ผมเป็นคนมหาสารคามครับ เข้ามาเรียนในกรุงเทพ กรุงเทพเจริญมากกว่าจังหวัดผมมาก ผมเลยลองมาคิดว่าเกิดจากอะไร
ตามที่ผมคิดจะมี
1.จำนวนประชากร จังหวัดผมมีประชากรเกือบ 1 ล้านคน แต่กระจายกันทั่วทั้งจังหวัด ตามตัวอ.เมือง หรือ อ.อื่น ๆ คนไม่ค่อยเยอะ มักกระจายกันเป็นหมู่บ้านที่ห่างกัน 2-3 กิโลเมตร อาชิพส่วนใหญ่เป็นชาวนา
2.ไม่มีแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดมากนัก จังหวัดผมไม่มีภูเขาแหล่งท้องเที่ยวทางธรรมชาติแทบไม่มีหรือไม่มีเลยก็ว่าได้ ผมนึกออกแค่พระธาตุนาดูนและสะพานไม้แกดำ
3.อุตสากรรมไม่ค่อยจะมี จะมีแค่โรงงานน้ำตาล แป้ง และเลี้ยงสัตว์โรงงานหนัก ๆ ไม่มี และชาวบ้านค่อนข้างต่อต้านการทำโรงงาน
4.ดินค่อนข้างเค็ม จังหวัดผมหลายอำเภอมีสายแร่เกลือไหลผ่าน เป็นน้ำเกลือผุดออกมาจากดินเลย เช่นนาผมมีเกลือผุดออกมาจากคันแทนา และอ.ผมเคยทำต้มเกลือแต่ตอนนี้ทางการสั่งห้ามและเพราะว่าปล่อยน้ำลงดินจนเค็ม
จากข้อความข้างต้นผมพอเข้าใจว่าการลงทุนน้อยเนื่องจากการกระจายตัวของประชากรมากเกินไป จะซื้ออะไรต้องเดินทางเข้าตัวอ. และคนจะมาลงทุนไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่เพราะหาเงินยาก รถ 2 แถวคนก็ขึ้นน้อย ขับเป็น 10 กิโลเมตร คนขึ้น10 คน ต่อเที่ยว คนละ 10 บาทขาไป ขากลับก็ 10 บาท การทำนาทำสวน สมัยก่อนทวดมีที่ดินเกือบ 80 ไร่ แต่มีลูก 5 คน แบ่งออกมาตกคนละเกือบ 15 ไร่ แต่วะพอรุ่นย่ามาแบ่งอีก จะเหลือคนละ 6 ในรุ่นพ่อแม่ผม การทำนาเลยไม่คุ้มแล้วเพราะผลิตได้น้อยลงมาก
ทุกคนคิดเห็นอย่างไรบ้างครับ ผมอยากให้ตัวอ.เมือง หรือ ตัวอ.รองลงมามีคนอยู่เกิน 5 หมื่น ถึง 1 แสนคน ผมคิดว่ากรุงเทพนั้นเจริญได้เพราะประชากรที่เยอะมาก ลงทุนหรือขายอะไรค่อยข้างมีคนซื้อเยอะหาเงินได้เยอะถึงแม้รายจ่ายจะสูงก็ตาม แต่ตัวต่างจัดหวัด ถึงแม้รายจ่ายน้อย แต่รายได้ก็น้อยมากเช่นกัน
ขอบ่นเรื่องอบต. อบต.ผมแจกเงินครับ คนละ 1000-500 บาท จะแจ้งใครก็ไม่ได้เดี๋ยวโดนคนยำและไม่ค่อยปล่อยภัยเท่าไหร่ ตั้งแต่ผมเกิดมามีพัฒนาแค่ 2 อย่าง ถนนในหมู่บ้าน และ ไฟฟ้าที่นา ผมโชคดีที่หมูบ้านผมมีโครงการหลวงมาพอดีเลยพอมีรายได้อยู่บ้านตอนแรกจากปักผ้าและทำผ้าไหม ส่วนหมู่บ้านอื่นค่อนข้างแย่เลยครับทั้งถนนและยาเสพติด
ทำไมต่างจัดหวัดคนถึงกระจายตามพื้นที่ต่าง ๆ มาก
ตามที่ผมคิดจะมี
1.จำนวนประชากร จังหวัดผมมีประชากรเกือบ 1 ล้านคน แต่กระจายกันทั่วทั้งจังหวัด ตามตัวอ.เมือง หรือ อ.อื่น ๆ คนไม่ค่อยเยอะ มักกระจายกันเป็นหมู่บ้านที่ห่างกัน 2-3 กิโลเมตร อาชิพส่วนใหญ่เป็นชาวนา
2.ไม่มีแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดมากนัก จังหวัดผมไม่มีภูเขาแหล่งท้องเที่ยวทางธรรมชาติแทบไม่มีหรือไม่มีเลยก็ว่าได้ ผมนึกออกแค่พระธาตุนาดูนและสะพานไม้แกดำ
3.อุตสากรรมไม่ค่อยจะมี จะมีแค่โรงงานน้ำตาล แป้ง และเลี้ยงสัตว์โรงงานหนัก ๆ ไม่มี และชาวบ้านค่อนข้างต่อต้านการทำโรงงาน
4.ดินค่อนข้างเค็ม จังหวัดผมหลายอำเภอมีสายแร่เกลือไหลผ่าน เป็นน้ำเกลือผุดออกมาจากดินเลย เช่นนาผมมีเกลือผุดออกมาจากคันแทนา และอ.ผมเคยทำต้มเกลือแต่ตอนนี้ทางการสั่งห้ามและเพราะว่าปล่อยน้ำลงดินจนเค็ม
จากข้อความข้างต้นผมพอเข้าใจว่าการลงทุนน้อยเนื่องจากการกระจายตัวของประชากรมากเกินไป จะซื้ออะไรต้องเดินทางเข้าตัวอ. และคนจะมาลงทุนไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่เพราะหาเงินยาก รถ 2 แถวคนก็ขึ้นน้อย ขับเป็น 10 กิโลเมตร คนขึ้น10 คน ต่อเที่ยว คนละ 10 บาทขาไป ขากลับก็ 10 บาท การทำนาทำสวน สมัยก่อนทวดมีที่ดินเกือบ 80 ไร่ แต่มีลูก 5 คน แบ่งออกมาตกคนละเกือบ 15 ไร่ แต่วะพอรุ่นย่ามาแบ่งอีก จะเหลือคนละ 6 ในรุ่นพ่อแม่ผม การทำนาเลยไม่คุ้มแล้วเพราะผลิตได้น้อยลงมาก
ทุกคนคิดเห็นอย่างไรบ้างครับ ผมอยากให้ตัวอ.เมือง หรือ ตัวอ.รองลงมามีคนอยู่เกิน 5 หมื่น ถึง 1 แสนคน ผมคิดว่ากรุงเทพนั้นเจริญได้เพราะประชากรที่เยอะมาก ลงทุนหรือขายอะไรค่อยข้างมีคนซื้อเยอะหาเงินได้เยอะถึงแม้รายจ่ายจะสูงก็ตาม แต่ตัวต่างจัดหวัด ถึงแม้รายจ่ายน้อย แต่รายได้ก็น้อยมากเช่นกัน
ขอบ่นเรื่องอบต. อบต.ผมแจกเงินครับ คนละ 1000-500 บาท จะแจ้งใครก็ไม่ได้เดี๋ยวโดนคนยำและไม่ค่อยปล่อยภัยเท่าไหร่ ตั้งแต่ผมเกิดมามีพัฒนาแค่ 2 อย่าง ถนนในหมู่บ้าน และ ไฟฟ้าที่นา ผมโชคดีที่หมูบ้านผมมีโครงการหลวงมาพอดีเลยพอมีรายได้อยู่บ้านตอนแรกจากปักผ้าและทำผ้าไหม ส่วนหมู่บ้านอื่นค่อนข้างแย่เลยครับทั้งถนนและยาเสพติด