5 เรื่องราวที่คุณอาจยังไม่รู้เกี่ยวกับ “แอธเลติก บิลเบา”



SSxLaLiga | ตลอดเวลา 125 ปี ของแอธเลติก บิลเบา ทีมฟุตบอลในลาลีกา เป็น 1 ใน 3 ทีมที่ไม่เคยตกชั้นจากลีกสูงสุดเลย และยังเป็นทีมระดับอาชีพเพียงไม่กี่ทีม ที่มีกลุ่มสมาชิกของสโมสรเป็นเจ้าของ

แอธเลติก บิลเบา หนึ่งในสโมสรฟุตบอลเก่าแก่ของสเปนที่ยึดมั่นในความเป็นท้องถิ่นนิยมสูง จากนโยบายการสร้างทีมโดยใช้ผู้เล่นที่เกิดหรือเติบโตในแคว้นบาสก์เท่านั้น จนกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

และล่าสุด เมื่อคืนที่ผ่านมา บิลเบากลายเป็นสโมสรที่ 12 ที่คว้าแชมป์โกปา เดล เรย์ ในศตวรรษที่ 21 หลังเอาชนะจุดโทษเรอัล มายอร์ก้า 4 - 2 ได้ฉลองโทรฟี่รายการใหญ่ หลังรอคอยมานานถึง 4 ทศวรรษ

ต่อไปนี้คือ 5 เรื่องราวที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนของยักษ์ใหญ่จากแคว้นบาสก์ เจ้าของแชมป์โกปา เดล เรย์ ทีมล่าสุด และเป็นสมัยที่ 24 ในประวัติศาสตร์สโมสร จากการเข้าชิงชนะเลิศรายการนี้ 40 ครั้ง

อัตลักษณ์ของสโมสร มีที่มาจากอังกฤษ

ช่วงปลายศตวรรษที่ 19 แรงงานชาวอังกฤษได้เข้ามาทำงานในแคว้นบาสก์ และกลุ่มชาวบาสก์ที่เพิ่งกลับมาจากการศึกษาในอังกฤษ ได้รวมตัวกันเพื่อก่อตั้งสโมสรฟุตบอลที่ชื่อว่า แอธเลติก บิลเบา ในปี 1898

ในช่วงแรกของการก่อตั้ง บิลเบาใช้ชุดแข่งขันสีขาวล้วน จากนั้นเปลี่ยนมาใช้สีน้ำเงิน-ขาว ก่อนที่ในปี 1911 ได้เปลี่ยนมาเป็นสีแดง-ขาว จนถึงปัจจุบัน โดยได้แรงบันดาลใจมาจากสโมสรเซาแธมป์ตัน ของอังกฤษ

นักเตะของสโมสร ต้องเป็นบาสก์เท่านั้น

หนึ่งในความภาคภูมิใจของแฟนบอลแอธเลติก บิลเบา คือการเป็นสโมสรที่มีนโยบายสร้างทีมโดยใช้ผู้เล่นที่เกิด หรือเติบโตในแคว้นบาสก์เท่านั้น ซึ่งเริ่มใช้มาตั้งแต่ปี 1912 และสืบทอดต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

ปรัชญาในการเป็นท้องถิ่นนิยมของบิลเบา ได้ระบุไว้อย่างชัดเจนบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสโมสร ซึ่งค่อนข้างแตกต่างจากสโมสรอื่นๆ ในลีกชั้นนำของยุโรป แต่พวกเขาก็สามารถแข่งขันในระดับสูงสุดได้

ที่มาของชื่อ “ซาน มาเมส” รังเหย้าของสโมสร

ซาน มาเมส (San Mamés) คือชื่อของนักบุญไบแซนไทน์ที่ถูกทรมานร่างกายจากขาวคริสเตียนที่เคร่งศาสนา และกำลังจะกลายเป็นอาหารของสิงโต แต่ก็สามารถทำให้สิงโตเชื่อง รอดพ้นจากการเป็นเหยื่อได้สำเร็จ

และชื่อของซาน มาเมส ก็ถูกนำไปตั้งเป็นสนามแข่งขันของบิลเบา สร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1913 ก่อนทุบทิ้งในปี 2010 จากนั้นได้สร้างสนามใหม่บนพื้นที่เดิม และเปิดใช้งานในปี 2013 สามารถจุผู้ชมได้ 53,000 คน

“ปิชิชี่” ถูกนำไปตั้งเป็นรางวัลดาวซัลโวลาลีกา

ราฟาเอล โมเรโน่ อารันซาดี้ หรือ “ปิชิชี่” อดีตกองหน้าระดับตำนานที่สร้างชื่อให้กับแอธเลติก บิลเบา สโมสรในบ้านเกิดของเขา ยิง 83 ประตู จากการลงสนาม 89 เกม พร้อมกับพาทีมคว้าแชมป์โกปา เดล เรย์ 4 สมัย

และเพื่อเป็นการให้เกียรติแก่สุดยอดตำนานดาวยิงของบิลเบารายนี้ มาร์ก้า หนังสือพิมพ์กีฬาชื่อดังของสเปน ใด้นำชื่อของปิชิชี่ ไปตั้งเป็นรางวัลผู้ทำประตูสูงสุดประจำฤดูกาลของลาลีกา ตั้งแต่ซีซั่น 1952/53 เป็นต้นมา

ติดท็อป 3 คว้าโทรฟี่มากสุด และไม่เคยตกชั้น

แม้นโยบายการสร้างทีมด้วยผู้เล่นชาวบาสก์จะมีข้อจำกัดอยู่ไม่น้อย แต่แอธเลติก บิลเบา ก็เป็นสโมสรที่ได้แชมป์รายการระดับเมเจอร์ในประเทศมากที่สุดเป็นอันดับที่ 3 เป็นรองเพียงแค่บาร์เซโลน่า และเรอัล มาดริด

นับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสร บิลเบาคว้าแชมป์ลาลีกา 8 สมัย และโกปา เดล เรย์ 24 สมัย นอกจากนี้ ยังเป็น 1 ใน 3 สโมสร ร่วมกับบาร์เซโลน่า และเรอัล มาดริด ที่ยังคงรักษาสถานะทีมในระดับดิวิชั่นสูงสุดครบทุกฤดูกาล

ถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของเอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ กุนซือวัย 60 ปี ที่พาแอธเลติก บิลเบา ปลดล็อกคว้าแชมป์เมเจอร์หนแรกในรอบ 40 ปี และจะเป็นแรงกระตุ้นชั้นดีกับการลุ้นจบอันดับท็อปโฟร์ในช่วงท้ายซีซั่น

CR Soccsersuck
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่