แฟนฟังแม่มากเกินไปหรือเปล่า

กระทู้คำถาม
เรากับแฟนคบกันได้2ปีกว่า ช่วงปีแรกๆต่างฝ่ายต่างพากันไปหาครอบครัวของตัวเองแม่เขาเองก็อัธยาศัยดีน่ารักทุกอย่างและบ้านของแฟนก็จะมีคุณยายและคุณตาของเขาที่ทุกคนช่วยกันดูแลเพราะแก่มากแล้ว ทุกครั้งเราโอเคมากๆหากชวนไปบ้านแฟนเราไปตลอด ช่วงปีแรกทุกอย่างดูดีทุกอย่างให้เราไปช่วยดูแลคุณยาย คุณตาเขาเราก็ไปตลอดเพราะบางทีแม่ของแฟนก็อยากไปเที่ยวอยากไปทำบุญบ้าง หากไม่มีใครดูแลแม่ของแฟนก็จะไม่ได้ไปไหนเลย  แต่พอปีที่2แม่ของแฟน เริ่มให้เรากับแฟนไปช่วยเฝ้าดูแลคุณยายและคุณตาแฟนมากขึ้น จนบางทีวันหยุดวันเดียวยังไม่มีเวลาแม้แต่จะพักผ่อนหยอนใจเลย
(อยู่กันคนละที่)ช่วงแรกเราก็ไปทุกครั้งที่เขาโทรมา แต่มาช่วงหลังคุณยายแฟนเสีย ให้เรากับแฟนไปเฝ้าคุณตาให้ เราสองคนก็พร้อมที่จะไปและนอนที่นั่นเลยในเวลา4-5วัน พอช่วงที่งานคุณยายเสร็จแล้ว เราสองคนกลับไปทำงานต่อได้ประมาณ2อาทิตย์ก็มีวันหยุดให้3วัน เราดีใจมากเพราะได้หยุดพักผ่อนและได้นอนเต็มอิ่มสักทีและว่าจะไปเที่ยวสักที่ในวันที่หยุด วันแรกที่หยุดแม่แฟนโทรมาบอกให้ไปเฝ้าตาให้หน่อยเพราะแม่แฟนจะไปช่วยงานบวชลูกแก้ว(เหมือนกับบวชนาค)ของญาตเขา เราก็โอเคพร้อมที่จะไปต่ออีกแล้วคิดว่าพรุ่งนี้ได้พักแล้วแหล่ะประมาณ พอวันที่2ของวันหยุดแม่แฟนโทรมาอีกบอกให้ไปเฝ้าคุณตาให้อีกเราเริ่มไม่ไหวเพราะไม่ได้พักเลย (เราเป็นไทรอยด์เป็นพิษด้วยเพิ่งเป็น) อาการโรคของเรามันยังคงมีอยู่เพราะไปหาหมอเดือนแรกร่างกายไม่พร้อมเท่าไหร่ แต่ทุกครั้งที่โทรมาเราไปตลอดไม่เคยว่า แต่พักหลังเป็นโรคด้วยเราเริ่มไม่ไหว แต่แฟนยังตกลงตลอด เราโมโหมากเพราะไม่มีเวลาพักผ่อนเลยสักนิดหลับไม่เคยเต็มอิ่ม แต่เราคิดว่าโอเคขอเป็นวันนี้วันเดียวอีกล้ะกันเราก็ไปอีก แต่ในใจเราเริ่มไม่ไหวล่ะเพราะให้ไปบ่อยมากๆแทบไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง พอมาวันที่3เราสองคนก็ได้พักผ่อนเต็มที่เลย แต่แม่แฟนโทรมาอีกบอกว่าวันนี้มาทานข้าวที่บ้านไหมอะไรงี้ แฟนก็ถามแม่เขาคืนว่าแม่ไม่ไปงานบวชลูกแก้วหรอ แม่พูดขึ้นมาว่าไปได้ไงไม่มีใครอยู่เฝ้าคุณตานิ น้ำเสียงไม่พอใจที่พวกเราไม่ไปเฝ้าคุณตาให้ในวันที่3 เรางงมากว่าทำไมแม่แฟนถึงพูดน้ำเสียงแบบนั้นออกมา เพราะแม่แฟนเป็นคนน่ารักมากๆใจดีตลอดที่เคยสัมผัสมา แต่เราก็ไม่ไก้คิดอะไรๆคิดแค่ว่าคงเสียใจที่คุณยายเสียชีวิตไป ทุกอย่างเหมือนไปได้ดี แต่...วันหยุดของเรา1วัน แม่แฟนโทรมาอีกแล้วบอกให้ไปเฝ้าคุณตาให้หน่อย เราไม่ไหวแล้วจริงๆรอบนี้ (คุณแม่จะไปเที่ยวเล่นน้ำนั่งชิว) ทั้งที่เขามีพี่น้อง3คน อีกสองคนอายุมากกว่าแฟนเราเพราะเป็นพี่ และอยู่ใกล้บ้านคุณแม่มากกว่าแฟนเราแต่ไม่เคยเห็นที่จะมาดูแลให้เลย เราโมโหจริงๆคือวันนี้แหล่ะ คือวันหยุดก็มีวันเดียวทำงานก็ก็ทั้งอาทิตย์ทั้งเดือน เดือนนึงหยุดไม่กี่วัน ก็อยากพักผ่อนอยากไปเที่ยวบ้าง ถ้ามันจำเป็นหรืออยากไปเที่ยวจริงๆเราก็ไปเฝ้าให้ได้นะ แต่นี่คือมันถี่กันมากๆ จนเราไม่อยากไปเพราะอยากพักผ่อน แต่แฟนก็ตกลงไปตลอด ทั้งที่ก่อนนอนจะมาวันหยุดบอกแฟนแล้วว่าพรุ่งนี้ไปเที่ยวกันเนาะพักผ่อนกันสักวัน แต่กลับตกลงตลอด เราเคยบอกแฟนตลอดวันไหนเราว่างอยากไปก็ไป แต่วันไหนไม่ว่างเราจะไปเที่ยวกันหรืออยากพักผ่อนจริงๆก็อย่ารับปากว่าจะไปเฝ้าให้ คุณแม่ไม่ได้มีลูกคนเดียว มี3คนก็พลัดกันเฝ้าคนละครั้งที่คุณแม่จะออกไปทำธุระหรือไปเที่ยวก็ได้ เราก็อยากมีเวลาส่วนตัวเหมือนกัน วันพักก็อยากพัก แต่ตื่นเช้ามา แฟนก็ตกลงไปแล้ว เราก็ว่าแฟนด้วยความ โมโหบอกไปว่า
โห่!! ก็บอกแล้วไงว่าจะไปเที่ยวกันวันหยุดมีแค่วันเดียวจะตกลงทำไมอ่ะ พี่ของแฟนก็หยุดวันนี้ ให้เราไปเที่ยวบ้างก็ได้ สลับกันเฝ้าบ้างสิ ไม่ใช่อะไรก็เราสองคนตลอด พี่ของเขาก็มีสามีแล้ว(แต่ไม่มีลูก) ให้สลับกับเราบ้างก็ได้ ตั้งแต่เดือนก่อนนัดกันไปเที่ยวยังไม่ได้ไปแม้สักครั้งเดียว พี่แฟนเขาก็ไปหลายรอบแล้วให้สลับกับเราบ้างสิ แฟนเราพูดมาว่าพี่ของเขาก็จะไปเที่ยวกับแม่ด้วย!! เรายิ่งโมโหหนักมากๆโยนของกระจัดกระจายเพราะสุดจะทนแล้วจริงๆ ทุกครั้งที่ไม่มีใครอยากเฝ้าให้ เราพร้อมไปตลอด แต่พอไปให้บ่อยๆเริ่มโทรมาให้ไปถี่ขึ้นทุกวัน แฟนก็ตกลงตลอด แม่เขาพูดอะไรก็โอเคตกลงไปหมด เราบอกกับแฟนไปอีกว่า ถ้าเป็นงี้ไม่ไหวหรอก สลับกันบ้าง ก็อยากมีเวลาส่วนตัวบ้างเหมือนกัน  
อีกเหตุการณ์นึง เราสองคนเคยคุยกันว่า ถ้ามีตังเยอะๆทุกอย่างพร้อมเราหมั้นกันก่อนก็ได้หรือถ้ามีเยอะก็แต่งกันเลยดีไหม แฟนบอกโอเคจ้า เราแค่พูดเฉยๆถ้าถึงเวลาที่สมควรแล้วทุกอย่างโอเค (ไม่ใช่ให้มาขอตอนนี้) ผ่านไป3-4วัน แฟนมาบอกเราว่า แฟน:ที่รักแม่เค้าบอก เป็นน้องไม่ควรหมั้นหรือแต่งงานก่อนพี่ตัวเองนะ ไม่งั้นจะเสียชีวิต เพราะญาตเขาก็แต่งก่อนพี่ อีกเดือนนึงก็เสียเลย เรา:บอกว่าไม่ใช่มั้งไม่เคยได้ยิน ได้ยินแต่ แต่งก่อนพี่ พี่จะขึ้นคลานเองนิ ถ้าเป็นแบบนี้ทุกคนคงเสียไปหมดแล้วที่แต่งก่อนพี่อ่ะ เชื่ออ่ะเชื่อได้ แต่อย่างมงายเกินทำให้ตัวเองทุก์ใจในการตัดสินใจ แต่เขาก็ยิ่งเชื่อแม่เขาหมดใจ ไม่อยากแต่งงานกับเราแล้ว ทั้งที่เราแค่พูดถึงไม่ใช่ให้มาขอเลย แต่เหมือนกระวนกระวายไม่อยากมาทั้งที่แค่พูดถึงเท่านั้น
เหตุการณ์ที่2 เราต้องไปหาหมอทุกเดือน เพราะเป็นพิษสูง ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะขับรถเองไปไหนได้ เลยขอลางาน1วันเพื่อที่จะไปหาหมอและจะพากันไปทำบุญสักวันนึง(แฟนลาออกจากงานเก่า มาทำงานกับพี่ชายของเขาเอง) แต่แม่แฟนได้ยินตอนที่แฟนเราลางาน (เราลาออกจากงานแล้ว เพราะขาไม่มีเรี่ยวแรงในการเดิน )แม่แฟนล่ะบอกกับแฟนเราว่า (จะลาทำไม ให้เราเอามอไซที่บ้านแม่เขาขับไปโรงบาลเองก็ได้ ไม่ต้องลาหรอก)ทุกครั้งที่ไปไหนเราให้แฟนขับ
เรายิ่งรู้สึกไม่โอเค ทั้งตัวสั่นหมดหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ ขาไม่มีเรี่ยวแรงในการเดินเหมือนกล้ามเนื้ออ่อนแรง เจ็บรุนแรงทุกย่างก้าวที่เดิน ขอเริ่มบวมขึ้นเรื่อยๆ 
ผอมสูบ จากที่อ้วนมากๆ อาการไทรอยเป็นพิษเพิ่งออกมาให้เห็นช่วง1มกราคม และเข้ารับการรักษา3มกราคมเพราะไม่ไหวที่จะทนอีกต่อไป ก่อนหน้านี้ก็ค่อนข้างเจ็บแต่คิดว่าตัวเองอ้วนเลยเจ็บขาเป็นปกติ แต่พอผอมแล้ว ขาเริ่มเจ็บมากขึ้น ตาเริ่มโปน เราต้องดุแฟน แฟนถึงจะลาพาไปส่งเรา เราผิดหรอที่ให้เขาลาไปส่งเรา (ค่าแกร๊ปแสนจะแพง โรงพยาบาลไม่ได้ใกล้ ไป-กลับ300+ ) ไปเองถูกกว่ามากๆ  ผิดหรอที่อยากมีเวลาส่วนตัวบ้างในวันหยุดอันเล็กน้อย สลับกันไปเฝ้าเราไม่ว่า แต่นี่อะไรก็เรากับแฟนทุกอย่าง เราแค่ไม่โอเคในการกระทำนี้ แฟนก็ฟังแม่ไม่ลืมหูลืมตา กลัวแม่จะด่า แม่จะโกรธที่ลางาน ที่ไม่ไปเฝ้าคุณตา แล้วเราล่ะ จะตายอยู่แล้ว ยังมาห่วงว่าแม่จะโกรธในเรื่องไม่เป็นเรื่อง  เราเจ็บแทบตายในการเป็นโรคนี้ ส่วนวันหยุดก็ควรจะได้หยุด ไม่ได้มีหน้าที่ไปเฝ้าใครทุกวันหยุด วันหยุดก็อยากพัก นานทีไม่เคยว่าสลับกันไม่เคยว่า นี่อะไรก็น้องคนเล็กตลอด เราพูดก็ไม่เคยฟัง บอกเขาเป็นผู้มีพระคุณ แก พ่อแม่ตายาย ผู้มีพระคุณหมดเราไม่เถียง แต่บางอย่างสิ่งไหนปฎิเสธได้ก็ก็ปฎิเสธ   เราผิดไหมทุกคนคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่