม่แน่ใจว่าบทไร้เหตุผล insane จัดๆ จะทำได้อย่างมาร์คมั้ย ยิ่งบทร้องไห้  ทำได้สมจริง
บทบ้าบอพวกนี้ ถ้าไม่มีฝีมือ ตีบทแตกยากอยู่เหมือนกัน
3. นำเรื่องไปเล่าในบริบทอุตสาหกรรมเหมืองพลอย มี insight ในธุรกิจด้านนี้ แปลกใหม่ดี และมีเอกภาพ เหมือนได้เข้าไปอยู่กับ
คนที่ทำธุรกิจด้านนี้ เกิดความเข้าใจต่อปัญหาที่พวกเขาต้องเผชิญ
4. บรรยากาศสนุก ผ่อนคลาย  มีสีสัน เช่น ตอนขี่จักรยานแปลกๆ  จับหอยทาก มีชิงช้าด้านหลัง น่ารักดี
องค์ประกอบเหล่านี้ผ่านการออกแบบ ไม่ฉายฉวย

เรารู้สึกได้ถึงฝีมือการเขียนบท คม เวลาด่า และมุขก็ฮาจริงๆ มุขไม่เป๊ก มีการประดิษฐ์คำได้น่าสนใจ
บรรยากาศ การแสดง ดูลื่นไหล  แต่อาจจะถูกมองโดยผิวเผิน ว่า นี่คือละครวัยรุ่นทั่วๆ ไป   

จุดอ่อน 
1. คนดูอาจสงสัยว่าเหตุใดพ่อพระเอกจึงนำนางเอกมาเป็นแฟน เพราะครอบครัวนางเอกมีหนี้ ?...เหตุผลนี้อ่อนไปหรือจะเข้ากับบริบทยุคใหม่ได้แค่ไหน
หากเล่าให้นางเอกเข้ามาช่วยงานในแง่ทำงานเพื่อใช้หนี้ + พ่อเกิดความชื่นชม น่าจะพอ อาจจะไม่ถึงขั้นประกาศว่า มาเพื่อแต่งงานกับพ่อ
ตรงนี้ ต้องเตรียมการดีๆ ว่าแบบไหน คนดูจึงจะเชื่อ

2. พล็อตประเภทพระเอกมีปมกับพ่อ เป็นเด็กมีปัญหา ถูกเล่าบ่อยแม้จะน้อยกว่าเรื่องเมียหลวง-เมียน้อย นี่คือ โจทย์ที่ต้องทุ่มเท เปิดมิติใหม่ๆ 
เพื่อให้การเล่าออกมาไม่ซ้ำ หรือ เข้ากับความรู้สึกของคนรุ่นใหม่ได้ อย่างการมีปัญหาเพราะมาจากครอบครัวหย่าร้าง/พ่อเลี้ยงเดี่ยว
อาจไม่ใช่ปัญหาหนักในมุมของเด็กยุคนี้ เว้นแต่ละครได้ขยายให้เห็นความเปราะบางของความรู้สึกของคนวัยก่อน 30 ปี 

สมมุติเราอยากเล่าเรื่องความยากจน ละครแต่ละเรื่องทำให้เราตื่นรู้เกี่ยวกับความจนไม่เท่ากัน ในเรื่องนี้ การเป็นเด็กมีปัญหาของพระเอก
ยังไม่ค่อยมีอะไรใหม่ ลองแกะประเด็น ว่า มีเด็กจำนวนมาก ที่มาจากครอบครัวหรือประเทศที่ฐานะดี แต่ทำไมฆ่าตัวตาย
เพราะการเกิดในตระกูลที่พรั่งพร้อม อาจมีเสรีภาพทางการเงิน แต่ไม่มีเสรีภาพในเรื่องความรักและการเลือกอนาคตให้กับตัวเองมากนัก 
สิ่งเหล่านี้อธิบายอยู่ในเรื่องราว แต่ถ้าขยี้ และทำวิจัยเกี่ยวกับประเด็นพวกนี้ บทจะ advanced น่าทึ่งไปอีกระดับ 
โดยยังคงความบันเทิง ความสนุกเบาสมอง ให้สมดุลย์กับสาระที่ซ่อนไว้  เช่นเดียวกับขนมสอดไส้ที่ได้รสหอม มัน หวาน กลมกล่อม

3. ช่วงแรกๆ หนุ่มสาวพบกัน และรักกันโดยไม่สนใจฐานะทางสังคม ทำให้คิดถึงเรื่องที่ญาญ่าเล่นคู่กับมาริโอ้
คนดูส่วนหนึ่งเข้าใจว่า เรื่องน่าจะคล้ายกัน จนกว่าเราจะได้รักกัน เข้าใจง่าย ไม่เวิ่นเว้อ และแต่ละ episode มี surprise 
ด้วยกรอบเรื่องไม่กว้างเกินไป ไม่มีแตกไปหลายๆ สาย ทำให้เราได้โฟกัสไปที่การเฝ้ามองจิตใจของตัวละครได้มากขึ้น

4. แฟนละครที่เป็นผู้ใหญ่มากๆ อาจฟังภาษาในจนกว่าจะได้รักกันไม่เข้าใจ จึงสนใจคู่แข่ง คือ สงครามสมรส 

5. มาร์คแต่งงานแล้ว อาจจะทำให้แฟนละครไม่อิน แต่ลองดูฝีมือการแสดงล้วนๆ ตัดชีวิตจริงออก ในเรื่องสายตามีรายละเอียดว่าเขารักกัน

สรุป 
เป็นละครที่ออกแบบมาให้นอนหลับฝันดี น่ารัก ขำ คมคาย เล่าถึงความขัดแย้งภายในครอบครัว ความเปลี่ยนแปลงที่เข้ามาทำให้ตัวละครเอกเติบโต
แฝงสาระเบาๆ มาร์คหน้าเหมือนเพื่อนพระเอก เรื่องแฮรี่ พอร์ตเตอร์ ถ้าคุณไม่นำญาญ่า-มาร์คจากภาพจำในอดีตมาปะปน แต่ดูเท่าที่ฝีมือการแสดงทำให้เห็น 
คุณจะรับละครเรื่องนี้ มาไว้ในใจได้ไม่ยาก  ส่วนที่ถูกแอนตี้ เพราะแฟนๆ อาจคิดถึง  next step ของชีวิตการแสดงของญาญ่าและมาร์ค
บ้างก็สรุปว่า พวกเขากำลังก้าวถอยหลัง รับบทแบบที่ควรจะได้เล่นเมื่อตอนเริ่มอาชีพการแสดง จริงอยู่ที่ญาญ่า น่าจะต้องอยู่ในระดับอินเตอร์ และมาร์ค อาจจะต้องรับบทที่สูงวัยขึ้น ท้าทายความสามารถมากขึ้น

แต่เรื่องนี้ คือ การเล่นออกมาให้ดูง่ายๆ แบบคนควงกระบองไฟที่ฝึกมาอย่างดี ลองเอาคนที่ไม่เคยฝึกไปควงดู จะรู้ว่า กว่าจะได้สักรอบ ไม่ทำให้ดูเพลินได้อย่างที่มืออาชีพทำ