การไม่เคารพความคิดคนอื่น การไม่ยอมรับข้อบกพร่องขอตัวเอง (รู้จักตัวเอง) คือความบกพร่องทางอารมณ์(eq)

คนที่เป็นจะไม่ยอมว่าตัวเองมีข้อบกพร่องนี้
เป็นเหตุผลหนึ่งที่คนฉลาด(บางคน)ไม่ประสบความสำเร็จในการมีส่วนร่วมกับคนอื่น
ซึ่งผมก็อาจเป็นอยู่ แต่ผมไม่กล้าพรีเซนต์ตัวเองว่าฉลาด(เสล่อ)หรือทำอะไรได้เลย  เพราะรู้สึกว่าคนอื่นไม่มีความมั่นใจในตัวผมเลย ทำให้ผมพลาดโอกาสดีๆ  และคนอื่นก็พลาดสิ่งดีๆจากผม  คือทักษะ(มารยาท)ในการสื่อสารผมแย่  เพราะอยู่กับแม่ที่เอาตัวเองเป็นเองเป็นศูนย์กลาง  ทำให้ผมเลือกที่จะไม่ให้ความหนักแน่นในคำพูด รักษาการสบตา  แสดงความมั่นใจ ในมุมมองฝ่ายตรงข้ามอาจมองว่าผมหยิ่ง ไม่ให้เกียรติ   ผมขี้เกียจที่มาบอกว่าใครผิดอะไร และต้องพูดแบบรักษาน้ำใจรักษาความรู้สึก  บอกทีผมก็พูดไปแบบไม่รู้สึกตัว เพราะเป็นคนตรงๆ ในการบอกว่าใครผิดอะไร  การบอกว่าใครผิดอะไรมันคือสิ่งที่คนที่อยู่ในระดับปกครอง(บังคับบัญชา)ทำกับผมเป็นปกติ  และผมกับเลือกที่จะบอกว่าใครทำผิดอะไรไม่ได้เลย  ผมเลือกที่หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า  เพราะเหนื่อยที่จะต้องปรับตัวฝ่ายเดียว   สังคมและวงการที่เขาเจริญแล้วเขาเลือกที่จะยอมรับตัวเองมากกว่าเถียงเบี่ยงประเด็นให้ตัวเองให้ชนะให้ดูถูกต้อง  แบบนี้ถึงจะเรียกว่าการมีส่วนร่วมได้จริงๆ

ที่ผมทำอะไรบางอย่างได้สำเร็จเพราะผมรู้ว่าอะไรทำได้ ทำไม่ได้ แต่บางคนสนใจแค่อะไรที่เขาทำได้และผมทำได้
ผมเป็นคนที่ใช้คำว่าทำไม่ได้เปลืองมาก  แต่คำว่าทำไม่ได้ของผม = หาวิธีแก้  > วิธีที่ดีที่สุด > ไม่มีวิธีก็หาวิธีอื่น
ผมเรียงอันดับความสำคัญการขั้นตอน ไม่เลือกว่าอันไหนทำง่ายหรือยาก  แต่คนอื่นเลือกที่จะทำอะไรที่ง่ายและทำได้ก่อน
เรื่องบางอย่างไม่ได้เริ่มจาก A ไป B แต่อาจเริ่ม จาก A1 A2 A3 ไป B และต้องเริ่มพร้อมกันและระหว่างทางอาจเจอขั้นตอน A4, A5, A6 แต่บางคนเลือกที่จะทำแค่หนึ่งใน A1 A2 A3 หรือข้ามขั้นตอนไป A4, A5, A6 เลย
แค่ผมพูดบอกว่าให้เริ่มจาก  A1 A2 A3 ก่อน  หรือต้องทำ A1 A2 A3 พร้อมกันห้ามทำที่ละอัน  หรือบอกว่าการทำ A4, A5, A6 อันไหนอันหนึ่งก่อนจะเกิดความสูญเปล่า  ทุกคนก็จะไม่พอใจผม  และมองผมว่าเป็นคนต่อต้าน  ผมมีทักษะการสื่อสารแย่  แค่พยายามอธิบายก็ยากแล้ว แต่ต้องทำให้คนอื่นใจเย็นและเชื่อตามอีก

อย่างผมสอนเพื่อนเล่นเกมยังมีปะทะคารมกันบ้าง  แต่พอผ่านไป พอทำได้  ก็ปรับอารมณ์เข้าหากันได้ปกติ  ทุกอย่างก็ราบรื่น เพื่อนสนุกมั้ยไม่รู้แต่ผมสนุก  
อย่างในครัวหัวหน้าเซฟด่า เพราะต้องแข็งขันเรื่องเวลา วัตถุดิบ ความแม่นยำ  รสชาติ   ถ้ามองเป็นหน้าที่เป็นความภูมิใจในตัวเองก็จะรับแรงกดดันมาอยู่กับตัวเองและฝ่าฟันไปได้
ถ้าเพื่อน บอกว่านี่แค่มันแค่การเล่นเกมไม่ใช่หรอทำไมต้องจริงจังด้วยวะ   ผมก็จะบอกว่าอยากเล่นเก่งไม่ใช่หรอ  ถ้าอยากเก่งก็ต้องทำ  
แต่ถ้าอยากเล่นให้มีความสุขก็ไม่ต้องทำก็ได้ (ถ้าจุดหมายไม่ใช่การเล่นเก่ง(เหมือนผม))  แต่สำหรับผมความสุขในการเล่นเกมคือการเล่นให้เก่ง  ถึงบางทีก็แอบทรมานตัวเองไปบ้าง  แต่พอเล่นเก่งมันก็จะไม่ยาก  พอจะเล่นให้มีความสุขอีกที ผมก็แค่ลดระดับการใช้ทักษะลงมาได้  ผมก็กลายเป็นคนเล่นที่มีความสุข แต่เก่งกว่าคนที่เล่นแบบมีความสุข(ชิล)ทั่วไปแน่นอน  ความสบายมันคือการแลกด้วยการยากลำบากมาก่อน  ผมแค่เอาเกมมาเป็นข้อเปรียบเทียบเฉยๆ  ถ้าผมชอบอะไร  มันทำแบบนี้กับสิ่งนั้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่