วันนี้เรามารีวิวหินตกรีสอร์ท อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี เราได้ราคาแพ็คเกจจากชิลล์ไปในราคาสุดคุ้ม  ใช้ได้ถึงเดือนกรกฎาคม เฉพาะวันอาทิตย์ถึงศุกร์ ไม่รวมวันหยุดยาว สุดุคุ้มกับราคา 2500 บาทพร้อมอาหารเข้า เย็น ที่พักสไตล์แค้มปิ้ง มีกองไฟยามค่ำคืนเป็นเพลงสากล บรรยากาศดีงาม เราไปช่วงหน้าร้อนสุดต้นเดือนเมษา ที่นี่มีสระน้ำธรรมชาติ อ่างน้ำเย็นสบายริมสายน้ำแควเหมาะกับการฮีลใจคลายร้อนมากๆ ที่นี้วิวดีงามเป็นโค้งน้ำเห็นภูเขาไกลๆ เรามาถึงที่นี้ประมาณเกือบสีโมงเย็น เช็คอินและเข้าไปนอนพักตากแอร์รอให้อากาศเย็นลงแล้วค่อยออกมาเดินไปที่แพริมแม่น้ำ  อาหารเย็นที่นี่เริ่มหกโมงครึ่ง












อาหารเย็นที่นี่เริ่ม 6 โมงครึ่งบรรยากาศดีงามแคมป์ไฟเปิดเพลงสากล อาหารเป็นบุฟเฟ่ต์สามารถเลือกตักได้ไม่จำกัดมีส้มตำ บาร์บีคิว ผัดไทย กับข้าวขนมและผลไม้ บริการไม่จำกัด แขกส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติในวันศุกร์ที่เราไปน้องที่มาต้อนรับดูแลบอกว่าถ้าเป็นวันเสาร์อาทิตย์คนไทยจะมากกว่านี้ พนักงานที่นี่พูดภาษาอังกฤษเก่งมาก ดูแลแขกดีมาก





ช่วงเดือนเมษากลางคืนที่นี่จะยังมีไอร้อนอยู่ หลังจากฟังเพลงเพลินเพลินเพลินเดินถ่ายรูปแฉะแล้วที่พักพวกเราก็กลับเข้าที่พักเพื่อพักผ่อน

ตอนเช้าที่นี่อากาศเย็นสบายพวกเราแพลนกันจะไปปั่นจักรยานเพื่อไปสะพานแขวนข้ามแม่น้ำแคว เส้นทางปั่นที่นี่จะมีชันบ้างราบบ้าง เป็นเนินให้เราได้กำลังขาพอควรเส้นทางไปกลับประมาณ 6 กิโลเมตร





ที่นี่สวยดีค่ะฝั่งตรงข้ามแม่น้ำจะเป็นวัดหาดงิ้วข้ามไปไหว้พระเพื่อเป็นสิริมงคลกันก่อน





มุมถ่ายย้อนกลับไปสะพานแขวนก็สวยนะคะ



ก่อนกลับเราแวะลงไปสัมผัสน้ำเย็นๆด้านล่างริมแม่น้ำ น้ำที่นี่เย็นใสมากมีปลาเต็มเลยค่ะ




8 โมงกว่าแล้วได้เวลากลับไปทานอาหารเช้าก่อนที่จะหมดเวลาที่นี่อาหารเช้าปิดตอน 9 โมงครึ่งค่ะระวังทางกลับทำเอาเหนื่อยเลยค่ะเพราะเป็นทางขาขึ้นซะส่วนใหญ่ ได้ออกกำลังกายสมใจเลยวันนี้


เราเก็บจักรยานและไปทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดที่บรรยากาศดีมากๆได้ชมวิวแม่น้ำแควจากมุมสูง อาหารที่นี่เป็นบุฟเฟ่ต์มีปาท่องโก๋ข้าวต้มสลัดและอาหารข้าวหวานเครื่องดื่มให้บริการรสชาติดีค่ะ





ก่อนกลับเข้าที่พักเราแวะไปชมวิวริมแม่น้ำแควด้านล่างกันอีกรอบและขึ้นมาชมวิวด้านบนจากบริเวณจุดเช็คอินก่อนกลับเข้าห้อง


หลังจากแต่งตัวเสร็จพวกเราเตรียมตัวไปเช็กเอาท์ก่อนออกจากที่พักแวะพิพิธภัณฑ์ภายในรีสอร์ทและถ่ายรูปบริเวณหน้าร้านกาแฟและประตูทางออกกันอีกรอบก่อนบ๊ายบาย





เราออกเส้นทางเดิมก่อนออกสู่ถนนใหญ่จะผ่านศูนย์ประวัติศาตตร์ช่องเขาขาดแนะนำให้แวะนะคะที่นี่เค้าจัดแสดงได้ดีมากๆทั้งในห้องจัดแสดงและเส้นทางประวัติศาสตร์ด้านนอก





    ที่นี่มีภาพยนตร์สั้นเพื่อฉายประวัติศาสตร์และคำสัมภาษณ์ของเชลยศึกที่ยังมีชีวิตอยู่ ทีมาแชร์ถึงความทุกข์ทรมานตอนถูกเกณฑ์มาให้ทำทางรถไฟเส้นทางนี้ซึ่งไม่มีเครื่องทุ่นแรงใช้เพียงมือ และอุปกรณ์ขนาดเล็กในการเจาะเขา เชลยศึกจำนวนมากล้มตายเพราะขาดอาหารและล้มป่วยกันเป็นจำนวนมาก ห้องแสดงนี้จัดได้ดีมากซึ่งไม่มีค่าใช้จ่ายเลย

    ได้เวลาเที่ยงพอดีพวกเราไปเข้าห้องน้ำซึ่งอยู่ชั้นด้านหน้าของศูนย์จัดแสดงและรับประทานอาหารในร้านค้าในบริเวณนั้น อิ่มท้องแล้วเราพร้อมเดิน ไปเดินชมเส้นทางประวัติศาสช่องเขาขาดกันค่ะ เจ้าหน้าที่แนะนำให้เราถือขวดน้ำและถือร่มไปด้วยเพราะข้างนอกร้อนมากๆ ต้องเตรียมตัวให้พร้อม ขอเบอร์โทรศัพท์เผื่อฉุกเฉินกันไว้เลย ที่นี่มีบริการร่มฟรีและเครื่องบรรยายตามจุดต่างๆพร้อมหูฟังที่แจกฟรีตลอดเส้นทางจะมีหมายเลขให้เรากดเพื่อฟังคำบรรยายดีมากๆค่ะ
 









ขากลับทำเราเหนื่อยเหงื่อท่วมตัวเอาเหมือนกันค่ะเพราะอากาศข้างนอกร้อนมากๆและแทบจะไม่มีลมเลยในฤดูร้อนเดือนเมษานี้ พวกเราเข้ามาพักด้านในตากแอร์ก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพ ที่นี่วันที่ 25 เมษานี้จะมีงานใหญ่เพื่อรำลึกถึงเชลยศึกและสงครามค่ะ



เสร็จแล้วเราขับรถกลับกรุงเทพระหว่างทางแวะร้านของฝากศรีฟ้าเจ้าประจำและแวะ เช็คอินคาเฟ่วิวดีอีกหนึ่งจุดห่างจากร้านศรีฟ้าไม่ไกล ที่นี่บรรยากาศดีทั้งในโซนคาเฟ่และโซนร้านอาหารติดริมน้ำทำจนเราติดลมลากยาวตั้งแต่บ่ายสองจนเกือบสองทุ่มกันเลยทีเดียวที่ร้านนี้






จากคาเฟ่ไปต่อที่หมูกระทะเจ้าของเดียวกันที่ติดริมน้ำที่นี่ลมเย็นสบายมีนักร้องร้องสดฟังตั้งแต่ 6 โมง นั่งชมพระอาทิตย์ตก สั่งหมูกระทะมาทานตามชื่อร้านแต่เราไม่ค่อยโดนเท่าไหร่ ที่นี่เมนูอาหารอื่นๆบริการด้วย เราสั่งปีกไก่มาทานอร่อยดีค่ะ





พวกเราติดลมจนอยากจะพักหนึ่งคืนเพราะลมที่นี่เย็นสบายจริงๆอยากให้มีร้านแบบนี้แถวบ้านในกรุงเทพให้เราได้ชิลล์ๆ เราตัดใจออกจากที่นี่ตอนหนึ่งทุ่มครึ่งถึงบ้านเกือบสี่ทุ่ม เป็นอีกทริปที่มาแชร์ที่เราประทับใจในคลิปสองวันหนึ่งคืนที่จังหวัดจังหวัดกาญจนบุรีนะคะ