จริงที่สุด เงินสำคัญไม่น้อยกว่าความรัก

กระทู้สนทนา
สิ่งที่คนอื่นเล่าคนอื่นสอนในเรื่องชีวิตคู่ส่วนใหญ่
เป็นความจริงเสมอ มีคนมากมายที่บอกว่าฉันอาบน้ำร้อนมาก่อน ฉันรู้ดี ฉันแต่งงานเพิ่งรู้ว่าสิ่งที่คนอื่นพูดเกี่ยวกับปัญหาชีวิตส่วนใหญ่เป็นเรื่องจริง คนที่จะดูแลเราอย่างดี แม้ไม่ต้องทำงาน จะไม่ให้เหนื่อย ช่วงแรกอาจจะจริงอย่างที่เขาบอกเรา แต่เขาไม่ได้ทำตลอดแบบ ไม่บ่น ไม่พูด ไม่ต้องทะเลาะกัน เมื่ออยู่ด้วยกันได้ระยะหนึ่ง จะมีเรื่องต้องให้พูด ให้ทะเลาะ ทั้งเรื่องเล็ก ใหญ่ ความคิดที่ไม่ตรงกัน ต่างคนต่างคิดต่างคนต่างทำ การเคารพและให้เกียติกันลดลง ฉันเพิ่งมาสังเกตว่า ฉันและสามีเริ่มทะเลาะกันหนักขึ้นหลังจากที่ฉันออกจากงานประจำและมาอยู่บ้าน 
         ฉันเคยคิดว่าฉันโชคดีที่สุดที่ได้แต่งงานกับเขา  ตอนแรกเขายอมทำทุกอย่างเพื่อฉัน เขายอมทิ้งงานที่โน่นมาอยู่ที่ไทย ภายใน 1 ปี เราจดทะเบียนสมรสกัน เราไม่ได้จัดงานแต่ง ไม่มีสินสอด และ ลงทุนเปิดร้านขายน้ำชา กาแฟ และขายผลิตภัณฑ์ ทางออนไลน์ด้วย โดยที่ฉันยังทำงานประจำอยู่ เงินทั้งหมดที่ลงทุนเป็นเงินของเขา เมื่อทุกอย่างในร้านพร้อมแล้ว ฉันตัดสินใจลาออกจากงานประจำ คนที่รู้เรื่องก็บอกว่าฉันโชคดีที่ไม่ต้องทำงานประจำแล้ว ฉันเองก็คิดแบบนั้น แต่พอลาออกมาแล้ว ร้านขายของไม่ได้เป็นแบบที่คิด เงินที่ลงทุนไปจมอยู่กับของเราไม่ได้กำไร และยังขาดทุน ฉันจึงกลายมาเป็นแม่บ้านอย่างไม่ได้ตั้งใจ ฉันทำความสะอาดบ้าน ทำอาหาร ซักผ้า และพักผ่อน อยู่บ้าน เวลาของฉันเหลือเฟื่อเพราะฉันไม่มีลูก มีเวลาไปเยี่ยพ่อแม่ ไปหาเพื่อน แต่พอตกกลางคืนมาฉันแทบจะไม่ได้นอนอย่างเต็มอิ่มสักคืน ฉันและสามีทะเลาะกันแทบทุกคืน สามีของฉันเริ่มแสดงพฤติกรรมรุนแรง เขาโยนข้าวของ ทำลายของใช้ในบ้าน พูดถึงพ่อแม่ของฉันในทางไม่ดี เขามักพูดว่าพ่อของฉันพูดไม่ดีเกี่ยวกับเขา พ่อของฉันไม่ชอบเขา ทั้งที่เขาฟังภาษาไทยไม่ได้และพูดเสียงดังรบกวนข้างบ้าน ตอนเที่ยงคืน ตี หนึ่ง ตีสอง ฉันไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าเพื่อนบ้าน พอตอนเช้าตื่นมาเขาทำทุกอย่างปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อคืน เขาเคยสัณญาว่าจะไม่ทำอีก ฉันก็ให้อภัย พูดคุย ทำทุกอย่างปกติ แต่เมื่อกลางคืนมาถึงเขาก็โวยวาย ทะเลาะกันเหมือนเดิม จนฉันกลายเป็นคนละเวง กังวลว่าเมื่อไหร่เขาจะเป็นอีก ฉันกลายเป็นคนเก็บตัว ไม่มีพบปะเพื่อน ไม่ออกไปข้างนอก ไม่พูดไม่คุยกับใคร 
         ฉันไม่รู้จุดจบจะเป็นอย่างไร ตามที่ได้เล่าเราไม่ได้จัดพิธีแต่งงาน ไม่มีสินสอดให้พ่อแม่ทั้งที่เขาบอกว่ามีเงินเพียงพอ สำหรับงานแต่ง และ สินสอด แต่พอถึงเวลามันก็ไม่ได้เป็นแบบนั้น แต่เรื่องนี้ฉันเข้าใจได้เพราะ เขาต้องจ่ายค่าพาสปอรต์ ค่าวีซ่า ค่าตั๋วเครื่อง ค่าบ้าน และ อื่น ๆ  เขามักพูดว่าตอนนี้ชีวิตเราสบาย ไม่ต้องออกไปทำงาน เรามีเงินเพียงพอ แต่มักจะพูดกรอกหูเราเสมอว่าอย่าใช้เงินฟุ่มเฟือย ฉันซื้อแค่ของที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ฉันไม่แต่งหน้า ไม่ได้ตามเสื้อผ้า รองเท้าแฟชั่น ไม่ได้นิยมของกินที่เป็นกระแส อย่างที่สาวๆคนอื่นทำกัน เพราะฉันตระหนักเสมอว่าเราใช้เงินสามี ฉันไม่มีรายได้เป็นของตัวเอง ฉันไม่ได้ส่งเงินให้พ่อกับแม่แม้ว่าไปเยี่ยมบ้าง 
     สิ่งที่ฉันอยากจะบอกกับผู้หญิงทุกคน คือ อย่าหยุดทำงานหารายได้เอง แม้ว่ามีสามีแล้ว แม้ว่าเขาจะสัณญากับเราว่าเขาจะดูแล แม้ว่าเขาจะบอก เราไม่ต้องทำงานประจำก็ได้ เพราะไม่ใช่ผู้ชายทุกคนที่จะทำแบบที่เขาพูดได้ตลอด นี่ไม่ใช่สิ่งใหม่ เพราะมีคนมากมายที่ที่เล่าประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องเงินกับชีวิตคู่ ถ้าผู้หญิงเราหาเงินใช้เองได้ เราจะรู้สึกมีอิสระ การทะเลาะจะน้อยลง เพราะสมัยนี้แค่ความรักอย่างเดียวมันไม่เพียงพอ ที่จะทำให้ครองรักกันตลอดชั่วชีวิต
       ฉันได้เรียนรู้แล้วเงินก็ไม่ได้มีความสำคัญน้อยกว่าความรัก ถ้าบริหารเงินของเราได้ก็จะส่งผลที่ดีต่อความรักและชีวิตคู่มากขึ้น 
      สาวๆ ที่ยังโสด คุณยังมีสิทธิ์เลือกคนที่ใช่ ไม่ต้องรีบร้อนกับความรัก  จัดการเรื่องเงินตัวเองให้ได้ก่อนมีชีวิตคู่ นั่นเป็นสิ่งที่ประเสร็ฐ  ให้เรีบนรู้จากประสบการณ์คนอื่น อย่ารอให้เกิดขึ้นกับตัวเองเหมือนฉัน เพราะมันไม่ตลก
                     ขอให้มีเงินมีรักที่ดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่